เว็บบอร์ด

ข่าวเรื่องการแถลงบทวิเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ยูเรเนียน เกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศไทย ของ มูลนิธิฯ

ข่าวการแถลงบทวิเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ยูเรเนียน เกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศไทย ของ มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ วันที่ 4 มีนาคม 2548

โหรชี้ดวง"ทักษิณ"เผ่นนอกหลัก 2 เม.ย.

โหรยูเรเนียนฟันธง "ทักษิณ" เป็นนายกฯ แน่หลังเลือกตั้ง 2 เม.ย. แต่บ้านเมืองปั่นป่วน จนอยู่ในประเทศไม่ได้ ต้องตั้งผู้บริหารประเทศ เหตุคนราศีสิงห์ พ่ายนักปราชญ์-นักบวช ชี้ "จำลอง" ขนญาติธรรมชุมนุม รัฐบาลเป๋ นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย กรรมการมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และโหราจารย์ยูเรเนียน เสนอบทวิเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ยูเรเนียน เกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศไทยและดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในปี 2549 นายวิโรจน์ กล่าวว่า โหราศาสตร์ยูเรเนียนไม่ได้พูดถึงเรื่องดาวเพียงอย่างเดียว แต่จะมีเรื่องปรัชญาชีวิตของคนเข้ามาเกี่ยวข้อง คือ ปรัชญาอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเป็นสิ่งเดียวกัน เช่น พ่อเป็นอย่างไร ลูกเป็นอย่างนั้น อนาคต คือ หลาน ตกทอดกันมา โดยช่วงเวลาที่ใช้คือ วงรอบของเหตุการณ์ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด แต่ที่จะนำเสนอคือวงรอบของดาวเสาร์ รอบละ 30 ปี และวงรอบจันทรคติ รอบละ 19 ปี ซึ่งทุกคนมีเหมือนกัน เพียงแต่จะสังเกตรู้หรือไม่เท่านั้น นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เรื่องวงรอบนี้จะเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และเหตุการณ์บ้านเมือง โดยข้อมูลที่นำมาประกอบกับโหราศาสตร์เป็นหนังสือชีวประวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ 3 เล่ม คือ ตาดูดาวเท้าติดดิน ทักษิณ ชินวัตร อัศวินคลื่นลูกที่สาม และตระ***ลชินวัตร ถ้าพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเริ่มจากบิดา คือ นายเลิศ ชินวัตร ปกติเป็นนักธุรกิจ ต่อมาเมื่อปี 2511 นายเลิศ ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น และปี 2512 นายเลิศ เป็น ส.ส.เชียงใหม่ หลัง 14 ตุลาคม 2516 สภาหมดสภาพไป รัฐบาลว่างเว้น กระทั่งปี 2518 นายเลิศ เป็น ส.ส.สมัยที่สอง แต่เมื่อถึงปี 2519 ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มตั้งพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2541 คืออีก 30 ปีต่อมา หลังจากนั้นก็เป็น ส.ส.สองสมัยเหมือนกับบิดา ส่วนเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วช่วงเวลาจะสอดคล้องกับเมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ประกาศยุบสภา แต่ทั้งนี้อดีตที่เกี่ยวพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คือ นายเลิศ และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ วางมือทางการเมือง แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่วางมือ ส่วนปี 2519 พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับคุณหญิงพจมาน ซึ่งช่วงนั้นคุณหญิงพจมานแท้งลูก จากนั้น 30 ปี มีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คือเรื่องหุ้นที่นายพานทองแท้ ถูกปรับเงินเรื่องหุ้น เป็นการสูญเสียของครอบครัว ส่วนปี 2530 พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากราชการตำรวจ เมื่อใช้วงรอบ 19 ปี ก็จะเป็นปี 2549 นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากทำนายตามวงรอบดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่วางมือทางการเมืองและยังไม่เดินทางไปต่างประเทศ ตามหลักวงรอบดังกล่าว เพราะดาวพฤหัสและดาวเสาร์เดินถอยหลัง แปลว่าอิทธิพลของดาวพฤหัสที่บอกถึงความสำเร็จ ส่วนดาวเสาร์คือความเปลี่ยนแปลง ยังไม่มาพบกัน แต่การเดินหน้าของดาวเสาร์จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 6 เมษายน คือ หลังเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 เมษายน หลังจากนั้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นแน่นอน "การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น คือ รัฐบาลจะพบกับข้อจำกัดของตัวเอง ไทยรักไทยเป็นรัฐบาลแน่ๆ แต่อาจตอบคำถามสังคมไม่ได้ เช่น เรื่องการให้คำมั่นสัญญา สุดท้ายถ้ามีการจัดตั้งผู้บริหารประเทศ ผมใช้คำว่าผู้บริหารประเทศนะ ไม่ใช่รัฐบาล เพราะหลังการเลือกตั้งแล้วก็ไม่แน่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นไปได้สองกรณี คือ ให้ผู้หญิงมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน แล้วคิดว่าผู้หญิงคนไหนจะมาเป็นนายกฯ ได้ นอกจากคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะดวงกำลังเด่น แต่ถ้าไม่ใช่ตัวบุคคลก็จะเป็นคณะบุคคล คุณทักษิณอาจเกิดการกดดันต่างๆ ทำให้ต้องหารูปแบบมาประคองตัวเอง” นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนดาวพฤหัสจะเดินหน้าในวันที่ 6 กรกฎาคม แปลว่าเหตุการณ์จะอึมครึมไปเรื่อยๆ จนถึงวันนั้น สุดท้ายอยู่ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ จะต้องนำข้อมูลอีกอย่างมาประกอบด้วย คือ เมื่อสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหารมีคำปฏิญาณ 3 ข้อ คือ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้ และตายเสียดีกว่าละทิ้งหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีอีกประโยคหนึ่ง คือ “ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้หอมหวนชวนจิตไซร้ ไป่มี” ทั้งหมดเป็นคติประจำใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติมาถึงทุกวันนี้ อย่างที่ประกาศว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับราศีของเจ้าชะตาที่เป็นคนราศีสิงห์ เป็นคนดื้อรั้น ชอบสร้างเกมให้คนอื่นเล่น ไม่ชอบเล่นตามเกมคนอื่น นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ยังเชื่อว่า จะไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้นแน่นอน เพราะหากใช้หลักวงรอบมาทำนาย จะพบว่า เมื่อเหตุการณ์ปี 2516, ปี 2519 หรือพฤษภาทมิฬ สถานที่ราชการถูกเผาทำลาย โดยเฉพาะกรมสรรพากรเก่า ถูกเผาทำลายมาตลอด ถ้านับรอบ 19 ปีจากปี 2516 ก็จะเป็นปี 2535 ซึ่งเกิดพฤษภาทมิฬ แต่ถ้านับจากปี 2519 มาครบรอบในปี 2538 กลับไม่เกิดความรุนแรงอะไร เพราะทุกครั้งกรมสรรพากรมีการซ่อมแซม แต่หลังจากปี 2535 ไม่ได้ซ่อมแซมจึงไม่เกิดอะไรขึ้น “หลังจากนี้จนถึงวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องจับตาต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ตามหลักโหราศาสตร์แบบนี้ ปีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเดินทางออกนอกประเทศ หรือไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ประเทศไทย เพียงแต่ว่าจะไปเองหรือจะให้ใครพาไป จะไปช้าหรือไปเร็วมีแค่นั้น” ทั้งนี้ นายวิโรจน์ตั้งข้อสังเกตดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ดวง พ.ต.ท.ทักษิณ เกิดราศีสิงห์ ถ้านับไป 6 เป็นราศีมังกร คือ ผู้สนับสนุน ช่วยเหลือ นั่นก็คือคนยากคนจน ส่วนคนที่เป็นศัตรูต้องนับไป 8 ตกราศีมีน คือ นักปราชญ์ นักบวช สังเกตได้จากเมื่อครั้งปัญหาที่ธรณีสงฆ์ ที่พระประท้วง 3 วันเลิกเลย เช่นเดียวกับครั้งนี้ นายสนธิ (ลิ้มทองกุล) ชุมนุมก็ยังไม่มีอะไร แต่พอ พล.ต.จำลอง (ศรีเมือง) และกองทัพธรรมออกมา ก็เป๋เลย ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองช่วงนี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นผลมาจากการจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในวันที่ 29 มีนาคม โดยจุดศูนย์กลางอยู่ที่แอฟริกา ซึ่งประเทศที่อยู่ระนาบเดียวกัน คือ ไนจีเรีย ลิเบีย อินเดีย ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ รวมทั้งไทย ก็จะมีปัญหาวุ่นวายภายในประเทศ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งละติจูดประมาณ 5-10 องศาเหนือ และจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดทั้งปี และให้จับตาช่วงวันที่ 19 มิถุนายนนี้ให้ดี เพราะสภาพดินฟ้าอากาศจะไม่ปกติ

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/news/2006/03-05/p1--17030.html

---

Santa L. - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 61.90.143.92)