ความคิดเห็นที่ 1สวัสดีค่ะอาจารย์ไปต่างจังหวัดซะหลายวัน เพิ่งกลับมาหวังว่าอาจารย์คงสบายดีนะคะอาจารย์คะ เรื่องบ้านเมืองปีนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ เห็นมีแต่โหรทำนายว่าปีนี้จะแย่ แย่จริงไหมคะ
ความคิดเห็นที่ 2เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)ขอบพระคุณครับสำหรับคำตอบในกระทู้เก่า
ความคิดเห็นที่ 3ตอบ คุณแมวฯเรื่องของบ้านเมืองที่ขณะนี้สื่อต่าง ๆ ได้จับมาเป็นประเด็น เป็นจุดขาย ซึ่งความคิดเห็นหรือการคาดเดาอาจจะเป็นสิ่งที่จะบังเกิดขึ้นหรือไม่บังเกิดขึ้นก้อได้ ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า "การวางดวงฤกษ์ของเสาหลักเมืองในประเทศไทย ครูโหรท่านได้วางไว้ฤกษ์ยามไว้เป็นอย่างดี" ไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ มากระทบเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกิดจากดาวเสาร์จรทับดาวจันทร์เดิมในราศีกรกฎ ซึ่งครูโหรหลายท่านได้ผูกดวงลัคนาทั้งของนายยกฯเดิม และนายกฯ ในปัจจุบันว่ามีดาวจันทร์อยู่ในราศีกรกฎด้วย ในตำนานชาติเวรวิชาโหราศาสตร์ไทยได้มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับ "พ่อค้า คหบดี คนยากไร้ และสุนัข ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ดาวเสาร์ ดาวราหู ดาวจันทร์ และดาวพุธ" ในบทความเรื่องดังกล่าวที่ครูโหรท่านได้บัญญัติไว้ว่า "เมื่อดาวเสาร์จรมาทับดาวจันทร์ ความลับต่าง ๆ ที่ปกปิดไว้จะถูกเปิดเผย" ซึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับดวงเมือง ดวงนายกฯ ทั้งเก่าและใหม่ ก็ตรงกับความหมายในตำนานชาติเวรดังกล่าวสำหรับในปี 2550 นี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม 2550 หากไม่มีความจำเป็นก้ออย่าได้เดินทางโดยเครื่องบิน หรือเดินทางไปทางภาคเหนือ ภาคอิสาน เนื่องจากการกระทบของดาวเสาร์ที่จรมาทับดาวจันทร์ ในดวงเมือง อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวอาทิตย์และดาวอังคารจะโคจรเข้ามาในราศีเมษในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เหตุการเกี่ยวกับอุบัติภัยทั้งทางอากาศและบนดินอันได้แก่ เครื่องบินตก ภูเขาถล่ม อุบัติภัยจากเหตุแผ่นดินไหวทางภาคเหนือ และอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะบังเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวส่วนเรื่องหลัก ๆ ที่จะเกิดแก่ประเทศไทยในปี 2550 หลังจากวันที่ 23 เมษายน 2550 เรื่องส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางการสื่อสาร ข่าวสาร ที่เกี่ยวกับประเทศไทยเรา จะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวลือเกี่ยวกับการปฏิวัติ ข่าวลือเกี่ยวกับการวางระเบิด ข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองของเรา ข่าวการทะเลาะเบาะแว้ง ชิงไหวชิงพริบของนักการเมืองในบ้านเมืองของเรา ข่าวต่าง ๆ เหล่านี้จะขจรขจายไปยังทั่วโลก ทำให้บ้านเมืองของเราขาดความน่าเชื่อถือ ขาดความสงบ จึงเป็นผลพวงทำให้ การส่งออกของประเทศ การท่องเที่ยวของประเทศ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวก็จะผ่านพ้นไปได้หลังเดือนกันยายน 2550 ไปแล้วสิ่งที่คุณแมวฯ ถามมีเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 4สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณค่ะ สำหรับแนวทางที่อาจารย์กรุณาบอกให้ทราบสำหรับปี 2550 ที่จะถึง ก็นับว่าน่าเป็นห่วงนะคะบ้านเมืองเรา แต่อย่างน้อยอาจารย์ว่าอะไรก็จะผ่านพ้นไปเดือนกันยา คงต้องใช้ความอดทนกันหน่อยละคราวนี้ถามหน่อยค่ะอาจารย์ หากชะตาบ้านเมืองเป็นแบบนี้ แต่พวกคนที่ดวงชะตาดีในปีนี้ ก็จะดีไปน่ะหรือคะ จะได้รับผลกระทบจากองค์รวมที่ไม่ค่อยดีไหมคะ
ความคิดเห็นที่ 5คุณแมวฯครับ เรื่องดวงชะตานั้นดวงของใครก็ดวงของมัน ขึ้นอยู่กับดาวจรที่เข้ามากระทบ รวมทั้งมีปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นกฎเกณฑ์ของโหราศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดวงเมืองก็เป็นเรื่องของประเทศไทยเรา ดาวต่าง ๆ ในขณะตั้งเสาหลักเมืองก็เป็นฤกษ์กำเนิดของดวงเมือง เมื่อระยะเวลาล่วงเลยมา 225 ปี ก็คงต้องนับอายุย่างเป็น 226 ปี ดูลัคนาจร ดูชันษาจร ดูดาวจรที่กระทบกับดาวเดิม จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็เป็นภาพรวมใหญ่ เป็นภาพรวมของประเทศ ส่วนดวงมนุษย์ก็เป็นดวงส่วนตัวเช่นกัน ดูอายุจร ชันษาจร ทักษาจร ดูดาวจรเข้ามากระทบ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดก้อเกิดตามสภาพของดวงดาวจรที่เข้ามากระทบ คนที่มีดวงดาวในราศีจักรดี เมื่อดาวจรเข้ามากระทบหากเสียก็เสียไม่เท่าไร หากดีก้อจะดีตามสภาพของดวงดาว เรื่องของผลเสียที่กระทบ หรือผลดีที่กระทบขึ้นอยู่กับดาวจร และดาวในพื้นดวงเดิมครับ
ความคิดเห็นที่ 6สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบที่อาจารย์อธิบายไว้มีเรื่องถามค่ะ คือดวงที่พื้นดวงถูกกับดาวพฤหัสแต่ไม่ถูกกับดาวเสาร์ เวลาดาวพฤหัสไม่เข้าเรือนชะตาที่เสียดวงก็จะดี แต่ถ้าปีไหนเสาร์เข้าเรือนชะตาที่เสียจะทำให้ดวงดีมากขึ้นหรือคะ
ความคิดเห็นที่ 7ตอบ คุณแมวตรงนี้ผมคงให้ข้อคิดไว้ดีกว่านะครับ เพื่อคุณแมวฯ และท่านที่เข้ามาท่องในกระทู้นี้ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติกันได้ โดยผมจะให้ข้อสังเกตุดังนี้* สมมุตว่าดวงเดิมดาวพฤหัสฯ หรือดาวอะไรก้อตาม มีตำแหน่งดี (หมายถึงเป็น เกษตร อุจจ์ มหาจักร์ ราชาโชค) เมื่อดาวจรเสียก็เสียเพียงกึ่งหนึ่ง* สมมุติว่าดวงเดิมดาวพฤหัสฯ หรือดาวอะไรก้อตาม มีตำแหน่งเสีย (หมายถึงเป็น ปร นิจจ์ กาลี) เมื่อดาวจรดี ก้อดีเพียงกึ่งหนึ่ง* สมมุติว่าดวงเดิม ดาวพฤหัสฯ หรือดาวอะไรก้อตาม มีตำแหน่งดี (เกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค) เมื่อดาวจรดี ก็ดีเกิน 10%* สมมุติว่าดวงเดิม ดาวพฤหัสฯ หรือดาวอะไรก้อตาม มีตำแหน่งเสีย (ปร นิจจ์ กาลี) เมื่อดาวจรเสียก้อเสียเกิน 100 %ลองนึกเปรียบเทียบดู่นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 8สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณค่ะอาจารย์ ให้คำชี้แนะที่จำง่ายดีค่ะ เข้าใจว่าอาจารย์เขียนข้อสามผิด ที่ว่าถ้าดาวตำแหน่งดี ดาวจรดีก็ดีเกิน 10 น่าจะเป็นเกิน 100 ใช่ไหมคะแล้วถ้าเกิดว่าดาวที่ได้ตำแหน่งดี แต่เป็นเจ้าเรือนทุสถานภพล่ะคะ ใช้หลักแบบไหนคะ
ความคิดเห็นที่ 9สวัสดีค่ะขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วยนะค่ะคือ เกิดวันที่ 6 มิถุนายน 2515 เวลา 09.45 น. อยู่จังหวัด สมุทรปราการ มีความต้องการขายบ้านที่อยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งประกาศขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซึ่งบ้านที่อยู่แนวบินของเครื่องบินพอดีอยากทราบว่าพอจะมีหวังหรือไม่ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10เรียนถามข้อสงสัยครับดาวพฤหัสตนุลัคน์ อยู่ในราศีตุลย์ อยู่ร่วมกับอาทิตย์(นิจ) และศุกร์เกษตร (เรือนลาภะ)พฤหัสในราศีนี้ เปิดตำราเป็นเทวีโชค หรือบางตำราว่าเป็นยาจกโชคดูตามราศีธาตุแล้วอยู่ชั้น 3 ให้คุณน้อย จะรู้อะไรก็อย่างเป็ด คือไม่ถึงขั้นรู้จริง ถ้าจะชอบอะไรก็เป็นพักๆ มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือ พฤหัส เป็นวรโคตมนวางค์ติดตามอ่านจากกระทู้ของอาจารย์วรกุล จำได้ว่าดาวที่เป็นวรโคตมนวางค์ นั้นเหมือนมีแบตตารี่ส่วนตัวให้พลังอยู่เสมอในกรณีนี้ การที่ดาวพฤหัสเป็นวรโคตมนวางค์ เราจะอ่านว่าถึงจะสนใจความรู้เป็นพักๆ แต่ก็มีความต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อย่างั้นหรือเปล่าครับคือเราเอาความหมายพื้นฐานก่อนแล้วค่อยมาอ่านนวางค์เสริมหรือถ้าเป็นวรโคตมนวางค์ แล้วคุณภาพดาวจะสูงกว่า ให้ผลต่างจากดาวพฤหัสที่อยู่ใราศีตุลย์แต่ไม่ได้เป็นวรโคตมนวางค์ ตั้งแต่แรกเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 11ตอบ คุณแดงคงต้องรบกวนคุณแดงฯ โพสต์เข้าไปในกระทู้ของ ท่านอาจารย์ รวิฯ สอบถามท่านดูนะครับ ท่านจะสามารถตอบคุณแดงฯ ได้แม่นยำกว่าผมมากเลยครับ ผมค่อนข้างมั่นใจตอบ คุณมือใหม่ทักษาตามที่คุณมือใหม่ทักษาฯ ถามมาเกี่ยวกับเรื่อง "เทวีโชค/ยาจกโชค" เป็นวิธีการพยากรของท่านอาจารย์อายันตโฆษ ทางภาคอิสาน ผมไม่ค่อยชำนาญในการเล่นทางนี้เนื่องจากมิได้เรียนมาจึงต้องขออภัยไม่ตอบนะครับ ส่วนดาวพฤหัสบดีอยู่ในราศีตุลย์ ราศีตุลย์เป็นธาตุลมชั้น1 สำหรับดาวพฤหัสบดีที่เป็นวรโคตมนวางค์ ที่จริงควรจะกล่าวว่าเป็น "โคตมนวางค์" กล่าวคือ ดาวพฤหัสบดีตามราศีจักรอยู่ราศีตุลย์ เมื่อถอดนวางค์แล้วก็ยังอยู่ในราศีตุลย์ ส่วนวรโคตรนวางค์ จะเป็นการถอดนวางค์ดาวเกษตร เช่น ดาวศุกร์อยู่ในราศีตุลย์ เมื่อถอดนวางค์ดาวศุกร์ก็ยังอยู่ในราศีตุลย์จึงเป็นวรโคตร เหมือน ๆ กับ ดาวเป็นวรโคตรแท้กับ วรโคตรเทียม แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนที่มีดาวพฤหัสบดีเป็นวรโคตรหรือโคตร ในดวงชะตาสามารถคุ้มโทษคุ้มภัยให้แก่เจ้าชะตาได้ ถ้าจะอ่านตามความหมายจะหมายถึงว่าตัวเจ้าชะตาเสาะแสวงหารายได้ เรียกได้ว่าดิ้นรนเสาะแสวงหาได้เลย เพราะดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนสองภพคือภพอริ และ ลาภะ ส่วดาวอาทิตย์ที่เป็นนิจจ์มาจากภพศุภะ แปลความหมายได้ว่า แม้จะประสบความสำเร็จบ้างเพียงเล็กน้อยก้อเอา เหมือนกับทำทุกอย่างไม่ว่ารายได้นั้นจะเล็กน้อย หรือ มาก เป็นการเก็บเล็กผสมน้อย หรือ หมายถึงว่าแสวงหารายได้ทุกรูปแบบแม้งานนั้นจะเป็นงานต่ำต้อยไม่มีศักดิ์ศรี เช่น ทำงานธนาคารอยู่แต่หารายได้เสริมโดยการรับซื้อของเก่า หรือขับแท๊กซี่ หรือขับสามล้อ หรือขายเต้าฮวย เป็นต้นความหมายของดาววรโคตรนวางค์เป็นความหมายว่าดาวนั้น ๆ มีกำลังอันเข้มแข็ง ถ้าเป็นดาวเจ้าเรือนที่ดีก็จะดีต่อเจ้าชะตา ถ้าเป็นดาวเจ้าเรือนที่เสียก้อจะเสียหายต่อเจ้าชะตา สำหรับดาววรโคตรนวางค์เป็นดาวมีคุณภาพสูงตามความหมายที่ผมได้ให้ไว้เรื่องการดูดวงชะตา ดาวในราศีจักร์เป็นพื้นชะตา ดาวในนวางค์จักรเป็นใส้ชะตาผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 12เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)ค่ะ 1. เวลาดูเรื่องครอบครัวของเราเอง คือ ครอบครัวหลังจากแต่งงานมีลูกแล้ว (ตัวเราเอง+สามี+ลูกๆ) จะต้องดูที่เรือนอะไรคะ เรือน พันธุ หรือว่า เรือนปัตนิ งงค่ะ เพราะพันธุ หมายถึงญาติผู้ใหญ่ ส่วนปัตนิก็หมายถึงคู่ครองชีวิตครองเรือน แล้วอย่างนี้ ครอบครัวของเราจะดูที่เรือนอะไรคะ2. การสอบเรียนต่อของเด็กๆ มัธยม ดูที่เรือนอะไรคะ กัมมะ หรือ ปุตตะ หรือ ศุภะ และต้องดูดาวพฤหัส(๕)ประกอบด้วยหรือไม่คะ และถ้าจะดูทักษาประกอบด้วย จะดูที่ภูมิทักษาอะไรคะรบกวนอาจารย์ชี้แนะด้วยเถิดค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13เพิ่มเติมค่ะ ข้างบนข้อ 2 เรียนถามไม่กระจ่าง คือ การสอบเรียนต่อของเด็กประถมเข้าชั้นมัธยมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14ตอบ คุณมือใหม่มากเรื่องที่คุณมือใหม่มาก ถามมาจะว่าตอบง่ายก้อง่าย จะว่าตอบยากก้อยาก เหมือนกับเป็นปัญหากำปั้นทุบดิน เอาเป็นว่าผมจะตอบให้ตามความหมายของผมเองดีกว่านะครับ1. ในดวงราศีจักรเราจะมีภพอยู่ 12 ภพ และถือว่าดวงชะตานี้เป็นดวงชะตาของเราเองมิเกี่ยวข้องกับบุคคคลอื่น ความหมายในภพต่าง ๆ แต่ละภพจะมีความหมายอย่างกว้างขวาง ขึ้นอยู่กับว่าคุณเองจะดูเรื่องอะไร เช่น ภพพันธุ ภพนี้จะมีความหมายถึง บ้านของคุณ (บ้านที่อยู่อาศัย), หรือยานพาหนะ (หมายความได้ถึง รถ รถจักรยานยนต์ เรือ เครื่องบิน ที่เป็นของคุณเอง), หรือ บิดาผู้ให้กำเนิด, หรือญาติผู้ใหญ่ทางบิดา (ในกรณีที่ดูดวงชะตาของผู้หญิง, แต่ถ้าดูดวงชะตาของผู้ชายภพพันธุจะหมายถึงมารดาและญาตผู้ใหญ่ฝ่ายมารดา), ตำแหน่งหน้าที่การงานของเจ้าชะตาที่ทำงานอยู่, ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะดูเรื่องราวในเรื่องใด ถ้าดูเกี่ยวกับตัวคุณเองก็ตัดความหมายอื่น ๆ ทิ้งไปหมด เอาเฉพาะความหมายที่หมายถึงครอบครัวของคุณ ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งใด และในการดูภพอื่น ๆ ดาวหรือภพที่สัมพันธ์กันก็จะต้องมีความหมายในลักษณะในทางเดียวกัน และเมื่อไรก็ตามที่คุณจะแปลความหมายภพพันธุเป็นอย่างอื่น ภพอื่นก็จะต้องมีความหมายไปตามที่คุณจะหมายถึง อธิบายเช่นนี้คุณคงเข้าใจนะครับ **ส่วนภพปัตตนิก้อจะมีหลายความหมายเช่นกัน เช่น แฟน คู่ครองที่แต่งงานแล้ว หุ้นส่วนผู้ร่วมทุน เพศตรงข้าม และเมื่อไรก้อตามที่คุณจะแปลความหมายภพปัตตนิ เป็นคู่ครองที่แต่งงานแล้ว ภพอื่น ๆ จะมีความหมายที่สัมพันธ์เกี่ยวกับคู่ครองเช่นกัน เช่น ปัตตนิ+ลาภะ (เกษตร) คุณจะมีคู่ครองเป็นลาภ รวมทั้งฐานะของคุณจะมั่นคงหรือไม่มั่นคงขึ้นอยู่กับคู่ครอง หรือจะแปลความหมายอีกประเด็นหนึ่งได้ว่า ฐานะของคุณจะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างมั่นคง ขึ้นอยู่กับปัตตนิ (บางคนมีฐานะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีคู่ครองแต่ละคน กล่าวคือ เมื่อมีคู่ครองคนที่หนึ่งตนเองฐานะดีขึ้นมีเงินหนึ่งแสนเป็นสมบัติ พอมีคู่ครองคนที่สองฐานะตนเองก็ดีขึ้นอีกมีเงินเก็บเป็นห้าแสน เป็นต้น)2. สำหรับเรื่องการสอบเรียนของเด็ก ๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ามนุษย์เราในขณะเป็นเด็กงานของเขาคืออะไร งานของเขาก้อคือการเรียนการศึกษา ดังนั้นภพกัมมะของเด็กก็คือการศึกษา เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ภพกัมมะของเขาก้อคือการงานของเขา ตรงนี้คุณคงเข้าใจนะครับ ส่วนภพปุตตะตรงนี้จะหมายถึงการศึกษาก้อได้ ต้องดูประกอบกันไปด้วย หรือจะดูเมื่อตอนเขาโตแล้วทำงานแล้วก้อจะดูได้ว่าตอนเด็ก ๆ เขาเป็นเช่นไรก้อดูภพปุตตะได้ (คือดูย้อนหลังตอนเด็ก ๆ ด้วยการแปลความหมายของภพปุตตะว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ เขาเป็นเช่นไป แล้วดูจังหวะที่สองและสามของภพที่ดาวเจ้าเรือนภพปุตตะไปสถิตอยู่) ตรงนี้คุณคงเข้าใจนะครับ สำหรับภพศุภะจะเป็นนามธรรมซะมากกว่า หมายถึงความสำเร็จ หรืออาจจะหมายถึงบิดา(ถ้าดูดวงบุรุษ) หมายถึงมารดา (ถ้าดูดวงสตรี) หรืออาจจะหมายถึงพระ เจ้า ก้อได้ หรืออาจจะหมายถึงผู้ใหญ่ที่ทำงานก้อได้ หรืออาจจะหมายถึงผู้ใหญ่ (ภาพรวม)ก้อได้ ส่วนดาวพฤหัสบดี ในเบื้องต้นใช้ดูประกอบเรื่องการศึกษา คือ ถ้าพฤหัสบดีเป็นเกษตร อุจจ์ อยู่ในภพที่ดีจะตีความหมายถึงการศึกษาของเจ้าชะตามีการศึกษาในระดับปริญญาตรีขึ้นไปถึงปริญญาเอก ถ้าเป็นนิจจ์เป็นประจะหมายถึงว่าเรียนสูงสุดแค่ชั้น ปวส. เท่านั้น ตรงนี้ใช้ดูในภาพกว้างเมื่อเห็นดวงราศีจักร แต่จะเรียนสูงกว่านั้นหรือไม่ต้องดูละเอียดอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเรื่องการสอบแข่งขันของลูก ๆ ก้อคงต้องดูพื้นดวงชะตาของลูกละครับว่าปีนั้นกัมมะเขาเป็นศรี หรือเป็นเดชหรือไม่ ถ้าเป็นก้อจะมีความหมายถึงการสอบการแข่งขันจะสามารถสอบได้สอบผ่าน สอบแข่งขันได้ ตัวอย่างเช่น กัมมะ+สหัสชะ+ลาภะ แล้วดาวเจ้าเรือนภพกัมมะหรือดาวเจ้าเรือนภพลาภะในปีนั้นเป็นศรี เป็นเดช ทางภูมิทักษาผมคงอธิบายได้เพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าคงเป็นคุณประโยชน์ต่อคุณบ้างไม่มากก้อน้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 15ขอบพระคุณอาจารย์การเวก(กรวิก)มากค่ะ พอจะเข้าใจค่ะ
ความคิดเห็นที่ 16เรียนขอบคุณอาจารย์มากครับชีวิตเจ้าชะตาเป็นตามที่อาจารย์ทายเป๊ะเลยครับขอบพระคุณมากครับ
ความคิดเห็นที่ 17สวัสดีค่ะอาจารย์อาจารย์คะ ลืมตอบ คห 9 ไปหรือเปล่าคะ
ความคิดเห็นที่ 18ตอบ คุณแมวต้องขออภัยด้วยครับ ที่ลืมตอบไป ขอบคุณครับที่ทักท้วงมา ที่ถูกต้องคือ 100% ครับ และที่ถามมาว่าดาวที่ได้ตำแหน่งดีแต่เป็นเจ้าเรือนทุสถานภพคงต้องถือว่ามีผลเสียต่อเจ้าชะตาพอสมควร ขึ้นอยู่กับว่าจะแปลความหมายของทุสถานภพนั้นว่าอะไร อย่างเช่น ถ้าเป็นภพมรณะ อาจจะหมายถึงตัวเจ้าชะตาจะต้องไปอยู่ในต่างถิ่นแดนไกลถึงจะดี หากมีความหมายเช่นนี้ก้อมีผลดีต่อตัวเจ้าชะตา แต่ถ้ามีความหมายถึงความเจ็บป่วยก้อคงแย่หน่อย เป็นต้นคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 19สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณค่ะที่อาจารย์ตอบให้ทราบ อาจารย์คะ ดวงมีดาวพฤหัส(เจ้าเรือนตนุและกัมมะ)เป็นอุจจ์ ถ้าปีไหนดาวพฤหัสตกกาลกิณี ก็จะทำให้การงานมีปัญหา ทีนี้ในการเป็นอุจจ์นั้นเมื่อตกกาลกิณีจะทำให้มีปัญหามากๆไหมคะ แล้วถ้าปีนั้นพฤหัสไม่ตกเรือนเสียแต่เป็นกาลกิณีก็เท่ากับไม่เสียถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่ไหมคะ
ความคิดเห็นที่ 20ตอบ คุณแมวดาวเดิมดี ดาวจรเสีย เสียเพียงกึ่งหนึ่ง และ ดาวเดิมเสีย ดาวจรดี ก้อดีเพียงกึ่งหนึ่งเช่นกัน สำหรับในปีจร ถ้าดาวพฤหัสจรเป็นกาลกิณีก้อเสียเพียงกึ่งหนึ่งเช่นกัน แต่ก้อต้องดูอีกละครับว่า ในเกณฑ์ชันษาจร ดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนภพอะไรด้วย และเวลาดูจรเมื่อได้ภพจรที่จะดูแล้ว จังหวะที่สองก้อต้องย้อนไปสู่ภพปุตตะต่อ (เพราะพฤหัสเดิมอยู่ราศีกรกฎ) แล้วจึงไปจังหวะสามก่อน จึงจะออกคำพยากรณ์รวมได้ ลองใช้ดูนะครับ โดยใช้ดวงตนเองเป็นตัวสอบดูว่าเหตุการณ์เป็นไปดังที่ว่าหรือไม่ ลองย้อนกลับไปในอดีตดู เพราะเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาเราย่อมรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น สำหรับดาวพฤหัสบดีถ้าปีนั้นไม่ตกเรีอนเสีย แต่ตนเองเป็นกาลีก้อย่อมมีผลกาลีติดตามไปด้วย เพียงแต่ความเป็นกาลีนั้นให้ผลเสียไม่ถึง 100 % ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 21เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)ค่ะสงสัยดิฉันอ่านตำราไปๆมาๆ เลยงงค่ะ ขอถอยหลังไปตั้งหลักใหม่ รบกวนเรียนถามค่ะเพราะชักจะงงๆ ภพที่สัมพันธ์ลัคน์คือภพใดบ้างคะ อาจารย์ ดิฉันขอตอบตัวเองให้อาจารย์ตรวจนะคะ ตอนแรกๆ อ่านตำราแล้วเข้าใจว่าเป็น1. ภพ ที่ 1 คือกุมลัคน์ ภพที่ 3, 11 เพราะโยคหน้าและโยคหลังลัคน์ ภพที่ 7 เพราะเล็งลัคน์ ภพที่ 5, 9 เพราะเป็นภพที่ตรีโกณร่วมธาตุกับลัคน์ 2. แล้วภพ 4 กับ 10 สัมพันธ์ลัคน์ไหมคะอาจารย์ อ่านบางตำราเขียนว่า ภพที่ 1, 4, 7 และ 10 เป็นมุมจตุสดัย ถ้ามีดาวที่ได้ตำแหน่งดีจะให้คุณ ดิฉันจึงไม่แน่ใจว่าภพ 4 และ 10 จะเป็นภพที่สัมพันธ์ลัคน์หรือไม่ และมีบางตำราอีก ที่เขียนว่า ภพที่ 10 เป็นภพกลางฟ้าขณะเกิด ดาวที่อยู่ในภพนี้มีอิทธิพลมาก จึงขอรบกวนเรียนถามว่า ตกลงแล้วภพที่สัมพันธ์ลัคน์คือภพใดบ้างคะอาจารย์ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 22สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณค่ะอาจารย์ที่กรุณาชี้แจงข้อข้องใจ อ่านที่อาจารย์อธิบายแล้วลองนับชันษาจรดูก็เกิดปัญหาขึ้นในใจอีก คือว่าสมมุติว่านับชันษาจรได้ลัคนาตกเมถุนทีนี้ปีนี้พฤหัสก็ไปตกเป็นเจ้าเรือนอริของชันษาจร พอดาวดี แต่จรเสียก็เสียครึ่งหนึ่ง แล้วอย่างนี้เราให้ความสำคัญกับดาวจรมากกว่าดวงกำเนิดใช่ไหมคะ แล้วที่อาจารย์ว่าจังหวะสองให้ย้อนไปดูภพปุตตะ อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ คือให้ย้อนไปดูปุตตะในดวงเดิม หรือปุตตะในดวงจรคะ ขอรบกวนอาจารย์ยกเป็นตัวอย่างเลยได้ไหมคะ ดวงใครก็ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 23ตอบ คุณนิดคำถามที่ถามมานั้นดีมากครับ สมัยก่อนผมเรียนใหม่ ๆ ก้อคิดเช่นเดียวกับคุณ พอนานเข้าอาจารย์ท่านสอน กอร์ปกับได้ศึกษาหาตำหรับตำรามาอ่านเองบ้างก้อเลยถึงบางอ้อได้ คำตอบมีดังนี้.-1. * ภพที่ 3 และ 11 โยคหน้าและโยคหลัง ในตำราต่าง ๆ คือ ตำราการเรียนโหราศาสตร์เบื้องต้นจะระบุเอาไว้เป็นส่วนมาก จะสามารถทำให้ท่านที่ศึกษาเองได้ทราบกฎเกณฑ์เบื้องต้น ซึ่งตำราบางเล่มได้กำหนดเป็น% เอาไว้ เช่น ศูนย์พาหนะหน้า & ศูนย์พาหะหลัง ถ้ามีดาวอยู่จะสัมพันธ์หรือให้คุณให้โทษแก่ลัคนา (ภพตนุ) ได้ คิดเป็น % ได้เท่ากับ ?? ส่วนดาวที่เป็นโยคหน้าและโยคหลัง จะสัมพันธ์ถึงและให้คุณให้โทษได้ประมาณ % ดังนั้นในการเรียนเบื้องต้นบางท่านก้อได้นำในส่วนนี้เข้ามาเป็นส่วนขยายภพที่จะกล่าวถึงหรือสัมพันธ์ถึง * สำหรับในราศีที่ห้า ที่เป็นตรีโกณหน้าและตรีโกณหลัง ในราศีเหล่านี้ถือว่าเป็นราศีที่เป็นธาตุเดียวกันกับดวงดาวหรือกับลัคนา จึงให้คุณให้โทษมากกว่าที่กล่าวในเบื้องต้น (โยคและศูนย์พาหะหน้า-หลัง) กล่าวง่าย ๆ ก้อคือสัมพันธ์ถึงมากกว่า2. สำหรับภพที่เป็น 1 4 7 10 ตรงนี้ถ้าจะยกตัวอย่างดูกันง่าย ๆ ให้ดูที่ราศีทวารเป็นหลัก คือ ราศีเมษ กรกฎ ตุลย์ และมังกร เช่น มีดาวอาทิตย์อยู่ในราศีเมษ มี ดาวจันทร์อยู่ในราศีกรกฎ มีดาวศุกร์อยู่ในราศีตุลย์ และมีดาวเสาร์อยู่ในราศีมังกร การที่มีดาวอยู่ในราศีทวารทั้งสี่เราลองมาไล่กัน จันทร์ และ เสาร์ เป็นจตุโกณและภพจอมฟ้ากับลัคนาและดาวอาทิตย์ ดาวศุกร์เป็นดาวที่เล็งกับลัคนาและดาวอาทิตย์ แล้วคุณลองยกดาวจันทร์เป็นที่สถิตย์ของลัคนาดูบ้างก้อจะอยู่ในลักษณะเดียวกัน ในตำราโหราศาสตร์ไทยจึงได้กำหนดเอาไว้ว่า ผู้ใดก้อตามที่มีดาวเป็น 1 4 7 10 ต่อกัน ดวงผู้นั้นถือว่าดี ไม่ตกอับ คำว่าตกอับในที่นี้ให้ความหมายได้คือ ถ้าตนุมีปัญหาก้อจะมีพันธุ และกัมมะ ให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งคู่ครองหรือเพศตรงข้ามที่สนิทสนมกลมเกลียวกันคอยให้ความช่วยเหลือ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะดวงดาวที่อยู่ในภพดังกล่าวคอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และถือได้ว่าความช่วยเหลือที่ให้ถึง 100% ทีเดียว (ในกรณีของข้อนี้ไม่จำกัดว่าต้องเป็นดาวในราศีทวารเพียงอย่างเดียว จะอยู่ในราศีใดก้อได้แล้วมีดาวเป็น 1 4 7 10 ต่อกัน แต่ที่ว่าไว้เกี่ยวกับราศีทวารนั้นเพราะราศีทวารเป็นราศีชั้นหนึ่ง จรราศี (รวดเร็ว) ส่วนสถิระราศีเป็นราศีชั้นสอง (คือธรรมดาไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก้อพัก) สำหรับทวิภาวะราศี (คือไม่แน่นอน เดี๋ยวเดิน เดี๋ยวหยุดนั่งพัก พอใจก้อทำ ไม่พอใจก้อไม่ทำ) คงต้องจำนะครับว่าภพที่สี่ (เป็นภพจตุโกณ) ภพที่10 (เป็นภพจอมฟ้าหรือกลางฟ้าอย่างที่คุณว่า)ลองอ่านดูหลาย ๆ ครั้งหากยังไม่เข้าใจ แล้วคุณนิดจะเข้าใจได้เองว่า ภพไหนสัมพันธ์กับลัคน์ เรียงเป็นลำดับ 1 2 3 4 ไปเรื่อย ๆ ว่าให้ความสำคัญในระดับใด คงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 24ตอบ คุณนิด (ต่อ)ต้องขออภัยที่กล่าวไว้ไม่จบ เดี๋ยวจะมีคำถามกลับมาอีก เรื่องของดาวที่เป็น 1 4 7 10 ตรงนี้ถ้ามีดาวอยู่ในภพนั้น ๆ ความช่วยเหลือที่เกิดขึ้นก้อจะต้องดูดาวที่อยู่ในภพ 1 4 7 10 ด้วยว่าเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ความช่วยเหลือก้อจะมาจากภพนั้นตอบ คุณแมวสิ่งที่ถามมานั้นที่จริงไม่ค่อยอยากจะกล่าวในที่นี้มากนัก เนื่องจากถือว่าเป็นการเรียนในชั้นสูงซึ่งต้องทำความเข้าใจและมีเวลาให้ด้วย เพราะเมื่อกล่าวไปแล้วการจะนำไปใช้หากมีพื้นไม่ค่อยจะแน่นพอจะทำให้สับสนได้ เอาเป็นว่าผมชี้แนะให้สักหน่อยก้อแล้วกัน แล้วให้ถือปฏิบัติไปสำหรับการดูภพจร ** สมมติว่า ลัคนาอยู่ราศีมีน มีดาว5 อยู่ในราศีพฤษภ มีดาว 0 อยู่ในราศีเมถุน มีดาว 2 อยู่ในราศีกรกฎ มีดาว 3 และ 7อยู่ในราศีตุลย์ มีดาว 9 อยู่ในราศีธนู และมีดาว 1 4 6 8 อยู่ในราศีมังกร (ต้องขออภัยด้วยที่บอกดาวเป็นตัวเลข) *** สมมุตนับอายุจรของเจ้าชะตาอายุได้ 53 ปี ลัคนาจรจะอยู่ในราศีมังกร อย่างเราจะดูภพลาภะ (ราศีพิจิก) ซึ่งมีดาว 5 จรอยู่ในราศีนี้ เราก็จะดูได้ว่า ลาภะ(จร) +มรณะ(เดิม)+ลาภะ(เดิม) ในการดูชันษาจรเริ่มต้นดูที่ภพที่ต้องการดูคือ ภพลาภะ(จร) เมื่อดูภพลาภะจรในปีนี้แล้วดูในจังหวะสองคือ ภพมรณะเดิม(เพราะเจ้าเรือนภพลาภะจรคือดาวอังคารจึงต้องไปดูภพมรณะเดิม) จังหวะสามคือ ภพลาภะเดิม แปลความหมายได้ว่า "รายได้ของเจ้าชะตาในปีนี้จะหมดไปกับการลงทุนที่ต้องใช้ระยะเวลาเพื่อที่จะมีรายได้ที่อยู่ในผลตอบแทนจากการลงทุนเข้ามา" บางทีความหมายหรือการพยากรณ์เมื่ออ่านแล้วเหมือนกับเข้าใจยาก (เอาเพียงตัวอย่างเดียวก้อพอนะครับเดี๋ยวจะงงกันไปใหญ่ ที่ผมยกให้ดูเพียงตัวอย่างเดียวเพราะหากไม่ยกตัวอย่างให้ดูเดี๋ยวจะหาว่าปิดบังไม่บอก อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นนั่นละครับว่าจะต้องสอนหรือบอกกล่าวกันหน้ากระดาน เผื่อมีความไม่เข้าใจจะได้ตอบและถามกันให้เข้าใจเป็นประเด็น ๆ ไปผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ เพราะเดี๋ยวจะงงกันไปใหญ่ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 26ตอบ คุณนิดตามที่คุณนิดถามมาในกระทู้ที่ 26 ผมคงยกตัวอย่างให้ดูแล้วสับสนไป ผมคงอธิบายใหม่ได้ดังนี้** สมมุติว่าชะตาของคนคนหนึ่งมีดาวอยู่ในภพที่ 1 ส่วนภพอื่นไม่มี แสดงถึงว่าตัวของเขานั้นพึ่งพาตนเองได้ตลอดรอดฝั่ง โดยดาวที่มาอยู่ในภพที่หนึ่งนั้นมาจากภพอะไร เช่น เป็นภพศุภะ ก้อแสดงว่าตัวของเขาเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี จึงทำให้ตัวเขาสามารถฟันฝ่าชีวิตด้วยตนเอง แต่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ (สมมติดาวที่กุมลัคนานั้นเป็นเจ้าเรือนภพศุภะ)** สมมุติกันใหม่ เช่น ชะตาของคนคนหนึ่งมีดาวอยู่ในภพที่ 4 ส่วนภพอื่น ๆ ไม่มี แสดงว่าตัวของเจ้าชะตา ได้รับความอนุเคราะจากครอบครัวของเขาเอง มีบ้านของตนเองอยู่อาศัยไม่เดือดร้อน และบ้านของตนนั้นที่มีดาวจรมาอยู่ด้วย ดาวจรนั้นเป็นภพอะไร ความช่วยเหลือต่าง ๆ ก็มาจากภพนั้น ๆ นำความหมายของภพ (ที่ดาวลอยนั้นเป็นเจ้าเรือน) มาขยาย** ส่วนภพที่ 7 และ 10 ก้อคิดเปรียบเทียบในลักษณะเดียวกัน** ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเคล็ดลับการพยากรณ์ ซึ่งแต่งโดย ท่านอาจารย์มหาบรรเทา, เรียบเรียงโดยท่านอาจารย์ชัยเมษฯ (เล่มหน้าปกสีเขียวสด) ในหนังสือเล่มนี้มีกล่าวเอาไว้มากมาย เหมาะที่จะมีไว้ศึกษา หนังสือเล่มนี้ได้เปรียบเทียบเอาไว้ว่าชะตาใครก็ตามแต่ ถ้ามีแต่ดาวในภพที่4 ในภพอื่น ๆ ไม่มีดาวอยู่ ( 1 7 10) คนคนนั้นแม้จะไม่มีงานทำ แม้จะไม่มีคู่ครอง แต่ก้อยังมีบ้านให้พักอาศัยมิให้ต้องเดือดร้อน, ขณะเดียวกัน หากชะตาใครก็ตามแต่ ถ้ามีแต่ดาวในภพที่ 7 (ภพที่1 4 10 ไม่มีดาวอยู่) แม้คน ๆ นั้นจะเดือดร้อน ไม่มีบ้านพักอาศัย ไม่มีงานทำ เขาคนนั้นยังมีเพศตรงข้ามที่คบหาดูใจกัน หรือภรรยา คอยให้ความช่วยเหลือมิให้ต้องเดือดร้อน, ขณะเดียวกันอีกเช่น ชะตาใครก็ตามแต่ ถ้ามีแต่ดาวในภพที่ 10 (ภพที่ 1 4 7 ไม่มีดาวอยู่) แม้จะได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัย หรือไม่มีคู่ครองคอยเป็นคู่คิด คนคนนั้นก็ยังมีงานทำอยู่มิให้ต้องเดือดร้อน เพราะเมื่อมีงานทำก็ย่อมจะมีเงินให้จ่ายค่าเช่าบ้านได้ มีเงินให้ซื้อหาอาหารมาทานได้ เป็นต้นเรื่องดาวที่อยู่ในภพ 1 4 7 10 นี้มิใช่ใช้แต่ราศีทวารเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าคุณจะมีลัคนาอยู่ในภพในก้อตาม ให้ดูภพที่ 1 4 7 10 ในชะตานั้นว่ามีดาวอะไรอยู่บ้าง หากไม่มีก้อต้องดูในส่วนอื่นต่อไปผมคิดว่าคำอธิบายดังกล่าวข้างต้นคงสามารถทำให้คุณนิดฯ กระจ่างขึ้นบ้างไม่มากก้อน้อยนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 27สวัสดีค่ะ พึ่งเข้ามาชมเว็บนี้ครั้งแรกส่วนตัวชอบศึกษาวิชาโหรฯมากๆเลยค่ะ ดูเป็นนิดหน่อยมีเรื่องสงสัยบางเรื่อง รบกวนผู้รู้ โดยเฉพาะอ.การเวก ช่วยชี้แนะด้วยสิคะดวงชะตาของดิฉันมีเลข 3 7 9 กุมลัคน์ราศีกันย์มี 6 เป็นอุจน์อยู่ราศีมีน เรือนปัตนิและเลข6 เป็นกาลกิณีสำหรับดิฉันถ้าประมาณนี้ สรุปแล้วเรื่องคู่ครองของดิฉันนี้คงจะไม่ค่อยแฮป***ใช่ไหมคะ จริงๆ 6 เจอ 3 มันก็แลดูความรักน่าจะชื่นช้ำดีแต่ 6 ดันเจอ 7 ด้วย แถม 6 เป็นกาลกิณีอีก?ช่วยแนะนำให้หน่อยสิคะ ขอบคุณค่ะ ^_^
ความคิดเห็นที่ 28เรียนอาจารย์กรวิกครับมีแต่คนถามเรื่องความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์ทั้งนั้นเลย พอดีมีเรื่องเดือดร้อนนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องบ้านน่ะครับ อยากจะทราบว่า บ้านที่ให้เค้าเช่าอยู่ในปัจจุบันจะขายได้ช่วงไหน และดวงนี้จะได้เรียนโหราศาสตร์กับเค้ามั่งมั้ยอ่ะครับ ที่ถามอย่างนี้เพราะว่าพอตั้งท่าจะไปเรียนทีไร ต้องมีเหตุให้ไม่ได้เรียนซักที หรือไม่ก้อพอได้เรียนแล้ว ก็เรียนไม่จบคอร์ส อ่ะครับเกิดวันที่ 27/3/2518 09.01 น. ช่วงเช้าขอบอบคุณล่วงหน้านะครับ
ความคิดเห็นที่ 29สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ จริง ๆ แล้วอ่านตามที่อาจารย์อธิบายก็เข้าใจนะคะ แต่อย่างอาจารย์ว่าน่ะแหละค่ะ มันกลายเป็นขั้นสูงขึ้นไป ซึ่งยากในการทำความเข้าใจ สงสัยต้องเก็บไว้ก่อน ไว้ค้นมาอ่านทีหลังอาจารย์คะ แล้วถ้ายากอย่างนี้ เราจะทำนายจรได้ยังไงคะ การทำนายจรแบบดูดาวจรแต่ใช้ลัคนาเดิมได้ไหมคะ หรือว่าจะไม่แม่นเหมือนใช้ลัคนาจรด้วยคะ
ความคิดเห็นที่ 30เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)ต้องขอบพระคุณมากเลยค่ะที่กรุณามาอธิบายเพิ่ม ดิฉันขอสรุปเอาเองว่า จากที่อ่านคำอธิบายของอาจารย์ ภพ ๔ และ ภพ ๑๐ ก็ "ถึงลัคน์" หรือ "สัมพันธ์ลัคน์" เหมือนกัน เพราะเป็นมุมจตุโกณ ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 32ขอบคุณอ.การเวกมากๆค่ะ แม่นยำทีเดียวมีปัญหาอยากปรึกษา อ. อีกข้อค่ะไปตั้งกระทู้ไว้ แต่ยังไม่มีใครช่วยไขข้อสงสัย---------------------ในการดูดวงสมพงษ์เนื้อคู่มันก็สามารถดูได้จากหลายๆอย่างใช่ไหมคะแต่ที่สำหรับอย่างดาวเจ้าเรือนปัตนิสงสัยนิดนึงค่ะสมมติว่าระหว่าง ดาวเจ้าเรือนปัตนิเราสถิตอยู่ในภพตนุ หรือภพปัตนิของอีกฝ่าย ในภพไหนนี่ใครรักอีกฝ่ายมากกว่ากันหรอคะ?เคยได้ยินมาประมาณว่า ถ้าดาวเจ้าเรือนปัตนิเราสถิตอยู่ในภพตนุอีกฝ่าย แสดงว่า เค้ารักเรามาก และถ้าสถิตอยู่ในภพปัตนิแทนล่ะ มันก็อยู่ตรงข้ามกับตนุ มันพอจะเข้าเค้าได้เหมือนกันไหมคะ?
ความคิดเห็นที่ 34ขอบคุณค่ะ อ.การเวก วันนี้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย ^_^
ความคิดเห็นที่ 35เรียนอาจารย์กรวิกครับพอดีมีปัญหาอีกเรื่องนึง(อีกแล้ว) เกี่ยวกับบ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเป็นอาคารพาณิชย์ อยากจะทราบหลักในการตั้งหิ้งพระหน่อยน่ะครับว่าควรจะหันหน้าไปทางทิศไหนได้บ้างเพราะว่า ตอนนี้หันไปทางทิศเหนือแต่หน้าหิ้งพระไปตรงกับพรมเช็ดเท้า (มีคนทักว่าไม่ดี ) จะหันไปทิศตะวันออกซึ่งตรงกับหน้าบ้าน(หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก94องศา ) หิ้งพระก็จะตรงกับประตูห้องนอน(ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยจะดีอีก) เลยอยากจะทราบหลักการหน่อยน่ะครับ ว่าควรจะตั้งอย่างไรได้บ้างเผื่อจะได้เอาไปวิเคราะห์เองต่ออีกทีนึง ขอบคุณมากครับ
ความคิดเห็นที่ 36อ.การเวกคะ มีคำถามที่น่าสนใจใคร่รู้อีกเรื่องอยากปรึกษาน่ะค่ะมีดวงคนรู้จักมีเกษตรอยู่ 4 ตัวและดาวดีๆทั้งนั้นอยู่หลายตัวน่ะค่ะแต่ทำไมพี่แกถึงผัวผันอยู่กับการขึ้นโรงขึ้นศาล เร็วๆนี้ใกล้จะตัดสินแล้ว พอจะเช็คได้ไหมคะว่า ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนั้นแล้วคาดว่าเค้าจะโดนจองจำไหมคะในครั้งนี้?เกิดวันพุธ 26 กันยายน 2494 (เวลา 18.17น.)ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 37สวัสดีค่ะ คุณการเวก (กรวิก)ดิฉันมีข้อสงสัยในการทำนายค่ะ จากคำตอบของอาจารย์ใน ความเห็นที่ 27 ดังนี้**สมมุติว่าชะตาของคนคนหนึ่งมีดาวอยู่ในภพที่ 1 ส่วนภพอื่นไม่มี แสดงถึงว่าตัวของเขานั้นพึ่งพาตนเองได้ตลอดรอดฝั่ง โดยดาวที่มาอยู่ในภพที่หนึ่งนั้นมาจากภพอะไร เช่น เป็นภพศุภะ ก้อแสดงว่าตัวของเขาเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี จึงทำให้ตัวเขาสามารถฟันฝ่าชีวิตด้วยตนเอง แต่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ (สมมติดาวที่กุมลัคนานั้นเป็นเจ้าเรือนภพศุภะ)** โดยส่วนตัวดิฉันมีดาวอยู่ในเรือนที่ 1 4 และ 10 ที่นี้เรือนที่ 1 ราศีพิจิกของดิฉันมีดาว 3 4 6 กุมกันอยู่ ทีนี้จะทำนายอย่างไรค่ะ เพราะ ดาว 3 มาจากตนุ และ อริ ส่วน ดาว 4 มาจาก ลาภะ และมรณะ ส่วน 6 มาจาก วินาศย์และปัตนิ ดิฉันผสมไม่เป็นค่ะ ไม่รู้จะอ่านอย่างไร จะอ่านว่าได้ความช่วยเหลือจากอริหรือค่ะ ตามความเป็นจริงอริคงไม่ช่วยเราหรอก ใช่ไหมค่ะ ขออาจารย์ชี้แนะด้วยค่ะขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 39ขอบคุณค่ะ อ.การเวกแล้วถ้าดาว 4 (พุธ) เค้าอยู่ราศีกันย์น่ะค่ะ ทำให้ดาว 4 เป็นเกษตร แล้วไม่ได้เล็งกับเลข 8 (คู่ศัตรู) แล้วถ้าเป็นแบบนี้จะดีขึ้นหรือทำให้แย่ลงหรือคะอันนี้เอามาจากตำราอะไรไม่ทราบน่ะค่ะ ดาว 4 เค้าดันไปอยู่ราศีกันย์---------อีกเรื่องน่ะค่ะ อันนี้สับสนกับตำราโหราศาสตร์ส่วนตัวเองคือ ทำไมการดูดวงแบบมีลัคนา ไม่ว่าจะแบบเกษตรเรือนเดียว เกษตรที่ดาวซ้ำกันบ้าง(ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร) หรือกับยูเรเนียนโอเค ดวงชะตาบางคนคำนวณมา เลขดาว และลัคนาก็คือเหมือนกันอยู่ที่เดิม แต่อย่างของดิฉันและของบางคนน่ะค่ะ รู้สึกทำให้สับสนมากๆถ้าดูแบบตำราไทย มันจะอยู่ลัคนากันย์แต่ถ้าตำรายูเรเนียน มันจะอยู่ลัคนาสิงห์ซึ่งนิสัยเจ้าเรือน และชะตาชีวิตจะแปลได้คนละเรื่องมากๆดิฉันไม่เข้าใจจริงๆ ตัวดาวเองก็ออกจะคล้ายๆ นอกเสียจากจะมีบางดาวเพิ่มเติมมาก็เท่านั้น แต่ในการคำนวณลัคนานี่สิ ทำไม่มันไม่ได้ที่อยู่ของลัคนาที่เดียวกันนะ แล้วแบบนี้เราควรจะดูอย่างไรดีคะ?
ความคิดเห็นที่ 40ขอบคุณ อ.การเวก (กรวิก) ค่ะที่อาจารย์บอกมานั้นตรงเกือบหมดทุกข้อเลยค่ะ ตอนนี้ดิฉันก็ค่อยๆศึกษาและสังเกตไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ดวงของดิฉันมักจะมีดาวมารวมกันอยู่ในภพเดียวกันหลายดวง เลยทำให้งง ขอบคุณในคำชี้แนะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 41ขอบคุณอาจารย์ กรวิกมากครับ
ความคิดเห็นที่ 42เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)ครับผมอ่านโครงสร้างนี้ไม่แตกครับปัตนิ-สหัชชะ-กดุมภะโดยที่ เจ้าเรือนสหัชชะสลับเรือนกับเจ้าเรือนกดุมภะครับ คือว่าไม่อยากบอกดาวหรือลัคนาเพราะเกรงว่าจะคิดว่าเป็นการเอาดวงตัวเองมาถาม ซึ่งไม่ใช่ครับ ผมกำลังศึกษาอยู่น่ะครับ เอาดวงต่างๆตามเว็บบอร์ดมาลองอ่าน เจอเข้ากับโครงสร้างข้างบนแล้วอ่านไม่ออกครับผมอ่านเองว่า ปัตนิ-สหัชชะ-กดุมภะ คู่ครอง(หรือหุ้นส่วน)เข้ามาจัดแจงจัดการ(สหัชชะ)เรื่องรายได้การเงิน(กดุมภะ) อ่านอย่างนี้ถูกไหมครับ? แต่ตรงที่ เจ้าเรือนสหัชชะสลับเรือนเกษตรกับกดุมภะ เราจะอ่านอย่างไรจึงจะถูกครับอาจารย์รบกวนอาจารย์อธิบายด้วยเถิดครับ ขอบพระคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 43ตอบ คุณแมวเรื่องของวิธีการหาลัคนาในวิชาโหราศาสตร์ไทย มีการหาจุดลัคนาอยู่สองแบบคือ * แบบสุริยยาตร์ โดยใช้สมผุสอาทิตย์อุทัยเวลา 06.00 น.* แบบลาหิรี โดยใช้สมผุสอาทิตย์อุทัยเวลา 07.00 น. ในแบบลาหิรีจะเห็นว่า มีดาวเนปจูน พลูโต และจุดทศมลัคน์ เพิ่มเติมเข้ามา เนื่องจากการผูกดวงแบบนี้เป็นการผูกดวงชะตาตามระบบของดาราศาสตร์ จึงให้ความแม่นยำเกี่ยวการการเดินทางของดวงดาวแต่ละดวง* สำหรับการเรียนวิชายูเรเนียน ผมยอมรับว่าไม่ได้เรียนเสริมมาทางนี้ เพียงแต่รู้เลาเลาว่าใช้การผูกชะตาแบบลาหิรีคือ เป็นระบบของดาราศาสตร์ ครับดังนั้นเวลาใช้ในการผูกดวงชะตาของผู้มาดู ก้อต้องขึ้นอยู่กับว่านักพยากรณ์เรียนมาในแบบใดก้อคงใช้แบบนั้น การจะปรับเปลี่ยนคงต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละท่าน และขึ้นอยู่กับการสอนที่ได้รับมาจากครูโหรครับ ผมคงจบคำตอบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับตอบ คุณคิรูที่คุณถามมาถึงความหมาย ปัตนิ+สหัสชะ+กดุมภะ ถ้าจะแปลตามความหมายที่คุณกล่าวถึงก้อได้ หรือจะแปลความหมายเป็น การลงทุนของเจ้าชะตามีการแข่งขันกันในการหารายได้ (ที่กล่าวว่ามีการแข่งขันกันในการหารายได้ เพราะคุณกล่าวว่าดาวเจ้าเรือนสหัสชะกับดาวเจ้าเรือนกดุมภะสลับเรือนกัน) ที่จริงการแปลความหมายของดาวของภพต้องขึ้นอยู่กับภาพรวมของดวงดาวในพื้นชะตาของแต่ละคน ที่ผมแปลความหมายเช่นนี้มิใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป อาจจะแปลความหมายเป็นอย่างอื่นอีกก้อได้ จะเห็นว่าผมจะเน้นตลอดเวลาว่าการจะแปลความหมายของดาวของภพนั้น มิใช่เพียงแปลความหมายของภพเท่านั้น ต้องดูภาพรวมของดวงดาวในแต่ละภพด้วย ครูโหรที่สั่งสอนผมมาได้กล่าวไว้เป็นจุดที่น่าสนใจและต้องถือเป็นหลักในการดูดวงชะตาเพื่อการพยากรณ์คือ "ในการจะพยากรณ์ดวงชะตาให้ใครก้อตาม นักพยากรณ์จะต้องผูกดวงชะตาของผู้เข้ามารับคำพยากรณ์ด้วยตนเอง อย่าได้ใช้ใบพยากรณ์ที่ลูกค้าหรือเจ้าชะตานำมาให้เพื่อใช้ในการพยากรณ์" ที่กล่าวเช่นนี้เนื่องมาจากนักพยากรณ์แต่ละท่านเรียนมาไม่เหมือนกัน ระบบการผูกดวงชะตาอาจจะต่างกัน และนักพยากรณ์บางท่านอาจจะมีการเผลอเรอลงดวงดาวในราศีจักรผิดไป ซึ่งจะทำให้การพยากรณ์ผิดพลาดได้ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับเนื่องจากกระทู้นี้ค่อนข้างยาว และต้องใช้เวลาในการ เสริช หากระทู้ที่ถาม ผมขออนุญาติเปิดกระทู้ที่ 18 ขึ้นมาใหม่นะครับ