เส้นสมรส (The line of Marriage)
ชื่อของเส้นสมรสนี้มีชื่อเรียกกันมากมายหลายชื่อ เช่น เส้นคู่ครอง เส้นแต่งงาน แล้วแต่ท่านจะเรียกชื่อ เอาตามถนัด เมื่อเริ่มจะเขียนและพยากรณ์เรื่องเส้นสมรส ผู้เขียนรู้สึกค่อนข้างอึดอัดใจมาก ที่เขียนชื่อเรื่องนี้ว่าเส้นสมรส เพราะชื่อของหัวข้อเรื่องที่จะเขียนออกมา มันไม่ค่อยจะตรงกับความหมายที่เป็นจริงตามหัวข้อของเรื่องนี้ คือเส้นสมรส หรือเส้นแต่งงาน
เอาล่ะไหนๆ ก็เขียนมาแล้วก็เลยเขียนต่อไป พอพูดถึงเรื่องเส้นสมรส เส้นคู่หรืคู่ครอง ผู้เขียนเชื่อจริงจัง 100% หรือ 1000% ว่าทุกคนส่วนใหญ่ สนใจในเรื่องคู่ครอง หรือเส้นสมรสนี้โดยไม่เลือกหน้าว่าจะเป็นเฒ่าชะแล แก่ชรา จะหนุ่มสาว พ่อหม้าย แม่หม้าย ผู้เขียนพอจะรู้ว่า ทุกคนส่วนมากพอจะรู้มาบ้างแล้วว่าจะต้องมองดูบริเวณใดของฝ่ามือ ทุกคนคงต้องเอียงฝ่ามือแล้วก็แอบมองดูเส้นเล็กๆ สั้นๆ ที่มีอยู่บริเวณเนินพุธ หรือที่ใต้โคนนิ้วก้อย ว่ามือของเรามีเส้นสมรสกี่เส้น ที่เห็นชัดเจนวิ่งออกมาจากด้านนอกของฝ่ามือของเรา เพราะว่ามีคนพูดกันแซดหรือหมอดูบางท่านมักพูดว่า ถ้ามีหนึ่งเส้นก็ต้องมีคู่หนึ่งคน สองเส้นก็มีคู่สองคน สามเส้นก็สามคน หรือมากกว่านั้น คุณผู้ชายได้อ่านแล้วเห็นแล้ว บางท่านก็รู้สึกจะค่อนข้างภาคภูมใจตัวเอง เกิดมาไม่เสียชาติเกิดเปล่า เพราะอุดมสมบูรณ์เรื่องคู่ ถ้าเป็นผู้หญิงสุภาพสตรี คงจะใจหายวูบ อะไร เวรกรรมของฉันหรือนี่ ทำไมจะต้องมีคู่ถึงสามสี่คน คนเดียวก็จะตายอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ หมอดูหรือตำราหมอดูผิดแน่ ใช้ไม่ได้ และเท่าที่ผู้เขียนได้พบมาในเรื่องเส้นสมรส ในมือของผู้ชายปรากฏว่ามีเส้นสมรสเพียงเส้นเดียว แต่กลับมีคู่หลายคน บางท่านมีเส้นสมรสหลายเส้น แต่กลับปรากฏว่าไม่ยอมมีคู่ครอง แม้กระทั่งไม่สนใจในเรื่องรักแบบชู้สาว อยู่เป็นโสดมาจนทุกวันนี้หลายสิบราย นี่แหละเป็นต้นเหตุหรือสาเหตุทำให้ต้องมาคิดว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ไม่ยักเหมือนตำราลายมือที่เขาเขียนกันในท้องตลาด หรือที่หมอดูลายมือบางท่านเขาเล่าขานและพยากรณ์ ยังมีคำกล่าวเช่นนี้อีกเรื่องหนึ่งว่า คนที่เส้นสมรสยาวมักมีโอกาสได้แต่งงาน คนที่เส้นสมรสสั้น มักจะไม่มีโอกาสได้แต่งงาน แต่เท่าที่ได้พบและประสบกับการพยากรณ์มานาน กลับพบเห็นตรงกันข้าม คนที่เส้นสมรสยาว มักแต่งงานช้า หรือไม่ค่อยได้แต่งงาน ที่เกิดสูงกว่าครึ่งเนิน ตำราว่าต้องแต่งงานช้าหรือว่ามีเหตุเป็นไปหรือตาย คุณหมอดูท่านยังยืนยันเช่นเดิม อาหมวยอดใจอดระงับอารมณ์ไม่ไหว พูดสวนออกมาว่า คุณหมอๆ ฉันแต่งงานเมื่อตอนอายุ 18 เศษ มีลูกด้วยกันเวลานี้ถึง 3 คน เป็นชาย 1หญิง 2 ผู้เขียนสังเกตุว่าคุณหมอดูท่านถึงกับสะอึกสะดุ้งเล็กน้อย สีหน้าแปรเปลี่ยนจืดลงไปเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะผิวคล้ำแบบผู้เขียนก็ได้ ท่านมีประสบการณ์การดูหมอมานาน จึงรู้จักพูดเอาตัวรอดได้อย่างสบาย ท่านว่าตำราไหนๆ ของฝรั่ง ก็เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ถ้าเส้นสมรสเกิดสูงเกินครึ่งเนินขึ้นไป ต้องแต่งงานหรือมีคู่ครองหลังอายุ 35 ปี เส้นสมรสบนฝ่ามือของอาหมวยนี่นะดีมาก เป็นมือที่มีเหตุพิเศษยกเว้นจากตำราทั่วๆไป ผู้เขียนเห็นอาหมวยไม่ค่อยจะสนใจ และในใจนึกอย่างไรเดาไม่ออก ในขณะที่อาหมวยแบบมือให้หมอท่านดู ผู้เขียนก็มองดูเช่นกันเห็นว่า เส้นสมรสของอาหมวยเกิดค่อนข้าวสูงเกินครึ่งเนิน ผู้เขียนก็รู้ว่าหมอดูท่านนั้นทายไม่ผิด แต่ท่านดูไม่ถูก เพราะตำราต้นตำรับไม่ได้ให้ความหมายไว้เช่นนั้น เรื่องของเส้นสมรสนี้ ผู้เขียนขอฝากเอาไว้เป็นข้อคิด และขอให้ช่วยกันค้นคว้าหาความจริง ให้ได้เพื่อประโยชน์แก่คนที่มาขอให้เราพยากรณ์หรือดูให้
คราวนี้ผู้เขียนและท่านผู้สนใจศาสตร์แขนงนี้ลองมาพิจารณากันใหม่ว่าที่เราได้เคยรู้กันมาก่อนโดยทั่วๆไป ทุกคนก็คงรู้มาแล้วว่าเส้นที่เราได้พูดถึงมาแล้วนั้นคือ เส้นสมรสหรือเส้นคู่ครอง หรือที่เรารู้กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นเส้นสมรส หรือว่าเป็นเส้นที่เรียกว่าเส้นแต่งงานจริงหรือไม่ และเราควรจะเรียกชื่อเสียใหม่ ให้ตรงกับความหมายที่เป็นจริงว่าเป็นเส้นอะไร หรือบอกความหมายออกมาว่าน่าจะหมายถึงอะไร จะได้ไม่ต้องมาเข้าใจผิดในวันข้างหน้า เรามาลองเรียกว่า เส้นสังคม เส้นเอื้ออาทร เส้นช่วยเหลือ ระหว่างบ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อนบ้าน อ่านไปอ่านมาคล้ายๆ กับท่านให้ความหมายว่าเป็นเส้นสังคม หรือเส้นที่ให้ความหมายไปถึงการคบค้าสมาคมกับทำความคุ้นเคยให้รู้จักกันดีมากขึ้น จะหมายถึงบ้านข้างเคียง ประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง และอาจหมายรวมไปถึงประเทศที่เป็นพันธมิตร ประเทศที่ติดต่อร่วมมือช่วยเหลือกัน ในความหมายที่ 2 น่าจะหมายไปถึงการอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน อยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือให้แก่กัน เช่นสถาบันเดียวกัน ในห้องเรียนเดียวกัน ทำงานสำคัญร่วมกัน เข้าใจในชีวิต รู้จิตรู้ใจกัน ถ้าเป็นหญิงเป็นชายก็เลยความหมายเป็นผู้รู้ใจ ในที่สุดก็ตกลงปลงใจกัน แต่งงานกัน จากคำว่ายูเนียน มาเป็นแมรี่เอดส์(Marriage) เมื่อคนทั้งสองหญิงชายมาอยู่ร่วมกันเป็นสามีภรรยากันแล้ว จึงเห็นได้ว่าได้เกิดคำว่าชีวิต(Life line) หรือชีวิตในการครองเรือน(Family line)
เขียนมาตั้งนานยืดยาว ก็ยังไม่รู้เลยว่า เส้นที่เราพูดกันนี้อยู่ที่ไหน ที่เขาเรียกกันว่าเส้นสมรส หรือเส้นคู่ครอง เส้นแต่งงาน ในบางฝ่ามือ เราจะพบว่ามีตั้งหลายเส้น เส้นสั้นบ้างยาวบ้าง (งงหว๊ะ) ต้องก้มหน้ากุมขมับ เผลอฟุบหลับไปคาโต๊ะเขียนหนังสือ ตกใจตื่นเพราะรู้สึกว่าเหมือนมีใครมาสะกิด และแว่วเสียง แหบๆ เบาๆ พูดกระซิบว่า ตื่นๆ เปิดดูตำราภาษาอังกฤษ ของท่านอาจารย์ไคโร เรื่องเกี่ยวกับเส้นสมรส พอได้ยินเช่นนั้นก็รีบไปงัดเอาตำราของท่านมาเปิดอ่าน คำเขียนว่า ถ้าจะดูเรื่องว่าชายหญิงจะแต่งงานเมื่อไร ไม่ใช่ไปดูเส้นขีดเล็กๆ ที่เนินพุธโคนนิ้วก้อย ให้มาดูที่เส้นเสาร์ หรือเส้นชีวิต ถ้าไม่ใช่เส้นอิทธิพลที่เกิดจากจันทร์วิ่งมาแตะเส้นเสาร์ตรงไหน อายุเท่าไหร่ เมื่อนั้นเจ้าของมือก็จะพบความรัก และอาจต้องแต่งงาน (ใช้คำว่าพบความรัก และอาจต้องแต่งงาน) ยังไม่ได้แต่ง คราวนี้แหละต้องรีบหันไปดูเส้นเล็กๆ ที่เนินพุธว่ามีสีสันเป็นอย่างไร สีของอาทิตย์และพฤหัสเป็นอย่างไร และอายุตรงที่เส้นอิทธิพลวิ่งมาชนเส้นเสาร์ อายุเป็นเท่าไหร่ จุดตรงที่เส้นอิทธิพลวิ่งเข้าไปแตะนั้น จะบอกและฟ้องให้รู้ได้ทันทีว่าพบกับความรักแน่ แต่เวลาจะแต่งงานหรือยัง ควรคบรอดูใจกันไปพลางๆ ก่อน ไม่ใช่ว่าพอเส้นอิทธิพลเข้าไปแตะแล้วแต่งงานทันที วันสมรสนั้นดี แต่แล้ววันต่อไป เดือนต่อไป ปีต่อไป ดีหรือเปล่า อยู่กันยืดหรือเปล่า มิใช่อยู่กินกันไม่ทันหม้อข้าวดำ พังแล้วทะเลาะเบาะแว้ง ตีกันทุกวัน อยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้ หรือว่าพอแต่งงานไม่นาน สิบล้อเอาไปกินบ้าง เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตบ้าง ฉะนั้นหมอดูทั้งหลายเมื่อใครขอดูเรื่องการแต่งงาน ท่านอย่าไปมองดูเส้นเล็กๆ ที่เนินพุธโคนนิ้วก้อย ที่ตรงนั้นบอกเพียงให้รู้ว่า ชีวิตในการครองเรือนจะอยู่ดีตลอดไปหรือไม่ ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรหรือไม่ ท่านครูกระซิบที่ข้างหูอีกว่าหยุดเขียนเท่านี้ไว้ก่อน คราวหน้าค่อยเขียนต่อ เลยต้องขอโทษท่านผู้สนใจเอาไว้คราวหน้าต่อไปค่อยมาคุยกันใหม่
ข้อมูลจาก สาร มุลนิธิโหรฯ ฉบับที่ 3 ประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2547