เว็บบอร์ด

กระทู้ ถามตอบโหราศาสตร์ พยากรณ์ศาสตร์

ปิดปรับปรุงชั่วคราว

กระทู้นี้ เพื่อนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยได้ถามไถ่ 15

เนื่องจากกระทู้ที่ 14 ใช้เวลาหาข้อมูลนานพอสมควร ผมจึงขึ้นกระทู้ที่15 ขึ้น เพื่อความสะดวกในการหาข้อมูล
การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีค่ะอาจารย์

อยากทราบเรื่องเปอร์เซ็นต์หรือ***ส่วนของดาวแต่ละดวงน่ะค่ะ คือจะจัดอันดับอย่างไรคะ อาทิเช่น พฤหัสให้คุณ 100 อาทิตย์ให้คุณ 80 ถ้าเป็นพฤหัสเสียให้คุณ 5 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าให้โทษ ดาวอังคารให้โทษมากกว่าราหู อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ


แมว - 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 16:07น. (IP: 124.157.166.228)

ความคิดเห็นที่ 2
ตอบ คุณแมว

เรื่อง % ของดาวตามภพต่าง ๆ ที่จริงผมรับปากกับ อาจารย์ฯ ผมมาแล้วว่าจะไม่เฉลย แต่ก็ได้บอกใบ้ไว้ในตัวของเนื้อความอยู่แล้ว คุณแมว ลองอ่านหลาย ๆ รอบ อ่านช้า ๆ แล้วจะรู้ว่า ทำไมผมจึงตีเป็นเปอร์เซ็นต์ 70/30 ที่กล่าวแบบอ้อม ๆ เพื่อให้ท่านได้คิด แล้วเวลาจะพยากรณ์ท่านจะได้มีความละเอียดและรอบคอบ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 16:49น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 3
ผมอยากทราบว่า เลข 7 ตัว นั้น เวลาคิดปีนักกษัตริย์ คิดที่ 1 มกราคม หรือ สงกรานต์ครับ


ต้น - 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 00:32น. (IP: 158.108.210.108)

ความคิดเห็นที่ 4
สวัสดีค่ะอาจารย์

ถ้าดาวจรไปในราศีที่ไม่มีดาวเดิมอยู่ละคะ สำคัญระดับไหน มีผลกระทบกับเจ้าชะตาหรือไม่คะ

ที่อาจารย์ว่าอังคารเป็นนิจจ์ ซึ่งเป็นเจ้าเรือนกดุมภะ 70 เจ้าเรือนศุภะ 30 อาจารย์เอาอะไรเป็นเกณฑ์คะ อ่านช้า ๆ แล้วแต่ก็ยังตีความไม่ออกอ่ะค่ะ จะว่ามันเพราะอังคารเป็นสี่กับกดุมภะเหรอคะ แต่ก็เป็นห้ากับศุภะนี่คะ ไม่เข้าใจค่ะ


แมว - 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 13:50น. (IP: 124.157.200.4)

ความคิดเห็นที่ 5
ตอบ คุณต้น

เวลาคิดปีนักษัตร คิดหลังสงกรานต์ครับ

ตอบ คุณแมว

คุณแมวลองดูความแตกต่างของภพทั้งสองดู ว่าทำไมผมจึงถือเกณฑ์ 70% & 30% ลองดูนะครับว่าแตกต่างกันอย่างไร อย่าไปคิดลึก ๆ นะครับ เอาแค่ตื้น ๆ ก้อพอ

สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:31น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 6
อาจารย์คะ

คงต้องเดาว่าเพราะอังคารอยู่ใกล้กดุมภะมากกว่า เดามั่วเกินไปปล่าวคะ


แมว - 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:55น. (IP: 222.123.28.133)

ความคิดเห็นที่ 7
ราศีกรกฎ พิจิก มีน เป็นราศีธาตุน้ำ ราศีเมษเป็นธาตุไฟ ดังนั้นดาวใดที่อยู่กันธาตุเดียวกันย่อมมีผลสัมพันธ์กันทาง(ตรีโกณ) ต่างธาตุเช่นธาตุไฟมาอยุ่ธาตุน้ำ ย่อมเสียหายมากกว่า


nuch - 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 17:10น. (IP: 58.10.192.245)

ความคิดเห็นที่ 8
ตอบ คุณแมว

คงไม่ต้องเดาละครับ คุณแมวลองมองดูดี ๆ ในกระทู้ที่ 5 ผมบอกเอาไว้ว่าให้ดูความแตกต่างระหว่างราศีเมษ กับราศีพิจิก ว่ามีอะไรแตกต่างกัน แล้วบอกไว้ว่าอย่าไปคิดลึก คือไม่ต้องไปสนใจว่าเป็นราศีธาตุไฟ ราศีธาตุน้ำ (ตรงนี้ตัดออกไป) เราจะเห็นว่าราศีหนึ่งมีอะไร และราศีหนึ่งไม่มีอะไร คงบอกใบ้ได้แค่นี้ละครับ ถ้าพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็จะหมายถึงว่า ถอดเสื้อผ้าออกเกือบหมดแล้ว จริงไหมครับ สวัสดีครับ

ตอบ คุณnuch

ดาวใดที่อยู่ในราศีธาตุเดียวกันย่อมมีผลสัมพันธ์กันทางตรีโกณ ถูกต้องครับ ส่วนเรื่องดาวธาตุไฟมาอยู่ราศีธาตุน้ำ เรื่องของความเสียหายเราอย่าได้ไปคิดว่าไฟตกน้ำ (ตรงนี้ถ้าคุณnuch ได้เข้าไปอ่านบทความของท่านอาจารย์วรกุลฯ แล้วจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะท่านอธิบายดีทีเดียวครับ) บางทีดาวธาตุไฟอาจจะมาทำให้ราศีธาตุน้ำ กลายเป็นน้ำอุ่นได้ ถ้าจะพิจารณาจริง ๆ คงพิจารณาได้ดังนี้

* ธาตุน้ำ + ธาตุดิน = ส่งเสริมกัน

*ธาตุลม+ธาตุไฟ = ส่งเสริมกัน

*ธาตุน้ำ + ธาตุลม = ธรรมดา ไม่ส่งเสริม และไม่เบียน

*ธาตุน้ำ + ธาตุไฟ = ไม่ส่งเสริม และเบียนกัน

*ธาตุดิน + ธาตุไฟ = ธรรมดา ไม่ส่งเสริม และไม่เบียน

* ธาตุดิน +ธาตุลม = ไม่ส่งเสริม และเบียนกัน

ในขณะเดียวกันการดูดวงชะตาต้องดูดาวทั้งวงรอบจักราศี ว่าดาวใดสัมพันธ์กับดาวใด มิใช่ดูดาวเพียงราศีสองราศีแล้วมาพยากรณ์ บางครั้งบางมุมของดวงดาวจะสัมพันธ์กัน เพียงแต่ว่าเวลาดูภพจะดูกันคนละสถานะว่า เป็นภพอะไรเท่านั้น ซึ่งเวลาดูกันคนละสถานะของภพ ความหมายของดวงดาวแต่ละดวงก็จะเปลี่ยนไปด้วย เราจะสังเกตุดูและเห็นว่า ดาวแต่ละดวงเวลาแปลเป็นความหมายจะกว้าง เพื่อให้นักพยากรณ์ได้นำความหมายที่เหมาะสมมาพินิจพิเคราะห์ออกมาเป็นคำพยากรณ์ที่แม่นยำ

คงขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ


การเวก (กรวิก) - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:28น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 9
เพราะกดุมภะมีดาวราหูอยู่ ในขณะที่ศุภะไม่มีดาวอยู่

เออพูดถึงกดุมภะมีดาวราหูอยู่ ที่ว่าเป็นราหูล้วงทรัพย์ คือมีทรัพย์เท่าไหร่ก็จะหมดไปใช่ไหมคะ แต่ในอีกแง่หนึ่งเคยอ่านเจอว่าอาจจะหมายถึงการเงินหมุนเวียนเรื่อย ๆ เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ประมาณนั้นถูกหรือเปล่าคะอาจารย์


แมว - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 12:04น. (IP: 222.123.68.22)

ความคิดเห็นที่ 10
ตอบ คุณแมว

ที่คุณแมวกล่าวถึงว่า มีดาวอยู่ และ ไม่มีดาวอยู่ นั้นถูกต้องแล้วครับ ไม่จำเป็นว่าจะเป็นดาวอะไร

สำหรับเรื่องของดาวราหูที่อยู่ในภพกดุมภะ เป็นราหูค้นทรัพย์จริง ๆ หากดวงชะตาใครมีดาวราหูอยู่ในภพกดุมภะต้องถือว่าเสียหายหนักพอสมควร จะเสียหายอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องอะไร ก็ดูที่มาของดาวราหูว่ามาจากภพอะไร การถูกล้วงทรัพย์นั้นก้อมีต้นสายปลายเหตุมาจากภพที่ดาวราหูเป็นเจ้าของ

สำหรับเรื่องหมุนเงินเก่งนั้น ต้องมีดาวเกตุอยู่ในภพกดุมภะ หรือร่วมกับดาวกดุมภะนะครับ อย่าได้สับสน

คำชี้แนะคงมีเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:13น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 11
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

อาจารย์รำคาญหรือยังคะ ถ้ารำคาญจะหลบไปสักพัก ถ้ายังไม่รำคาญจะถามต่อค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้รับคำตอบขอถามต่อนะคะ

ที่อาจารย์ว่าหากดวงใครมีราหูอยู่กดุมภะต้องถือว่าเสียหายหนักพอสมควร หมายถึงว่าการเงินจะไม่พอใช้อะไรประมาณนั้นเหรอคะ อันนี้ใช้ดูฐานะได้ไหมคะ หมายถึงว่าแน่นอนดวงนี้ต้องจน หรือว่าไม่จำเป็นคะ อาจจะรวย แต่มีเรื่องจะต้องเสียเงินอยู่เรื่อย

ส่วนการเงินจะเสียหายจากอะไรให้ดูเรือน ทีนี้ราหูที่อยู่กดุมภะมาจากเรือนวินาศน์ค่ะ อ่านว่าเสียหายจากสิ่งที่ปกปิด สิ่งที่ไม่เปิดเผยเหรอคะ แล้วมันคืออะไรล่ะคะ


แมว - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:50น. (IP: 222.123.68.22)

ความคิดเห็นที่ 12
ตอบ คุณแมว

ที่ผมว่าดาวราหูอยู่ในภพกดุมภะต้องถือว่าเสียหายหนักพอสมควร ตรงนี้จะหนักเบาก็ต้องขึ้นอยู่กับดาวเสวยอายุด้วย แทรกด้วย และองค์ประกอบอื่น ๆที่เข้ามาแจม การกล่าวเช่นนี้มิใช่ว่าไม่อยากตอบ แต่ตอบลำบาก ต้องมีดวงชะตามาประกอบ ซึ่งผมได้พบพามากับตนเอง มีผู้เข้ามาให้พยากรณ์ดวงชะตา แล้วเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเขาคนนั้น โดนทั้งตำรวจหลอก โดนทั้งเจ้านายหลอก เสียเงินเสียทอง เสียอนาคต ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่เข้าสังคมอยู่สองถึงสามปี เป็นหนี้เป็นสินค่อนข้างมาก เป็นคดีความซึ่งจะครบกำหนดอายุความในปีหน้า ผมเองก็พยายามช่วยเหลือ คอยชี้แนะวิธีการปฏิบัติ ปัจจุบันก็เข้ามาอยู่ในสังคมของการทำงานได้ ค่อย ๆ ผ่อนเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินได้บ้าง เงินเดือนใช้เดือนชนเดือน สาเหตุเพราะราหูค้นทรัพย์ตัวนี้แหละ ซึ่งลัคนาของคน ๆ นี้อยู่ราศีมีน ราหูเป็นเจ้าเรือนวินาศน์ อังคารไปอยู่ราศีตุลย์ที่กล่าวมานี้เป็นพื้นดวงที่ผมมีอยู่และใช้ศึกษาการดำเนินชีวิตของคน จุดจบยังไม่เกิด แต่ผมคิดว่าคงสามารถผ่านไปได้แต่ก็เหนื่อยพอสมควร

เรื่องการดูฐานะนั้นมิใช่ดูที่ดาวราหูเพียงจุดเดียว และที่ถามว่าราหูอยู่กดุมภะมาจากเรือนวินาศน์ เสียหายจากสิ่งที่ปกปิด สิ่งที่ไม่เปิดเผยก็ใช่ถูกต้องครับ เช่น อาจจะเล่นการพนัน ลักขโมยสิ่งของแบบไม่ให้ใครรู้ แล้วถูกเปิดเผย เมื่อความลับเปิดเผยก็เลยต้องรับกรรมแต่เพียงผู้เดียว ชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพิจารณาพร้อมกันไปกับดวงดาวในราศีจักรทุกดวงด้วย

ผมคงขอจบเพียงแค่นี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 16:35น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 13
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณค่ะสำหรับคำอธิบาย

ฟังอาจารย์พูดเรื่องตัวอย่างดวงคนนั้น ทำให้ชักกลัว ทีนี้ถ้าอยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อาจารย์บอกว่าให้ดูดาวเสวยอายุ ดาวแทรก หมายถึงถ้าเป็นดาวบาปเคราะห์ก็จะไม่ดีหรือคะ


แมว - 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:46น. (IP: 222.123.68.22)

ความคิดเห็นที่ 14
ตอบ คุณแมว

ที่จริงยังมีอีกหลาย ๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกันเช่น ดาวจร อายุจร เป็นต้น ส่วนเรื่องของดวงดาวไม่ว่าจะเป็นดาวบาปพระเคราะห์ หรือดาวศุภเคราะห์ ก้อต้องขึ้นอยู่กับว่าในราศีจักรของเจ้าชะตา ดาวศุภพระเคราะห์อยู่ในตำแหน่งดีหรือเสีย ดาวบาปพระเคราะห์อยู่ในตำแหน่งดีหรือเสีย

ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งมีลูกสาวทำงานธนาคาร อยู่มาวันหนึ่งเพื่อน ๆ นัดไปดูหมอ ซึ่งนักพยากรณ์ท่านนี้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งผมนับถือในความรู้ นักพยากรณ์ท่านนี้พยากรณ์ลูกเพื่อนของผมพร้อมกับเพื่อน ๆ รวม 4 คน(สุภาพสตรีทั้งสิ้น) โดยระบุว่า 3 ใน 4 ท่าน จะโดนล่วงละเมิดทางเพศ จะแก้ได้โดยไปกราบไหว้พระธาตุตามปีเกิด ซึ่งนักพยากรณ์ผู้นั้นจะเป็นผู้พาไป โดยคิดค่าบริการพอสมควร เพื่อนของผมจึงปรึกษากับผม ผมจึงให้คำชี้แนะไปว่านักพยากรณ์ผู้นี้ใช้ดวงดาวในการพยากรณ์ คือพอเห็นเป็นดาวบาปพระเคราะห์ในภพที่เกี่ยวเนื่องก็จะพยากรณ์ไม่ดีออกไปทันที ซึ่งอาจารย์ของนักพยากรณ์ท่านนั้นก็เคยตำหนิในห้องเรียนว่า ชอบทำให้ชื่อเสียงของอาจารย์เสียหายอยู่ตลอดเวลา และนักพยากรณ์ท่านนั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในห้องเรียนดังกล่าวเพื่อเสาะหาเคล็ดลับเอาไปพยากรณ์แบบรวบ ๆ (ปัจจุบันนักพยากรณ์ท่านนั้นก็กำลังติดบ่วงกรรมที่ตนเองได้สร้างเอาไว้)

ที่ผมยกตัวอย่างข้างต้นให้ทราบ เพื่อมิให้คุณต้องหลงทางแบบนักพยากรณ์ท่านนั้น พอเห็นเป็นดาวบาปพระเคราะห์ก็จะทำนายในทางที่เสียหาย พอเห็นเป็นดาวศุกภเคราะห์ก็จะทำนายในทางที่ดี โดยมิได้ดูที่มาที่ไปของดวงดาว ของภพเสียก่อน

ผมคงจบคำชี้แนะเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:47น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 15
เรียน อ. การเวก (กรวิก)

อ่านที่อาจารย์วิเคราะห์ดวงคุณแมวแล้วน่าสนใจมากครับ ขออนุญาติเรียนอ่านดวงคุณแมวด้วยนะครับ

มีเรื่องสงสัยครับ ถ้าเรากำลังศึกษาโหราศาสตร์ไทย สายไหนผมก็ยังตอบไม่ถูกเพราะเรียนด้วยตัวเอง อ่านดะไปหมด แต่ตอนนี้ผมพยายามอ่านแบบภพเรือน (ผสม ทักษา บ้างถ้าในกรณีดวงไม่ยากและผมพอจะอ่านออก) เรื่องที่ผมไม่ทราบจริงๆ คือ ผมใช้โปรแกรมผูกดวงครับ ตรงดาวเสวยอายุ เสวยแทรก เขามีให้เลือก คือ ดาววันเกิดเสวยอายุ ดาวตนุลัคน์เสวยอายุ และ วิมโสตรีทศา เราควรจะเลือกอันไหนครับ ระหว่าง ดาววันเกิดเสวยอายุ กับ ดาวตนุลัคน์เสวยอายุ (ส่วน วิมโสตรีทศา นั้นผมทราบว่าเป็นสายภารตะ ซึ่งผมคงเรียนเองไม่ไหว เพราะรู้สึกยากมาก ผมจึงไม่ติกเลือกอันนี้)


พล - 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:24น. (IP: 210.246.80.100)

ความคิดเห็นที่ 16
เรียน อ. การเวก(กรวิก) อีกครั้งครับ

ขอรบกวนไขข้อข้องใจอีกคำถามนะครับ หวังใจว่าอาจารย์จะกรุณาตอบให้ผมหายปัญญาทึกสักทีเถิดครับ

2. เรื่องการอ่าน ดาวแฝงเรือนเกษตร ครับ เวลาเราอ่านดาวแฝงเกษตร เราอ่านแบบใดครับ อ่านเหมือนดาวนั้นไปอยู่ที่ที่มันแฝงไปอยู่เลยหรือครับ ถามอย่างนี้ถ้าไม่มีตัวอย่างดาวจะไม่ค่อยเคลียร์ ผมขออนุญาติยกตัวอย่างนะครับ กรณีดาวพฤหัส อยู่ราศีกุมภ์(เรือนปุตตะ)เรือนราหู ส่วนราหูอยู่กรกฎ เราจะอ่านว่า พฤหัสแฝงเรือนเกษตรของราหูตามราหูไปที่กรกฎแล้วเป็นอุจจ์ แล้วอ่านว่า พฤหัสเป็นอุจจ์ ด้วย อย่างนี้อ่านถูกหรือผิด อย่างไรครับ ขอบระคุณอาจารย์ล่วงหน้าครับ


พล - 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:17น. (IP: 210.246.80.100)

ความคิดเห็นที่ 17
สวัสดีค่ะอาจารย์

ถ้าถามเรื่องหลักฐาน บ้านช่องล่ะคะ ดูพันธุ หรือเรือนอื่นประกอบด้วยคะ การมีที่ดิน มีบ้าน หลาย ๆ หลัง ดูจากตรงไหนคะ


แมว - 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:58น. (IP: 222.123.130.78)

ความคิดเห็นที่ 18
ตอบ คุณพล

ในฐานะที่คุณอ่านและเรียนวิชาโหราศาสตร์ไทยด้วยตัวเอง คุณจะใช้ดาววันเกิดเสวยอายุ หรือดาวตนุลัคน์เสวยอายุ ขึ้นอยู่กับว่าคุณถนัดทางด้านไหน สำหรับ วิมโสตตรีทศา นั้น เป็นวิชาที่เรียกว่า โหราศาสตร์ชั้นสูง การเรียนต้องมีครูสอนเพราะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เนื่องมาจากต้องมีความรู้เรื่อง ฤกษ์, อินทภาษ-บาทจันทร์ เสียก่อน จึงมาเรียนเรื่องของ วิมโสตตรีทษา 120

สำหรับเรื่องของดาวแฝงเรือนเกษตรตามที่คุณถามมานั้น เป็นจังหวะที่สามแล้ว คือจากภพของดาวพฤหัส - มาอยู่ภพของดาวราหู(ราศีกุมภ์)-แล้วตามราหูไปอยู่ในราศีกรกฎ ในจังหวะสุดท้ายนั้นเป็นการขยายความหมายเมื่อจำเป็นหรือติดขัด ต้องการคำชี้แจงเพิ่มเติมมาขยาย จึงไม่ค่อยสมควรนำมาตรฐานของดวงดาวมาใช้ เปรียบเสมือนเขากำหนดเอาไว้ว่า เมื่อในจังหวะที่สองคุณมาอยู่บ้านของนาย ก. เขาให้อำนาจพิเศษคุณที่สามารถเข้านอก ออกในบ้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แถมมีอำนาจในการสั่งหรือใช้คนทำงานได้ แต่ในอีกนัยหนึ่ง คุณไปเกาะเอวนาย ข. มาอยู่บ้านนาย ก. อำนาจต่อรองของคุณก็ไม่มีเพราะคุณเป็นคนติดตามนาย ข. มา

คำอธิบายเบื้องต้นคงสร้างความเข้าใจให้คุณไม่มากก้อน้อยนะครับ สวัสดีครับ

ตอบ คุณแมว

เรื่องของหลักฐานบ้านช่อง การมีบ้านหลาย ๆ หลัง ขึ้นอยู่กับวิธีการและประสบการณ์ของแต่ละอาจารย์ท่าน บางท่านดูจากความหมายของดวงดาว บางท่านดูจากการอยู่รวมกันของดวงดาว บางท่านดูจากตำแหน่งมาตรฐานของดวงดาว บางท่านอาจจะดูจากความสัมพันธ์ของดวงดาวประกอบ ยากที่จะอธิบาย แต่ในเบื้องต้นดูจากภพพันธุก่อนเป็นลำดับแรก ส่วนจะดูเสริมต้องขึ้นอยู่กับอาจารย์แต่ละท่านสอน ผมจะยกตัวอย่างให้ดูแบบง่าย ๆ เช่น ภพพันธุ หมายถึง บ้านเรือนที่พักอาศัย ยานพาหนะ ตำแหน่งหน้าที่การการ ญาติสนิท ครอบครัวของเจ้าชะตา หรืออาจจะมีความหมายถึงบิดา (ถ้าเป็นชะตาของสตรี) หรืออาจจะมีความหมายถึงมารดา (ถ้าเป็นชะตาของบุรุษ) แต่เวลาพยากรณ์บางท่านอาจจะใช้ความหมายคลุมคือ หมายถึงผู้ใหญ่หรือญาตผู้ใหญ่ ก็ได้ ตามตัวอย่าง ถ้าดาวเจ้าเรือนภพพันธุเป็น ปร เจ้าชะตาเวลาจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ควรจะเป็นบ้านหรือรถมือสองถึงจะดี เปรียบเสมือนกับซื้อสิ่งของที่เขาใช้มาแล้ว เป็นต้น

คำอธิบายและตัวอย่างที่ยกให้ดูคงมีเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:36น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 19
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณสำหรับคำตอบและคำอธิบายค่ะ

แล้วดาวเสาร์ล่ะคะ เค้าว่าเสาร์ก็ใช้ดูหลักฐานบ้านช่องที่ดินอะไรพรรค์นั้นด้วย มีส่วนไหมคะ


แมว - 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 18:08น. (IP: 125.25.10.113)

ความคิดเห็นที่ 20
ตอบ คุณแมว

มีส่วนครับ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่ารู้จักใช้ในเวลาอันสมควร แต่ก็ต้องดูดวงดาวในภาพรวมด้วย


การเวก (กรวิก) - 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:01น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 21
อาจารย์คะจันทร์เป็น11แก่ลัคเป็นอย่างไรคะ เช่นลัคอยู่ราศีกุมภ์จันทร์ต้องอยู่มังกรใช่ไหมคะ


gibza - 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 13:24น. (IP: 202.183.204.119)

ความคิดเห็นที่ 22
ตอบ คุณ gibza

จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ลัค จะเป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางาน ขยันหาเงิน เพราะจันทร์อยู่ในภพลาภะ

ตามที่ถามมาถ้าลัคนาอยู่ในราศีกุมภ์ ดาวจันทร์ต้องอยู่ในราศีธนู ถึงจะถูกต้อง

เรื่องของจันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ เป็นปทุมเกณฑ์ มีคำโคลงที่ว่า

จันทร์เป็นสิบเอ็ดแท้ แก่ลัคน์

พฤหัสสี่ ทรงศักดิ์แช่มช้อย

ศุกร์สามดั่งนี้จักร เจริญยิ่ง ยศแฮ

หากว่าชาติต่ำต้อย ยกให้ เสมอพงษ์

คำโคลงนี้จะหมายถึง จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ (นับลัคนาเป็นหนึ่ง) พฤหัสเป็นสี่ ศุกร์เป็นสาม เรียกว่าปทุมเกณฑ์ (เป็นคำกล่าวของท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ในหนังสือ"เคล็ดลับการพยากรณ์" ท่านยังเขียนต่อไปอีกว่า "ยังมีคำกล่าวของท่านอาจารย์เทพฯ กล่าวไว้ว่า จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ พฤหัสบดีเป็นสี่แก่จันทร์ ศุกร์เป็นสามกับดาวอาทิตย์ (ที่ว่าศุกร์เป็นสาม ถ้าอยู่หน้าดางอาทิตย์เรียกว่าดาวประจำเมือง ถ้าอยู่หลังดาวอาทิตย์เรียกว่าดาวประกายพฤษ์ เพราะตามหลักหรือกฎ ดาวศุกร์จะอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เกิน48 องศา) สำหรับตรงนี้ถ้าหาอ่านได้ควรหาอ่านจากหนังสือ "เรื่องเคล็ดลับการพยากรณ์" เขียนโดยท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ รวบรวมโดยท่านอาจารย์ชัยเมศ เชี่ยวเมศ

ผมหวังว่าคำอธิบายข้างต้นคุณ gibza คงเข้าใจไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:47น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 23
สวัสดีค่ะอาจารย์

กลับมาอีกครั้งค่ะ มารบกวนอาจารย์ให้ความกระจ่างค่ะ

สงสัยคำว่าดาวดี ดาวเด่น ดาวเสีย ดาวเสื่อม น่ะค่ะ ตัวอย่างนะคะอ่านเจอว่าถ้าอังคารเด่นจะมีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ถ้าเสื่อมจะมีจิตใจอ่อนแอ ทีนี้เราจะรู้ได้ไงว่าดาวในดวงเรามันเด่นหรือเสื่อม คือถ้าเป็นประ หรือ นิจ ถือว่าเสื่อม แล้วถ้าอยู่ในเรือนชะตาที่เสียถือว่าเสื่อมด้วยหรือเปล่าคะ


แมว - 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:18น. (IP: 222.123.85.74)

ความคิดเห็นที่ 24
ตอบ คุณแมว

เรื่องของดาวดี ดาวเด่น ดาวเสีย ดาวเสื่อม ขึ้นอยู่กับดาวนั้น ๆ ได้ตำแหน่งอะไร เช่น เกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค ปร นิจจ์ ตรงนี้คุณแมวคงเข้าใจว่าดาวดวงไหนได้ตำแหน่งอะไร ความเด่น ดี เสีย เสื่อมจะเป็นเช่นไร

ยังมีอีกประเด็นหนึ่งผมจะยกตัวอย่างให้ดูเช่น ในภพ อริ มรณะ วินาศ และภูมิกาลี เปรียบเสมือนภพและภูมิเหล่านี้เป็นบ่อเกรอะ หากดาวดวงใดก็ตามตกลงไปในบ่อเกรอะ ดาวดวงนั้นก็ต้องเปรอะเปื้อนสิ่งปฏิ***ลในบ่อเกรอะนั้นไปด้วย ใช่ไหมครับ ในอีกประเด็นหนึ่ง ดาวเจ้าเรือนบ่อเกรอะเวลาเดินไปอยู่ในราศีใด ตัวของมันเองก็เปรอะเปื้อนส่งกลิ่นอยู่แล้ว เมื่อไปอยู่ในราศีใด ภพใด ราศีนั้น ภพนั้นก็จะมีกลิ่นความเปรอะเปื้อนไปด้วย ดาวดวงใดหลงเข้าไปอยู่ร่วมด้วยก็จะเปรอะเปื้อนกลิ่นไปด้วย ยกเว้น ยกเว้น ดาวเกษตร และดาวอุจจ์ ที่จะไม่เปรอะเปื้อน จะมีก็เพียงแต่กลิ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ สรุปก็คือ ดาวเสียทำอะไรดาวเกษตร ดาวอุจจ์ ไม่ได้

คำตอบเบื้องต้นคงกระจ่างแล้วนะครับ และก็ให้ยึดถือใช้ในแนวทางนี้ไป ทดลองดูนะครับ หากได้ผลดีก็ให้ถือเป็นมาตรฐานใช้ต่อไป หากไม่ได้ผลก็โยนทิ้งไป (ผมการันตีได้ว่าใช้ได้ผลครับ) สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:20น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 25
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ ให้ความกระจ่างดี ทำให้นึกไปตามที่อาจารย์ยกตัวอย่างด้วย

ทีนี้พออ่านแล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาใหม่ว่า ถ้าเราดูภพที่เสีย เจ้าเรือนก็จะเสียไปด้วย แต่ถ้าภพที่ไม่เสีย แต่เป็นดาวเองล่ะคะ ดาวที่เป็นบาปเคราะห์เนี่ยจะให้คุณหรือโทษคะ หรือดูแต่ภพเป็นหลัก

อย่างเช่น ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ราหู อะไรพวกนี้ที่เค้าว่าเป็นดาวบาปเคราะห์ แต่ถ้าไปอยู่ในภพที่ไม่เสียล่ะคะ ก็เป็นดาวเด่นใช่หรือไม่คะ


แมว - 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 17:22น. (IP: 222.123.66.35)

ความคิดเห็นที่ 26
ตอบ คุณแมว

ในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์ไทย ผมเคยเรียนไว้แต่ต้นแล้วว่าขึ้นอยู่กับผู้สอนจะให้ความกระจ่างแค่ไหน อย่างไร เช่นที่คุณถามมาว่าหากเป็นดาวบาปพระเคราะห์ถ้าไปอยู่ในภพที่ไม่เสีย ก็เป็นดาวเด่นใช่หรือไม่ ตรงนี้ผมคงต้องยกตัวอย่างให้ดู เมื่อได้ทราบแล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแมวเองจะนำไปปฏิบัติอย่างไร

ตามที่ผมเรียนมา เราจะเห็นว่า ในภพแต่ละภพจะมีดาวเรียงกันไปตั้งแต่ราศีเมษ - ราศีมีน คุณแมวลองบวกเลขในภพตรงข้ามของแต่ละราศี จะเห็นว่ารวมกันได้เท่ากับ 9 รวม 12 ราศีเท่ากับ 108 (เท่ากับใน 1 จักราศีมี 108 นวางค์) ดาวต่าง ๆ ที่ประจำราศีถ้าเราดูจะเห็นว่าดาวแต่ละดวงก็มิได้ประจำอยู่ในราศีธาตุของตนเองเท่าไรนัก จะมีก็เพียงดาวอาทิตย์เท่านั้นที่ประจำราศีธาตุของตนเอง และดาวราหูที่ประจำราศีธาตุของตนเอง นอกนั้นมิใช่ดาวที่ประจำราศีธาตุเดียวกับตน

เมื่อเห็นเช่นนี้เรามาสมมุติว่าลัคนาอยู่ราศีเมษ เสาร์เป็นเจ้าเรือนภพกัมมะ เมื่อเสาร์เป็นเกษตรอยู่ในราศีมังกร ทำไมนักพยากรณ์จึงพยากรณ์ว่างานนั้นมั่นคงไม่สั่นคลอน ทำไมนักพยากรณ์จึงไม่พยากรณ์ว่างานนั้นทำให้ทุกระทมขมขื่น (เพราะเสาร์เป็นดาวบาปพระเคราะห์) จากตัวอย่างนี้ถ้าเราคิดในแบบที่มีเหตุมีผลก็ต้องคิดว่า แม้จะเป็นดาวบาปพระเคราะห์แต่ถ้า ภพดี ตำแหน่งดี ต้องพยากรณ์ไปในทางที่ดี แต่ถ้าภพเสีย ตำแหน่งเสีย ถึงต้องพยากรณ์ไปในทางที่เสีย เพียงแต่ว่าจะมีบางกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ตายตัวว่า ดาวอะไรก็ตามที่อยู่ในราศีข้างหน้าและราศีข้างหลังของดาวเสาร์จะเป็น "ทุราทุระโยค" คือได้รับโทษทุกข์จากเสาร์ ตรงนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ครูโหรได้กำหนดเอาไว้ หากเราจะนำไปใช้ก็ต้องมีการบันทึกสถิติการพยากรณ์เก็บไว้ด้วยว่าเป็นไปดังว่าจริงหรือไม่จริง ที่ว่าต้องจดบันทึกเป็นสถิติเพราะ ในการคิดอายุตามทักษาจะมีดาวทักษาครองวัย และทักษาแทรก แม้ดาวในภพดี แต่ในปีที่ดาวแทรกทางทักษาไม่ดี แต่ไปตรงกับดาวในภพที่ดี เราก็ต้องพยากรณ์ไปในทางไม่ดีในปีนั้น ๆ ด้วย ผมถึงบอกว่า การที่เราจะว่าดาวในภพที่ดีเป็นดาวที่ไม่ดีนั้น ต้องขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ด้วยว่าจะพิจารณากันในช่วงไหน เวลาใด

ผมคงจบคำอธิบายเพียงแค่นี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:37น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 27
สวัสดีค่ะอาจารย์การเวก

รอคำตอบของคำถามของคุณแมวอยู่เหมือนกันเลยค่ะ เพราะสงสัยเหมือนกัน และบังเอิญอาจารย์ก็ยกตัวอย่างในสิ่งที่กำลังสงสัยพอดีเลยคือ ดาวเสาร์ เป็นเจ้าเรือนใดๆ ก็แล้วแต่ แต่บังเอิญในดวงชาตานั้นดาวเสาร์เกิดเป็นเกษตร เราจะทายอย่างไรดี ในดวงของดิฉัน ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนพันธุเป็นเกษตร สงสัยว่า จะทายดีว่า "พันธุ" มั่นคงดีเพราะมีตำแหน่งเกษตร หรือ ต้องจากพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนดีตามความหมายของดาวเสาร์ ที่อาจารย์ตอบใน คคห ๒๖ ยังไม่ค่อยเข้าใจค่ะ รบกวนอธิบายอีกนิดเถิดค่ะ

และอีกข้อที่สงสัยคือ เรื่อง ทุราทุระโยค จากเสาร์ ดิฉันพยายามหาอ่านในหนังสือที่ตัวเองมีอยู่ ของ อ สิงห์โต ก็ไม่มีอธิบายเรื่องนี้ อาจารย์การเวกคะ มีข้อกำหนดอย่างไรเกี่ยวกับ เรื่อง ทุราทุระโยคจากเสาร์คะ คือ ดาวที่อยู่ข้างหน้าและข้างหลังเสาร์ ต้องเป็นดาวที่อยู่เดี่ยวๆ ดวงเดียว หรือ ร่วมกับดาวอื่น และต้องมีดาวทั้งข้างหน้าและข้างหลังของเสาร์หรือเปล่าคะ คือ หน้าเสาร์ ก็มีดาว (และต้องเป็นดาวดวงเดียวหรือกี่ดวงก็แล้วแต่) และหลังเสาร์ก็ต้องมีดาวด้วย (จะกี่ดวงก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นทุราทุระโยค คะ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ หาอ่านเองก็ไม่พบค่ะ

รบกวนด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ


ตาล - 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 15:22น. (IP: 210.246.80.115)

ความคิดเห็นที่ 28
ตอบ คุณตาล

ตามที่คุณตาล ถามมาเกี่ยวกับเรื่องดาวเสาร์ และยกตัวอย่างว่าดาวเสาร์เป็นเกษตร เจ้าเรือนพันธุ ในกรณีนี้ (ไม่นับรวมทักษาทางภูมิว่าดาวเสาร์เป็นภูมิอะไร) ความหมายของภพพันธุจะมีความหมายหลากหลายเช่น เป็นบิดา(กรณีดวงชะตาของสุภาพสตรี) เป็นตำแหน่งหน้าที่การงาน เป็นที่ดิน เป็นบ้าน เป็นยานพาหนะทั้งทางบกและทางน้ำก็ได้ เป็นญาตผู้ใหญ่ฝ่ายบิดาก็ได้ เมื่อเป็นเกษตรก็จะหมายถึงมั่นคง เป็นปึกแผ่น สมมติว่ามีความหมายถึงบิดา บิดาเป็นคนเงียมขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนคนเก็บกด เป็นคนละเอียดรอบครอบ เป็นคนอนุรักษ์นิยม (ค่อนข้างจะหัวโบราณ) เวลามีน้ำโห (โมโห) ก็ค่อนข้างจะรุนแรง เรื่องอะไรที่ผ่านไปแล้วเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมาก็จะหยิบยกขึ้นมาพูดใหม่อีก เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เป็นต้น เมื่อมีความหมายเป็นอื่นก็ลองนำเอาความหมายที่ใกล้เคียงกับในลักษณะเบื้องต้นเข้ามาขยายเป็นต้น

สำหรับเรื่องทุราทุระโยคจากเสาร์ หากคุณอ่านหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โตฯ จะมีเรื่องของโยคที่เป็นคุณ และโยคที่เป็นโทษ และในหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โตฯ จะกล่าวถึง ทุระทุราโยค (โยคเกี่ยวกับจันทร์) ซึ่งจะเป็นคุณ คือ ดาวอะไรก็ตามแต่ที่อยู่ในราศีที่ 2 และ 12 จากจันทร์ จะได้รับคุณประโยชน์ตามความหมายที่ท่านอาจารย์สิงห์โตฯ ท่านได้ระบุไว้ ในเรื่องของดาวเสาร์ก็คล้าย ๆ กัน คือดาวใดก็ตามแต่ที่อยู่ในภพที่ 2 และ 12 จากเสาร์ (คือ อยู่หน้าดาวเสาร์และอยู่หลังดาวเสาร ถึงแม้จะมีดาวอยู่ข้างหน้าเพียงอย่างเดียว หรือมีดาวอยู่หลังดาวเสาร์เพียงอย่างเดียว ก็เข้ากฎเกณฑ์นี้) ไม่ว่าจะมีดาวกี่ดวงก็ตามแต่ ดูว่าดาวดวงนั้น ๆ เป็นเจ้าเรือนภพอะไร ก็จะทุกข์ ๆ ร้อน ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ เรื่องตรงนี้ท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านได้เขียนไว้ในเรื่อง "เคล็ดลับการพยากรณ์" ซึ่งท่านได้อธิบายไว้อย่างสั้น ๆ ในเรื่อง ทุระทุราโยค เผอิญผมชอบที่จะเรียกว่า "ทุราทุระโยค" เลยเพี้ยนไปหน่อย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

คำอธิบายคงกระจ่างแล้วนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 08:30น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 29
สวัสดีค่ะอาจารย์การเวก

ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ เข้าใจดีแล้วค่ะ พออ่านคำตอบจบก็รีบไปหยิบหนังสือของอาจารย์สิงห์โตมาเปิดหาอ่านเรื่องโยคพิเศษ พบข้อความตามที่อาจารย์การเวกบอกไว้ค่ะ อยู่ในข้อที่ 17 แต่ตาลขอเรียนถามเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือเปล่านะคะ คือ อาจารย์สิงห์โต เขียนว่า "มีดาวเคราะห์อยู่ในเรือนที่ ๒ และ ๑๒ จากดาว ๒...." อาจารย์สิงห์โตใช้คำว่า "และ" แสดงว่า ต้องมีดาวเคราะห์ใดๆ ก็แล้วแต่ อยู่ทั้งเรือน ๒ และ ๑๒ ใช่ไหมคะ จะมีเพียงหน้าจันทร์หรือ หลังจันทร์เพียงอย่างเดียวจะไม่เข้าข่าย ... ตาลเข้าใจอย่างนี้ถูกหรือผิดคะ อาจารย์

ส่วนเรื่องดาวเสาร์เป็นเกษตรครองเรือนตัวเองในชาตากำเนิดนั้น คราวนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะที่กรุณาอธิบายให้เข้าใจ (ซึ่งตาลว่า การอธิบายเป็นตัวหนังสือให้เข้าใจนั้น ทำได้ยากมากในวิชาโหราศาสตร์) และที่อาจารย์อ่านดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนพันธุและเป็นเกษตรให้ตาลเห็นเป็นตัวอย่างนั้น ก็ตรงกับดวงจริงๆของตาลค่ะ คุณพ่อของตาลมีบุคลิกอย่างนั้นจริงๆ คือ เป็นคนเงียบขริม พูดน้อยมาก ไม่ดุเลย และตาลขอเพิ่มเติมคำอ่านอีกนิดคือ คุณพ่อของตาล(เสาร์พันธุ-เกษตร) เป็นคนผิวดำค่ะ (น้ำตาลแดงแบบคนไทยแท้โบราณค่ะ) รูปร่างออกสูงค่ะ แต่ว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นคุณพ่อโกรธ หรือ แสดงอารมณ์โกรธค่ะ ท่านใจดีมากค่ะ เสียแต่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันค่ะ ... อ่านที่อาจารย์การเวกสอนอ่านให้แล้วทึ่งว่า วิชาโหราศาสตร์นี้ ถ้าใคร อ่านได้ตามหลักวิชาจริงๆ ก็เป็นศาสตร์ที่แม่นยำมาก เพราะมันตรงจริงๆ ค่ะ

ตาลมีคำถามต่อเนื่องอีกคำถามเดียวค่ะที่จะรบกวนอาจารย์ ที่สงสัยคือ ที่ตำราท่านว่า ถ้าจะดูว่าจะพลัดถิ่นไปอยู่ต่างถิ่นกำเนิดหรือไม่นั้น ข้อหนึ่งให้ดูที่เรือนพันธุว่ามีดาวร้าย เช่น เสาร์ ราหู มฤตยู ไปอยู่ในเรือนพันธุหรือไม่ ถ้ามีก็จะทำให้มีสิทธิว่าจะพลัดไปอยู่ต่างถิ่น ในกรณีของตาลนี้ เสาร์ซึ่งจัดว่าเป็นดาวร้าย ไปอยู่เดี่ยวๆในเรือนพันธุซึ่งเป็นเรือนตัวเอง จะเข้าข่ายทำให้พลัดไปอยู่ต่างถิ่นด้วยได้ไหมคะ อันนี้แหละค่ะคือประเด็นที่ตาลสงสัยมาก รบกวนอาจารย์การเวกตอบอธิบายอีกสักครั้งนะคะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ


ตาล - 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:03น. (IP: 210.246.80.63)

ความคิดเห็นที่ 30
ลืมไปอีกอย่างหนึ่งคือ เสาร์-พันธุ ของตาล ตกภูมิอายุ ตาลเกิดวันพุธ-เช้าค่ะ


ตาล - 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:10น. (IP: 210.246.80.63)

ความคิดเห็นที่ 31
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณสำหรับ คคห 26 ค่ะ เดี๋ยวแว๊บไปทำความเข้าใจก่อน แล้วหากมีปัญหาจะมารบกวนอาจารย์ใหม่ค่ะ


แมว - 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 14:42น. (IP: 222.123.68.22)

ความคิดเห็นที่ 32
สวัสดีค่ะอาจารย์

มาวันนี้ขอถามเรื่องดาวจรหน่อยค่ะ หากว่าเรือนชะตานั้นในพื้นดวงไม่มีดาวสถิต แล้วดาวจรก็เข้าเรือนชะตานั้น จะส่งผลน้อยกว่าเรือนชะตาที่มีดาวสถิตหรือไม่คะ

ตัวอย่างชะตากำเนิดเรือนชะตาศุภะไม่มีดาวอยู่ เจ้าเรือนชะตาเป็นพุธไปอยู่ปุตตะ ทีนี้ตอนนี้ดาวจร (อาทิตย์ อังคาร พฤหัส ศุกร์) เข้าเรือนชะตาศุภะ อย่างนี้จะให้ผลน้อยหรือไม่คะ


แมว - 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2549 09:17น. (IP: 222.123.68.22)

ความคิดเห็นที่ 33
ตอบ คุณตาล

เรื่องที่คุณตาลฯ ถามมาเกี่ยวกับการดูว่าจะต้องพลัดถิ่นไปจากถิ่นกำเนิดหรือไม่ การดูแค่ดาวบาปพระเคราะห์ที่คุณตาลฯ กล่าวมานั้นผมว่ามันหยาบเกินไป คือ พอเห็นดาว เสาร์ ราหู มฤตยู เกตุ อยู่ในดวงชะตาภพพันธุก็จะเหมารวมว่าต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเกิด ผมคงให้ความหมายได้อย่างนี้คือ

- ถ้าเกี่ยวกับเรื่องของดาวราหู ในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ เรื่องเคล็ดลับการพยากรณ์ ท่านจะกล่าวไว้ว่า ดาวราหูไม่ว่าจะอยู่ในเรือนใดจะนำความไม่ดีเข้าไปสู่เรือนนั้น คือ

* สมมุติอยู่ภพตนุก็จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนเจ้าอารมณ์ หลงเชื่อคนง่ายเป็นต้น, ถ้าอยู่ภพกดุมภะ เรียกว่าราหูค้นทรัพย์ ทำให้ทรัพย์สินที่เก็บออมต้องมลายหายไปเพราะถูกหลอกลวง หรือทุ่มเทให้กับคนอื่น (ตรงนี้ผมว่าเพราะราหูเชื่อง่าย ถูกหลอกลวงง่าย จึงถูกค้นทรัพย์ไป), ถ้าอยู่ภพสหัสชะ ก็แปลความหมายของภพไปในทางที่ไม่ค่อยดี คือพูดจาเอาแต่ได้ (เพราะเจ้าชะตาเจ้าอารมณ์) ทีนี้พอมาอยู่ในภพพันธุ ท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านบอกไว้ว่า พึ่งญาตพี่น้องไม่ค่อยจะได้ ซึ่งจากสถิติที่ผมมีอยู่ก็เป็นเช่นที่ว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่าราหูเป็นเจ้าเรือนภพใด ซึ่งหากเป็นเจ้าเรือนภพอริ มรณะ วินาศน์ หรือภูมิกาลี ก็จะเกิดขึ้นในลักษณะดังกล่าว

- สำหรับดาวเสาร์ ที่กล่าวกันไว้ส่วนใหญ่ในตำราว่าเป็นดาวโทษทุกข์ เมื่ออยู่เรือนพันธุ คงต้องดูว่าดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนอะไร ภพอะไร ภูมิอะไร มีตำแหน่งมาตรฐานอะไร (เช่น เกษตร อุจจ์ ราชาโชค มหาจักร ปร นิจจ์) ก็ต้องเอาความหมายของภพ ของภูมิของดาวเสาร์เข้ามาผสมกับคำพยากรณ์ที่ได้มา แล้วออกคำพยากรณ์ที่ดูกระชับ เข้าใจง่าย

- ส่วนดาวมฤตยู ทั่ว ๆ ไปจะหมายถึง วิญญาณ เหตุการณ์ที่ไม่ดี การถูกหลอก อุบัติเหตุฯลฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์แต่ละท่านจะกำหนดความหมายเอาไว้ เท่าที่ผมได้ศึกษาจากอาจารย์หลายท่าน อ่านจากตำราหลายเล่ม ก็จะมีความหมายในลักษณะเช่นนี้ ส่วนรายละเอียดยังมีอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับว่า ดาวมฤตยูจะอยู่ในภพอะไร และก็ขึ้นอยู่กับว่าดาวที่ร่วมกับมฤตยูมีตำแหน่งมาตรฐานดีหรือไม่ เป็นดาวคู่ศัตรูกับภพที่อยู่หรือไม่ (เป็นคู่ศัตรูทั้งทางดวงดาว ทั้งทางธาตุของราศี) หากดาวที่มาอยู่ไม่มีตำแหน่งก็ยังไม่เท่าไหร่ ถ้ามีตำแหน่งที่เสียเมื่อไรก็จะถูกดาวมฤตยูเบียนทันที ยกตัวอย่างเช่น สมมตุว่าเจ้าชะตามีดาวมฤตยูอยู่ในภพปัตนิ นักพยากรณ์ส่วนใหญ่จะทำนายว่า จะไม่มีแฟนหรือมีคู่ หรือมีคู่ก็จะต้องจากเป็นจากตายกัน หรือตัวเจ้าชะตาจะต้องมีดวงชะตาแข็งแกร่งถึงจะมีคู่ในลักษณะเช่นนี้ได้ หรือเจ้าชะตาจะได้คู่ที่มีนิสัยแปลก ๆ หรือเจ้าชะตาจะได้คู่ที่ชอบศึกษาวิชาศาสตร์ลี้ลับ หรือเจ้าชะตาจะมีคู่โดยกระทันหัน ฯลฯ เพียงแค่นี้ที่ยกตัวอย่างให้เห็นก็หลาย ๆ ความหมายแล้ว แล้วจะเลือกตัวไหนละ ตรงนี้ก็ขอให้ความเห็นไว้ว่า ควรดูดวงดาวทั้งหลายทั้งปวงในจักราศีให้เรียบร้อยก่อน ค่อยมาหาความหมายที่เหมาะสมมาใช้ในการพยากรณ์

- ส่วนดาวเกตุ เราจะเห็นเลข ๙ จะมีหากคดไปคดมา เกตุจะหมายถึงเทพก็ได้ ที่คอยช่วยเหลือตัวเจ้าชะตาอยู่ ความหมายของเกตุจะแปลไปในทางที่ดีหรือไม่ดีก็เช่นเดียวกับดาว 0 ตัวอย่างเช่น เกตุอยู่ในภพตนุ เป็นคนคิดอะไรวางแผนอะไรจะมีแผนที่ซับซ้อนหลายชั้น, อยู่ในภพกดุมภะก็เป็นคนหมุนเงินเก่น, อยู่ในภพสหัสชะก็เป็นคนพูดจาภาษาไทยต้องแปลเป็นไทย, อยู่ในภพพันธุก็มีบ้านอยู่ในซอยเลี้ยวไปเลี้ยวมาหลายซับหลายซ้อน หรือในบ้านมีแต่ปัญหายุ่งวุ่นวาย, อยู่ในภพอริก็หมายถึงเป็นคนมีความสามารถใช้ความคิดความอ่านของตนเองในการ***้หนี้ยืมสินจากบุคคลอื่น หรือมีอุปสรรคที่ยุ่งยากซับซ้อนแก้ไขลำบาก เป็นต้น

ตัวอย่างที่ยกให้เห็นนั้นคือความหมายของดาวต่าง ๆ ที่คุณถามมา ทุกสิ่งทุกอย่างผมอยากจะให้ยึดภพของดาวเป็นหลัก ดาวมาจากภพอะไร ภูมิอะไร ก็จะนำความหมายของภพ ของภูมิ ติดตัวมาด้วย จะมาผสมเช่นไร ไปในทางที่ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่า ดาวนั้น ๆ มีตำแหน่งมาตรฐานอะไร มาจากภพทุสถานะภพหรือไม่ เป็นภูมิกาลีหรือไม่ หากยึดถือได้เช่นนี้การพยากรณ์ก็จะดูเนียนขึ้น ลองใช้ดูนะครับ สวัสดีครับ

ตอบ คุณแมว

สิ่งที่คุณแมวถามมานั้นถูกต้องครับ เพราะเมื่อดาวจรเข้ามาก็ไม่ได้เข้ามากระทบกับดาวในราศี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางทีอาจจะเกิด หรืออาจจะไม่เกิดก็ได้ แต่ตรงนี้เมื่อดาวจรเข้ามาในภพที่ดาวไม่มีในราศี ก็ต้องดูดาวเดิมว่าไปอยู่ในราศีอะไร ดาวจรก็จะสามารถแฝงดาวเจ้าเรือนไปอยู่ในภพนั้น ๆ ได้ หรือดูว่าดาวจรด้วยกันที่เป็นเจ้าเรือนภพดังกล่าวไปอยู่ที่ใด ดาวจรที่เข้ามาก็จะสามารถแฝง (หรือขี่คอ) ดาวจรที่เป็นเจ้าเรือนภพ(ราศีนั้น) นั้น ๆ ไปด้วย เช่นที่คุณยกตัวอย่าง ว่า อาทิตย์ อังคาร พฤหัส ศุกร์ จรมาอยู่ในภพศุภะ(เดิม) ส่วดาวพุธ(เดิม) ไปอยู่ในภพปุตตะ ดาวจรที่จรมานี้ก็สามารถแฝงตัวไปอยู่ในภพปุตตะที่ดาวพุธอยู่ด้วยได้ หรือดูว่าดาวพุธจรไปอยู่ที่ไหน ดาวเหล่านี้ก็จะแฝงไปกับดาวพุธจรไปอยู่ในภพที่ดาวพุธจรอยู่ด้วยก็ได้ ส่วนจะออกคำพยากรณ์เช่นไรก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ตำราไหนดู ก็ต้องออกคำพยากรณ์ไปตามตำรานั้น ๆ

คำตอบคงมีเท่านี้ครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 1 ธันวาคม พ.ศ.2549 08:44น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 34
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณสำหรับคำอธิบายค่ะ

เมื่อคืนไปค้นที่อาจารย์ตอบคำถามอันเก่า ๆ ที่เกี่ยวกับการอ่านเบื้องต้นว่าให้อ่านภพก่อน อ่านสองชั้น ก็เลยมีคำถามขึ้นมาค่ะ

ลัคนามีนค่ะ ในภพปุตตะเดิมมีดาวอยู่4ดวงด้วยกัน คือ 3 4 5 6 (อยู่ราศีกรกฏ) และ ภพมรณะ มี 2 อยู่(ราศีตุลย์) เวลาอ่านสองจังหวะ ก็จะได้

กดุมภะ-ปุตตะ-มรณะ

สหัสชะ-ปุตตะ-มรณะ

พันธุ-ปุตตะ-มรณะ

กัมมะ-ปุตตะ-มรณะ

ปุตตะ-มรณะ-ปุตตะ และอื่น ๆ อีก

ทีนี้ดาวเป็นเจ้าเรือนตั้งสองเรือน ส่วนใหญ่เลยลงมรณะหมดอ่ะค่ะ แค่เห็นก็ห่อเ***่ยวแล้ว (อาจารย์คงว่ายังไม่ทันดูดาวเลย ไล่ให้ไปเขกโต๊ะ) ทำไงดีคะ


แมว - 1 ธันวาคม พ.ศ.2549 09:16น. (IP: 222.123.68.6)

ความคิดเห็นที่ 35
ตอบ คุณแมว

เมื่อก่อนนี้ตอนผมเรียนวิชาโหราศาสตร์สายท่านอาจารย์อรุณฯ (ซึ่งสอนโดยศิษย์ของท่าน)ใหม่ ๆ ก็เหมือนกับคุณแมวฯ ละครับ พอเห็นดาวเห็นภพเช่นนี้แล้วรู้สึกหัวใจค่อนข้างจะห่อเ***่ยวคิดไปว่า แล้วชีวิตมนุษย์เช่นนี้จะดีได้อย่างไร

แต่อาจารย์ผมท่านสอนไว้ว่า เบื้องต้นเมื่อเรายังใหม่ ๆ อยู่ก็ว่ากันไปตามความหมายของภพก่อน เช่น ตนุ+ปุตตะ+มรณะ หรือ กดุมภะ+ปุตตะ+มรณะ คือ ความหมายที่ว่า เจ้าชะตา + พูดจา + ไม่เพราะ (พูดจาแล้ววงแตก) หรือ ทรัพย์สิน + ที่เกิดจากการเสี่ยง (หรือ ใหม่ ๆ ) + สูญเสียไป (หรือเสียหายไป) ซึ่งเมื่อแปลความหมายตามที่ยกตัวอย่างเบื้องต้น คำว่า มรณะ ดูแล้ว ฟังแล้ว เป็นคำที่มีความหมายไม่ดีเลยทีเดียว ครั้นเมื่อเราผสมคำ ผสมความหมาย รู้กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดีแล้ว เราก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนความหมายของภพ ของดาว ให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ เช่น

เมื่อเราเห็นดวงดาวเช่นนี้ ก่อนอื่นก็คงต้องพิจารณาดาวแต่ละดวงก่อนว่า มีตำแหน่งมาตรฐานใด คือ อังคาร (เป็นนิจจ์ อยู่เรือนจันทร์คู่ชู้) พุธ (ไม่มีตำแหน่ง อยู่เรือนจันทร์คู่มิตร อยู่ในราศีธาตุน้ำราศีธาตุของตนเอง) พฤหัสบดี (เป็นอุจจ์ อยู่เรือนจันทร์คู่ธาตุ+คู่ศัตรู อยู่ในราศีธาตุน้ำที่ส่งเสริมกันพอสมควร) ดาวศุกร์ (ไม่มีตำแหน่ง อยู่ในเรือนจันทร์ ราศีธาตุน้ำ ราศีธาตุของตนเอง) เมื่อพิจารณาตรงนี้แล้ว ก็ดูดาวเจ้าเรือนว่าไปอยู่ในภพใด ปรากฎว่าดาวจันทร์ไปอยู่ในภพมรณะ ราศีตุลย์ ธาตุลม (ราศีธาตุคู่ศัตรู ไม่มีตำแหน่งใด ๆ ) ขั้นต่อไปก็ดูกฎเกณฑ์เช่น อังคารเป็นห้าต่อลัคนา จันทร์เป็นแปดต่อลัคนา เข้าเกณฑ์พินทุบาทย์ ที่ว่า "รวิ ภุมมะ ทั้งโสรา ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า, จันทร์และชีวาเป็นแปด ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อน นิรันดร์" แต่กฎเกณฑ์นี้จะป็นไปก็ต่อเมื่อตัวเจ้าชะตาเกิดในวันที่ตรงกับดวงดาว เช่น เกิดวันอังคาร หรือวันจันทร์ หรือวันพุธ หรือวันศุกร์ ก็จะตรงกับกฎเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ และต้องเอาความหมายตามกฎเกณฑ์เข้ามาร่วมพยากรณ์ด้วย

ขั้นต่อมาผมเคยกล่าวเกี่ยวกับเรื่องบ่อเกรอะเอาไว้ในกระทู้ที่ 24 ตรงนี้เมื่อดาวจันทร์ตกบ่อเกรอะ ก็ต้องดูว่าบ่อที่ดาวจันทร์ตกลงไปนั้นเป็นเช่นไร เรามาดูแต่ละ step ที่คุณถามมา

* กดุมภะ + ปุตตะ + มรณะ (ตรงนี้ยังไม่นำภูมิเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับ) ทรัพย์สินของเจ้าชะตา (กดุมภะ ภพตนุของโลก) ที่นำไปลงทุนหรือกำลังจะนำไปลงทุน (ปุตตะ ซึ่งเป็นภพพันธุของโลก+ มรณะ ซึ่งเป็นภพปัตนิของโลก) เกี่ยวกับบ้านหรือยานพาหนะ จะเกิดความเสียหายได้ (มรณะ)จากความใจอ่อนหรือเชื่อคนง่าย (จันทร์เป็นแปดต่อลัคนา) ทีนี้มาดูว่าในภพปุตตะมีดาวอะไรที่ร่วมกับดาวเจ้าเรือนกดุมภะบ้าง คือดาวพุธ เจ้าเรือนพันธุและปัตตนิ (ตรงนี้คงต้องพัวพันไปถึง ญาติผู้ใหญ่และคู่ครอง หรือผู้ร่วมลงทุน) ดาวพฤหัสเจ้าเรือนภพตนุ(ซึ่งเป็นภพวินาศของโลก) และกัมมะ (หรือกรรมมะ ซึ่งเป็นภพศุภะของโลกด้วย) (ตรงนี้คงต้องหมายถึงการปกปิดข้อมูลบางส่วน หรือการปกปิดข้อมูลที่เกี่ยวกับภาระผูกพันไม่ให้ผู้อื่นรู้ มีตำแหน่งอุจจ์ด้วย ยิ่งหมายถึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องปกปิด) มาถึงดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนภพสหัสชะและมรณะ (ตรงนี้คงมีความหมายถึงเพื่อนฝูง พี่น้อง หรือการติดต่อพูดคุย/ เรื่องของความเสียหาย หรือการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น) เมื่อรวมความหมายทั้งหลายเข้าด้วยกันแล้ว ออกคำพยากรณ์ที่มีความกระชับ เข้าใจง่าย ไม่เยิ่นเย้อ ก็จะได้ความหมายที่ว่า " ทรัพย์สินหรือทรัพย์สมบัติของเจ้าชะตา ที่จะนำไปลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์/สังหาริมทรัพย์ ใหม่ ควรจะพิจารณาเหตุผล ผลได้หรือผลเสียให้ดี อย่าได้ใช้อารมณ์เป็นเครื่องตัดสินใจ และอย่าได้เชื่อหรือหลงคารมคนง่าย ๆ คิดให้ดีดีก่อน" เมื่อเรารู้ความหมายเช่นนี้เราก็จะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะทำ

สำหรับความหมายอื่น ๆ ในแต่ละภพที่มีคำถามต่อ ๆ มา ก็พิจารณาเช่นเดียวกัน ที่ผมชี้เช่นนี้ก็เพียงแต่จะบอกให้ทราบว่า เมื่อเห็นภพมรณะแล้ว อย่าเพิ่งคิดว่าจะเสียหายทั้งสิ้น อันภพมรณะนั้นมีตั้งหลายความหมาย เช่น ทางไกล ต่างถิ่นต่างแดน ตอนมีอายุ (ตอนแก่) เจ็บป่วย สูญเสีย เสียหาย ตาย สิ่งที่ไม่ใช้แล้ว-สิ่งที่เขาทิ้งแล้วไม่เอาแล้ว ฯลฯ เป็นต้น วิชาโหราศาสตร์ไทยยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากพอสมควรทีเดียวครับ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เปรียบเสมือนการขึ้นบันได ควรขึ้นทีละขั้นจะได้ก้าวไปอย่างมั่นคง การกระโดดข้ามขั้นจะทำให้พลัดตกหกล้มได้ ผมคงจบลงเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 4 ธันวาคม พ.ศ.2549 08:46น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 36
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณอาจารย์ค่ะสำหรับคำอธิบาย อาจารย์อธิบายละเอียดดีจริง ๆ ค่ะ เป็นขั้นเป็นตอน แยกจากง่ายไปยาก ซึ่งวรรคสองของอาจารย์บอกให้อ่านอย่างง่ายก่อน พอวรรคสามก็ขยายความว่า***ที่อ่านแล้วจะทำให้สละสลวยได้ใจความมากยิ่งขึ้นอย่างไร อ่านแล้วเข้าใจมากค่ะ

ทีนี้การอ่านแต่ละคำนั้นเราจะทราบได้อย่างไรว่าแปลถูก อย่างอาจารย์ยกตัวอย่างปุตตะอาจจะหมายถึงอะไรใหม่ ๆ ก็ได้ คำพูดก็ได้ ถ้าอ่านเอง(อย่างง่ายเหมือนวรรคสอง)ของ กัมมะ+ปุตตะ+มรณะ ก็คงจะอ่านว่า การงานของเจ้าชะตาหากริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ก็จะเกิดความเสียหาย แต่อีกนัยหนึ่งอ่านได้ว่า การงานของเจ้าชะตาหากเกี่ยวข้องกับการพูดจาก็จะเกิดเสียหายได้ และปุตตะก็ยังหมายถึงบุตรบริวารได้อีกด้วย ก็ยังอ่านได้ว่า การงานของเจ้าชะตาอาจเกิดความเสียหายจากบริวารได้ ทีนี้เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราจะเลือกคำอธิบายไหนถึงจะถูกคะ

อีกคำถามหนึ่งค่ะ หากอ่านสองจังหวะ แต่ดาวอยู่สลับเรือนกันจะอ่านอย่างไรคะ เช่น ปุตตะ+มรณะ+ปุตตะ อ่านว่าการริเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ อาจจะนำไปสู่ความเสียหายที่เกิดจากบริวาร หรือบริวารทำให้เกิดความเสียหายซึ่งนำไปสู่การเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ซึ่งอ่านกลับกันได้ทั้งสองอย่าง แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าอันไหนถูกคะ

แล้วอย่าง อริ+อริ คือดาวเจ้าเรือนนั้นอยู่เรือนนั้น ก็อ่านได้จังหวะเดียวเช่นนั้นหรือคะ


แมว - 4 ธันวาคม พ.ศ.2549 11:19น. (IP: 58.147.92.228)

ความคิดเห็นที่ 37
ตอบ คุณแมว

คำถามของคุณแมวฯ ที่ยกตัวอย่างมาในย่อหน้าที่สอง นั้นสามารถสื่อได้หลายความหมาย ตรงนี้ยังไงละครับที่ผมเคยบอกเอาไว้ว่า เวลาดูดวงชะตาใครก็ตามมิใช่ดูดาวเพียงแค่สองสามดวงแล้วพยากรณ์ได้เลย ต้องดูความสัมพันธ์ของดวงดาว ความสัมพันธ์ของภพ โดยมีส่วนประกอบที่เข้ามาเสริมและขยายได้แก่ ธาตุของดาว ธาตุของราศีที่ดวงดาวอาศัยอยู่ ภูมิทักษา ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้มีส่วนในการกำหนดว่าการพยากรณ์ควรออกไปในลักษณะใด

สิ่งที่จะเพิ่มเติมใช้ในการออกคำพยากรณ์ยังมีอีกมากมาย ผมจะแนะนำหนังสือให้สักเล่มหนึ่ง แต่งหรือเขียนโดย ท่านอาจารย์สถิตย์ สถิตยืนยง (ท่านอยู่ทางจังหวัดเชียงใหม่ แถว ๆ ตลาดวโรรส เท่าที่เพื่อนผมบอกมา ลองไปถามคนแถว ๆ นั้นดู) เป็นหนังสือที่ท่านแต่งหรือเขียนเล่มล่าสุด ราคาชุดละประมาณ 2,000-3,000 บาท (ผมไม่แน่ใจ เพราะเพื่อนขึ้นไปแล้วซื้อตำรามาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว) เกี่ยวกับเรื่อง "ยิงแสงแรงสะท้อนของดวงดาว" ผมไม่ทราบว่าท่านตั้งชื่อหนังสือว่าอย่างไร ลอง ๆ สืบเสาะดูก็แล้วกันครับ เพราะเพื่อนผมบอกว่าตำราเล่มนี้ดีมาก และบางครั้งผมก็นำมาประกอบในการพยากรณ์ด้วย (ผมรู้มาเพียงเลา ๆ เท่านั้น ยังมิได้อ่านหนังสือเล่มนี้)

มาว่าการดูภพกันต่อดีกว่า ที่ว่า กัมมะ+ปุตตะ+มรณะ ตามที่คุณแปลความหมายมาก็ถูกต้อง หากจะแปลความหมายว่า การงาน (กัมมะ) ทำให้คนรอบข้าง (ปุตตะ) หนีห่างหรือห่างเหินจากเรา (มรณะ) คำว่ามรณะมิใช่จะแปลถึงความเสียหาย หรืออย่างที่ว่า ปุตตะ+มรณะ+ปุตตะ จะแปลความหมายที่ว่า งานใหม่ (ปุตตะ) สำเร็จลุล่วงไปเมื่อไร (มรณะ) (งานที่ตายไปแล้วก็ย่อมจะหมายถึงงานที่ทำสำเร็จแล้วใช่ไหมครับ) ก็จะมีใหม่เข้ามา (ปุตตะ) ความหมายที่ผมให้ไว้เหล่านี้จะสามารถกำหนดว่าเป็นอะไรก็ต้องมีส่วนประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่น ภูมิทางทักษาของดาวแต่ละดวงเป็นภูมิอะไร ดาวที่อยู่ในราศีเหล่านี้ที่กล่าวถึง เมื่อถึงจังหวะแต่ละจังหวะ เช่น คำว่า "มรณะ" เมื่อยิงแสงแรงสะท้อนไปแล้วจะมีความหมายว่าเช่นไร ตรงนี้ก็จะเป็นจุดตัดสินได้อีกส่วนหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมิใช่ว่าลัคนาจะตายตัวอยู่ในราศีมีนเพียงอย่างเดียว เมื่อมีอายุจร ลัคนาจรก็จะเดินไปแต่ละราศี (ราศีละ 1 ปี) ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนมาทางสายไหน ครูบาอาจารย์ของคุณใช้แนวทางใดในการกำหนดลัคนาจร

ที่จริงแล้วคำถามเช่นนี้ต้องอธิบายกันหน้ากระดาน ผมเข้าใจว่าคุณต้องการอยากจะรู้อะไร (ต้องการรู้ที่มาที่ไป รู้วิธีการกำหนดคำพยากรณ์ รู้แนวทางการดูดวงดาวประกอบว่า ใช้อะไรมาช่วยในการพยากรณ์บ้าง ฯลฯ) แต่สิ่งที่คุณอยากรู้ต้องอธิบายกันหน้าชั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพราะการเรียนแล้วเข้าใจดีกว่าการเรียนแบบท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง เมื่อถึงจุดตันจะไม่สามารถอธิบายในส่วนที่เพิ่มเติมได้

อย่างภพอริ ที่มีดาวเจ้าเรือนเป็นเกษตร แสดงถึงว่าปัญหาหรืออุปสรรคของเจ้าชะตานั้น หนักหนาสาหัสพอสมควร จะเป็นอริแบบไหน ประเภทใด ค่อยมาดูดวงดาวกัน ว่าเป็นไปในทางแบบเรียบ ๆ หรือเอะอะโดยวาย หรือทุบตีกัน หรือด่าทอกัน ฯลฯ เป็นต้น แล้วก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้พยากรณ์ด้วย ผมจึงมักกล่าวอยู่เสมอว่า ควรจะต้องมีการจดสถิติของดวงชะตาผู้ที่มาให้เราพยากรณ์ไว้ เพื่อดูว่าเป็นไปตามพื้นของดวงดาวหรือไม่ ตัวผมเองก็มีดวงชะตาของบุคคลใกล้ชิดอยู่ประมาณ 10 ดวง ที่มีความแตกต่างของดวงดาวเอาไว้ดู ว่าเมื่อไรดาวจรเดินมาถึงตรงนี้เกิดอะไรขึ้น แล้วจดเป็นสถิติไว้ เพื่อเป็นหลักหรือเป็นแนวทางของตนเอง ขอเพียงอย่างเดียว "อย่ามีอคติกับการสั่งสอนของอาจารย์ผู้สอน หากไม่เข้าใจอะไรกล้วก็ถามตามความเข้าใจของเรา เพื่อเป็นการไขปริศนาการพยากรณ์ และยึดเป็นแนวทางหากเป็นการพยากรณ์ที่ถูกต้อง"

อธิบายมาพอสมควรแก่เวลาแล้ว สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 4 ธันวาคม พ.ศ.2549 14:12น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 38
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ที่อธิบายให้ทราบ

เรื่องหนังสือที่อาจารย์แนะนำให้ไปหาที่กาดวโรรสนั้น สงสัยต้องใช้กำลังภายในเยอะหน่อย เพราะไม่รู้ว่าคนแถวนั้นจะรู้จักหรือเปล่า ถ้าเป็นคนเก่าแก่ก็คงรู้จัก กลัวจะไปเจอคนอพยพมาจากที่อื่น ที่ไม่ใช่คนถิ่นเดิม แต่ยังไงจะลองสืบเสาะดูค่ะ

จริง ๆ อยากเรียนแบบเข้าเช้าเรียนเหมือนกัน แต่ไม่สะดวกเพราะไม่ได้อยู่กรุงเทพซึ่งเป็นสถานที่ที่เค้าจัดเรียนกัน ก็คงค่อย ๆ เตาะ ๆ แตะ ๆ ไปตามเรื่องก่อน แล้วพอมีปัญหาก็อาศัยพึ่งบารมีของอาจารย์ ให้อาจารย์อธิบายให้ฟัง ซึ่งอาจารย์ก็อธิบายดีละเอียดทุกครั้งเลย ดีนะคะได้กุศลค่ะ ถ้าอย่างไรแล้วจะมารบกวนใหม่ค่ะ


แมว - 4 ธันวาคม พ.ศ.2549 21:59น. (IP: 124.157.164.230)

ความคิดเห็นที่ 39
สวัสดีค่ะอาจารย์

อยากทราบความแตกต่างระหว่าง สุริยยาตร์ กับลาหิรีค่ะ

การพยากรณ์จะได้ผลแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนคะ


แมว - 8 ธันวาคม พ.ศ.2549 10:06น. (IP: 124.157.165.207)

ความคิดเห็นที่ 40
ตอบ คุณแมว

เรื่องความแตกต่างระหว่าง สุริยยาตร กับ ลาหิรี ผมอยากให้คุณแมวฯ โพสต์ถามจาก ท่านอาจารย์วรกุลฯ ดีกว่า ท่านจะให้คำตอบที่มีหลักการดีกว่าผมมากทีเดียว

สำหรับผลการพยากรณ์จะได้ผลแตกต่างกันพอสมควร ปัจจุบันเราจะเห็นว่านักพยากรณ์ส่วนใหญ่บางครั้งพยากรณ์ไม่ค่อยตรงกับชีวิตของเจ้าชะตาที่มาให้ดู ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับเคล็ดลับในการดูการสอนของอาจารย์แต่ละท่านที่จะสอนให้ลูกศิษย์ทราบ

ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 8 ธันวาคม พ.ศ.2549 12:11น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 41
เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก) ครับ

ผมได้ติดตามอ่านกระทู้ ของอาจารย์ถามตอบของคุณแมวและคุณนัทในกระทู้ที่ 14-15 มาตลอด แล้วมีข้อสงสัยถามต่อครับ

เรื่องแรกคือเรื่องของราหูในเรือนกดุมภะ (ถามตอบดวงของคุณแมว)

ค่อนข้างเข้าใจมากยิ่งขึ้นสำหรับกรณีราหูอยู่ในเรือนกดุมภะ

ที่นี้ในกรณีคล้ายกัน แต่ราหูมีการแลกเรือนกับเจ้าเรือนกดุมภะด้วย เราจะทำนายอย่างไร

เช่น ในดวงหญิง เกิดวันจันทร์ ราหูมาอยู่ในเรือนกดุมภะ พุธเป็นเจ้าเรือน และพุธก็ไปอยู่ในเรือนลาภะซึ่งเป็นเรือนของราหู

การที่ดาวทั้งสองดวงแลกเรือนจึงเป็นอนุเกษตร แต่เราจะทำนายทางไหน

เหตุผลสำคัญ คือ ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นการแลกเรือนหรือแย่งเรือน

เพราะเคยอ่านเรื่องของดาวศุกร์กับเสาร์ ที่แลกเรือนว่าเป็นการแย่งเรือนมากกว่า

และสำหรับราหูกับพุธ อ่านตามนิทานชาติเวร ราหูกับพุธเป็นคู่ศัตรูก็จริง แต่ดูเหมือนราหูจะแพ้ทางพุธข้างเดียว ไม่เหมือนศุกร์กับเสาร์นะซีครับ

ความรู้เท่าหางอึ่งผม ดูๆแล้วถ้าราหูล้วงทรัพย์ น่าจะวุ่นวายในการใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องของลาภะนั่นเอง(อาจเป็นเรื่องเสี่ยงหวย ลอตเตอรี่ เสี่ยงโชค สิ้นเปลืองไปกับการเสี่ยงโชค และน่าจะได้บ้างเนื่องจากเป็นอนุเกษตร) และเมื่อราหูมาจากภพที่ดีก็น่าจะทายในทางเป็นคุณเช่นว่า มือเติบก็จริงแต่มักใช้จ่ายในทางที่เป็นประโยชน์ได้ไหมครับ

อีกดวงหนึ่ง ราหูเป็นเจ้าเรือนวินาสน์กุมมฤตยูอยู่ในราศีกุมภ์เป็นเกษตร อ่านจากกระทู้ที่ 14 ความเห็นที่ 6 ที่อาจารย์ตอบคุณนัท

"เรื่องของดาวอาทิตย์เป็นเกษตรอยู่ราศีสิงห์ มีดาวมฤตยูร่วมด้วย และราศีสิงห์เป็นภพอริของเจ้าชะตา เจ้าเรือนภพอริเป็นเกษตรนั้นไม่ดีแน่ เพราะอริเข้มแข็ง แถมมีดาวมฤตยูร่วมด้วยก็คงเบียนหรือเพิ่มความเป็นอริมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูด้วยว่าดาวอาทิตย์เป็นอะไรทางทักษา คงต้องนำความหมายของภูมิมาพิจารณาด้วย "

ในกรณีราหูเป็นเกษตรในภพวินาสน์ ย่อมเป็นวินาสน์ที่เข้มแข็ง ใช่ไหมครับ และเมื่อดาวราหูเป็นอุตสาหะทางทักษา อ่านตามตำรา อุตสาหะหมายถึงความขยันหมั่นเพียร สิ่งที่ต้องกระทำ ภาระหน้าที่ การงานก็ย่อมมีผลในเรื่องความขยันหมั่นเพียรใช่ไหมครับ

ย่อมเป็นวินาสน์ที่มีกำลังใช่ไหมครับอีกข้อหนึ่งอ่านจาก ที่อาจารย์ตอบ

"ดาวอะไรก็ตามที่ไปตกในภพอริ มรณะ วินาศ ดาวนั้นจะได้รับผลกระทบทันที เหมือนกับคนเราเวลาเดินไปตามท้องถนนแล้วเผอิญเดินตกบ่ออุจจาระ เมื่อตกลงไปแล้วก็ต้องเปรอะไปด้วยอุจจาระใช่ไหมครับ ดังนั้นดาวอะไรก็ตามที่ไปตกในภพอริ มรณะ วินาศ ก็เหมือนกับตกบ่ออุจจาระนะครับ เว้นเสียแต่ว่า ดาวนั้นเป็นอุจจ์ ซึ่งก็จะเปรอะเปื้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรืออาจจะไม่เปรอะเลยก็ได้"

สมมุติว่าเจ้าของดวงชะตาเกิดลัคนาราศีเมษ ศุกร์เจ้าเรือนกดุมภะ ปัตนิ เป็นอุจจ์ในราศีมีน ตกภพวินาศน์

เมื่อศุกร์เป็นอุจจ์ ตามที่อาจารย์ว่า ผลเสียของการที่ดาวกดุมภะตกวินาศน์ ก็น่าจะเป็นไปในทางลับๆ มากกว่าสูญเสียหรือเปล่าครับ

นอกจากนั้น เมื่อพฤหัสเป็นเจ้าเรือนภพวินาศน์ และศุภะ เมื่อมีศุกร์ลอยในภพวินาศน์ ***ส่วนที่พฤหัสทำหน้าที่จึงเป็น วินาศน์ 70/ ศุภะ30 ใช่ไหมครับ

อีกจุดหนึ่ง พฤหัสตกภพปุตตะ มีอาทิตย์เป็นเจ้าเรือน เมื่อพฤหัสตกในเรือนปุตตะ ย่อมทำให้ภพปุตตะเสียไปด้วยหรือเปล่าครับ


มือใหม่ทักษา - 8 ธันวาคม พ.ศ.2549 23:21น. (IP: 203.155.94.129)

ความคิดเห็นที่ 42
สวัสดีค่ะอาจารย์

หากอาจารย์ให้ไปโพสท์ถามอาจารย์วรกุล งั้นเดี๋ยวจะไปโพสท์ค่ะ ขอบคุณนะคะที่อาจารย์ตอบให้ตลอด


แมว - 9 ธันวาคม พ.ศ.2549 09:53น. (IP: 124.157.166.14)

ความคิดเห็นที่ 43
ตอบ คุณมือใหม่ทักษา

จากคำถามของคุณ คงตอบได้ดังนี้

** เรื่องของดาวพุธกับดาวราหูที่สลับเรือนกัน จากคำถามข้อนี้เข้าใจว่าคุณคงตั้งตำแหน่งของดาวผิด ถ้าจะกล่าวว่าดาวพุธเจ้าเรือนกดุมภะลัคนาจะอยู่ได้สองราศีคือราศีพฤษภ กับ ราศีสิงห์ หากเป็นเช่นนั้น ราศีกุมภ์จะเป็นภพกัมมะ กับ ปัตนิ ตรงนี้ผมคงตอบตามที่กล่าวว่า ดาวพุธ กับดาวราหู สลับเรือนกันอยู่ จุดนี้เรียกว่าอนุเกษตรแบบสลับเรือน คุณจะเห็นว่าราศีที่ดาวพุธครองอยู่มีสองสถานะ สถานะแรกคือ ดาวพุธราศีเมถุนเป็นราศีธาตุลม สถานะที่สองคือดาวพุธราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน หากดาวทั้งสองดวงคือดาวพุธและดาวราหู อยู่ร่วมกับดาวที่มีตำแหน่งเสีย ดาวทั้งสองดวงก็ต้องสัมผัสความไม่ดีอยู่บ้าง แต่หากดาวทั้งสองดวงไม่เสีย ตรงนี้คงต้องดูธาตุของดาวที่สถิตอยู่ว่าเป็นธาตุอะไร เช่น พุธในราศีเมถุนกับราหูในราศีกุมภ์ แสดงถึงว่าการพูดการจาของเจ้าชะตาที่เกี่ยวกับเรื่องของงาน (ราศีกุมภ์เป็นภพกัมมะของเจ้าชะตาและเป็นภพลาภะของโลก จึงเปรียบเสมือนเป็นการหารายได้จากการทำงาน) เป็นคนกะล่อนพูดจากลับไปกลับมา (เพราะราศีเมถุนเป็นภพกดุมภะของเจ้าชะตา แต่เป็นภพสหัสชะของโลก) หรือพูดจาแบบเซลส์แมนที่ขายประกันภัย ขายรถยนต์ หรือขายสินค้าอื่น ๆ หรือจะเป็นคนขายหวยบนดิน ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้ เป็นต้น (พุธกับราหูสลับเรือนกัน ถ้าจะพูดกันง่าย ๆ คือคน ๆ นี้เป็นคนพูดจาจนลิงหลับบนต้นไม้ได้ด้วย และหากมีดาวศุกร์ร่วมด้วยในราศีกุมภ์อีกดวง ก็จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือแม้กระทั่งดาวพุธอยู่ร่วมกับราหูและศุกร์ในราศีกุมภ์ก็ได้) ส่วนพุธเจ้าเรือนราศีกันย์กับราหูเจ้าเรือนราศีกุมภ์ ตรงนี้ก็จะมีความหมายอีกแบบหนึ่ง เปรียบเสมือนกับเจ้าชะตามักจะสะสมคู่ครองซะส่วนใหญ๋ (ปัตตนิ + กดุมภะ+ปัตนิ) ตรงนี้ต้องดูดาวพุธเป็นเจ้าเรือนราศีกันย์ภพกดุมภะของเจ้าชะตา และเป็นภพอริของโลกด้วย ซึ่งแสดงถึงว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ ดังนั้น ราหูสลับเรือนกับพุธราศีเมถุน จะดีกว่า ราหูสลับเรือนกับพุธในราศีกันย์

อนึ่งเรื่องของดาวสลับเรือน ถ้าเป็นอนุเกษตรสลับเรือนธรรมดา จะหมายถึงจะมีเหตุการณ์เช่นนั้นสลับกันไปมา ดีร้ายขึ้นอยู่กับตำแหน่งมาตรฐานของดวงดาว ถ้าตำแหน่งดาวไม่เสียเหตุการจะสลับเป็นเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับดาวจรที่จรมาทับหรือจรมาเล็ง รวมทั้งขึ้นอยู่กับดวงดาวที่เป็นตัวจุดระเบิดของเรื่องด้วย สำหรับดาวอนุเกษตรสลับเรือนแบบประ คือต่างคนต่างก็เป็นประ (เพราะเป็นราศีตรงข้ามกับเรือนตนเอง) ตรงนี้ต้องได้รับความเป็นประไปก่อน ถึงจะดีในภายหลัง

** เรื่องราหูเป็นเจ้าเรือนภพวินาสน์ อยู่ในเรือนตนเองเป็นดาวที่มีตำแหน่งเกษตร แถมมีดาวมฤตยูแจมด้วย ตามที่ถามภูมิทางทักษาของราหูเป็นอุตสาหะ ในกรณีราหูเป็นสิบสองแก่ลัคน์ก็เป็นพินทุบาทภ์เหมือนกัน คือเป็นคนเจ้าอารมณ์ เชื่อในความคิดของตนเอง หูเบาอย่างหนัก แถมมีมฤตยูแจมด้วยจึงยิ่งไปกันใหญ่ ความหมายทางภูมิคืออุตสาหะ ย่อมหมายถึงความพยายามในการกระทำ จึงเปรียบได้ว่ามักจะกระทำเช่นนั้นอยู่เป็นประจำอย่างยั่งยืน เพราะราหูเป็นเกษตร ที่ผมเปรียบเป็นบ่อเกรอะ สำหรับดาวราหูตรงนี้เป็นเกษตรโดยตรง จึงทั้งเหม็นไม่รู้จบ ใช่ไหมครับ ดังนั้น ใครก็ตามที่มีดาวราหูเป็นสิบสองแก่ลัคนาก็ไม่ค่อยจะดีนัก

** เรื่องของดาวศุกร์ที่มีตำแหน่งอุจจ์ในราศีมีน ถ้าลัคนาอยู่เมษ เรื่องของการเงินและความรักของเจ้าชะตา จำเป็นที่จะต้องปกปิดเป็นความลับถึงจะดี ถ้าจะแปลความหมายก็หมายถึง เงินทองที่เจ้าชะตามีอยู่หรือเก็บสะสมจะมีจำนวนมากและไม่มีใครรู้ หรือ คนรักที่เจ้าชะตามีอยู่ไปแอบกุ๊กกิ๊กกัน ไม่ว่าจะกี่คนก็ตาม จะไม่มีใครรู้ได้ เพราะเจ้าชะตาจะเก็บไว้เป็นความลับ (ที่สุด) เลยทีเดียว

ส่วนที่คุณถามมาว่าเมื่อภพวินาศน์มีดาวศุกร์อยู่ พฤหัสที่เป็นเจ้าเรือนภพวินาศและภพศุภะ ถ้าจะตีความหมายควรจะตีความหมายพฤหัสภพวินาศและภพศุภะเป็นเปอร์เซ็นต์ =70/30 ถูกต้องแล้วครับ (ตรงนี้เป็นความคิดของผมนะครับ มิใช่มาจากตำราใดตำราหนึ่ง ซึ่งอาจารย์ของผมได้ให้ข้อชี้แนะเอาไว้)

ส่วนที่ถามมาว่าหากดาวพฤหัสฯไปอยู่ในเรือนอาทิตย์ภพปุตตะ จะเป็นการเน้นย้ำว่าเงินที่เจ้าชะตาเก็บไว้เป็นความลับ หรือทรัพย์สินที่เจ้าชะตาเก็บไว้เป็นความลับ มาจากการเสี่ยงโชค มาจากการลงทุน และหากจะพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องของความรัก ภพปุตตะจะหมายถึงบริวาร หรือเด็ก ๆ ที่มีอายุอ่อนกว่าเจ้าชะตา

คำถามที่ถามมาผมก็ตอบให้หมดแล้ว คงเข้าใจนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 12 ธันวาคม พ.ศ.2549 09:52น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 44
เนื่องจากกระทู้นี้มีความยาวพอสมควร ต้องใช้เวลา search นาน ผมจะเปิดกระทู้ใหม่ กระทู้ที่ 16 นะครับ


การเวก (กรวิก) - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 08:35น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 45
สวัสดีค่ะอาจารย์

ยังไม่เห็นกระทู้ใหม่ เลยขอถามในกระทู้นี้ก่อนค่ะ

ในกรณีที่ดวงคนหนึ่งมีดาวใหญ่ให้คุณเพียงดาวเดียว เช่นพฤหัสเป็นเกษตรหรืออุจจ์ แต่ดาวเล็ก ๆ หรือดาวรอง อย่างพุธ ศุกร์ อาทิตย์ ไม่ได้มาตรฐานใด ๆ และดาวเสาร์อยู่เรือนชะตาที่เสีย เมื่อถึงเวลาดาวจร เช่น

1 พฤหัสจรไม่เข้าเรือนเสีย และเสาร์จรไม่เข้าเรือนเสีย

2 กับพฤหัสจรไม่เข้าเรือนเสีย กับเสาร์จรเข้าเรือนเสีย

สองช่วงนี้ดวงตอนไหนจะดีกว่ากันคะ (ตามความเข้าใจ น่าจะเป็นตอนเสาร์เข้าเรือนเสีย พฤหัสก็จะให้คุณมาก ใช่หรือไม่คะ)

และถ้า

3 พฤหัสจรเข้าเรือนเสีย และเสาร์จรเข้าเรือนไม่เสีย อย่างนี้ดวงจะดีหรือไม่ถ้าเปรียบกับข้ออื่น ๆ


แมว - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 08:59น. (IP: 222.123.64.229)

ความคิดเห็นที่ 47
ตอบ คุณแมว

อันที่จริงในดวงชะตาของมนุษย์เรานั้น ถ้าดาวทุกดวงเสียบ้างไม่เสียบ้าง หรือเสียพอสมควร แต่มีดาวพฤหัสที่ดีอยู่ คือมีตำแหน่งอุจจ์ และ เกษตร ดาวพฤหัสบดีก็สามารถคุ้มครองดวงชะตาให้กับผู้นั้นได้ เว้นเสียแต่ว่าในปีใดที่ดาวพฤหัสเสีย ปีนั้นคนคนนั้นก็ต้องรับทุกข์หนักหน่อย

สำหรับในเรื่องของดาวจรที่ว่า บางปีดาวพฤหัสจรเสีย ดาวเสาร์ดี, บางปีดาวเสาร์เสีย ดาวพฤหัสฯดี, บางปีก็จรเสียทั้งสองดวง แนวทางในการดูมีอยู่หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้พยากรณ์ บางท่านก็ใช้ตรีวัยดู บางท่านก็ใช้เกณฑ์ชันษาดู บางท่านก็ใช้วิมโสตตรีทษา 120 ดู บางท่านก็ใช้ กาลจักร-ลัคจรดู ความแม่นยำก็จะใกล้เคียงกัน สำหรับเรื่องความแม่นยำนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้พยากรณ์ว่าเข้าใจในกฎเกณฑ์มากน้อยเพียงใด

ที่ผมตอบเป็นภาพรวมให้ทราบข้างต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากการจะกำหนดดาวเพียงสองดวงว่าดาวสองดวงถ้าตกในตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ ไม่ดีหรือดีนั้นค่อนข้างจะกำหนดลำบาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะใน 1 จักราศี จะมีภพที่ไม่ดีอยู่ 3 ภพ คือ ภพอริ ภพมรณะ ภพวินาศ และยังมีภูมิที่ไม่ค่อยจะดีคือภูมิกาลี ดังนั้นดวงชะตาของคนเราเวลาจะดูดวงดาวต้องดูให้ครบ การจะบอกเกี่ยวกับดวงดาวเพียงสองดวง จะทำให้ผู้เรียนใหม่ ๆ ไขว้เขว แล้วจะยึดติดนำไปใช้ในทางที่ผิด ผมหวังว่าคุณแมวฯ คงเข้าใจนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 13:28น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 46
ตอบ คุณแมว

อันที่จริงในดวงชะตาของมนุษย์เรานั้น ถ้าดาวทุกดวงเสียบ้างไม่เสียบ้าง หรือเสียพอสมควร แต่มีดาวพฤหัสที่ดีอยู่ คือมีตำแหน่งอุจจ์ และ เกษตร ดาวพฤหัสบดีก็สามารถคุ้มครองดวงชะตาให้กับผู้นั้นได้ เว้นเสียแต่ว่าในปีใดที่ดาวพฤหัสเสีย ปีนั้นคนคนนั้นก็ต้องรับทุกข์หนักหน่อย

สำหรับในเรื่องของดาวจรที่ว่า บางปีดาวพฤหัสจรเสีย ดาวเสาร์ดี, บางปีดาวเสาร์เสีย ดาวพฤหัสฯดี, บางปีก็จรเสียทั้งสองดวง แนวทางในการดูมีอยู่หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้พยากรณ์ บางท่านก็ใช้ตรีวัยดู บางท่านก็ใช้เกณฑ์ชันษาดู บางท่านก็ใช้วิมโสตตรีทษา 120 ดู บางท่านก็ใช้ กาลจักร-ลัคจรดู ความแม่นยำก็จะใกล้เคียงกัน สำหรับเรื่องความแม่นยำนี้ขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้พยากรณ์ว่าเข้าใจในกฎเกณฑ์มากน้อยเพียงใด

ที่ผมตอบเป็นภาพรวมให้ทราบข้างต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากการจะกำหนดดาวเพียงสองดวงว่าดาวสองดวงถ้าตกในตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้ ไม่ดีหรือดีนั้นค่อนข้างจะกำหนดลำบาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะใน 1 จักราศี จะมีภพที่ไม่ดีอยู่ 3 ภพ คือ ภพอริ ภพมรณะ ภพวินาศ และยังมีภูมิที่ไม่ค่อยจะดีคือภูมิกาลี ดังนั้นดวงชะตาของคนเราเวลาจะดูดวงดาวต้องดูให้ครบ การจะบอกเกี่ยวกับดวงดาวเพียงสองดวง จะทำให้ผู้เรียนใหม่ ๆ ไขว้เขว แล้วจะยึดติดนำไปใช้ในทางที่ผิด ผมหวังว่าคุณแมวฯ คงเข้าใจนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 13:28น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 48
สวัสดีครับอาจารย์การเวก อยากให้ช่วยวิเคราะห์เรื่องทักษากับเรือนชะตาสัมพันธ์หน่อยครับผม

ผมเกิด ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๗ ๘ ๓๐ น กรุงเทพ

ลัคน์ผมอยู่ตุลย์ครับ ดูแบบชัณษาจรปี

อายุย่าง ๓๓ ปี ทักษาจรปีนี้ตกภูมิดาว ๕

ดาวอายุเดิมเป็นบริวารจร ดาว ๗ บริวารเดิมเป็นกาลกิณีจร

ชัณษาจรปีอยู่ที่ราศีเมถุนพึ่งหัดอ่านดวงครับเลยต้องขอคำแนะนำจากอาจารย์การเวก

เรื่องทักษานั้น อย่างดาว ๔ เป็นกาลกิณีของคนเกิดวันเสาร์ ถ้าปีนั้นเกิดเป็นศรีจร จะไม่โทษใช่หรือไม่ครับ

หรือจะแปลว่าเจ้าชะตา มีเกณฑ์ที่จะประสบความสำเร็จแต่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคที่เกี่ยวกับเรื่องดาว ๔ เช่นการติดต่อสังคม เป็นต้น

แปลอย่างนี้ใช้ได้หรือไม่ครับอาจารย์

อีกคำถามนึงครับ ดาวเสาร์เจ้าเรือนพันธุ เดิม

และเป็นบริวารเดิม พอมาในปีนี้ เป็นกาลกิณีจรจะส่งผลกระทบเรื่องอะไรบ้างในดวงครับ

ผมสงสัยเรื่องดาว ๖ ทำหน้าที่ เป็นดาวปุตตะจรของชัณษาปี เป็นตัวแทนของ ตนุ มรณะเดิมด้วย เราจะใช้ดาวไหนเป็นดาวตรีเทพ ครับผม

ขอบคุณมากครับ


วินาศน์ - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 15:46น. (IP: 58.64.120.26)

ความคิดเห็นที่ 49
ตอบ คุณวินาศน์

คำถามที่ถามมาคงตอบได้ดังนี้

** ดาวพุธ เป็นกาลกิณีเดิม ช่วงที่จรเป็นศรี ในทางทักษาคำว่าศรีจะหมายถึงเงินทอง สิ่งที่ให้คุณ เมื่อเป็นดังนี้ให้หันกลับไปดูว่าในปีจรนี้ตามเกณฑ์ชันษา ดาวพุธ เป็นเจ้าเรือนภพอะไร (ตรงนี้ไม่ต้องนำดาวจร ที่จรมาในราศีต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่) และไปอยู่ในภพอะไร เช่น ตามที่คุณว่า ลัคนาจรอยู่ในราศีเมถุน ดังนั้นดาวพุธจะเป็นตัวแทนของตนุจรและพันธุจร ดูซิว่าดาวพุธไปอยู่ในเรือนภพอะไร อยู่ร่วมกับดาวอะไร ตามพื้นดวงคุณดาวพุธอยู่ในราศีตุลย์ ร่วมกับอังคาร อาทิตย์ เกตุ มฤตยู เป็นภพปุตตะจร ขั้นต้นเราจะไล่เป็นภพ ปุตตะ(จร)+ วินาศ (เดิม) + ตนุ (เดิม) ซึ่งก็จะแปลความหมายได้ว่า การเสี่ยงในการลงทุนใหม่ ๆ (ภพปุตตะจร เป็นภพปัตนิของโลก และเป็นภพตนิเดิม)หรือ บุตร หรือ บริวารผู้คนรอบข้างของเจ้าชะตา หรือสังคมของเจ้าชะตา จะมีปัญหา (วินาศเดิม เป็นภพอริของโลก) แบบคาดไม่ถึง หรือไม่คาดคิดว่าจะเกิด กับเจ้าชะตา (ตนุเดิม ปัตนิของโลก) ซึ่งสิ่งที่ไม่คาดคิดนั้นเกี่ยวกับเรื่องของ รายได้ (อาทิตย์ เจ้าเรือนภพลาภะเดิม ภพปุตตะโลก) ทรัพย์สินที่เก็บสะสมเอาไว้ (อังคารภพกดุมภะเดิม ภพปัตนิเดิม และเป็นภพมรณะโลก กับภพตนุของโลก) ที่จะมีปัญหาวุ่นวาย (ดาวเกตุ) แบบไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น (ดาวมฤตยู) หรือ ปัญหาเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน หรือมีอุปสรรคเกิดขึ้น เมื่อแกะความหมายมาถึงตรงนี้ หากส่วนไหนขาดความสมบูรณ์ไป คุณก็ลองเอาความหมายของทักษาเข้ามาผสมด้วยเพื่อให้คำพยากรณ์กลมกลืน ไม่สะดุด เป็นต้น

** เรื่องของดาวเสาร์ ในลัคนาจร เสาร์เป็นเจ้าเรือนภพมรณะ เมื่อคุณจะดูเกี่ยวกับเสาร์ก็คงต้องดูที่ภพมรณะเป็นจุดเริ่มต้น แล้วก็เข้าดวงเดิม เช่น มรณะ (จร) + ศุภะ (เดิม) + ตนุ (เดิม) ภพมรณะจรนั้น เป็นภพพันธุของชะตาเดิม และเป็นภพกัมมะของโลก + ศุภะเดิม (สหัสชะของโลก) + ตนุเดิม (ปัตนิโลก) ก็จะแปลความหมายได้ว่า งานที่ได้มีการติดต่อกับต่างประเทศเอาไว้ ได้มีการเข้าร่วมลงทุนด้วยกัน โดยมีตัวของเจ้าชะตาเป็นผู้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น (ส่วนที่จะให้คำพยากรณ์ดูดีขึ้นคือการนำภูมิเข้ามาผสมผสาน หรือไม่ต้องก็ได้ แล้วแต่ว่าคำพยากรณ์จะต้องการคำขยาย)

** ส่วนดาวศุกร์จะใช้ดาวอะไรเป็นดาวตรีเทพ คงใช้ดาวเสาร์ละครับ เพราะดาวเสาร์ก็อยู่ในเรือนพุธราศีเมถุน จะใช้ดาวอื่นก็ไม่ได้ซะด้วย

คำตอบคงมีเท่านี้นะครับ อ้อ! ผมตั้งกระทู้ที่ 16 เรียบร้อยแล้ว สำหรับกระทู้ที่ 15 นี้กว่าจะ search ได้ต้องใช้เวลา ผมคงขอจบเท่านี้


การเวก (กรวิก) - 13 ธันวาคม พ.ศ.2549 16:53น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 50
สวัสดีค่ะอาจารย์

อยากรบกวนถามนิดนึงว่าถ้าเรือนกัมมะอยู่ราศีมังกร(ลัคนาอยู่ราศีเมษ)แล้วดาวเสาร์ได้ราชาโชคแต่เป็นภพมรณะ อย่างนี้หมายความว่ายังไงคะ


007 - 9 พฤษภาคม พ.ศ.2550 16:41น. (IP: 58.9.158.254)

ความคิดเห็นที่ 51
คำว่าวิชามีค่ามากกว่า มีทรัพย์ มีความหมายว่าอย่างไร


kungnang - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 13:40น. (IP: 118.175.181.143)