เว็บบอร์ด

กระทู้ ถามตอบโหราศาสตร์ พยากรณ์ศาสตร์

ปิดปรับปรุงชั่วคราว

กระทู้นี้ เพื่อนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยได้ถามไถ่ 22

เนื่องจากกระทู้ที่ 21 ต้องใช้เวลาในการค้นหา ผมจึงเปิดกระทู้นี้ขึ้นมาใหม่ครับ
การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณค่ะอาจารย์การเวก

บทความนี้พอจำได้ค่ะ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ

ยกตัวอย่างจาก

เสาร์จะร้ายก็เมื่อตกภพเสียคือ ทุสถานะภพ (อริ มรณะ วินาศ) หรือเมื่อตกภูมิเสีย ภูมิเหนื่อย (ภูมิกาลี ภูมิอุตสาหะ) คือเสาร์เป็นเจ้าเรือนภพเสีย เป็นตัวแทนภูมิเสีย

อันนี้อาจารย์เน้นว่าตัวดาว 7 ด้วยตัวของดาวเองมันไม่ดีอยู่แล้ว

แต่อยากทราบเพิ่มเติม งั้นหากดาว 7 มีมาตรฐาน(ดี/เสีย) บวกไปด้วยล่ะคะ?

หากดาว 7 ดีเป็นเกษตร หรือการที่มันเสียเป็นนิจความหมายถึงจะแปลว่าร้ายแรงขึ้น หรือทุเลาลงไปได้บ้างคะ?

ขอบคุณค่ะ


caren - 30 พฤษภาคม พ.ศ.2550 14:39น. (IP: 58.136.99.59)

ความคิดเห็นที่ 10
ขอขอบพระคุณอาจารย์การเวกมากครับสำหรับคำแนะนำเรื่องตรีวัย

----------------------------------------------------

อาจารย์ครับ เวลาที่ดาวจรมาทับตัวมันเอง ก็จะทำให้เจ้าชะตาได้รู้สึกถึงคุณสมบัติของดาวนั้นมากเป็นพิเศษ หรือมีพฤติกรรมไปตามดาวนั้นมากขึ้นกว่าเดิมเช่น ราหูจรทับราหูเดิม ก็จะลุ่มหลงมัวเมามากขึ้น หรือ เสาร์จนทับเสาร์เดิม ก็จะเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ มากขึ้น ใช่ไหมครับอาจารย์


นกกระจิบ - 30 พฤษภาคม พ.ศ.2550 21:30น. (IP: 124.120.219.125)

ความคิดเห็นที่ 11
ต้องขออภัยทุกท่านที่ โพสต์คำถามเข้ามา เผอิญผมมีธุระ วันจันทร์จะเข้ามาตอบให้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2550 11:52น. (IP: 58.8.193.119)

ความคิดเห็นที่ 13
ขอบพระคุณที่แนะนำค่ะ


caren - 4 มิถุนายน พ.ศ.2550 14:27น. (IP: 58.136.99.59)

ความคิดเห็นที่ 14
สวัสดีค่ะอาจารย์

กลับมาถามรบกวนให้อาจารย์อธิบายอีกแล้วค่ะ เรื่องของเรื่อง

1 พฤหัสได้อุจจ์ในดวงกำเนิด เป็นเจ้าเรือนกัมมะและตนุ ปีนี้ดวงจรพฤหัสเป็นกาลี อย่างนี้แสดงว่าจะต้องระวังเรื่องการงานและตัวเอง แล้วพอดาวที่ได้อุจจ์เป็นกาลี จะต้องระวังให้มากกว่าธรรมดาหรือไม่คะ คือมันจะร้ายแรงกว่าดาวที่ไม่ได้อุจจ์หรือเปล่าคะ

2 อาจารย์เคยบอกว่าดาวที่อยู่ในทุสถานะภพหรือดาวเจ้าเรือนทุสถานภพให้ร้ายแก่เจ้าชะตา แต่มีข้อความอีกอันหนึ่งว่า ยกเว้นว่าดาวนั้นได้เกษตรหรืออุจจ์ ตกลงว่าถ้าได้เกษตรหรืออุจจ์จะให้คุณหรือคะ


ศิษย์ตามอ่านกระทู้ - 7 มิถุนายน พ.ศ.2550 11:29น. (IP: 58.147.88.42)

ความคิดเห็นที่ 15
ตอบ คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ฯ

เรื่องที่ถามมาอันที่จริงเป็นเรื่องที่เราจะเห็นในดวงชะตากันอยู่บ่อย ๆ แต่กับนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นเมื่อมาเจอตำแหน่งดาวเช่นนี้ก็ถึงทางตันได้เหมือนกัน ผมเองสมัยก่อนก็เป็นเช่นนี้ แต่พอมีประสบการณ์มากขึ้น ได้อ่านตำราที่ดี มีครูโหรที่ดีสอนให้ จึงทำให้เข้าใจในหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดีขึ้น คำถามของคุณตอบได้ดังนี้

1. เรื่องของดาวพฤหัสฯ ในพื้นดวงได้ตำแหน่งอุจจ์ เป็นเจ้าเรือนภพกัมมะ และตนุ ต้องดูภูมิทางทักษาเดิมด้วยว่าเป็นอะไร ? พอมาถึงดวงจร เราก็ต้องดูด้วยว่าอายุจรในปีนั้นดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนภพอะไร(ภพจร) ทางภูมิเป็นภูมิอะไร? เมื่อจะออกคำพยากรณ์เราจะต้องถือภพจร เป็นหลัก (ตามหลักเกณฑ์ของชันษาจร) แล้วย้อนกลับเข้าภพเดิมว่าเป็นอะไร เช่น สมมติว่าดาวพฤหัสในภพเดิมเป็นเจ้าเรือนตนุกับกัมมะ (ตำแหน่งอุจจ์) แต่ในปัจจุบันภพจร ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนภพสหัสชะกับวินาศน์ เมื่อเราจะอ่านภพสหัสชะก็จะได้ภพวินาศน์พ่วง หรือเราจะอ่านภพวินาศน์ก็จะได้ภพสหัสชะพ่วง เราก็จะอ่านตามชันษาจรได้ว่า สหัสชะ(วินาศน์)ภพจรปัจจุบัน + ปุตตะ (ภพเดิม) + ? ภพที่ดาวจันทร์เดิมไปอยู่ แล้วย้อนมาดูภูมิทางทักษาด้วย สมมุติว่าภูมิเดิมทางทักษาเป็นเดช (เจ้าชะตาเกิดวันพุธกลางวัน) แต่ภูมิจรปัจจุบันเป็นกาลี เราก็จะเอาภูมิจรเป็นหลักคือกาลี หมายถึงมีปัญหา หรือเหนื่อย เนื่องมาจาก การทำงาน หรือการใช้อำนาจบาดใหญ่ (ภูมิเดิมที่เป็นเดช มาขยายภูมิจรที่เป็นกาลี) ตามคำถามที่ 1 จึงให้ดูในลักษณะนี้ ส่วนดาวที่เป็นอุจจ์เดิม ในปีนี้ถ้าดูจรอุจจ์ก็จะขยายในส่วนเดิม ส่วนพฤหัสจรในปีนี้ถ้ามีตำแหน่งเสียก็จะเสียเพียงกึ่งหนึ่ง เพราะเดิมพฤหัสนั้นดีอยู่

2. สำหรับคำถามนี้ต้องแยกเป็นสองประเด็น คือดาวที่อยู่ในทุสถานะภพแล้วมีตำแหน่งอุจจ์หนึ่ง กับดาวที่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพมีตำแหน่งมาตรฐานเกษตรหนึ่ง ในกรณีที่ดาวอยู่ในทุสถานะภพแล้วมีตำแหน่งอุจจ์ ต้องดูว่าดาวนั้นเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ภูมิอะไร เมื่อมาอยู่ในทุสถานะภพดาวนั้นก็จะได้รับผลกระทบจากเจ้าเรือนทุสถานะภพบ้างแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ดังที่ผมเคยกล่าวเอาไว้ว่า ดาวที่มีตำแหน่งอุจจ์ เกษตร ดาวกาลีไม่สามารถทำอะไรได้) ผลกระทบนี้จะมีเกี่ยวกับอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ตัวเจ้าชะตาสามารถผ่านพ้นไปได้ ส่วนในกรณีที่เป็นดาวเกษตร ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นก็คงต้องสมมุติว่า ดาวเสาร์ (ทางภูมิเป็นอายุ) มีตำแหน่งเกษตร เป็นเจ้าเรือนภพมรณะ บางท่านพอเห็นเสาร์เป็นเจ้าเรือนภพมรณะตำแหน่งเกษตรก็ทายเลยว่าตายแน่ ๆ ไม่รอดแน่ ๆ คำว่ามรณะนั้นมีหลายความหมาย หมายถึงทางไกล ต่างถิ่นต่างแดนก็ได้ ถ้าแปลความหมายนี้ตัวเจ้าชะตาถ้าอยู่ในถิ่นกำเนิดเดิมก็จะไม่ดี ต้องป่วยอย่างเรื้อรังไปตลอด ถ้าย้ายไปตั้งรกรากยังต่างถิ่นต่างแดนอย่างถาวรก็จะเจริญรุ่งเรือง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แปลความหมายในลักษณะนี้หนึ่ง หรือหากจะแปลความหมายมรณะว่าป่วยแบบเรื้อรัง เสาร์เป็นภูมิอายุ เมื่อเสาร์เป็นภูมิอายุอันหมายถึงความเป็นอยู่ของเจ้าชะตา ที่เป็นเกษตร เป็นภพมรณะป่วยถาวร ป่วยแบบมั่นคงไม่ท้อถอย การป่วยเช่นนี้ก็จะทำให้ตัวเจ้าชะตากลายเป็นคนอายุยืน ทำไมถึงว่าอายุยืน เพราะเมื่อป่วยบ่อย รักษาบ่อย ก็จะอยู่ใกล้หมอ เป็นอะไรก็หาหมอ กลับทำให้สุขภาพของคน ๆ นั้นได้อยู่ใกล้หมอ มีหมอคอยดูแล คอยแนะนำ ทำให้คนผู้นั้นปฏิบัติตน ดูแลสุขภาพของตนเองเป็นอย่างดี เจ็บนิดเจ็บหน่อยก็จะคอยหาหมอ ทำให้อายุยืนไปโดยปริยาย

อธิบายมาถึงตรงนี้ หวังว่าศิษย์ตามอ่านกระทู้ฯ คงจะเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 8 มิถุนายน พ.ศ.2550 08:18น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 16
เรียนสอบถาม อ.การเวก(กรวิก)

ผมขอเรียนสอบถามอาจารย์ การเวก เรื่องดาวศุกร์ในดวงครับ เกิด2 พ.ย. 2513 เวลา3.14น. กทม. ถ้าผมผูกดวงชะตาแบบสุริยยารตร์ ศุกร์ผมอยู่สหัชชะ เป็นปะ แต่ถ้าผูกแบบลาหิรีศุกรผมจะอยู่กดุมภะ เป็นเกษตรครับ แต่ในทางทักษาศุกร์ผมเป็นกาลีถ้าจะอ่านควรอ่านอย่างไรครับ


อายครู บ่ รู้วิชา - 8 มิถุนายน พ.ศ.2550 22:17น. (IP: 203.154.52.210)

ความคิดเห็นที่ 17
สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำอธิบายที่อาจารย์กรุณา


ศิษย์ตามอ่านกระทู้ - 9 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:13น. (IP: 222.123.26.138)

ความคิดเห็นที่ 18
ตอบ คุณอายครู บ่ รู้วิชา

ตามที่คุณถามมา ถ้าดูจากอายุของคุณ ขณะนี้อายุตกประมาณ 36 ย่าง 37 ปี คุณอายครูฯ ลองเปรียบเทียบความหมายของดาวศุกร์ดูกับชีวิตที่ผ่านมาของคุณ (ในกรณีที่เรียนวิชาโหราศาสตร์ด้วยตนเอง หรือท่านที่ยังเป็นนักศึกษาในระดับต้น ๆ ) ว่า

1. ถ้าดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนกดุมภะ (ราศีตุลย์ ตำแหน่งเกษตร ทางทักษาเป็นกาลี) แสดงถึงว่าชีวิตของคุณเรื่องของเงินทองแม้จะมั่นคง แต่ก็มีสิ่งที่มาทอนลง (ที่ว่าทอนลงเพราะศุกร์เป็นภูมิกาลี ตำแหน่งเกษตร) ราศีตุลย์เป็นภพกดุมภะของเจ้าชะตา และเป็นภพปัตนิของโลกด้วย ศุกร์หมายถึงเงินทอง ความสุขความสบาย ความรัก เมื่อศุกร์เป็นกาลีเราก็ต้องตีความหมายของกาลีเข้ามาเจือปนในการพยากรณ์ชีวิตตนเองด้วยว่า การเงินของตนเองต้องเหนื่อยหน่อย (เหนื่อยเพราะอะไร เพราะ ความรัก ความต้องการความสุขสบาย ความต้องการความสนุกสนานเฮฮาหรือความบันเทิง ความต้องการทางกามรมณ์) และเราต้องดูในภพของกดุมภะว่ามีดาวอะไรมาอยู่ด้วย ในราศีตุลย์ มีดาวพุธ (ตนุลัคน์) คู่ธาตุของศุกร์ พุธเป็นเจ้าเรือนสองภพคือ ภพตนุและกัมมะ ทางภูมิเป็นศรี แสดงถึงว่าตัวคุณทำการทำงาน เพื่อหาเงิน ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรเช่น ทนายความ นักบัญชี นักธุรกิจฯลฯ การงานของคุณประสบความสำเร็จดังที่มุ่งหวังทางด้านเงินทอง (ศุกร์เกษตร) พฤหัสบดีฯ ดาวเจ้าเรือนภพปัตนิ มาอยู่ในราศีตุลย์ ดาวดวงนี้ถ้าจะถามว่าให้คุณกับคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการแปลควาหมาย ถ้าหมายถึงภรรยาหลวง (เมียตบแต่ง) คนนี้ดี เป็นคนที่ไม่สุรุ่ยสุร่าย อยู่แบบเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ดูแลบ้านช่องเป็นอย่างดี ที่ว่าภรรยาหลวงไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ เราไปดูดาวอาทิตย์คู่มิตรกับดาวพฤหัสบดีสิครับ ตำแหน่งนิจ ทางภูมิเป็นบริวาร แสดงถึงว่าเขาใช้เงินเป็น ไม่ต้องอวดร่ำอวดรวย ไม่ต้องใส่เพชรราคาแพง ๆ ไม่ต้อโอ้อวดว่าฉันต้องใช้อะไรก็ต้องเป็นที่หนึ่งกว่าคนอื่น ๆ หรือจะเรียกง่าย ๆ ก็เรียกว่าอยู่อย่างพอเพียง ไม่อวดมั่งอวดมี และถ้าจะเสียก็เสียอยู่ที่ตัวคุณคือ ดาวพุธ ที่ดิ้นรน ไปแอบมีเล็กมีน้อยที่ต้องคอยให้เงินใช้ ที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ ที่ต้องคอยปรยเปรอ ทำไมถึงว่าเช่นนั้น เพราะอังคารที่เป็นมหาจักรอยู่ในราศีกันย์ ร่วมมฤตยูและพลูโต แถมภพสหัสชะที่มีดาวจันทร์ (2) เป็นนิจร่วมอยู่ด้วย แสดงว่าบ้านเล็กบ้านน้อยนั้นค่อนข้างจะอ้อนเก่งเอามาก ๆ อธิบายมาถึงตรงนี้คุณคงเห็นจุดเสียของคุณในส่วนที่ควรปรับปรุง หรือเห็นจุดบอดของคุณเองว่ามีส่วนเสียที่ตรงไหน (ในกรณีนี้ถ้าเป็นดวงหญิงก็จะต้องออกคำพยากรณ์ไปอีกแบบหนึ่ง) เมื่ออธิบายมาในลักษณะนี้ คุณก็ลองเปรียบเทียบดูว่าเหตุการณ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณหรือไม่เพียงใด

2. สำหรับในกรณีที่ดาวศุกร์อยู่ในราศีพิจิก คุณเองก็ลองแปลความหมายในลักษณะเดียวที่ผมได้กล่าวเอาไว้ในข้อ 1 โดยแปลความหมายของดาว ตามภูมิ ตามภพ ตามตำแหน่งมาตรฐาน แปลความหมายของดาวแต่ละดวงออกมา และจับคู่ของดาวออกมาแต่ละคู่ ตามแบบที่ผมได้แปลความหมายให้ดูในข้อ 1. ดูว่าเหตุการณ์ใดตรงกับความหมายของดาวศุกร์ในราศีตุลย์ หรือราศีพิจิก ตรงกับราศีใดก็แสดงว่าดาวศุกร์อยู่ในราศีนั้น ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนี้ เพราะตัวคุณเองจะรู้ดีกว่าใครเพราะเป็นชีวิตที่ผ่านมาของคุณตั้งแต่ครั้งอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

ไม่ว่าจะเป็นดวงชะตาใครก็ตาม วิธีการทดสอบดาวและลัคนาที่เราผูกดวงออกมาว่าจะตรงกับชีวิตของเขาหรือไม่ เราก็จะต้องมีวิธีการพูดจาแบบสอบถามโดยมิให้เจ้าชะตาได้รู้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าคำพยากรณ์ของเราควรจะเป็นไปตามตำแหน่งดาวที่เราถามกับผู้มาขอคำพยากรณ์ เมื่อได้ข้อมูลที่ตรงแล้วเราก็สามารถพยากรณ์ในจุดอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับดาวในพื้นชะตาต่อไป

ผมหวังว่าสิ่งที่ผมได้อธิบายความหมายนี้จะสามารถทำให้ คุณอายครูฯ และนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ได้เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการจับจุดการพยากรณ์ที่จะเป็นหลักในการพยากรณ์แบบไม่ติดขัด สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 11 มิถุนายน พ.ศ.2550 08:57น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 19
สวัสดีค่ะ อาจารย์

สนใจโหราศาสตร์อยู่ค่ะ เกิดวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2528 เวลา 15.15 น. ลัคนาราศีมีน รบกวนเรียนถามค่ะ

1.พุธเป็น 9 แก่ลัคน์ เป็นพินทุบาทว์กับคนเกิดวันพุธ จะเสื่อมในเรื่องอะไรคะ

2.ดาวคู่สมพล 1 6 มาอยู่ในเรือน 6 ภพมรณะ ดาวมรณะจะยิ่งมีกำลังขึ้นใช่มั้ยคะ

3.แล้วดาว 4 7 คู่สมพลในศุภะ จะต้องทายอย่างไรคะ เพราะ 4 เป็นพินทุบาทว์แล้วถือว่ากำลังเสื่อมไปหรือเปล่า

4.เคยอ่านเจอ (จำไม่ได้ว่าที่ไหน) ว่าถ้า 5 เป็นนิจ แสดงว่าสติปัญญาจะไม่ดี เรียนไม่สูง อันนี้จริงหรือไม่คะ

ช่วยชี้แนะให้ด้วยคะ ขอบคุณมากคะ


pat - 11 มิถุนายน พ.ศ.2550 20:41น. (IP: 58.9.132.175)

ความคิดเห็นที่ 20
สวัสดีคะ อาจารย์การเวก (กรวิก)

มีความสงสัยเรื่องคราสนะคะ จากห้องเรียนวันเสาร์ของท่านอาจารย์เศก ท่านเริ่มเกริ่นเรื่องการทำนายจรและได้กล่าวถึงช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้นี้จะมีการเกิดคราส อันเนื่องมาจากช่วงที่อาทิตย์จรเข้าสู่ราศีสิงห์ เล็งกับราหูในราศีกุมภ์ ซึ่งเมื่อพระจันทร์โคจรเคลื่อนเข้ามาในราศีสิงห์จะเกิดคราสขึ้น ทำให้เกิดผลต่อเจ้าชะตา ขึ้นกับว่าอยู่ในภพใดก็ควรจะระมัดระวังในเรื่องนั้นๆ

ดิฉันจึงมีความสงสัยว่าคราสที่จะเกิดขึ้นนี้จะเป็นชนิดใด คือจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา เมื่อไปตรวจสอบว่าคราสนี้น่าจะเกิดในวันเวลาใด พบว่าน่าจะเป็นช่วง วันที่ ๑๐-๑๑ กันยายน (ดูจากโปรแกรมสุริยายาตรา ของคุณพลังวัชร นะคะ เพราะมือใหม่ยังไม่มีปฎิทินคะ) เมื่อมาอ่านบทความสุริยุปราคาแรกของปี 2550 กับเหตุการณ์ประเทศไทย ของ อาจารย์วิโรจน์

จึงพบว่าวันที่ จะเกิดคราสก่อนคือวันที่ ๒๘ สิงหา กรณีนี้พระจันทร์เคลื่อนเข้าราศีกุมภ์ อิทธิพลที่จะเกิดขึ้นจะแตกต่างและอ่านอย่างไรคะ

ณ วันที่ ๒๘ สิงหาคม มีดาวเสาร์ พุธ และศุกร์โคจรอยู่ในราศีสิงห์ด้วย ขณะที่ราศีกุมภ์มีเกตุและมฤตยูจรอยู่ด้วย อย่างนี้จะอ่านอย่างไรคะ ผลกระทบต่อคนที่มีลัคนาราศีสิงห์จะเป็นอย่งไรคะ ต้องเอาหน้าที่ของดาวเดิมมาทำนายใช่ไหมคะ เจอดาวเยอะๆมารวมกันแบบนี้นักศึกษาใหม่อ่านไม่ออกคะ ดิฉันก็มีลัคนาราศีสิงห์เช่นกันคะ อาทิตย์เป็นเจ้าเรือนตนุ อยู่ที่ปุตตะ ส่วนจันทร์เป้นเจ้าเรือนวินาศน์ เป็นอุจน์ที่กัมมะ ถ้าเกิดจันทคราสจึงควรจะทายว่ามีผลกระทบกับงาน สุริยคราสจะมีผลกับงานที่ริเริ่มใหม่ หรือไม่ อย่างไร ตอนนี้กำลังหางานอยู่นะคะ สมัครทั้งในและต่างประเทศ ยังรอผลอยู่นะคะ

ด้วยความเคารพ


ศิรพรรณ - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 00:06น. (IP: 161.200.255.162)

ความคิดเห็นที่ 21
ต่อจากกระทู้ก่อนนะคะ เพิ่งจะนึกได้ว่าดาวศุกร์ของตนเองเป็นเจ้าเรือนกัมมะ และเจ็ดเจ้าเรือนอริซึ่งไปได้มหาจักรที่เรือนกัมมะ มารวมกันอยู่ที่ราศีสิงห์ลัคนา เมื่อเกิดคราสทั้งสองครั้งนี้ งานที่หวังไว้คงต้องทำใจกระมังคะ ดาวพุธกดุมพะ และลาภะ จะโดนฤทธิ์คราสไปด้วยไหมคะ แล้วมฤตยูและเกตุที่ราหูจะเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง อดใจรอไปเรียนถามท่านอาจารย์เศกวันเสาร์นี้ไม่ไหวแล้วคะ

ตอนนี้เลยสนุกกับการศึกษาดาราศาสตร์ เริ่มอ่านโดราเอมอน โลก ดวงจันทร์ และดวงดาว เป็นการ์ตูนที่ให้ความรู้ดีมากและไม่เบื่อคะ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ออกจากหลอดทดลองที่เห็นทุกวันคะ

ด้วยความเคารพ


ศิรพรรณ - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 00:24น. (IP: 161.200.255.162)

ความคิดเห็นที่ 22
นอกจากเรื่องคราส เสาร์ที่ผ่านมาท่านอาจารย์เศกสอนเรื่องฆาต ของราศี ปัสสวะ อัมพุ นระ และกีฎะ และการพยากรณ์จรคะ เกี่ยวเนื่องไปถึงลัคนาจร และ แรงเอื้อมของดาว ยากและลึกมากขึ้นนะคะ ยังตามไม่ค่อยทันคะ


ศิรพรรณ - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 00:40น. (IP: 161.200.255.162)

ความคิดเห็นที่ 23
ตอบ คุณpat

คุณpat นี่ถามไปหลายที่ทีเดียว เห็นถามอยู่ในอีกเวปหนึ่ง เรื่องคำถามที่ถามตามเวปต่าง ๆ ผมอยากจะเตือนอะไรบางอย่าง อันดวงชะตาของมนุษย์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาในปัจจุบัน ล้วนเป็นบุญหรือกรรมเก่าที่เราได้สร้างเอาไว้ แล้วมารับผลบุญ-ผลกรรมในชาตินี้กัน และสิ่งที่เราสร้างในชาตินี้ก็จะได้รับผลตอบแทนในชาติหน้ากันฯลฯ วนเวียนกันอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ดังนั้นในชาตินี้เราก็สร้างแต่ผลบุญเอาไว้มาก ๆ ไม่ทำร้ายใคร ไม่ให้ร้ายใคร ไม่ทำบาปทำกรรมไม่ว่ากับทั้งมนุษย์หรือสัตว์ การดูดวงชะตานั้นดูไว้เพื่อทราบและหาทางป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น หรือดูไว้เพื่อวางแนวทางของชีวิตให้เดินไปอย่างถูกต้อง ถ้าจะถามว่าสามารถหลีกเลี่ยงได้มากน้อยเพียงใด คงบอกได้แต่เพียงว่าขึ้นอยู่กับผลบุญหรือผลกรรมที่สร้างกันมา ดังนั้นหากคุณไปถามนักพยากรณ์หลาย ๆ ท่านหากท่านไหนพยากรณ์ไม่ตรงกับชีวิตคุณก็ให้ตัดทิ้งเสีย ส่วนท่านที่พยากรณ์ตรงกับชีวิตคุณก็ให้เก็บไว้เป็นแนวทางสำหรับการปฏิบัติหรือการดำเนินชีวิตของคุณ หากคุณถือเอาคำพยากรณ์ไปเสียทุกท่านเดี๋ยวจะเกิดการวิตกจริตเกินกว่าเหตุทำให้กินไม่ได้ นอนไม่หลับนะครับ

สิ่งที่เตือนก็เตือนกันไปแล้ว มาว่ากันถึงคำถามของคุณดีกว่า ที่คุณถามมานั้นมีดังนี้

1. เรื่องพุธเป็นเก้า ที่ว่าเป็นพินทุบาท รวมทั้งคุณเองก็เกิดวันพุธด้วย เรื่องของพินทุบาทว์มีหลาย ๆ ตำรา บางอาจารย์ท่านก็บอกว่า พุธเป็นเก้านั้นหากเกิดวันพุธด้วยก็จะเป็นพินทุบาทย์แท้ บางอาจารย์ท่านก็บอกว่าถ้าจะเป็นพินทุบาทย์แท้ก็ต้องดูด้วยว่าดาวนั้นเสื่อมจริงหรือเปล่ามีวิธีสอบทานดูได้ (ผมคงเปิดเผยตรงนี้ไม่ได้ เพราะอาจารย์หลาย ๆ ท่านจะเก็บเอาไว้สอนในระดับสูงแก่ลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ถ้าเอามาเปิดเผยเสียก็จะทำให้ท่านต้องเสียลูกศิษย์ไป) เอาเป็นว่าผมคงจะอธิบายเรื่องพุธเป็นเก้าเป็นพินทุบาทย์ว่าเป็นเช่นไร ในภพที่เก้าเป็นภพศุภะ ซึ่งภพนี้จะเป็นภพนามธรรม ทำไมถึงว่าเป็นนามธรรม เพราะคำว่า ศุภะ ในหลักวิชาโหรจะหมายถึงการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ทีนี้เราจะดูว่าสำเร็จเรื่องอะไรก็ต้องดูด้วยว่ามีดาวอะไรมาเกี่ยวข้อง ในพื้นดวงของคุณมี ดาวพุธ เข้ามาเกี่ยวข้อง ความหมายของดาวพุธนั้นจะหมายถึง การสื่อสาร การพูดจา การสังคม การศึกษา การค้าขาย ถ้าประกบคู่กับดาวอาทิตย์จะหมายถึงการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ โทรเลข หรือการสื่อสารต่าง ๆ อันเกิดมาจากกระแสร์ไฟฟ้า พุธอยู่กับเสาร์เป็นคู่สมพล(เสาร์เป็นราชาโชคด้วย) แถมดาวพุธกับอังคารก็สลับเรือนกันอีก เสาร์เป็นอายุ แถมพุธกับเสาร์ก็มาอยู่เรือนกาลีด้วย แถมกาลีก็ไปสถิตย์เรือนพุธอีกต่างหาก ตรงนี้แหละคือปัญหา ผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณแต่งงานหรือมีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนแล้วหรือยัง หากว่ายังก็คงต้องระวังในเรื่องนี้สักหน่อย ที่ผมกล่าวเช่นนี้หมายถึงว่า จะรักใคร ชอบใคร ให้ใช้สติสัมปชัญญะในการเลือกคู่ครอง อย่าได้ใช้อารมณ์เป็นอันขาด แต่ก็อย่างว่าไม่ทราบว่าจะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้หรือไม่ กล่าวคือ ในตำแหน่งดาวเช่นนี้อาจจะเข้าเกณฑ์ ดอกฟ้ากับหมาวัด (ต้องขออภัยด้วยที่ใช้คำนี้เนื่องจากไม่อยากให้ต้องมาแปลความหมายกันอีก) คำ ๆ นี้ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็อยากจะยกตัวอย่างเช่น ตัวคุณต้องนั่งรถไปเรียนที่มหาวิทยาลัย โดยผู้ปกครองให้นั่งไปกับคนขับรถ (ซึ่งคนขับรถอายุก็อาจจะอยู่ในช่วงหนุ่มถึงวัยกลางคน) แล้วการไปด้วยกันทุก ๆ วัน อาจจะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับเรื่องของความรัก เรื่องของกามรมณ์ได้ จนเกิดเหตุการณ์ไม่ดีไม่งามขึ้น หรือ อย่างที่เคยมีเรื่องแหม่มจากเมืองนอก มาแต่งงานกับสามล้อถีบ ซึ่งเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อหลายสิบปีก่อน ตัวอย่างที่ผมยกมานี้หมายถึงพุธที่เป็นเก้าส่วนหนึ่ง หรืออาจจะหมายถึงว่า ตัวแฟนคุณจะเป็นที่กล่าวขวัญในสังคมของสมาคมสงเคราะห์ ที่คอยช่วยเหลือคนยากไร้ก็ได้ ตัวอย่างที่ผมยกมานี้อธิบายในกรณีพุธเป็นเก้าในพื้นดวงของคุณ

2.คำถามข้อนี้อาจจะเป็นข้อเสริมสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองในคำถามข้อที่ 1 เมื่อศุกร์เป็นเจ้าเรือนภพมรณะ(ภูมิมูละ) ศุกร์เสีย ร่วมกับอาทิตย์ (นิจจ์) คู่สมพลของศุกร์ อาทิตย์เป็นเจ้าเรือนภพอริ (ภูมิอุตสาหะ) เมื่อศุกร์เสียเป็นภูมิมูล (อาจจะหมายถึงทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตก็ได้) คู่สมพลคู่นี้แสดงถึงความตกต่ำของทรัพย์สินที่เป็นปัญหาของคุณ อันทรัพย์สินนั้นจะแปลเป็นความหมายถึงสิ่งของหรือตัวบุคคลก็ได้ แถมศุกร์ก็เป็นเจ้าเรือนภพสหัสชะด้วย ยังสามารถหมายถึงการถูกนินทาอีกต่างหาก

3. เรื่องของพุธกับเสาร์ก็อธิบายไปแล้วในข้อ 1

4. สำหรับดาวพฤหัสบดี หากอยู่ในตำแหน่งนิจจ์มิใช่จะแปลว่า ความรู้ไม่ดี เรียนไม่สูง อันดาวพฤหัสบดีนั้นโดยความหมายของตัวดาวเอง เป็นดาวคุณธรรม เมื่อเป็นเกษตรก็คุณธรรมสูง เป็นประคุณธรรมบางครั้งก็มีบางครั้งก็ไม่มี เป็นราชาโชคก็จะถูกกล่าวขวัญถึง แล้วถ้าเป็นนิจจ์ละจะแปลว่าอะไรดี คำแปลความหมายนี้อาจจะหมายถึงการขาดคุณธรรมก็ได้ ใช่ไหมครับ เมื่อพฤหัสฯขาดคุณธรรมจะเป็นเช่นไร ตรงนี้คุณคงต้องแปลความหมายของคุณเองแล้ว เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นตนุลัคน์ของคุณเอง ลองนึก ๆ ดูว่าคุณขาดคุณธรรมในข้อใด

คงต้องขอยืมดวงชะตาคุณอธิบายในความหมายให้กับผู้ที่กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์ได้เรียนรู้ ได้ศึกษา ผมอาจจะแปลความหมายของดวงดาวในดวงชะตาคุณผิดไปก็ได้ จะถูกหรือผิดก็คุณเองเป็นผู้รู้เท่านั้น ผมคงจบคำอธิบายในคำถามของคุณเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

ตอบคุณศิรพรรณฯ

เรื่องที่คุณศิรพรรณฯ ถามมานั้น เกี่ยวกับเรื่องของสุริยคราส (ซึ่งจะเกิดในช่วงวันที่ 11 กันยายน 2550) ประเทศที่จะเห็นได้จะเป็นแถว ๆ อเมริกาใต้และมหาสมุทรแอนตาร์คติค ส่วนจันทรคราสจะเกิดในช่วงวันที่ 28 สิงหาคม 2550 จะเห็นได้ในแถบ เอเซียตะวันออก ออสเตรเลีย มหาสมุทรแปซิฟิค และอเมริกา เรื่องคราสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็ให้ดูว่าช่วงเวลานั้นเข้าสู่ในนวางค์อะไร ถูกลูกพิษอะไร มีดาวอะไรอยู่ร่วม ก็จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามความหมายของลูกพิษ + ความหมายของดาว ตามไปด้วย สำหรับรายละเอียดลึก ๆ ในเรื่องคราสนี้ ผมอยากจะให้คุณศิรพรรณฯ โพสต์ถาม ท่านอาจารย์วรกุลฯ ท่านมีความสามารถมากกว่าผมที่จะตอบคุณศิรพรรณฯ ในเรื่องนี้

อย่าลืมโพสต์ไปถาม ท่านอาจารย์วรกุลฯ ด้วยนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:01น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 24
ขอบพระคุณสำหรับคำตอบครับอาจารย์


นกกระจิบ - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 20:03น. (IP: 124.120.228.207)

ความคิดเห็นที่ 25
ขอบคุณอาจารย์มากคะที่ช่วยแนะนำ หนูก็กำลังเริ่มศึกษาโหราศาสตร์อยู่ได้ไม่นาน หาความรู้จากในหนังสือและเว็บต่างๆเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ลองหัดอ่านดูถูกๆผิดๆบ้าง บางครั้งก็ไม่ค่อยเข้าใจจึงโพสต์ถามขอให้ช่วยอธิบายชี้แนะให้คะ ขอบคุณค่ะ


pat - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 20:31น. (IP: 58.9.133.236)

ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณครับ ที่อาจารย์เล่ายังกะตาเห็นแต่บ้านน้อยนี่ยังไม่มีเป็นตัวเป็นตนครับ คงต้องระวังตามที่อาจารย์แนะนำครับ แสดงว่าถ้าศุกร์เสียเป็นปะ ก็หมายถึงว่าพฤหัสในดวงนี้ก็จะเสียด้วยใช่ไหมครับเมื่อเป็นคู่มิตรกับอาทิตย์ก็แสดงว่าผมก็มักจะขยันหาเมียใหม่อยู่เสมอ(ศุกร์ ร่วมกับจันทร์)ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับขออาจารย์ช่วยขยายความด้วยนะครับ


อายครู บ่ รู้วิชา - 12 มิถุนายน พ.ศ.2550 22:33น. (IP: 203.150.137.195)

ความคิดเห็นที่ 27
ตอบ คุณอายครูฯ

ในกรณีที่คุณถามใน คห.27 ว่าถ้าศุกร์อยู่ราศีพิจิก ตรงนี้ชีวิตคุณก็จะมีปัญหาพอสมควรเลยทีเดียว ที่ว่ามีปัญหาเพราะว่า ดาวพุธไปอยู่เรือนศุกร์ ดาวศุกร์ไปอยู่เรือนอังคารร่วมกับดาวจันทร์ ดาวอังคารไปอยู่ในราศีกันย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นดวงที่มีดาวเป็นมหาเกษตร (พุธอยู่เรือนศุกร์ ศุกร์อยู่เรือนอังคาร อังคารอยู่เรือนพุธ) ชีวิตคุณจะวนเวียนอยู่กับเรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะใช้ตำราอะไรในการกำหนดลัคนาจร ชีวิตคุณจะมีปัญหาเกิดขึ้น 1 ครั้งต่อหนึ่งรอบจักราศี (คือ 1 ครั้งในรอบ 12 ปี) หมายถึงว่าในแต่ละปีตั้งแต่ปีที่1 ไปจนถึงปีที่ 12 จะเกิดเรื่อง 1 เรื่องต่อหนึ่งครั้ง 12 ครั้งต่อ 12 เรื่อง เมื่อขึ้นปีที่ 13 เรื่องที่ 1 ก็จะย้อนกลับมา เรื่อยมาจนถึงปีที่ 24 เรื่องที่ 12 ก็จะย้อนกลับมา พอขึ้นปีที่ 25 เรื่องที่ 1 ก็จะย้อนกลับมา เป็นเช่นนี้ตลอดไปของชีวิตคุณตลอดที่ยังมีลมหายใจอยู่ ที่กล่าวนี้หมายถึงกรณีที่ดาวศุกร์ในพื้นดวงคุณอยู่ในราศีพิจิกนะครับ

สำหรับเมื่อดาวศุกร์อยู่ในราศีพิจิกเป็นประ ดาวพฤหัสบดีเมื่อมาอยู่ในราศีตุลย์ ดาวอาทิตย์เมื่อมาอยู่ในราศีตุลย์ ดาวพุธเมื่อมาอยู่ในราศีตุลย์ ก็จะถูกดาวศุกร์เบียนไปด้วย เมื่อแปลความหมายตามดาวตามภพจะหมายถึง คุณหาเงินได้ เงินที่ได้ก็นำไปใช้เที่ยวเตร่ด้วยตัวของคุณเอง เมื่อหมดเงินก็หาเงินใหม่ วนเวียนอยู่เช่นนี้ ส่วนดาวพฤหัสเจ้าเรือนภพปัตตนิและภพพันธุ ก็จะได้รับผลเสียจากการที่คุณชอบเที่ยวเตร่ ทำให้ครอบครัวขาดเงินทองในการใช้จ่าย บางครั้งก็จะนำโรคภัยมาติดแก่ภรรยา นานไปเผลอ ๆ ภรรยาอาจจะเป็นเป็นโรคหัวใจขึ้นมาได้ (อาทิตย์เป็นนิจจ์ คู่มิตรกับดาวพฤหัส) แม้ภรรยาจะไม่บ่นแต่เธอเองก็เสียใจอยู่เป็นนิจ อย่างนี้เป็นต้น

ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 13 มิถุนายน พ.ศ.2550 08:04น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 28
ท่านอาจารย์วรกุลได้กรุณาให้คำตอบเรื่องคราสแล้วคะ คงต้องค่อยๆศึกษาทำความเข้าใจ หาเหตุผล และเก็บข้อมูลต่อไปคะ

ด้วยความเคารพ


ศิรพรรณ - 13 มิถุนายน พ.ศ.2550 23:07น. (IP: 161.200.255.162)

ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณครับ ที่อาจารย์ให้ความกระจ่าง


อา - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 07:53น. (IP: 203.154.52.119)

ความคิดเห็นที่ 30
ขอบคุณครับ ที่อาจารย์ให้ความกระจ่าง


อายครู บ่ รู้วิชา - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 07:54น. (IP: 203.154.52.119)

ความคิดเห็นที่ 31
เรียน อาจารย์การเวก(กรวิก)

ผมของรบกวนถามคำถามสักข้อครับ การอ่านแบบเรือนสัมพันธ์กัน 2 จังหวะ พอเรือนสัมพันธ์กันแล้ว เราจะทายดีหรือทายเสียนั้นเราเอาอะไรตัดสินว่าสัมพันธ์กันแล้วมาช่วยกัน(ดี)หรือทำลายกัน(เสีย) เช่น

ปุตตะ-กัมมะ-กดุมภะ .... เราจะอ่านในระบบเรือน (ยังไม่อ่านดาว ตามที่ อ.วรกุล สอนในกระทู้แรกๆ ที่ไม่ไปเรียนถามอาจารย์วรกุลเพราะเห็นท่านแจ้งว่าตอนนี้ท่านยุ่งมากๆ ใกล้ๆจะปิดกระทู้) ตัวอย่างนี้ เราจะอ่านว่า

1. "บุตรบริวาณมาช่วยทำงานเพื่อหารายได้" (ทายดี)

2. "บุตรบริวาณมาเป็นภาระ(กัมมะ)ในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง" (ทายเสีย)

คือว่าจากโจทย์เรือนสัมพันธ์นี้ อ่านในระบบเรือน เราจะทายในข้อ 1. หรือ ข้อ 2. เราจะพิจารณาทายดีหรือว่าจะทายเสียอย่างไรครับ ขอถามข้อนี้ข้อเดียวแหละครับ เพราะสงสัยตรงนี้จังครับ


มือใหม่ - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:05น. (IP: 210.246.80.85)

ความคิดเห็นที่ 32
อยากขอร่วมแสดงความคิดกับ คหห.32 คุณมือใหม่

ปุตตะ น่าจะแปลได้อีกอย่างคือเกี่ยวกับเด็ก หรืออะไรใหม่ๆ ออกแนวๆโลกียะ ความรัก ความบันเทิงก็น่าจะได้รึเปล่าคะ?

ดังนั้น ปุตตะ-กัมมะ-กดุมภะ

ก็อาจจะแปลได้ว่า งานที่ทำควรเป็นงานที่เกี่ยวกับเด็ก ความบันเทิง พบปะสังสรรค์เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆอะไรแบบนี้ แล้วจะทำให้เกิดรายได้


caren - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:42น. (IP: 58.136.98.141)

ความคิดเห็นที่ 34
ตอบ ศิรพรรณ

ขอบคุณครับ ผมก็ได้รับอานิสงฆ์จากคำถามของคุณ ทำให้ผมกระจ่างตามไปด้วยนะครับ และจะเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาใหม่ไปด้วย

ตอบคุณมือใหม่

จากคำถามของคุณมือใหม่ ถือว่าเป็นคำถามที่ดีคำถามหนึ่ง ที่ถามว่าเราจะใช้อะไรมาเป็นตัวตัดสินในการที่จะพยากรณ์ว่าภพหรือเรือนสัมพันธ์ที่เราดูในพื้นดวงจักราศีควรจะทายดีหรือทายร้าย

จากตัวอย่างที่คุณมือใหม่ยกขึ้นมา ปุตตะ - กัมมะ - กดุมภะ เมื่อเราอ่านในระบบเรือนหรือภพ เรือนใดหรือภพใดดีก็ให้แปลความหมายไปในทางที่ดี จะมีเสียก็คือ เรือนอริ เรือนมรณะ เรือนวินาสน์ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะถือตามเรือนตามภพ เรือนดีภพดีทายดี เรือนเสียภพเสียทายเสีย ตรงนี้ไม่มีอะไรมาตัดสิน ต้องตัดสินที่เรือนที่ภพ

สำหรับในการพยากรณ์ดวงชะตาในราศีจักร(ดวงอีแปะ) เมื่อผูกดวงชะตาขึ้นมาแล้ว ก่อนที่พยากรณ์เราจะต้องดูดวงดาวต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในราศีว่า ดวงดาวแต่ละดวงทำหน้าที่อะไร (เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร ภพอะไร ภูมิอะไร ตำแหน่งมาตรฐานใด คือเป็น เกษตร อุจจ์ ราชาดโชค มหาจักร ปร นิจจ์) ไปอยู่ในเรือนอะไร ภพอะไร ราศีที่ไปสถิตย์อยู่นั้นเป็นราศีธาตุอะไร(เป็นราศีธาตุที่เป็นคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่ศัตรู) มีดาวลอยเข้ามาอยู่ร่วมด้วยกี่ดวง แต่ละดวงมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง (เป็นดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่ศัตรู เป็นดาวเจ้าเรือนทุสถานะภพหรือเปล่า เป็นดาวที่อยู่ในเกณฑ์อะไรบ้าง เป็นดาวที่เป็นเจ้าของภูมิกาลีหรือเปล่า)และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือต้องดูด้วยว่าดาวที่มีเกณฑ์พิเศษตามกฎโหรนั้นเข้าเกณฑ์ดังกล่าวหรือเปล่า (ดาวที่มีเกณฑ์พิเศษได้แก่ ดาวจันทร์ อังคาร เสาร์ พฤหัสบดี ราหู) เมื่อได้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ แล้ว ก็จะสามารถรู้ได้ว่าดวงชะตานี้ดีอย่างไร เสียอย่างไร ในการจะพยากรณ์ดวงชะตาชีวิตก็ให้ดูจากรายละเอียดเหล่านี้ คุณมือใหม่ลองฝึกหัดดูนะครับ

ผมคงจบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 11:25น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 35
ขอบพระคุณอาจารย์การเวก(กรวิก)มากๆครับ คำตอบของอาจารย์ละเอียดมากครับ ผมหายสงสัยแล้วครับและเมื่อนำไปผนวกกับสิ่งที่ผมอ่านจากกระทู้ของอาจารย์วรกุลในเรื่องพื้นฐานการอ่านความหมายของเรือน กับความหมายของดาวที่สถิตย์ในเรือน ยิ่งทำให้ผมกระจ่างครับ ผมติดแค่ตรงนี้จุดเดียวเท่านั้นครับ ตอนนี้ก็เคลียร์แล้วครับ ขอบพระคุณมากๆครับ


มือใหม่ - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 11:33น. (IP: 210.246.80.85)

ความคิดเห็นที่ 36
ใช่ค่ะ เราก็คิดเหมือนอาจารย์

มันต้องดูหลายอย่าง เรื่องแบบนี้เห็นแค่เรือนแล้วบอกอย่างเดียวไม่ได้ และนวางค์ก็สำคัญมากๆค่ะ

กัมมะ ถ้าตัดเรื่องทักษาและมาตรฐานดาวต่างๆ ออกไป จริงๆมันก็คือเรือนที่ดีเรือนนึงนะคะ โดยเฉพาะหากได้กัมมะ-กดุมภะแล้วด้วย (อันนี้เราพูดถึงดูแบบพื้นๆแค่ความสัมพันธ์ของดาวกับเจ้าเรือน)

ได้อ่านตำราใหม่มาอีกตัว เข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย

การสอนคล้ายๆอาจารย์การเวกด้วยค่ะ ^_^


caren - 14 มิถุนายน พ.ศ.2550 13:43น. (IP: 58.136.98.141)

ความคิดเห็นที่ 37
ผมได้มีโอกาสได้อ่านกระทู้อาจารย์การเวกโดยได้เริ่มอ่านตั้งแต่ต้นกระทู้ที่22 ไม่ได้ติดตามมาแต่ที่แรก ไม่รู้อาจารย์ได้ยกตัวอย่างอธิบายการใช้ตรีวัยไปบ้างหรือยัง หลังจากผมได้อ่านความเห็นที่2 ตอบคุณนกกระจิบเรื่องตรีวัย ผมได้อ่านแล้วแต่ยังงงๆ “ในปีนั้นๆดววเจ้าวัยตกราศีอะไร” “แล้วก็นำภูมิมาร่วมในการพยากรณ์ผสมกันไป” “ดาวจ้าววัยถูกดาวกาลกิณีจรเดินมาต้องถูก” “เมื่อเรากำหนดวัยต่าง ๆ ขึ้นมาได้แล้ว เวลาเดินวัย ดาวจ้าววัยไปตกในภพไหน ก็จะได้รับหรือสัมผัสหรือประสบกับเหตุการณ์เกี่ยวกับภพนั้น ๆ ในแต่ละปีที่ดาวจ้าววัยเดินผ่านเข้าไป ในปีนั้น ๆ ก็ต้องดูด้วยว่าภพนั้นเป็นภพอะไร เป็นดาวจ้าววัยเกี่ยวกับอะไร ทักษาจรเป็นอะไร เป็นต้น” อยากให้อาจารย์ช่วยยกตัวอย่างประกอบอธิบายความเห็นที่2ข้างต้นด้วยครับ ตั้งดวงตุ๊กตาขึ้นมาเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ เพื่อที่จะได้เข้าใจกันมากขึ้นครับ


ชีพ - 16 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:57น. (IP: 203.113.56.14)

ความคิดเห็นที่ 38
ตอบ คุณชีพฯ

เรื่องของตรีวัยฯ ที่คุณชีพถามมานั้น จริง ๆ แล้วถ้าจะตอบ คงต้องใช้เวลาในการตอบ รวบรวมถ้อยคำว่าจะอธิบายเช่นไร ตรงนี้ผมไม่ทราบว่าคุณชีพฯ มีตำราของท่านอาจารย์เศกฯ เกี่ยวกับวิชาโหร สามเล่ม ตั้งแต่ "รู้ชีวิตด้วยดวงดาว" แล้วมีเล่มต่ออีกสองเล่ม ซึ่งในหนังสือของท่านอาจารย์เศกฯ ท่านได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องของตรีวัยค่อนข้างจะละเอียดพอสมควร และดีด้วย ซึ่งผมไม่เคยเห็นอาจารย์ท่านใดเขียนเกี่ยวกับเรื่องตรีวัยได้แบบท่านอาจารย์เศกฯ ผมมิใช่ยอท่านอาจารย์เศกฯ นะครับ แต่ยอมรับนับถือท่านในเชิงของการอธิบายให้นักศึกษาใหม่ได้เข้าใจอย่างง่ายดายขึ้น เอาเป็นว่าคุณชีพฯ ลองหาอ่านจากตำราของท่านอาจารย์เศกฯ ก่อนก็แล้วกัน อ้อลืมไป! ท่านยังออกหนังสือเรื่อง "ขุมทรัพย์โหร" ซึ่งเป็นเล่มล่าสุด (ออกมาประมาณ 1 ปีแล้ว) ขณะนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าพิมพ์ครั้งที่เท่าใด ในหนังสือเล่มนี้ยังมีการกล่าวถึงเรื่องตรีวัยเพิ่มเติมด้วย คุณชีพฯ ลองไปนั่งอ่านในร้านหนังสือตามห้างสรรพสินค้าก่อน นะครับ

ส่วนที่ผมจะเพิ่มเติมให้คุณชีพฯ ได้ทราบว่า ในวิชาโหราศาสตร์ไทยเรานั้น (ไม่เกี่ยวกับเลข 7 ตัวนะครับ) มีวิธีการดูหลายแบบเช่น

1.โหราศาสตร์ไทย (ดวงอีแปะ) 2. กาลจักร-ลัคน์จร 3.ตรีวัย4.ฤกษ์และการให้ฤกษ์ 5. อินทภาส-บาทจันทร์ 6.วิมมโสตตรี 120 ฯลฯ

แต่ละวิชาก็จะมีวิธีการดูต่างกัน ซึ่งเรานักศึกษาใหม่ก็พยายามจะเรียนรู้กันทั้งนั้น แต่การเรียนรู้จะต้องค่อย ๆ เรียนรู้ไปทีละวิชา ให้เกิดความชำนาญเสียก่อน แล้วค่อยต่อยอดวิชาไปเรื่อย ๆ รวมทั้งต้องสำรวจดูตัวเองด้วยว่า ถนัดในวิชาอะไร แล้วให้ไปในแนวทางนั้น เพราะคนเราถ้าถนัดในวิชาอะไรก็จะมีความจัดเจน แม่นยำ ทำได้ดี ถ้าจะถามผมว่าในวิชาโหราศาสตร์ไทยที่ผมกล่าวมาเบื้องต้นผมได้เรียนมาหรือไม่ เรียนมาแล้วครับ บางเรื่องก็รู้งู ๆ ปลา ๆ ไม่ได้เข้าไปลึกนัก เพียงแต่เอาไว้ใช้ในคราวจำเป็น หรือจำเป็นใช้ จะเน้นเฉพาะวิชาที่เราถนัดมากจริง ๆ ก็จะใช้บ่อย ๆ จนเกิดความชำนาญ แต่ที่ไม่ชำนาญมีเวลาว่างก็จะนำมาทบทวน ลองใช้ว่าให้ความแม่นยำมากน้อยเพียงใด (การศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไม่ควรยึดติดอะไรมากนัก ต้องรู้จักแสวงหา จดเป็นสถิติ นำสิ่งเรียนรู้มาประยุกต์ใช้ แม้จะต้องใช้หลาย ๆ วิชามารวมกันพยากรณ์ ก็ต้องนำแต่สิ่งที่ถูกต้องและแม่นยำมาใช้ มิใช่พยากรณ์ไปหลาย ๆ ศาสตร์ แต่หาสาระของความแม่นยำไม่ได้ เรียนมากวิชานั้นดีอยู่ แต่อย่าให้เป็นเป็ด คือรู้ไปหมดแต่ใช้ไม่เป็นหรือใช้ไม่ได้เรื่อง)

สุดท้ายนี้ อะไรก็แล้วแต่ ต้องจำเรื่องของตำนานชาติเวรให้ขึ้นใจ เพราะการที่ดาวจรกระทบดาวเดิม หรือ ดาวจรกระทบดาวจรด้วยกัน ความหมายต่าง ๆ ได้กล่าวไว้ในตำนานชาติเวรหมดแล้ว หากเราจำการกระทบของดาวในตำนานชาติเวรได้ ตัวเราก็จะไม่ติดขัดหรือขัดเขินในการออกคำพยากรณ์ อย่าลืมนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 18 มิถุนายน พ.ศ.2550 08:21น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 39
เรียน อาจารย์การเวก ครับ

รบกวนสอบถามเรื่องเกี่ยวกับดาวเกตุหน่อยนะครับ ทราบมาว่า ถ้าดาวเกตุ สัมพันธ์ ดาว 2 นี่ดวงจะสัมผัสเกี่ยวกับพวกจิต วิญญาณ ได้จริงหรือเปล่าครับ และ ถ้าดวงเดิม ดาวเกตุ อยู่เรือน 2 ( กรกฎ )ภพพันธุ ลัคน์เมษ ดวงจะสัมผัสหรือสัมพันธ์เกี่ยวกับพวกจิต วิญญาณ ได้ด้วยรึเปล่าครับ และอยากทราบเรื่องการบูชาพระให้เข้ากับดวง จะดูได้อย่างไร ใช้อะไรเป็นหลัก ขอบคุณมากครับ


ซำเหมา ^_^ - 18 มิถุนายน พ.ศ.2550 20:06น. (IP: 210.246.69.191)

ความคิดเห็นที่ 40
เรียนอาจารย์การเวกครับ

อยากทราบว่าดวงที่ได้คู่มีตำหนิ คู่พ่อหม้ายแม่หม้าย หรือคู่ครองเคยมีคู่มาก่อนนั้น และก็ดวงที่อาจมีการแต่งงานมากกว่า 1 ครั้ง เราจะมีเกณฑ์พิจารณาและดูอย่างไรครับ


tee - 18 มิถุนายน พ.ศ.2550 23:44น. (IP: 203.113.50.14)

ความคิดเห็นที่ 41
ตอบ คุณซำเหมา

เรื่องของดาวเกตุ ผมเคยตำราหนึ่ง เกี่ยวกับดาวเกตุ และ มฤตยู แต่ยังไม่เคยได้อ่าน (หรือเป็นเพราะผมล้าสมัยก็ไม่ทราบได้) เลยกลายเป็นคนโง่มาจนถึงปัจจุบันนี้ อยากจะให้คุณซำเหมาฯ โพสต์ถามท่านอาจารย์วรกุลฯ ท่านก่อน ท่านจะสามารถอธิบายได้กระจ่างแจ้งตามที่คุณต้องการทราบ แล้ววันข้างหน้าผมจะนำประสบการณ์และวิธีการพยากรณ์เกี่ยวกับดาวทั้งสองที่ผมได้ประสบมา มาเล่าให้ฟัง อย่าลืมโพสต์ถามท่านอาจารย์วรกุลฯ นะครับ เผื่อผมจะได้รับอานิสงฆ์ด้วย สวัสดีครับ

ตอบ คุณtee

เรื่องการดูเกี่ยวกับคู่นั้นขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สอนที่จะเก็บเป็นเกร็ด เป็นเคล็ด เอาไว้สอนลูกศิษย์ลูกหาเป็นการเฉพาะ หรือเป็นลูกเล่นของนักพยากรณ์ทั่ว ๆ ไป เอาเป็นว่า ผมจะว่าเกี่ยวกับประสบการณ์หรือหลักง่าย ๆ ที่ควรดูดีกว่า (ที่ว่าเป็นประสบการณ์หรือหลักง่าย ๆ ทั้งนี้เพื่อมิให้ขัดกับหลักการของครูโหรที่ได้บัญญัติเอาไว้) เช่น

1. ดาวเจ้าเรือนปัตตนิมาเป็นประในภพตนุเช่น ลัคนาอยู่มีน ดาวพุธเจ้าเรือนปัตนิ (ราศีกันย์) มาอยู่ในราศีมีน ตรงนี้ก็แสดงว่าตัวเจ้าชะตาจะได้พ่อหม้ายหรือแม่หม้ายก็ได้ หรือจะได้คู่ครองที่อยู่ในโอวาทของเจ้าชะตาก็ได้ (ตรงนี้แปลได้เช่นนี้คือมีถึงสองความหมาย)

2. ดาวเจ้าเรือนปัตตนิมาเป็นประในราศีที่มีดาวเจ้าเรือนเป็นดาวดวงเดียวกับดาวตนุลัคน์ (หรือเป็นดาวดวงเดียวกับภพตนุ) เช่น ลัคนาอยู่ราศีมี ดาวพุธเจ้าเรือนภพปัตนิมาอยู่ในราศีธนู (ตำแหน่งประ)

3. ดาวเสาร์เล็งลัคนา (เข้าเกณฑ์พินทุบาท) ตรงนี้จะหมายถึงมีแฟนเป็นพ่อหม้าย-แม่หม้าย ก็ได้ คนที่เคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้วก็ได้ หรือคนที่มีอายุมากกว่าอย่างน้อย 8 ปีขึ้นไป

4. ส่วนที่ดูว่าอาจจะมีการแต่งงานมากกว่า 1 ครั้งนั้น บางท่านอาจจะดูดาวศุกร์เป็นเกณฑ์ที่ว่า ดาวศุกร์เสีย ก็จะพยากรณ์ว่าคน ๆ นั้นอาจจะมีการแต่งงานมากกว่า 1 ครั้ง

5. ดาวเจ้าเรือนภพปัตนิตก ภพ อริ มรณะ วินาศน์ ในสามภพนี้หากตัวเจ้าชะตาแก้ไขการกระทำก็อาจจะไม่ต้องเลิกกับคู่ครอง เช่น ดาวเจ้าเรือนภพปัตนิอยู่ภพอริ ตัวเจ้าชะตาอาจจะเป็นเมียน้อยไปเลยก็ได้ ก็จะแก้ความเป็นอริตรงนี้ไปได้ในระดับหนึ่ง คือ สามีเมื่อคิดถึงก็มาหา เป็นต้น ส่วนดาวเจ้าเรือนปัตนิตกภพมรณะ ก็อยู่กันแบบไป ๆ มา ๆ หรือดาวเจ้าเรือนปัตนิตกภพวินาศน์ ก็อยู่กับแบบลับ ๆ เงียบ ๆ ไม่ต้องจัดงานให้คนอื่นเขารับรู้ ใครจะว่าอะไรก็ช่างมันไม่ต้องไปสนใจ เพราะเป็นเรื่องของเราที่จะอยู่กันแบบนี้ ซึ่งจะเป็นการแก้ไปตามพื้นดาวที่เป็นอยู่

ฯลฯ

จากตัวอย่างเบื้องต้น เป็นการยกตัวอย่างแบบง่ายบ้าง ไม่ง่ายบ้างมาให้ดูว่ามีหลาย ๆ แบบที่จะดูกัน และจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไรก็ต้องดูดาวที่มาอยู่ร่วมในราศี เล็งกับดาวเจ้าเรือนปัตนิ หรือดาวที่เป็นเกณฑ์พิเศษต่าง ๆ ประกอบด้วย

คุณtee ลองนำไปใช้ดู แล้วอย่าลืมแจ้งให้ผมทราบด้วยก็แล้วกันว่าใช้ได้ผลมากน้อยเพียงใด ผมคงจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 19 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:00น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 42
เรียน คุณซำเหมา

เผอิญผมไปเจอบทความที่ท่านอาจารย์วรกุลฯ เคยเขียนเกี่ยวกับดาวเกตุและมฤตยูนิดหน่อย อาจจะตรงกับที่คุณถามมา บทความมีดังนี้

จากกระทู้ อ.วรกุล www.horathai.com

".... เกตุ และ มฤตยู นอกจากเป็นองค์ประกอบความลึกลับทางโหราศาสตร์แล้ว ต้องส่งเสริมแก่ดวงชะตาของเราด้วย จึงจะทำให้ดวงชะตามีความมั่นคง คนที่เรียนทางไสยศาสตร์ก็เช่นกัน และรุนแรงมากกว่า หาก ดาวสองดวงนี้ แสดงผลทางไม่ดี จึงทำให้กลายเป็นคนสติไม่ดี บ้าๆบอๆอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ ดวงชะตาคนที่เป็นหมอดูบางคนที่ดาวพุธ หรือ พฤหัส มีกำลังถึงลัคนาอ่อนไป แต่เกตุ และมฤตยูกลับแรงขึ้น เขาอาจมีชื่อเสียงทางการทำนายโดยไม่รู้หลักโหราศาสตร์จริงๆสักเท่าไร แต่ทำนายโดยเป็นไปเหมือนรู้ด้วยลางสังหรณ์ บางรายก็กลายเป็นคนทรง หรือเข้าทรงโดยไม่แสดงอาการ หมอดูที่มีชื่อดังในบ้านเราหลายคน เป็นเช่นนี้ คือทำนายโดยเพียงอ้างโหราศาสตร์เท่านั้น แต่อาจไม่ได้ใช้วิชาโหราศาสตร์เลย

หมอดูบางคน เป็นที่รู้กันว่าทำนายโดยไม่ค่อยมีหลักการ แต่เรียกว่า มี “องค์ใน” หรือที่กล่าวขานกันว่ามี “เทพ” อยู่ในตัว ซึ่งเป็นเรื่องอุปาทาน เข้าใจผิด แต่จะยังไม่เล่าเรื่องลึกในตอนนี้ คนพวกนี้มักจะทำนายแม่นเองโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ถ้าเราเข้าใจการทำงานของธรรมชาติแล้วก็จะไม่แปลกใจเลย เพราะนี่ก็เป็นการแสดงออกของต้นเหตุที่นำดวงชะตาของเขาและตัวเขาเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ อดีต และ อนาคต ของชะตาชีวิต ผู้ที่มารับคำทำนาย เขาเพียงแต่ “รู้” แต่ไม่ทราบว่า “รู้” มาได้อย่างไร หากเราไปถามหลักโหราศาสตร์ เขาจะตอบไม่ได้ หรือ บางทีก็ตอบอะไรที่ง่ายเสียจนไม่น่าเชื่อ เช่น เอาวัน เดือน ปี บวกกัน แล้วหารสาม อะไรแบบนั้น ความจริงแล้ว เขาไม่ได้โกหก ความรู้โหราศาสตร์เป็นเพียงทางเข้าสู่ประตูทางลับนั้น แต่เรื่องที่เขา “รู้” นั้น อยู่ถัดจากประตูเข้าไปต่างหาก โหราศาสตร์ที่เราใช้อยู่เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับเรา แต่ไม่ใช่สำหรับเขา ดังนั้น เราจะพบว่า เมื่อระยะผ่านไปหลายๆปี เมื่อคุณสมบัตินี้ของเขาหมดไป เขาจะทายอะไรไม่ถูกเลย เหลืออยู่เพียงคนที่ไม่รู้เรื่อง ยังคงหลงเชื่อนับถืออยู่..."


การเวก (กรวิก) - 19 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:53น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 43
ขอบคุณ อาจารย์ การเวก มากครับ


ซำเหมา ^_^ - 19 มิถุนายน พ.ศ.2550 19:28น. (IP: 210.246.72.126)

ความคิดเห็นที่ 44
สวัสดีครับ ผมได้ติดตามอ่านการถาม-ตอบมาตลอด ได้รับความรู้ดีมากเลยครับ และรู้สึกว่ามีผู้สนใจด้านโหราศาสตร์กันมากทั้งเก่าและใหม่ แต่ยังพยากรณ์ไม่ได้ ตัวผมเองก็ศึกษาด้านนี้มาหลายปีหลากหลายตำราสะสมไว้เยอะเรียกว่าล้วนแต่สุดยอดตำราอาจารย์ดัง และยังเป็นศิษย์ของอาจารย์หลายท่านเช่นกัน

ผมอยากแนะนำเพื่อนๆบ้าง แต่ก็เกรงว่าจะไม่ถูกต้อง แต่พอผมเห็น คุณณัฐพงศ์ โพสต์มา รู้สึกตรงใจผมมาก

ผมมีความรู้สึกเห็นด้วยกับคุณณัฐพงศ์ครับ(ที่เคยกล่าวถึง ตำราอาจารย์เชียร เพ็งเพ็ชร ) ว่าวิชาตำราของท่านอาจารย์เชียร เพ็งเพ็ชร เป็นตำราที่ศึกษาเรียนรู้ได้ง่ายในระยะเวลาสั้นๆ ที่สำคัญคือนำไปพยากรณ์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือด้านพฤติกรรมนิสัย-สันดานของเจ้าของดวงชะตา เป็นวิชาที่แปลกแต่จริงครับ

สำหรับตัวผมเองก็ได้รับการแนะนำจากเพื่อนที่หลงใหลทางศาสตร์การพยากรณ์มาเช่นกันครับ จึงอยากแนะนำต่อเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมครับ และได้นำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ผมจึงอยากให้ท่านทั้งหลายลองไปหาตำราของท่านอาจารย์เชียร เพ็งเพ็ชร มาศึกษาดูครับ แล้วท่านจะพบความมหัศจรรย์ใจครับ แต่เท่าที่ทราบไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปครับ ต้องติดต่อท่านอาจารย์เชียรเองครับ ท่านที่สนใจลองโทรสอบถามที่ 02-985 9550-1 ดูนะครับ

ด้วยความปรารถนาดีและจริงใจต่อเพื่อนผู้สนใจทางศาสตร์เดียวกันครับ.. ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆนะครับ และ ถ้าเป็นการกระทำผิดประการใดต้องกราบขออภัยท่านอาจารย์ การเวก มา ณ ที่นี้ด้วยครับ


นนท์นที - 20 มิถุนายน พ.ศ.2550 11:23น. (IP: 203.146.8.165)

ความคิดเห็นที่ 45
เรื่องตำราโหราศาสตร์

ผมเคยอ่านบทความของท่านอาจารย์วรกุลฯ เกี่ยวกับเรื่องตำราโหราศาสตร์ต่าง ๆ ที่มีขายอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยกล่าวเตือนว่าไม่ควรรีบซื้อมาอ่านให้เสียสตางค์ ควรจะเรียนรู้ให้ภูมิแน่นเสียก่อน โดยมีครูโหรสอน เมื่อภูมิความรู้แน่นพอแล้วจึงค่อยเลือกซื้อตำรามาอ่าน เพราะตำราที่มีอยู่ในท้องตลาดไม่ว่าตำราของใครก็ตามจะมีเนื้อหาคล้าย ๆ กัน รวมทั้งตำราต่าง ๆ ที่ผมได้ศึกษามา จึงอยากจะบอกกล่าวหรือบอกเตือนท่านที่กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์อยู่ว่า การซื้อตำรามาอ่านหรือการไปอบรมในสถานที่เช่น โรงแรม หรือ ห้องอาหารต่าง ๆ โดยมีการเชื้อเชิญว่าใช้เวลาน้อย เรียนแล้วสามารถทำนายทายทักได้ จากประสบการณ์ที่ผมผ่านมาในลักษณะนี้ ขอบอกตามตรงเลยครับว่า ไม่สามารถทำนายทายทักได้ดังที่คุณคาดหวังเอาไว้ เอาเป็นว่า คาดหวังไว้ 100% แต่จริง ๆ สามารถทำนายได้บ้าง (ผมกล่าวว่าทำนายได้บ้างนะครับ) ประมาณ 10-20% เท่านั้น นี่พูดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มิใช่จะดิส์เครดิตอาจารย์ท่านใด ถ้าเรียนแบบมีครูบาอาจารย์คอยสอน ใช้เวลาอย่างน้อย ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน (เรียนอาทิตย์ละวัน วันละ 2-3 ชม.) ถึงจะทำนายทายทักได้แบบ งู ๆ ปลา ๆ เว้นเสียแต่ว่าท่านที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้จริง ๆ จึงจะสามารถทำนายทายทักได้ 30-40%

ดังนั้นการจะตัดสินใจซื้อตำราอะไรก็ตามแต่ควรจะอ่านดูเสียก่อนอย่างน้อยควรอ่านไปประมาณ 5-8 เรื่อง ดูว่าเราเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์ท่านนั้นเขียนหรือไม่ และเข้าใจมากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ มิใช่ว่าใครมาโพนทนาชวนเชื่อแล้วรีบซื้อ (เสียดายสตางค์ครับ เพราะสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันก็เลวร้ายพออยู่แล้ว ไม่อยากจะให้เสียสตางค์ไปโดยเปล่าประโยชน์)

สิ่งที่ผมเตือนก็ได้เตือนไว้แล้ว ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ต้องแล้วแต่ตัวท่านเองจะตัดสินใจ


การเวก (กรวิก) - 20 มิถุนายน พ.ศ.2550 14:14น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 46
อาจารย์ค่ะ ขอรบกวนอาจารย์ช่วยดูดาวให้ด้วยนะค่ะ ..เกิดวันพุธที่ 24 มกราคม 2516 ปีฉลู เวลา 05.25 น. จังหวัดหนองคาย ค่ะ

* อาจารย์ช่วยดูลัคนาว่ามีดาวใดสถิตย์อยู่บ้างค่ะ?...ไม่ทราบว่ามีแค่ดาว 6+8(2ดวง) หรือว่าดาว 5+6+8 (3ดวง)กันแน่ค่ะ

* อยากให้อาจารย์ช่วยวิเคราะห์ เลขคู่ 6+8 หน่อยค่ะ

* อาจารย์ช่วยอธิบายเรื่องราหูจำศีลด้วยค่ะว่าเป็นอย่างไร และมันคืออะไรค่ะ?

* เรื่องแฟนและบุตร ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง?

ขอบพระคุณค่ะ


ข้าวฟ่าง - 22 มิถุนายน พ.ศ.2550 00:05น. (IP: 58.9.26.250)

ความคิดเห็นที่ 47
ตอบ คุณข้าวฟ่างฯ

คำตอบมีดังนี้

1. ลัคนาสถิตย์ราศีมังกร มีดาว พฤหัสบดี ศุกร์ ราหู กุมลัคน์

2. ตามพระเคราะห์คู่ ดาวศุกร์กับราหู ถ้าดีก็เป็นคู่โชค ในดวงชะตาคุณศุกร์มีทั้งดีและเสีย ศุกร์เป็นภูมิอุตสาหะ ราหูเป็นภูมิมูละ ทางราศีจักร์ ราหูคือ ภพสหัสชะ (ลาภะโลก) หมายถึงการเสี่ยงโชคก็ได้ ทางราศีจักร์ศุกร์ คือภพ อริ (กดุมภะโลก) ลาภะ (ปัตนิโลก) ดังนั้นดาวคู่นี้ในพื้นดวงชะตาคุณค่อนข้างจะหมายถึงตัวคุณนั้นมักจะชอบการเสี่ยง ไม่ว่าจะเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ความรัก เป็นต้น แถมศุกร์มีตำแหน่งมหาจักร์ด้วย ดังนั้นเวลาคุณจะตัดสินใจเสี่ยงโขคหรือเสี่ยงอะไรก็ตามแต่ จะตัดสินใจเร็ว ไม่ฟังเหตุผล (ราหู) มาอยู่ในเรือนพฤหัสบดี (เกษตร ทางภูมิเป็นศรี) แสดงถึงว่าการเสี่ยงของคุณมักจะได้ผล ประสบความสำเร็จ (ราศีธนูเป็นภพศุภะโลก และ วินาศน์ของโลก) และเป็นภพพันธุของเจ้าชะตา

3. เรื่องราหูจำศีล ผมพยายามหาคำจำกัดความมานาน ทราบแต่เพียงราหูบุญสุรา ส่วนความหมายอื่นยังไม่ทราบ จึงยังตอบไม่ได้ เอาเป็นว่าคุณเก่งกว่าผมมากที่ยังทราบถึงราหูจำศีล ยังไง ๆ ช่วยโพสต์มาบอกผมด้วยครับ

4. เรื่องแฟน ตัวคุณกับแฟนมักจะมีเรื่องระหองระแหงกันเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นส่วนใหญ่ และปัญหาดังกล่าวเวลาเกิดก็รวดเร็ว พูดง่าย ๆ คือ คุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทีไร คุยกันได้ไม่นาน เดี๋ยวก็ทะเลาะหรือมีปากมีเสียงต่อกัน ส่วนบุตรก็เป็นคนเอาแต่ใจตนเอง เสียหายเรื่องความเป็นคนใจร้อน โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงิน การเรียน เป็นคนที่มีเรื่องเสมอ ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ด้วย ในอีกประมาณ 7 ปีข้างหน้า คงต้องระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ (เกี่ยวกับบุตรของคุณ)

ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 22 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:23น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 48
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ ที่กรุณาให้ความรู้เพิ่มเติม สำหรับเรื่องชีวิตคู่นั้นก็คงจะจริงเพราะว่าดิฉันจะงอแงเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว ..ส่วนเรื่องบุตรนั้น ดิฉันมีโครงการว่าจะตั้งท้องสักประมาณปีหน้าคลอดปีหน้าค่ะ..(ตอนนี้ยังไม่มีบุตรค่ะ)...

ส่วนเรื่องราหูจำศีล..ดิฉันได้เคยทราบจากโหรท่านผู้หนึ่งว่าราหูจำศีล คือดาว 8 อยู่ร่วมกับดาว 5 ค่ะ...ราหูจำศีลคือเปรียบว่า ราหูบวชเป็นพระ คือ ความมัวเมาลดน้อยลงไปไม่แสดงความเป็นตัวตนของดาวราหูอย่างรุนแรงและชัดเจน....ถ้าคนบางคนไม่รู้ตัวว่าดาวราหูมีอิทธิพลต่อดวงชะตาตัวเองทำให้เสียหายได้ ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่าความเสียหายอาจเกิดจากดาวราหูในตัวเรา เราก็ควรแก้ไขโดย เอาดาวราหูไปจำศีล คือ ลดการคบสังคม ลดการคบเพื่อน ให้อยู่กะตัวเองให้มาก ๆ ให้ใช้ชีวิตสันโดษ และไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องการพนันขันต่อ ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องเสพสิ่งมึนเมา ลดเรื่องการเป็นนักเลงหัวไม้อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ????

*แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในดวงแต่ละคนก็ต้องดูว่า ราหูของคนนั้นจะจำศีลหรือเปล่า คือ ราหูอยู่ร่วมกับดาวพฤหัสหรือเปล่านั่นเอง....ดิฉันเลยอยากรู้ว่ามันมีเปอร์เซ็นต์จริงมากน้อยแค่ไหน?? กับเรื่องราหูจำศีลแบบนี้ค่ะ..ใครรู้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ


ข้าวฟ่าง - 22 มิถุนายน พ.ศ.2550 09:54น. (IP: 58.9.26.250)

ความคิดเห็นที่ 49
ตอบ คุณข้าวฟ่าง

เรื่องของราหูจำศีลตามที่คุณข้าวฟ่างฯ บอกมานั้น ผมอยากจะให้คุณข้าวฟ่างฯ เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ จริงอยู่ถ้าจะพูดถึงเรื่องดวงดาวว่า ดาวพฤหัสบดีนั้นเปรียบเสมือนพระ ราหูเปรียบเสมือนโจร แต่การที่ดาวราหูมาอยู่ร่วมกับดาวพฤหัสบดีนั้นจะมีความหมายถึงราหูจำศีล การจะดูความหมายของพระเคราะห์คู่นั้น ควรจะพิจารณาถึงเรือนถึงภพเป็นหลักก่อน ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดู

** สมมติ ว่าลัคนาอยู่ราศีเมษ ราหูอยู่ราศีธนู ภพศุภเ พฤหัสบดีเป็นเกษตรอยู่ในราศีธนู ตรงนี้ในเรื่องของการหารายได้หรือลาภผลตัวเจ้าชะตาจะมีหลักยึดเหนี่ยวพอสมควร จะไม่ค่อยนอกลู่นอกทาง เพราะภพศุภะนั้นจะหมายถึงผู้ใหญ่ การให้ความช่วยเหลือ การประสบความสำเร็จ นักบวช ผู้มีคุณธรรม ฯ ดังนั้นราหูกับดาวพฤหัสบดีจะออกผลไปในทางที่ดี ไม่เสีย บางท่านอาจจะหมายถึงราหูจำศีลได้

** ในขณะเดียวกัน ลัคนาราศีเมษ ราหูอยู่ในภพวินาศราศีมีน ร่วมกับดาวพฤหัสบดีฯ ที่เป็นเกษตร แสดงถึงว่าการหารายได้หรือลาภผล จะกระทำอย่างลับ ๆ ไม่ให้ใครรู้ ไม่ให้ใครทราบ บางครั้งก็มีคุณธรรม บางครั้งก็ไม่มีคุณธรรม เป็นการกล้ำกึ่ง ดีบ้างเสียบ้าง

** และหากลัคนาอยู่ในราศีเมษ ดาวพฤหัสบดีเป็นนิจจ์อยู่ในราศีมังกรร่วมกับดาวราหูมหาจักร ทีนี้แหละ ในการทำงานของเจ้าชะตา หรือการประกอบอาชีพของเจ้าชะตา จะอยู่ในลักษณะชิงไหวชิงพริบ ทำก่อนได้เปรียบ เมื่อพฤหัสฯเป็นนิจจ์ จึงหมายถึงว่าไม่อยู่ในร่องในรอย ไม่อยู่ในศีลในธรรม มาผสมกับราหูที่เป็นมหาจักรด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ ทางไหนเป็นทางที่ทำมาหาได้ จะทำให้ใครเดือดร้อนบ้างก็ไม่สนใจ เพื่อความมั่นคงของตนเอง จึงต้องรีบลงมือก่อน

ความหมายของพระเคราะห์คู่ของ ดาวพฤหัสบดีร่วมกับดาวราหู ดาวคู่นี้เรียกว่าคู่เทคนิค คู่ชิงไหวชิงพริบในการดำเนินธุรกิจ หรือคู่ชิงความได้เปรียบ เช่น เมื่อรู้ว่าสินค้าตัวนี้กำลังจะขึ้นราคา ก็รีบกักตุนเอาไว้ขาย โดยตุนเอาไว้มาก ๆ พอสินค้าขึ้นราคาก็จะรีบนำเอาออกมาจำหน่ายเพื่อกอบโกยกำไร โดยไม่เคยคิดว่าคนอื่นต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเท่าไร ไม่มีการลดราคา เป็นต้น หากจะเปรียบกับเรื่องอื่นก็จะออกไปในแนวทางนี้

ในขณะเดียวกันดาวคู่พฤหัสกับราหู คู่นี้เมื่อมาจรต้องกัน ในตำนานชาติเวรจะกล่าวเอาไว้ว่าให้ระวังเรื่องอาหารการกิน เพราะอาจจะผิดสำแดงได้ หรือว่าคนที่กำลังท้องกำลังใส้ใกล้คลอด เมื่อดาวทั้งสองมาต้องกันก็จะเกิดอาการปวดท้องคลอดได้

สิ่งที่ผมยกเป็นตัวอย่างข้างต้น เพื่อมิให้คุณต้องยึดติดว่าดาวราหูเมื่ออยู่กับดาวพฤหัส จะเป็นราหูจำศีล อยากจะให้พิจารณาถึงภพ ถึงราศี ถึงภูมิทางทักษา นี่ขนาดว่าผมยังมิได้ยกเอาเรื่องนี้มาพิจารณาควบกันไป ยังสามารถแปลความหมายได้หลายความหมาย ผมเคยได้รับฟังจากเพื่อนคนหนึ่งว่ามีศิษย์ของอาจารย์ท่านหนึ่ง เมื่อเห็นดาวพวกนี้แล้วจะทายเสียทันที จนอาจารย์ท่านนั้นได้ปรารภกับศิษย์ในห้องเรียน (ท่านผู้นั้นก็อยู่ในห้องด้วย) ว่าศิษย์ของท่านบางคนนำเอาครูบาอาจารย์ไปขายอย่างเสียหาย และศิษย์ผู้นั้นกำลังรับกรรมที่ตามสนองอยู่ในปัจจุบัน ผมคงไม่เอ่ยนะครับว่าเป็นศิษย์ของท่านผู้ใด เพราะอาจารย์ท่านก็ไม่สามารถไล่ศิษย์ผู้นั้นได้เนื่องมาจากความมีจิตวิญญาณของความเป็นครู (ผมชมเชยท่านด้วยใจจริงครับ)

ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ หวังว่าคำอธิบายของผมคงเป็นแนวทางให้คุณข้าวฟ่างฯ และท่านที่เข้ามาท่องในเวปนี้ ได้คุณประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 25 มิถุนายน พ.ศ.2550 08:34น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 50
อ.การเวก ช่วยกรุณาบอกวิธีหาเกณฑ์ชันษาจร และทักษาจรในแบบของอ.อรุณ ลำเพ็ญที่ถูกต้องให้หน่อยจะได้ไหมครับ คือผมเข้าใจว่าวิธีนับชันษาจรของอ.อรุณ คือ เริ่มต้นนับอายุโดยใช้ภูมิทักษา เริ่มต้นนับโดยใช้ดาวตนุลัคน์ของเจ้าชะตาเป็นอายุที่1 ใช้อายุเต็ม นับตามเข็มนาฬิกาเท่าจำนวนอายุ ไม่เข้าตากลาง ตกภูมิดาวใด ดาวดวงนั้นเป็นดาวเสวยอายุ จากนั้นให้เอาอายุเต็มของเจ้าชะตา + กำลังดาวของดาวเสวยอายุดวงนั้น ได้เท่าไรเอา 12 หารเพื่อเข้าวงรอบจักรราศี เหลือเศษเท่าใด นับเริ่มต้นจากลัคนาทวนเข็มไปตามเศษที่เหลือนั้น ตกราศีไหน ราศีนั้นเป็นเกณฑ์ชันษาจรปีของเจ้าชะตา

ส่วนทักษาจร นับโดยใช้อายุย่าง เริ่มต้นจากดาววันเกิด นับเข้าตากลาง ตกภูมิไหน ภูมินั้นเป็นเกณฑ์ทักษาจรปีของเจ้าชะตา

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ j


สิงห์ - 26 มิถุนายน พ.ศ.2550 13:14น. (IP: 124.120.82.33)

ความคิดเห็นที่ 51
ตอบ คุณสิงห์

เรื่องการนับอายุตามเกณฑ์ชันษาจร (ตามหลักวิชาของท่านอาจารย์อรุณฯ ) มีดังนี้

เกณฑ์ชันษา (จากตำราของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ)

เกณฑ์ชันษา เป็นตำราที่ใช้ดูว่าในปีนั้น ๆ จะเกิดเรื่องอะไรเป็นหลัก วิธีใช้มีดังนี้

1. เอาตนุลัคน์เป็นหลัก

2. เมื่อทราบว่าดาวอะไรเป็นตัวแทนตนุลัคน์ ให้นำดาวนั้นเป็นตัวแทนในการนับอายุจรในทักษา โดยเริ่มนับอายุ 1 ขวบที่ดาวตนุลัคน์ แล้วนับไปยังอายุย่าง (ไม่ต้องเข้าตากลาง)

3. เมื่อได้อายุย่างตกดาวอะไร ให้นำอายุย่างบวกด้วยกำลังดาวของอายุย่างนั้น (เช่น อายุย่างตกดาวอาทิตย์ ก็นำอายุย่างที่ได้ + กำลังดาวอาทิตย์ (6) )

4. เมื่อนำอายุย่าง + กำลังดาวแล้ว ได้เท่าใด ให้หารด้วย 12 เหลือเศษเท่าใดให้ตั้งไว้

5. ให้นับในจักราศี โดยเริ่มนับจากลัคนา ไปตามเศษที่ได้ในข้อ 4 สมมตุว่าได้เศษ 5 ให้นับลัคนาเป็นหนึ่ง ภพกดุมภะเป็นสอง ภพสหัสชะเป็นสาม ภพพันธุเป็นสี่ ภพปุตตะเป็นห้า เมื่อนับไปตกภพอะไร ให้ดูว่าดาวอะไรเป็นเจ้าเรือนภพนั้น ในปีนั้นก็จะเกิดเรื่องตามดาวเจ้าเรือนภพนั้น (ให้นับอายุจรในจักราศีว่า ชันษาจรไปตกภพอะไร ภพนั้นก็เป็นภพตนุ แล้วดูว่าดาวเจ้าเรือนภพที่เกี่ยวกับเรื่องในปีนั้นเป็นภพอะไรในชันษาจร ปีนั้นก็จะเกิดเรื่องเกี่ยวกับภพนั้น ดาวนั้น เป็นหลัก)

ยังมีต่ออีก คือ การนับอายุจรในจักราศี สมมติว่า ลัคนาอยู่ในราศีเมษ ดาวอังคารเจ้าเรือนอยู่ราศีมิถุน เวลานับอายุจรต้องนับที่ราศีเมถุนเป็น 1 ไล่ทวนเข็มนาฬิกาไปเรื่อย ๆ จนถึงราศีพฤษภจะเท่ากับ 12 ปี เมื่อจะนับอายุปีที่สิบสาม ต้องข้ามราศีมิถุนไป นับอายุ 13 ที่ราศีกรกฎ นับไปเรื่อย ๆ จนครบอายุ 24 ที่ราศีมิถุน เมื่อจะนับอายุ 25 ต้องโดดข้ามราศีกรกฎไปนับอายุ 25 ที่ราศีสิงห์ ให้นับในลักษณะนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงอายุประสงค์ (อายุเต็มที่จะดู) ส่วนทักษาที่จะใช้ประกอบให้ใช้ทักษากำเนิดมาใช้ โดยใช้อายุย่างของทักษาจร

กรรมวิธีในการใช้เกณฑ์ชันษาจรมีเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าจะเป็นคุณประโยชน์แก่นักศึกษาที่ศึกษาในแนวทางของท่านอาจารย์อรุณฯ *** เวลาทำบุญใส่บาตร อย่าลืมอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แด่ท่านอาจารย์อรุณฯ และครูโหรที่ล่วงลับไปแล้วทุกท่านด้วยนะครับ***


การเวก (กรวิก) - 26 มิถุนายน พ.ศ.2550 14:03น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 52
ขอบพระคุณอาจารย์การเวก เป็นอย่างสูง เมื่อมีโอกาสจไม่ลืมะทำบุญไปให้อาจารย์อรุณ และครูโหรทั้งหลายแน่นอนครับ


สิงห์ - 26 มิถุนายน พ.ศ.2550 17:27น. (IP: 124.120.82.33)

ความคิดเห็นที่ 53
หนู ขอถามเรื่องที่สงสัยหน่อยนะคะ

1.เป็นนักพยากรณ์ต้องครอบครูหรือเปล่าคะ

2.การเป็นนักพยากรณ์ต้องมีดวงทางนี้จริงเปล่าคะ

3.เป็นนักพยากรณ์แล้วต้องโสดด้วยเหรอคะ เห็นบอกว่าดูมากก็เหนื่อย คู่ก็หายด้วย

รักษาศีล5-8ก็น่าจะใช้ได้แล้วนะคะ

หนูอาจถามอะไรที่บ๊องๆหน่อยนะคะ


หนู4ตา - 29 มิถุนายน พ.ศ.2550 10:12น. (IP: 124.157.212.94)

ความคิดเห็นที่ 54
หนู ขอถามเรื่องที่สงสัยหน่อยนะคะ

1.เป็นนักพยากรณ์ต้องครอบครูหรือเปล่าคะ

2.การเป็นนักพยากรณ์ต้องมีดวงทางนี้จริงเปล่าคะ

3.เป็นนักพยากรณ์แล้วต้องโสดด้วยเหรอคะ เห็นบอกว่าดูมากก็เหนื่อย คู่ก็หายด้วย

รักษาศีล5-8ก็น่าจะใช้ได้แล้วนะคะ

หนูอาจถามอะไรที่บ๊องๆหน่อยนะคะ


หนู4ตา - 29 มิถุนายน พ.ศ.2550 10:21น. (IP: 124.157.212.94)

ความคิดเห็นที่ 55
ตอบ คุณหนู 4 ตา

คำถามคุณน่าจะเป็นคำถามโลกแตก ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล บางคนก็ถือจนเคร่ง บางคนก็ถือหลวม ๆ บางคนก็ไม่ถือสาเลย ถ้าจะตอบตามหลักโหราศาสตร์ก็คงตอบได้ดังนี้

1. ผมขอยกตัวอย่างของทหารที่รับใช้ชาติกัน ทหารส่วนใหญ่จะถือกันว่า เมื่อรับราชการเป็นทหารหารแล้ว หากมิได้เดินสวนสนามต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล ก็มิใช่ทหารอย่างเต็มตัว ดังนั้นเมื่อเรามาเรียนทางวิชาโหราศาสตร์แล้ว หากยังมิได้มีการครอบครูเลย เราก็มิใช่นักพยากรณ์อย่างเต็มตัว ดังนั้น อย่างน้อยก็ควรมีการครอบครูสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อเราจะได้ภูมิใจของเราเองว่าเราเป็นนักพยากรณ์แล้วนะ (ผมคงไม่บอกว่าเราเป็นหมอดูแล้วนะ) ส่วนการไหว้ครูครั้งต่อ ๆ ไปก็ไปในพิธีกรรมที่จัดขึ้นในแต่ละปี ส่วนการจะครอบครูตามในแต่ละครั้งหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับคุณและขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์

2. การเป็นนักพยากรณ์ต้องมีดวงทางนี้จริงหรือเปล่า ตรงนี้ก็เปรียบเสมือนกับนักแสดง ถ้าไม่มีพรสวรรค์ ก็ทำได้แค่งู ๆ ปลา ๆ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเวลาพยากรณ์ก็จะพยากรณ์ได้แค่40-50 % เท่านั้น ส่วนท่านที่มีพรสวรรค์ก็จะพยากรณ์ได้ 80% ขึ้นไป

3. เป็นนักพยากรณ์นั้นต้องโสดด้วยหรือ ตรงนี้เท่าที่ผมอ่านหนังสือโหรมา มิใช่ว่าเป็นโสด ส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาในชีวิตครอบครัวซะส่วนใหญ่ ตรงนี้ผมอยากจะให้ข้อคิดไว้สักนิดหนึ่งว่า ในวิชาโหราศาสตร์ไทยเรา ผู้เขียนหรือครูโหรที่ท่านได้เขียนตำราไว้ ท่านคงมีการสาปแช่งเอาไว้สำหรับผู้ที่นำวิชาเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น ใช้หลอกคนที่กำลังทุกข์ ใช้เรียกร้องค่าตอบแทนจากผู้ที่กำลังทุกข์ ใช้เพื่อหลอกคนให้ทำพิธีกรรมต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างสูง พูดง่าย ๆ ก็คือ ใช้วิชาโหราศาสตร์ไปหลอกคนให้หลงเชื่อว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้จนผู้มาขอการพยากรณ์ต้องประสบความวิบัติ ตรงนี้จะเป็นกรรมสำหรับนักพยากรณ์เหล่านี้ ส่วนเรื่องที่เล่าสู่กันมาว่าต้องเป็นโสดนั้น ผมก็เห็นครูโหรทุกท่านต่างก็มีครอบครัว มีลูกมีหลาน มีฐานะเจริญรุ่งเรือง คงเป็นเพราะท่านเหล่านั้นใช้วิชาในทางที่ถูก ก็จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต เพราะได้ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก มิใช่ขูดรีดขูดเนื้อ เหมือนเช่นนักพยากรณ์บางท่านที่กำลังกระทำอยู่ในเวลานี้

4. เรื่องการรักษาศีลก็คงขึ้นอยู่กับแต่ละท่านว่าจะมีความศรัทธามากน้อยเพียงใด บางท่านก็ศรัทธามาก บางท่านก็ศรัทธาน้อย จริง ๆ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจเราต่างหาก หากใจเราคิดดีก็จะมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต หากใจเราคิดไม่ดีก็จะมีสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต คนเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมเก่า ประกอบกับสร้างกรรมใหม่ที่จะไปใช้ในภพหน้า เราจะสังเกตุเห็นว่า ชีวิตเราเป็นไปตามพื้นดวงชะตาที่ผูกขึ้นมาในขณะที่เราถือกำเนิด และก็อยู่ไปจนกระทั่งหมดลมหายใจ ซึ่งก็จะเป็นไปตามดวงชะตาที่ผูกขึ้นมานั้น ส่วนความสบายหรือความยากลำบากในพื้นดวงก็บอกไว้อยู่แล้ว และก็เป็นไปตามนั้น ผมจึงได้กล่าวอยู่เสมอว่า ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ให้หมั่นสร้างความดีกันเอาไว้ เพื่อเอาไว้เป็นทุนของเราในภพหน้าหรือชาติหน้า

คำตอบของผมอาจจะดูบ๊อง ๆ เหมือนคุณหนู 4 ตา หรืออาจจะบ๊องยิ่งกว่า แต่ก็ขอกล่าวเอาไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมก็เป็นไปตามพื้นดวงชะตาทั้งสิ้น ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 29 มิถุนายน พ.ศ.2550 10:52น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 56
อ่านกระทู้เก่าๆ ทราบมาว่า หากดาวดวงใดอยู่ราศีเดียวกันหรือตรงข้ามกับ อาทิตย์แล้ว ดาวนั้นจะดับ

แล้วดาวดับมันหมายความว่าอย่างไรหรอครับ จะส่งผลอย่างไรกับดวงชะตา เช่นดวงมีลัคนา อยู่ราศีมังกร จันทร์+ราหูอยู่ภพอริ เล็งอยู่กับ อาทิตย์+พุธ+ศุกร์ อย่างนี้จะหมายความว่าอย่างไรหรอครับผม j


สิงห์ - 1 กรกฎาคม พ.ศ.2550 01:52น. (IP: 124.120.80.169)

ความคิดเห็นที่ 57
มีเรื่องร้อนใจเรียนถาม

วันเกิด พฦ 13 มค 26 เวลา 12 03 น

คือเรียนถามว่า มีดาวเสาร์เล็งลัค ในราศีตุล ส่วนดาวศุกรเจ้าเรือน กลับไปสถิตในภพกัมมะ ราศีมังกร เคยอ่านตำรา เสาร์เป็นมหาอุจน์ แต่เกณฑเป็นพินธุอุบาท และดาวเสาร์และ ดาวศุกร์แลกเรือนกันแบบนี้จะพอทายได้อย่างไร ช่วยมอบความรู้ให้กับข้าพเจ้าเป็นทานด้วยเถอะ

ส่วนตอนนี้ข้าพเจ้ามีปัญหาเรื่องความรัก เพราะต้องแต่งกับคนที่ไม่ได้รัก ส่วนคนที่รักที่อายุมากว่าข้าพเจ้าหลายปีก็ทำได้เพียงแค่มองตากันเท่านั้น หาทางออกใดไม่ได้


คนหัดดูดวง - 1 กรกฎาคม พ.ศ.2550 20:31น. (IP: 61.19.220.13)

ความคิดเห็นที่ 58
ตอบ คุณสิงห์

เรื่องดาวดับ เปรียบเสมือนดาวไม่มีพลัง แม้ดาวนั้นจะมีตำแหน่งมาตรฐานที่ดี เช่นอุจจ์ เกษตร ราชาโชค มหาจักร ในขณะเดียวกัน ดาวที่มีตำแหน่งมาตรฐานเสีย ก็จะไม่สามารถแสดงพลังเบียนดาวอื่นได้เต็มที่ ที่คุณสิงห์ถามมาว่าดาวใดที่เล็งหรืออยู่ร่วมราศีกับดาวอาทิตย์จะดับ ตรงนี้ต้องดูองศาของดาวแต่ละดวงด้วย ว่า หากอยู่ในองศาเดียวกับอาทิตย์ก็จะเป็นดาวดับสนิท ไม่มีพลัง หรืออยู่ในองศาใกล้เคียงที่กำหนดตามหลักโหรก็จะดับและไม่มีพลัง แต่ถ้าอยู่ในองศาห่างจากดวงอาทิตย์เกินจากที่กำหนดไว้ในกฎเกณฑ์ของโหร ดาวนั้นก็ยังคงมีพลังเช่นเดิม เหมือนกับดาวศุกร์ที่อยู่หน้าหรืออยู่หลังดวงอาทิตย์ จะต่างกัน จะหาอ่านได้จากหนังสือโหรทั่ว ๆ ไป คุณสิงห์ลองอ่านดูนะครับ สวัสดีครับ

ตอบ คนหัดดูดวง

ผมไม่ทราบว่าคุณเป็นสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษ


การเวก (กรวิก) - 2 กรกฎาคม พ.ศ.2550 08:34น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 59
เรียน อาจารย์การเวก ครับ

เพศชาย เกิด คืน วันที่3 มกราคม พศ. 2510 เวลา 3.30 น.

( เช้าวันที่4 ) อยากทราบว่า

1. พอจะเรียนโหราศาสตร์ไทยได้หรือไม่ ?

2. ชะตาในช่วงปี 2550 เป็นอย่างไร ดี หรือ ร้าย ?

ขอแสดงความนับถือ และ ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ


คนอยากรู้ - 2 กรกฎาคม พ.ศ.2550 18:13น. (IP: 203.144.130.176)

ความคิดเห็นที่ 60
ตอบ คุณคนอยากรู้

1. เรียนได้ครับ

2. ดวงชะตาปีนี้ดี ผู้ใหญ่ให้คุณ เปรียบเสมือนว่า ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา คุณกับผู้ใหญ่ไม่ค่อยจะถูกกันนัก แต่ปีนี้เป็นปีพิเศษที่ผู้ใหญ่ให้ความเอ็ดดูคุณเป็นพิเศษ ในทุก ๆ เรื่อง

คงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ

เนื่องจากกระทู้นี้ค่อนข้างจะต้องใช้เวลาในการค้นหานาน ผมขอเปิดกระทู้ 23 ขึ้นมา เพื่อความสะดวกสำหรับทุกท่านและตัวผมเองด้วย ขอบคุณครับ


การเวก (กรวิก) - 3 กรกฎาคม พ.ศ.2550 08:18น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 61
ผมชื่อ อภิพัฒน์ อภิพัฒน์กังวาน เกิดวันที่ 14 มีนาคม 2518 ปีเถาะ เวลา 06.20 น. คับ ช่วงนี้ผมเครียดมากคับ อยากให้ท่านอาจารย์ช่วยดูดวงให้หน่อยคับ ขอให้อาจารย์ชี้ช่องทางสว่างด้วยนะคับ ช่วยผมหน่อยนะคับ


อภิพัฒน์ - 9 กรกฎาคม พ.ศ.2550 03:17น. (IP: 58.8.102.163)

ความคิดเห็นที่ 62
ตอบ คุณอภิพัฒน์

คงต้องรบกวน คุณอภิพัฒน์ฯ โพสต์ถาม อ.รวิฯ นะครับ


การเวก(กรวิก) - 9 กรกฎาคม พ.ศ.2550 09:14น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 63
เรียน อาจารย์การเวก

ขอรบกวนอาจารย์ช่วยดูให้ด้วยค่ะว่าดิฉันเกิดวันไหน เนื่องจากที่บ้านแจ้งวันเกิดไม่ตรงค่ะ แต่ว่าเค้าบัณทึกเอาไว้ว่าเป็นเวลา ตี 5.00 ของ วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 2515 (หนองคาย) แต่น้าคนที่เลี้ยงดิฉันมาเค้าก็บัณทึกเอาไว้ว่าเป็นวันศุกร์ ที่ 14 เมษายน 2515 เวลาเดียวกันค่ะ เค้าก็ยืนยันบอกว่า เกิดช่วงนี้เพราะว่าดิฉันทำให้เค้าอดไปดูงานแห่นางสงกรานต์นะค่ะ พอดิฉันผูกดวง ปรากฏว่า ลัคอยู่มีน ระหว่างสองวัน มีแค่ตำแหน่งของดาวจันทร์ที่ต่างกัน คือ อยู่ในราศีพฤกษ กับ เมษ ค่ะ จะต้องดูตรงไหนบ้างคะถึงจะทราบว่าเราเกิดวันไหนค่ะ รบกวนอาจารย์ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ


ศิริพร - 19 กรกฎาคม พ.ศ.2550 15:10น. (IP: 129.123.67.243)