เว็บบอร์ด

กระทู้ ถามตอบโหราศาสตร์ พยากรณ์ศาสตร์

ปิดปรับปรุงชั่วคราว

กระทู้นี้เพื่อนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยได้ถามไถ่ 24

เนื่องจากกระทู้ที่ 23 ค่อนข้างใช้เวลาในการหาข้อมูล ผมจึงเปิดกระทู้ที่ 24 ขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการหาข้อมูล
การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
เรียน อ.การเวก

จากกระทู้ที่ 23 ความเห็นที่ 62 และ 63 ขอเรียนถามหน่อยดังนี้

1. ดวงของผมมีวงจรมหาเกษตร 2 ชุด คือ 6 7 และ 8 (ตอบมาแล้ว) และอีกชุดคือ 3 4 และ5 หมายความว่าอย่างไร

2. เคยมีคนดูให้เขาว่าดวงผมเกือบเป็นดวงดาราราย หมายความว่าอย่างไรครับ

ขอบคุณครับ


ตุ่น - 13 กันยายน พ.ศ.2550 17:27น. (IP: 203.148.162.199)

ความคิดเห็นที่ 2
ตอบ คุณตุ่น

ก่อนอื่นต้องขออภัยคุณที่ผมเองไม่ค่อยรอบคอบ เรื่องของดาววงจรมหาเกษตรอีกชุด เหตุการณ์จะเกิดก็หมุนเวียนเช่นเดียวกับดาวชุดแรก แต่ชุดนี้จะเกี่ยวกับการติดต่อกับซึ่งจะมีผลผูกพันกับชุดแรกกลาย ๆ หมายถึง การติดต่อ หรือสังคมที่มีปัญหาตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งเรื่องเอกสารและสัญญา การพูดการจา กว่าจะสำเร็จลงได้

ส่วนเรื่องดาวที่เรียงกันเกือบจะเป็นดวงดารารายนั้น จะหมายถึงในจักราศีมีดาวอยู่ในทุกราศีรวมทั้งลัคนาด้วย อนุโลมให้มีราศีว่างได้ 2-3 ราศี บางกฎก็ไม่นับรวม เกตุ (๙) กับ มฤตยู (0) บางอาจารย์ท่านก็อนุโลมยกเว้นให้ ก็เลยต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะใช้แบบไหน ความหมายของดวงดารารายนั้นเราจะเห็นว่า มีดาวที่ทั้งเล็งกัน เป็นศูนย์พาหะหน้า-หลังต่อกัน โยคหน้า โยคหลังต่อกัน จตุโกณห์-ภพจอมฟ้าแก่กัน ตรีโกณฑ์ต่อกัน เมื่อดาวอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว ถ้าเป็นดาวคู่มิตรก็ช่วยเหลือกัน ถ้าเป็นดาวคู่ธาตุก็ช่วยเหลือกัน หรือเป็นดาวคู่สมพลหากมีผลประโยชน์ร่วมก็ช่วยกัน แต่หากไม่มีผลประโยชน์ก็ตัวใครตัวมันเหมือนกัน และถ้าเป็นดาวคู่ศัตรูก็จะเบียนกัน เรื่องของดาวดารารายก็เป็นเช่นนี้ละครับ

ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 14 กันยายน พ.ศ.2550 08:27น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 3
อาจารย์ครับ ถ้าเจอดวงที่ตำแหน่งดาว+ลัคนาเหมือนกันทุกอย่าง เพราะเกิดวันเดียวกัน เพศเดียวกัน แต่ดำเนินชีวิตไม่เหมือนกัน อย่างนี้จะทายอย่างไรดีครับ มีเคล็ดอะไรไหมครับ


สิงห์ - 14 กันยายน พ.ศ.2550 11:15น. (IP: 124.120.77.147)

ความคิดเห็นที่ 4
ตอบ คุณสิงห์

ตามที่คุณสิงห์ถามมานั้น ผมเข้าใจว่าเวลาจะต่างกันแต่อาจจะต่างกันไม่มาก คืออยู่ในสองชั่วโมงที่ลัคนานั้นอยู่ ในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าเป็นดาวใหญ่เช่น พฤหัส เสาร์ ราหู หรือดาวเกตุ ดาวมฤตยู การโคจรจะช้า ในวันกำเนิดอาจจะยังอยู่ในนวางค์เดิม แต่พวกดาว พุธ ศุกร์ อังคาร ยังมีเดินหน้าถอยหลังกันบ้าง ส่วนดาวอาทิตย์ก็โคจรวันละประมาณ 1 องศา สำหรับดาวจันทร์นี้ก็จะโคจร 2 1/2 วัน โดยประมาณ ต่อ 30 องศา คงต้องเข้าไปดูว่าดาวแต่ละดวงอยู่ในนวางค์อะไร ก็ใช้นวางค์ที่ดาวนั้นอยู่มาเป็นหลักเสริมในการพยากรณ์ด้วยก็ได้ แต่คุณต้องไม่ลืมว่า ดาวแต่ละดวง ราศีแต่ละราศี จะมีหลายความหมาย ดังนั้นการดำเนินชีวิตของเขาก็จะต่างกันไปในความหมายของมัน ขณะเดียวกันเราก็ใช้ภูมิทางทักษาเข้ามาช่วยในการพยากรณ์ด้วยอีกโสตหนึ่ง

ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ฝน ความรู้ที่มีอยู่ อย่าได้ไปยึดติดความหมายใดความหมายหนึ่งเท่านั้น เคล็ดลับในการทำนายนั้นเหมือน ๆ กันนะครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ


การเวก(กรวิก) - 14 กันยายน พ.ศ.2550 11:29น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณมากครับ อ.การเวก

ยังไม่ค่อยเข้าใจ ดูนวางค์ก็ไม่เป็น ผมเข้าใจว่าทางเลือกของคนเรามันมีหลายทาง ความหมายภพก็มีหลายความหมาย อยู่ที่เจ้าชะตาจะดำเนินชีวิตอย่างไร ตรงกับอิทธิพลดาวอะไร ชีวิตก็เลยต่างกัน ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องตามหลักวิชาหรือเปล่าครับ


สิงห์ - 15 กันยายน พ.ศ.2550 12:17น. (IP: 124.120.76.26)

ความคิดเห็นที่ 6
ขอคำแนะนำ ประกอบกับการวิจารณ์ดวงด้วยครับ ผมสนใจโหราศาสตร์แบบเก็บตกอ่านเอาจากใน web นี้และ web อื่นๆครับ

1. ผมเกิด 27 พค 2508 เวลา 11.05 กทม ถ้าผูกดวงจาก web payakorn แบบสุริยาศตร์ จะเป็นราศีสิงห์ แบบลาหิรี จะเป็นกรกฎ เลยชักงงว่าจะเป็นราศีใด ขอคำแนะนำอาจารย์ด้วยครับ

ข้อมูลส่วนตัว คือชีวิตผูกพันกับการงาน งานแต่ละที่เป็นบริษัทที่ผลตอบแทนดี แต่งานหนักมาก และมีอันต้องเปลี่ยนงาน ทุก 3-4ปีอยู่ไม่ทน และชีวิตเดินทางบ่อยมากทั้งการงานการเรียน เกิน 10 ประเทศ 30 จังหวัดแล้วครับ

2) ไม่ว่าผูกดวงแบบใด ดูความรักผมจะแย่ทั้งสองทาง เพราะหากแบบสุริยาศตร์ ก็เสาร์เล็งลัคน์ แบบลาหิรี ก็ ปัตนิ ไปพบมาณะ ใช่ไหมครับ

3) อันนี้สนใจที่สุด ถ้าอาจารย์มีเวลาน้อย ขอคำแนะนำข้อนี้ข้อเดียวครับ แอบหลงรักสาวที่ทำงาน เธอเกิด 27 มิย 2526 เวลา 16.30 กรุงเทพครับ สนิทกัน แต่เธอ pop มากมีคนจีบหลายคน


วัชระ - 15 กันยายน พ.ศ.2550 13:21น. (IP: 125.24.27.251)

ความคิดเห็นที่ 7
ตอบ คุณวัชระ

จากคำถามที่ถามมา มีคำตอบดังนี้

1. ลัคนาอยู่ราศีสิงห์ครับ มีอังคารกับมฤตยูกุมลัคน์ เสาร์เล็งลัคน์

2. เรื่องความรักคงต้องใช้เวลาสักนิด ตัวคุณเองก็เป็นคนเลือกมากพอสมควร และมีปัญหาเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่กล่าวเช่นนี้หมายถึงตัวคุณเองมัวแต่คิดถึงเรื่องงานมากกว่าเรื่องรัก มาคิดตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ เสาร์เล็งลัคน์หากคุณได้อ่านที่ผมเขียนตอบเอาไว้คงเข้าใจนะครับ

3. สาวคนนี้เป็นคนขี้ระแวงพอสมควร เสาร์กุมลัคนาก็คิดมาก ขี้ระแวง มีอะไรนิดอะไรหน่อยก็เก็บไปคิด เพียงแต่ตนุลัคน์ได้ราชาโชค เจ้าหล่อนก็เลยมีเพื่อนชายเข้ามาขายขนมจีบเยอะ ตัวเจ้าหล่อนเองก็มัวแต่สนใจเรื่องงานเหมือนกับคุณ หากสนิทกันก็ลองทาบทามกันได้ครับ ต่างคนต่างก็มีเสาร์พัวพันกับลัคนาพอไปกันไหว คบกันแล้วหากตกร่องปล่องชิ้นกันปีหน้าก็ลองหาฤกษ์ดูก็แล้วกันนะครับ

คำตอบคงมีเพียงเท่านี้ ต้องขออภัยด้วยที่ตอบช้าไปหน่อย


การเวก(กรวิก) - 18 กันยายน พ.ศ.2550 16:07น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณ อาจารย์กรวิก มากครับ


วัชระ - 18 กันยายน พ.ศ.2550 18:25น. (IP: 59.188.121.134)

ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าลัคนาอยู่เรือนกาลกิณี จะมีผลอย่างไร


อิม - 19 กันยายน พ.ศ.2550 14:46น. (IP: 58.8.122.51)

ความคิดเห็นที่ 10
ถามเพิ่ม เรื่องพุธ เน้นเรื่องการพูดอย่างเดียว1.พุธดับจะมีสภาพเป็นอย่างไร 2.พุธลาภะ ต่างกับ พุธวินาศอย่างไร3.พุธอยู่ใกล้กับเสาร์เป็นอย่างไร4.พุธอยู่ใกล้กับราหูเป็นอย่งไร


อิม - 19 กันยายน พ.ศ.2550 16:26น. (IP: 58.8.129.240)

ความคิดเห็นที่ 11
ตอบ คุณอิม

คำถามที่คุณอิมถามมา ค่อนข้างจะมีประโยชน์ต่อนักศึกษาใหม่พอสมควร จะได้เข้าใจในสิ่งที่ติดค้างคาใจเวลาได้อ่านหนังสือโหร ว่ากันถึงคำถามกันดีกว่านะครับ

1. เมื่อลัคนาอยู่ในเรือนกาลกิณี ดาวตนุลัคน์ก็จะเป็นดาวกาลีไปในตัว ดังนั้นคงต้องดูว่าเป็นดาวอะไรตั้งแต่ ๑-๗ ความหมายของดาวนั้น ๆ ก็จะเป็นไปในทางลบซะส่วนใหญ่ รวมทั้งความหมายของภพคือ ตนุ ตัวตนของเขา เมื่อดาวตนุลัคน์ไปอยู่เรือนอะไรก็ต้องพิจารณาดูด้วยว่า เรือนหรือภพที่ดาวตนุลัคน์ไปอยู่เป็นเรือนหรือภพอะไร เป็นราศีธาตุอะไร เป็นราศีธาตุที่ส่งเสริมหรือขัดแย้งกับดาวตนุลัคน์ รวมทั้งดาวเจ้าเรือนภพนั้น ๆ เป็น คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล หรือคู่ศัตรูกับดาวตนุลัคน์ และยังต้องดูดาวลอยด้วยว่าดาวลอยนั้นเป็นดาว คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล หรือคู่ศัตรู

2.เรื่องของดาวพุธ พุธเป็นดาวเจรจา เป็นดาวรอมชอมทางด้านสันติวิธี เป็นดาวอลุ้มอล่วย ฯลฯ ดังนั้นคำถามที่คุณถามมาก็ตอบได้ดังนี้

* พุธดับ (หมายถึงดาวพุธอยู่ราศีเดียวกับดาวอาทิตย์ องศาใกล้เคียงกัน) ความเป็นตัวเองของพุธก็จะสลายไป เช่น เคยเป็นคนรอมชอมก็จะเฉย ๆ ไม่ยุ่งไม่เกี่ยว เคยเป็นคนที่อลุ้มอล่วยก็ไม่ชะอย่างนั้น เคยเป็นคนช่างเจรจาก็ไม่พูดไม่จาไม่ไกล่เกลี่ยซะอย่างนั้น

* พุธลาภะ อาจจะหมายถึงว่าพูดจาเป็นลาภ (ถ้าแปลตรงตัว) แต่ความหมายของพุธลาภะนั้นต้องดูส่วนประกอบด้วยว่าเป็นลาภะด้วยเรื่องอะไร โดยดูจากราศีที่พุธอยู่เป็นราศีธาตุอะไร เป็นภูมิอะไร ก็นำเอาความหมายนั้นเข้ามาเป็นส่วนขยาย ส่วนพุธวินาศน์ก็คือพุธที่พูดแล้วมีแต่เรื่องเสียหาย หรือเป็นพุธที่อยู่เบื้องหลังทำอะไรทำเงียบ ๆ พูดจากับใครก็พูดจาแบบเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ วิธีดูก็เช่นเดียวกับพุธลาภะ

* พุธอยู่ใกล้กับเสาร์เป็นดาวพระเคราะห์คู่ จะมีความหมายถึงว่า เวลาจะพูดจะจาก็จะมีการยกเอาแม่น้ำทั้งห้าขึ้นมาเป็นเหตุเป็นผล มีการยกเหตุการณ์เก่า ๆ เข้ามาเปรียบเทียบให้ได้รู้ หรืออย่างเช่น หากเป็นนักเขียนก็จะเขียนนวนิยายรักเศร้า ๆ ได้ดี ทำให้ผู้อ่านนวนิยายติดตามกันตลอด เพราะใช้สำนวนที่น่าสงสารยิ่งนั้ก ถ้าหากเป็นดาวตำแหน่งที่เสียโดยเฉพาะในขณะเด็กเกิด เด็กผู้ใดที่กำเนิดเกิดมาในขณะที่ดาวพุธถูกดาวเสาร์เบียน (และดาวเสาร์เสียด้วย) จะทำให้เด็กคนนั้นเมื่อโตขึ้นจะเป็นคนพูดช้า หรืออาจจะพูดไม่ได้เลยก็เป็นได้ หรือหากมีดาวเกตุเข้ามาเบียนด้วยก็จะทำให้เป็นคนไฮเปอร์ไปได้เหมือนกัน เป็นต้น

* สำหรับพุธกับราหู ดาวคู่นี้ก็เป็นคู่ศัตรูกันตามตำนานชาติเวร ราหูจะกลัวพุธ (เพราะราหูเป็นอาบัง พุธเป็นสุนัข อาบังปล่อยกู้โดนสุนัขไล่กัด) ในขณะเดียวกัน หากดาวพุธอยู่ร่วมกับราหู แถมมีดาวศุกร์มาร่วมด้วย พร้อมทั้งยังอยู่ในราศีธาตุลม คน ๆ นี้พูดจาลิงหลับบนต้นไม้ได้เลย ครูโหรท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า "นักการเมืองท่านใดมีดาวทั้งสามอยู่ในภพสหัสชะ หรืออยู่ในภพกัมมะ นักการเมืองท่านนั้นตอแหลเก่ง พูดเก่ง พูดจนคนฟังเออออห่อหมกได้ และยังกล่าวว่าพุธ+ราหู จะเป็นคนกล่าวหรือพูดจาตลบแตลง"

คำอธิบายของผมเป็นเพียงการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ซึ่งยังสามารถแปลได้หลายความหมาย ซึ่งนักศึกษาสามารถนำความหมายต่าง ๆ มาผสมผสานให้ออกมาเป็นคำพยากรณ์ที่กลมกลืน ฟังแล้วไม่ติดขัด ที่ผมกล่าวเช่นนี้ก็อยากให้ท่านทั้งหลายได้ใช้สติในการคิด ในการแปลความหมาย ฝึกไว้เผื่ออนาคตจะได้พยากรณ์แบบคนฟัง ฟังเพลินนั่งหลับได้ นั่นแหละคุณจะถึงความเป็นยอดนักพยากรณ์ได้ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 20 กันยายน พ.ศ.2550 09:06น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 12
เรียนอาจารย์กรวิก

ผมเป็นนักศึกษาหัดใหม่ครับ อ่านดวงติด ๆ ขัด ๆ มาก มีคำถามจะถามอาจารย์ดังนี้

1 เวลาที่เราอ่านเรื่องราวทางเรือน โดยอ่านเป็นตามดาวเจ้าเรือน เป็นสองจังหวะ หากดาวเจ้าเรือนนั้น ไปได้ตำแหน่งเกษตร เช่น ลัคนาอยู่พฤษภ ดาว ๖ เป็นเกษตร กุมลัคน์ อย่างนี้เราจะอ่านสองจังหวะอย่างไรครับ

2 ผมยังไม่ค่อยเข้าใจกระแสสัมพันธ์ของดาวมฤตยูกับเกตุ บางอาจารย์ท่านว่าเกตุเล็งกับมฤตยูจะไม่ค่อยดี ในดวงผมมี ๕๙ ภพกัมมะ และมี ๐ เล็ง อย่างนี้จะแปลความหมายอย่างไรครับ

ขอขอบคุณครับ


นพพันธ์ - 20 กันยายน พ.ศ.2550 12:34น. (IP: 125.24.104.146)

ความคิดเห็นที่ 13
เรียนอาจารย์กรวิก

ขอถามดังนี้ครับ

1. ถ้าดาว 5 เป็นเกษตร ( เจ้าเรือนกดุมพะ+ลาภะ ) กุมกับดาว 6 เป็นอุจน์ ( เจ้าเรือนศุภะ+พันธุ์ ) ในราศีมีน และเป็นศูนย์พาหะของลัคน์ ถือว่าดีไหมครับ และจะรวยมากหรือไม่ครับ

2.ถ้า 0 มฤตยูอยู่ในภพศุภะ จะมีความหมายอย่างไรครับ

3.ถ้าดาว 1 เป็นประ เจ้าเรือนปัตนิ กุมลัคน์ในราศีกุม ร่วมกับดาว 4 และยังมีดาวเกตุในภพปัตนิ ในเรื่องของคู่ครองจะมีความหมายอย่างไรครับ และจะเสียหายเรื่องคู่ครองมากไหมครับ และมีโอกาสได้แต่งงานไหมครับ

ขอบคุณมากครับ


j - 20 กันยายน พ.ศ.2550 15:43น. (IP: 124.120.247.190)

ความคิดเห็นที่ 14
ตอบ คุณนพพันธ์

คำถามที่คุณนพพันธ์ฯ ถามมานั้นดีมากเลยครับ นักศึกษาใหม่ ๆ ส่วนใหญ่จะติดขัดปัญหาเช่นเดียวกับคุณ เพราะในหนังสือส่วนใหญ่จะสอนให้อ่านภพสองจังหวะ พอเจอดาวเจ้าเรือนภพเป็นเกษตรก็จะติดทันที ในวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นมิใช่อ่านหนังสือแล้วจะเข้าใจ และเป็นไปตามนั้น หนังสือที่มีวางขายอยู่ทั่วไป เป็นเพียงนำเอาความรู้เบื้องต้นมากล่าวให้ทราบ การจะพยากรณ์ให้ตรง ให้ถูกต้องยังต้องใช้ส่วนประกอบอีกหลาย ๆ อย่าง และที่สำคัญต้องมีครูสอน เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริง และเข้าใจเมื่อมีปัญหาที่ถาม หากคุณนพพันธ์มีเวลาก็หาที่เรียนซึ่งจะเรียนกันในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ โดยให้หาสถานที่เรียนเช่น สมาคมโหราศาสตร์ไทย (ที่วัดใหม่อมตรต) สมาคมโหราศาสตร์ไทยในสังฆราชูปถัมภ์ (ตรงข้ามวัดบวร) หรือสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ (ตรงข้ามวัดสระเกศ เฉลิมไทยเก่า) ทั้งสามสมาคมค่าเล่าเรียนจะถูก ครูโหรที่มาสอนก็จะสอนแบบเป็นวิทยาทานให้ผู้มาเรียนได้เรียนรู้ ส่วนที่อื่น ๆ ที่บอกว่าเรียนเพียง 10 ครั้ง แล้ว สามารถทำนายได้เลยนั้น ใช่ครับ ทายได้เหมือนเช่นที่คุณนพพันธ์ได้สงสัยเท่านั้น เสียเงินเปล่า ๆ ครับ หากแต่ถ้าไปเรียนที่สมาคมตามที่ผมกล่าวแล้ว เสียเงินแล้วยังได้ความรู้ความเข้าใจได้ในเบื้องต้น ส่วนจะไปต่อยอดในภายหลังก็ต้องแล้วแต่ตัวผู้เรียน (ที่ผมกล่าวในเบื้องต้นนี้เพื่อมิให้เสียเงินมากไป ดูว่าเราไปไหวหรือไม่หากไปไม่ไหวก็เปลี่ยนฟิวส์ที่จะเรียน ไปเรียนเลข 7 ตัว หรือไพ่ยิบซี หรือโหงวเฮ้ง หรือลายมือ ซึ่งจะง่ายกว่าและเสียเวลาน้อยกว่า)

ว่ากันถึงปัญหาที่คุณถามดีกว่าครับ

1. ที่คุณนพถามว่า เมื่อลัคนาอยู่ราศีพฤษภ (เป็นราศีของดาวศุกร์) มีดาวศุกร์ (เกษตร) กุมลัคนา แล้วจะอ่านจังหวะสองอย่างไร ที่จริงเมื่อศุกร์กุมลัคนา ตำแหน่งเกษตร คุณนพฯ ก็นำเอาความหมายของศุกร์มาขยายเลย ศุกร์นั้นหมายถึง มีความสุข มีความสะดวกสบาย มีเงินมีทอง เป็นคนอารมณ์ดี ฯลฯ แต่ศุกร์เป็นเจ้าเรือนสองภพคือ ยังเป็นเจ้าเรือนภพอริ (ราศีตุลย์) ด้วย ดังนั้นเรายังต้องเอาความหมายของศุกร์ภพอริมาเจือกับคำพยากรณ์ด้วย ศุกร์อริจะหมายถึง มีปัญหาเรื่องเงินทอง มีปัญหาเรื่องความรัก มีปัญหาเรื่องความสะดวกสบาย จะเห็นว่าศุกร์กุมลัคนามีความหมายเพิ่มขึ้นมาสองส่วนแล้ว ในส่วนที่สามก็ต้องดูว่าศุกร์นั้นมีความหมายทางทักษาเช่นไรก็ต้องนำเอาความหมายนี้มาขยายด้วย เมื่อมาถึงตรงนี้ก็เลี้ยวกลับมาดูอีกว่า มีดาวอะไรเล็งกับดาวศุกร์อยู่บ้าง มีดาวอะไรที่เป็นตรีโกณกับดาวศุกร์บ้าง ก็ต้องนำเอาความหมายของภพที่ดาวนั้นสถิตย์อยู่มาร่วมในการออกคำพยากรณ์ด้วย โดยหลัก ๆ จะมีเพียงเท่านี้ แต่ถ้าใครอยากจะเอาดาวที่เป็นศูนย์พาหะหน้า-ศูนย์พาหะหลัง โยคหน้า-โยคหลัง หรือ จตุโกณ-ภพจอมฟ้า เข้ามาผสมผสานด้วยก็ไม่ว่า แต่ต้องดูว่ามันจะเยิ่นเย้อจนความหมายผิดเพี้ยนไปหรือไม่ ตรงนี้ต้องใช้วิจารณญาณของนักพยากรณ์เองเป็นหลัก

2. ในข้อนี้ถ้าจะตอบก็ตอบยากพอสมควร จริง ๆ แล้วอยากจะให้ยึดถือเป็นเบื้องต้นตามคำกลอนที่คุณและผู้ศึกษาได้ทราบมาที่ว่า "......................อายุทายเกตุ ภัยอาเภททายมฤตยู" แต่มีแต่อีกแล้ว แต่ให้ถือว่า เมื่อไรก็ตามที่ดาวมฤตยู หรือ เกตุ อยู่ในภพใด หากภพนั้นเสีย (เป็นทุสถานภพ หรือ ดาวกาลีมาร่วมด้วย) ดาวทั้งสองจะเบียนทันที (เบียนในที่นี้หมายถึง กระทืบซ้ำ ต้องขอโทษด้วยที่ใช้คำ ๆ นี้ เพราะจะได้เข้าใจไม่ต้องไปแปลอีก) แต่หากดาวเจ้าเรือนภพที่เกตุ มฤตยู ไปอยู่นั้นมีตำแหน่ง ดาวไม่เสีย ดาวทั้งสองก็จะให้คุณ ในกรณีที่คุณถามว่ามีดาวเกตุและ พฤหัสฯในภพกัมมะ และถูกมฤตยูเล็ง ซึ่งมฤตยูอยู่ในภพพันธุ (ตรงนี้จะหมายถึงตำแหน่งหน้าที่ได้ เพราะพันธุมีหลายความหมาย) แสดงถึงว่าตำแหน่งหน้าที่การงานจะมีปัญหา (ในกรณ๊ดาวเจ้าเรือนนั้นไปตกทุสถานภพ)

ผมคงจบเพียงเท่านี้ เพราะถ้าจะอธิบายให้ละเอียดคงไม่มีเวลา ต้องขออภัยด้วย สวัสดีครับ

ตอบ คุณ j

ที่คุณjถามมานั้น เท่ากับเป็นการถามดวงตัวเองเลยทั้งหมด เพียงยกมาเป็นเคส ๆ ผมคงไม่ตอบนะครับ เพราะหากตอบเกี่ยวกับดาวเพียงที่กล่าว หลักของครูโหรนั้นระบุไว้ว่า "หากมีคำถามเช่นนี้ไม่ควรจะตอบ เพราะเราไม่เห็นดาวทั้งหมดในดวงชะตา หากตอบไปแล้วพลาดพลั้งไปจะทำให้เจ้าชะตามีปัญหาได้" หวังว่าคุณ j คงเข้าใจนะครับ


การเวก(กรวิก) - 21 กันยายน พ.ศ.2550 09:30น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 15
ขอขอบคุณในคำแนะนำดี ๆ คงตัดสินใจเข้าเรียนกับอาจารย์โหร แล้วล่ะครับ

ขอบคุณในคำตอบทำให้เข้าใจมากขึ้นครับ

ผมดูจากกระทู้แรกของอาจารย์ ตั้งแต่ 14 jul 2004 จนถึงปัจจุบัน (21 sep 2007) ก็ 3 ปีกว่าแล้ว นับถือในความอดทน ตั้งมั่น พากเพียรของอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง ขอสิ่งดี ๆ ที่อาจารย์ได้ทำ ส่งผลให้อาจารย์ประสบแต่สิ่งดี ๆ ด้วยครับ

มีปัญหาอีกผมจะมาถามอีก


นพพันธ์ - 21 กันยายน พ.ศ.2550 12:58น. (IP: 125.25.221.196)

ความคิดเห็นที่ 16
เรียนอาจารย์กรวิก หนูขอรบกวนให้อาจารย์ช่วยดูดวงให้ด้วยค่ะ ตอนนี้มาเรียนอยู่ต่างประเทศค่ะ ชีวิตเปลี่ยนแปลงบ่อย วางแผนอะไรมากไม่ได้เพราะมีเหตุเปลี่ยนแปลงเสมอ เรื่องคู่ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่เคยลงตัวเลยค่ะ อยากทราบว่าจะมีโอกาสได้ลงเอยกับคนที่เรารักรึปล่าวคะ หนูเกิดวัน1 เมษายน 2521 เวลา 19.30 น.ที่จังหวัดตราดค่ะ มีแฟนเก่าที่ยังติดต่อกันอยู่ เกิดวันที่ 16 มกราคม 2511 ไม่ทราบเวลาเกิด เป็นชาวต่างชาติ หนูรักเค้ามากตอนนี้เค้าก็ติดต่อมาอยากคืนดีด้วย แต่ถ้าหนูเลือกเค้าก็ต้องไม่ได้กลับมาอยู่เมืองไทย ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ เพราะทางเมืองไทยก็มีธุรกิจของครอบครัวที่ต้องกลับมารับผิดชอบทำต่อค่ะ ไม่ทราบหนูจะตัดสินใจอย่างไรดีคะ ขอให้อาจารย์ช่วยกรุณาแนะนำและดูดวงเรื่องงานกับเรื่องเงินให้หนูคร่าวๆด้วยได้มั๊ยคะ ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ


เอรี่ - 24 กันยายน พ.ศ.2550 21:05น. (IP: 79.74.9.154)

ความคิดเห็นที่ 17
ตอบ คุณเอรี่

คงต้องรบกวนคุณเอรี่ฯ โพสต์ถามท่านอาจารย์รวิฯ จะดีกว่านะครับ ต้องขออภัยด้วยครับ


การเวก(กรวิก) - 26 กันยายน พ.ศ.2550 10:00น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณค่ะอาจารย์กรวิก อาจารย์รวิกรุณาตอบให้แล้วค่ะ


เอรี่ - 27 กันยายน พ.ศ.2550 03:00น. (IP: 79.74.41.165)

ความคิดเห็นที่ 19
เรียนถามอาจารย์กรวิก ดังนี้ครับ

ผมเกิด วันจันทร์ ที่ 10 มีนาคม 2523 เวลา 9.50 น.

1.บางตำราอยู่ราศีกุมภ์ บางตำราอยู่ราศีเมษครับไม่ทราบจะเชื่อ ตำราไหนดี

2.ช่วงนี้ชีวิตรู้สึกจะติดๆขัดๆ ไปๆมาๆ ตลอด ไม่ทราบว่าชีวิตจะเป็นปึกแผ่น เป็นหลักเป็นฐานตอนอายุ เท่าไหร่ครับ

3.ดวงผมมีเกณฑ์แต่งงานมั๊ยครับแล้วจะแต่งเมื่อไหร่ครับอาจารย์

ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าครับ


ชนม์สวัสดิ์ - 1 ตุลาคม พ.ศ.2550 22:40น. (IP: 124.121.100.224)

ความคิดเห็นที่ 20
ตอบ คุณชนม์สวัสดิ์

ลัคนาคุณอยู่ราศีเมษครับ สำหรับคำถามเรื่องเกี่ยวกับดวงชะตาชีวิต คงต้องรบกวนโพสต์ถามท่านอาจารย์ รวิ ด้วยครับ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 2 ตุลาคม พ.ศ.2550 11:15น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 21
ขอบคุณครับ


ชนม์สวัสดิ์ - 2 ตุลาคม พ.ศ.2550 14:46น. (IP: 222.123.0.93)

ความคิดเห็นที่ 22


เคยมีดวงที่ไม่สามารถอ่านได้ไหม และเป็นเพราะ

ถึงอ่านไม่ได้ ตัวเองกำลังเรียนโหราศาสตร์ด้วย

แต่อ่านดวงคนอื่นได้ตามที่เรียนมาค่อนข้างถูกต้อง

ตามที่ผู้ดูบอกแต่ในยหลักเดียวกันนี้อ่านดวงดัวเองไม่

ได้เลยเรื่องที่ควรจะเป็นตามหลักสถิติที่เรียนมาว่าดาว

อย่างนี้ ภพอย่างนี้ ตำแน่งนี้จะมีจะเป็นไม่ใช่เลย แล้ว

อะไรจะเป็นตัวกำหนดตัวเราหรือดาว จะเรียกว่าอะไร

ที่ทำไมดวงไม่เป็นตามดาวเลยละ


ส. - 2 ตุลาคม พ.ศ.2550 15:35น. (IP: 58.8.143.98)

ความคิดเห็นที่ 23
ตอบ คุณ ส.

ตามที่ คุณ ส.ฯ ถามคำถามมา ผมอ่านหลายรอบก็ยังไม่เข้าใจ แต่ลองจับใจความในคำถามแล้วคิดว่า สิ่งที่ คุณ ส.ฯ ถามมาคงจะเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาวในราศีที่ คุณ ส.ฯ ได้เรียนได้รู้มาว่า ดาวพระเคราะห์หากอยู่ในราศีนี้จะเป็นเรื่องนี้ หากอยู่ในราศีนั้นจะเป็นเรื่องนั้น ซึ่งเป็นสถิติที่ผู้สอนได้สั่งสอน คุณ ส.ฯ เอาไว้ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจในคำถามถูกหรือไม่ (หากไม่ถูกต้อง คงต้องรบกวน คุณ ส.ฯ โพสต์เข้ามาบอกด้วยก็แล้วกัน)

เรื่องของการพยากรณ์ คุณ ส.ฯ หรือนักศึกษาใหม่ต้องเข้าใจไว้ว่า ดาวพระเคราะห์ที่อยู่ในแต่ละราศีจะมีความหมายต่างกัน ทำไมถึงได้กล่าวเช่นนี้ เพราะว่า เมื่อเราผูกดวงชะตาขึ้นมาแล้วใน 1 จักราศี จะมี 12 ภพ เริ่มตั้งแต่ ภพตนุ -ภพวินาศน์ ดังที่ครูโหรหลาย ๆ ท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า ภพคือตัวฟ้องบอกเรื่อง ดาวเป็นตัวแสดงเรื่อง เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แล้ว ท่านนักศึกษาใหม่ทั้งหลายก็ต้องเข้าใจอีกอย่างหนึ่งว่า ใน 1 วัน มี 24 ชั่วโมง คนเราเมื่อเกิดมาในเวลาต่างกัน ลัคนาก็จะอยู่ต่างจากกันเช่น คนเกิดในเวลา 06.00 น. ลัคนาจะสถิตย์ในราศีที่ดาวอาทิตย์อาศัยอยู่ เมื่อผ่านพ้นไปจนถึงเวลา 08.01 นาที ลัคนาก็จะขยับไปอยู่ในราศีข้างหน้าของดาวอาทิตย์ อันนี้สมมติว่าใน 2 ชั่วโมง ลัคนาจะเคลื่อนไปครั้งละหนึ่งราศี เมื่อลัคนาขยับไปแต่ละราศี ภพตนุก็จะเริ่มจากราศีที่ลัคนาสถิตอยู่ เช่น สมมติว่าราศีเมษเป็นราศีที่ลัคนาสถิตย์อยู่ ราศีเมษจึงเป็นภพตนุ, แต่พอผ่านพ้นไป 2 ช.ม. ลัคนาเมื่อผูกขึ้นมาใหม่จะอยู่ในราศีพฤษภ ราศีพฤษภจึงเป็นภพตนุ แต่ราศีเมษจะกลายเป็นภพวินาศน์ไปแล้ว มาถึงตรงนี้นักศึกษาใหม่ลองไล่ไปในลักษณะนี้เรื่อย ๆ ไปจนกระทั่งลัคนาสถิตย์ราศีมีน ราศีมีนจะเป็นภพตนุ ราศีเมษจะเป็นภพกดุมภะ นักศึกษาทั้งหลายที่เรียนกันใหม่ ๆ ลองไล่ไปในลักษณะนี้ดู สมมุติว่าลัคนาสถิตย์ราศีเมษ ราศีเมษเป็นภพตนุ ดาวอังคารจะเป็นดาวเจ้าเรือนภพตนุ (แต่ต้องไม่ลืมว่าดาวอังคารเป็นดาวสองราศี ดังนั้น อังคารจะเป็นเจ้าเรือนภพตนุ และ มรณะ) แต่ในที่นี้เราจะให้อังคารเป็นเจ้าเรือนภพตนุ เมื่ออังคารไปอยู่ในราศีพฤษภภพกดุมภะ ก็จะมีความหมายว่า เจ้าชะตาจะสนใจแต่ที่จะหาทรัพย์สิน เงินทอง ต่อไปเราจะสมมุติว่าอังคารไปอยู่ราศีเมถุน ภพสหัสชะ ก็จะแสดงว่าตัวเจ้าชะตาชอบการสังคม ชอบการแข่งขัน ชอบการพูดจาติดต่อ ชอบท่องเที่ยวในระหว่างวันไม่ค้างคืน นักศึกษาลองไล่ไปในลักษณะนี้เรื่อย ๆ โดยถือเอาอังคารเป็นดาวตนุลัคน์เจ้าเรือนภพตนุ ไล่ไปว่า อังคารไปอยู่ราศีพฤษภภพกดุมภะ อังคารไปอยู่ราศีมิถุนภพสหัสชะ อังคารไปอยู่ราศีกรกฎภพพันธุ อังคารไปอยู่ราศีสิงห์ภพปุตตะ อังคารไปอยู่ราศีกันย์ภพอริ ฯลฯ ไล่ไปจนถึงอังคารไปอยู่ในราศีมีนภพวินาศน์ ท่านก็จะรู้ว่า, ตนุไปอยู่กดุมภะชอบหาเงิน, ตนุไปอยู่สหัสชะชอบสังคม ชอบแข่งขัน , ตนุไปอยู่พันธุชอบหรือมีความผูกพันอยู่กับครอบครัว หรือยานพาหนะ, ไล่เช่นนี้เรื่อยไปก็จะมีความหมายต่าง ๆ ในแต่ละภพออกมา มาถึงตรงนี้หวังว่าคุณ ส.ฯ คงเข้าใจเพิ่มขึ้น ส่วนสำคัญจะอยู่ที่ตรงคุณ ส.ฯ สงสัยว่า เมื่อดาวมาอยู่ในราศีนี้ทำไมไม่เกิดเรื่องตามที่ผู้สอนได้สอนเอาไว้ เพราะคุณ ส.ฯ ไปยึดติดในความหมายเฉพาะของดาวที่อยู่ในราศีดังกล่าว คุณ ส.ฯ ควรจะดูด้วยว่า ดาวดังกล่าวเป็นเจ้าเรือนภพอะไร มาอยู่ในภพอะไร ราศีที่ดาวดังกล่าวเข้าไปอยู่นั้นเป็นราศีธาตุอะไร ส่งเสริมหรือขัดแย้งหรือไม่มีพิษมีภัยกับดาวที่คุณต้องการทราบ กอร์ปกับดาวที่อยู่ร่วมราศีเป็นดาวอะไร ส่งเสริมหรือขัดแย้งกันหรือเปล่า เป็นดาวเจ้าเรือนภพอะไร และในภพดังกล่าวมีดาวอะไรที่เล็งอยู่ มีดาวอะไรที่เป็นโยค จตุโกณฑ์ ตรีโกณฑ์ ภพจอมฟ้า แล้วต้องดูอีกด้วยว่า ดาวดังกล่าวเป็นภูมิอะไรทางทักษา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต้องนำมาประกอบด้วย รวมทั้งยังต้องดูด้วยว่า ดาวในจักราศีดังกล่าวเข้าเกณฑ์อะไรบ้าง การดูดวงชะตาในจักราศีต้องดูหลาย ๆ อย่างประกอบกัน การดูเพียงอย่างเดียวแล้วพยากรณ์เลยโอกาสพลาดมีสูง ตรงนี้ผมคงให้เป็นข้อชี้แนะเอาไว้เท่านี้ ลองนำไปปฏิบัติกันดู แล้วคุณจะได้ผ่านแนวความคิดที่ยึดติดเอาไว้ได้

ผมคงจบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 3 ตุลาคม พ.ศ.2550 09:07น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 24
เรียนถามอาจารย์การเวก

ผมอยากทราบถึงน้ำหนักของดาวที่อยู่ในแต่ละตำแหน่งดังนี้ครับ

1. ดวงของคนที่มีดาวอยู่ในตำแหน่งราชาโชค 3 ดวง จะดีกว่ามีดาวเพียง 1ดวงที่อยู่ในตำแหน่งราชาโชคหรือไม่ครับ

2. ดวงที่มีดาวอยู่ในตำแหน่งราชาโชคเป็นจำนวน 3 ดวงและปร1 ดวงจะดีกว่ามีดาวในตำแหน่งราชาโชค1 ดวงและปร0 ดวงหรือไม่ครับ

3. ดาวซึ่งอยู่ในตำแหน่งมหาจักรหรือราชาโชค ถ้าอยู่ในภพอริหรือวินาศ เราจะตีความหมายในเชิงบวกหรือลบครับ

เรียนถามเพียงแค่นี้ครับ


นพดล - 7 ตุลาคม พ.ศ.2550 02:18น. (IP: 124.121.16.20)

ความคิดเห็นที่ 25
ขออนุญาตให้ข้อมูลอาจารย์กรวิกเพิ่มเติมครับ

ดวงที่ต้องการนำมาเปรียบเทียบคือ 3 ดวงนี้ครับ

1. เกิดวันที่ 16 ก.ย. 47 23.30 น. กรุงเทพฯ

ลัคนา สถิตอยู่ในราศีพฤษภ

ดวงเกษตร อาทิตย์(๑) สถิตภพ พันธุ

ดวงปร พฤหัส(๕) สถิตภพ ปุตตะ

ดวงมูลเกษตร อาทิตย์(๑) สถิตภพ พันธุ

ดวงอุจาวิลาศ พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงราชาโชค ศุกร์(๖) สถิตภพ สหัชชะ

ดวงราชาโชค พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงราชาโชค จันทร์(๒) สถิตภพ ปุตตะ

ดวงมหาจักร พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงมหาจักร อังคาร(๓) สถิตภพ ปุตตะ

๗ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี นระ

๖ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี อัมพุช์

๑ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี ปัศวะ

ปทุมเกณฑ์ ศุกร์ เป็น 3 แก่ ลัคน์

พินทุ อังคาร เป็น 5 แก่ ลัคน์

พฤหัส อยู่ร่วม จันทร์

จันทร์ เป็น ตนุเศษ

พุธ (ราศี กันย์) เป็น ตนุเกษตร

จันทร์ เป็น ลาภะเกษตร

2. เกิดวันที่20 ก.ย. 47 12.00 น. กรุงเทพฯ

ลัคนา สถิตอยู่ในราศีพฤศจิก

ดวงปร พฤหัส(๕) สถิตภพ ลาภะ

ดวงนิจจ์ จันทร์(๒) สถิตภพ ตนุ

ดวงอุจาวิลาศ พุธ(๔) สถิตภพ กัมมะ

ดวงราชาโชค ศุกร์(๖) สถิตภพ สุภะ

ดวงราชาโชค พุธ(๔) สถิตภพ กัมมะ

ดวงมหาจักร พุธ(๔) สถิตภพ กัมมะ

ดวงมหาจักร อังคาร(๓) สถิตภพ ลาภะ

๖ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี อัมพุช

๑ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี นระ

๕ เป็นองค์เกณฑ์ในราศี นระ

พฤหัส อยู่ร่วม อาทิตย์

ศุกร์ เป็น ตนุเศษ

จันทร์ (ราศี กรกฎ) เป็น ตนุเกษตร

ศุกร์ เป็น พันธุเกษตร และเป็น ลาภะเกษตร

จันทร์(๒) กุม ลัคนา

3. เกิดวันที่27 ก.ย. 47 23.50 น. กรุงเทพฯ

ลัคนา สถิตอยู่ในราศีมิถุน

ดวงเกษตร พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงปร พฤหัส(๕) สถิตภพ พันธุ

ดวงมูลเกษตร พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงอุจ พุธ(๔) สถิตภพ พันธุ

ดวงราชาโชค ศุกร์(๖) สถิตภพ กฎุมพะ

ดวงมหาจักร อังคาร(๓) สถิตภพ พันธุ

อุดมเกณฑ์ ลัคนา อยู่ราศี นระ มี ๖ เป็น 2 แก่ลัคน์

ปทุมเกณฑ์ พฤหัส เป็น 4 แก่ ลัคน์

พฤหัส อยู่ร่วม อาทิตย์

อังคาร เป็น ตนุเศษ

พุธ (ราศี กันย์) เป็น ตนุเกษตร

อังคาร เป็น สหัชชะเกษตร และเป็น มรณะเกษตร

เสาร์(๗) กุม ลัคนา

ไม่ทราบว่าสามดวงนี้ดวงไหนดีกว่ากันครับ โปรดเรียงลำดับให้ด้วยครับ


นพดล - 7 ตุลาคม พ.ศ.2550 11:18น. (IP: 124.121.25.171)

ความคิดเห็นที่ 26
ตอบ คุณนพดล

คำถามที่คุณถามมาเป็นคำถามที่ค่อนข้างจะดีมากทีเดียว อ่านคำถามแล้วจะเป็นคำถามที่ค้างคาใจสำหรับของนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์รุ่นใหม่ ๆ (สมัยก่อนที่ผมเรียนผมก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน) คำตอบสำหรับคำถามที่คุณถามมาผมคงต้องขออนุญาตตอบกว้าง ๆ แต่จะเน้นให้เป็นกรณี ๆ ไป

1. เรื่องของตำแหน่งดาวราชาโชค ไม่ว่าแต่ละดวงชะตาจะมีกี่ดวงก็ตาม มิใช่ว่ามีดาวที่เป็นราชาโชค 3 ดวง จะดีกว่าดวงที่มีดาวราชาโชคเพียงดวงเดียว ทำไมผมจึงกล่าวเช่นนี้ ผมจะยกตัวอย่างให้ดู สมมติว่าดวงชะตาหนึ่งมีลัคนาอยู่ในราศีตุลย์ มีดาวพฤหัสบดีอยู่ราศีเมษ ดาวอังคารอยู่ในราศีพฤษภ และดาวจันทร์อยู่ในราศีกันย์ จะเห็นว่าดาวทั้ง 3 ดวงต่างก็อยู่ในตำแหน่งราชาโชคทั้งสิ้น พฤหัสเจ้าเรือนภพอริและสหัสชะไปได้ตำแหน่งราชาโชคที่ราศึเมษภพปัตนิ อังคารเจ้าเรือนภพกดุมภะกับปัตนิไปได้ตำแหน่งราชาโชคที่ราศีพฤษภภพมรณะ ส่วนดาวจันทร์เจ้าเรือนภพกัมมะไปได้ตำแหน่งราชาโชคในภพวินาศน์ ดาวทั้งสามดวงนี้ได้ตำแหน่งราชาโชคทั้งสิ้น แต่ภพที่เจ้าตัวไปอยู่นั้นล้วนเป็นทุสถานะภพ ตำแหน่งที่ได้จึงมิได้เป็นคุณกับเจ้าชะตาเลย (ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับคำแปลความหมายของแต่ละท่าน) เอาเป็นว่าเรามาดูดาวพฤหัสกันเจ้าเรือนภพสหัสชะ (ศุภะของโลก) และ เจ้าเรือนภพอริ (วินาศน์ของโลก) มาอยู่ในภพปัตนิ (ภพตนุของโลก) แสดงถึงการสังคมของตัวเจ้าชะตากับเพศตรงข้าม หรือกับคู่ครอง หรือกับผู้ร่วมทุน ทั้ง ๆ ที่ตัวเจ้าชะตาจะระมัดระวังเป็นอย่างมากก็ยังเกิดขึ้นอีก (ราชาโชคหมายถึง สิ่งที่ไม่ต้องซื้อต้องหาก็มาเอง) เห็นไหมครับว่าราชาโชคเยอะแล้วดีหรือไม่ดี ยังมีอีกอย่างหนึ่งคือต้องดูธาตุของดาว กับราศีธาตุที่ดาวไปอยู่ ว่าเป็นธาตุที่ขัดแย้งหรือส่งเสริมกัน หากขัดแย้งก็แย่หน่อย หากส่งเสริมก็ยังพอดีบ้าง (เหมือนกับว่าแม้จะมีปัญหาแต่ก็เป็นปัญหาที่เล็ก ๆ น้อย ๆ) สำหรับดาวดวงอื่น ก็เช่นเดียวกัน ลอง ๆ แปลความหมายในลักษณะเดียวกัน อีกประเด็นหนึ่งคือต้องดูภูมิด้วยว่าดาวดังกล่าวตกภูมิอะไร ถ้าตกภูมิอุตสาหะกับกาลีก็จะแย่ลงไปอีก เห็นไหมละครับว่าดาวราชาโชคมิใช่ว่าดีเสมอไป แม้แต่ดาวที่ได้มาตรฐานอื่น ๆ ก็เช่นกัน จะอยู่ในลักษณะคล้าย ๆ กัน เช่น เกษตรแปลว่ามั่นคง ใครมีอริเป็นเกษตรคงแย่หน่อยคือมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา ใครมีดาวเจ้าเรือนมรณะเป็นเกษตร จะตอบได้ไหมครับว่าดีหรือไม่ดี บางท่านอาจจะบอกว่าไม่ดี บางท่านอาจจะบอกว่าดี ต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลที่จะอธิบายกันออกมา ผมจะยกเหตุผลของดาวมรณะมาให้ดูกัน คนที่มีดาวมรณะเป็นเกษตรนั้นเป็นผลดีต่อเจ้าชะตา ทำให้เจ้าชะตาอายุยืนกว่าบุคคลธรรมดาเสียอีก คุณ ๆ ทั้งหลายอาจจะมีคำถามว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะเจ้าชะตาป่วยอย่างมั่นคง ถูกต้องครับ แต่ต้องไม่ลืมเหตุผลที่จะมาขยายความหมายนี้ว่าทำไมอายุถึงยืนกว่าบุคคลปกติ คนเราเมื่อป่วยไข้ก็จะต้องหาหมออยู่เป็นประจำ ถูกไหมครับ เมื่อหาหมอเป็นประจำ หมอก็จะดูแลสุขภาพให้เรา ทำให้เราต้องดูแลสุขภาพของเราอย่างมั่นคง แม้จะมีอาการเจ็บป่วยแต่ก็รักษาไปตามสภาพ ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บได้ ตรงข้ามกับคนธรรมดาที่ดูมีร่างกายแข็งแรงมิได้แสดงอาการเจ็บป่วยออกมาเลย แต่พอถึงเกณฑ์จะต้องป่วยเผอิญมีดาวเข้ามาร่วมในราศีเดียวกันหลาย ๆ ดวง ดวงถึงฆาตไม่สามารถรักษาได้ต้องตายไปเป็นที่กังขาของคนทั่ว ๆ ไปว่า ร่างกายก็แข็งแรง แต่ทำไมตายง่ายจัง ตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมาให้ดูเพื่อให้คุณได้เข้าใจ อย่าได้ยึดติดว่ามีดาวตำแหน่งมาตรฐานดี ๆ หลายดวงแล้วดวงชะตาก็จะดีกว่าคนที่ไม่มีดาวที่มีตำแหน่งที่ดี หรือมีดาวที่มีตำแหน่งที่ดีเพียง 1-2 ดวง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับภพ กับภูมิ ที่จะต้องนำมาประกอบด้วย แถมยังต้องดูดาวที่มาเล็ง มาเป็นโยค มาเป็นตรีโกณ ประกอบอีกต่างหาก รวมทั้งธาตุของดาว ธาตุของราศี เป็นอย่างไรบ้างครับ ยุ่งเหยิงดีไหมครับ

2. ดาวที่อยู่ในตำแหน่ง มหาจักร ราชาโชค เกษตร อุจจ์ ปร นิจจ์ หรือ ยาจกโชค หรือมหาจุลย์ (สำหรับยาจกโชคหรือมหาจุล ต้องขึ้นอยู่กับนักพยากรณ์ว่าจะนำมาใช้หรือไม่) ความหมายจะดี หรือไม่ดี ต้องขึ้นอยู่กับภาพรวมของดาวต่าง ๆ ในจักราศีด้วย ว่ามีความสัมพันธ์ สอดคล้อง กันอย่างไร (เรื่องความสัมพันธ์ สอดคล้อง มีคำอธิบายกว้าง ๆ อยู่ในข้อ 1 แล้ว) มิใช่ว่าพอเห็นดาวในตำแหน่งดีก็จะแปลดี พอเห็นดาวในตำแหน่งเสียก็จะแปลเสียไปเลย ต้องดูให้รอบคอบก่อน เพราะคนที่มาให้เราดูดวงชะตาให้ส่วนใหญ่จะยึดติดกับคำพยากรณ์ของเรา ดังนั้นหากเราพยากรณ์ดวงชะตาเขาผิดไปก็จะทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันไปจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ เพื่อนผมคนหนึ่งเคยมีใฝอยู่ตรงโคนจมูกด้านซ้ายมือ (ใฝออกทางสีเขียวหยก) เผอิญในช่วงที่กำลังรุ่งได้ไปดูหมอ แล้วหมอก็ทักให้ไปเอาใฝออก ผลปรากฎว่าหลังจากเอาใฝออกแล้วต้องตกอับ เจอกับมรสุมอย่างร้ายแรงเกือบจะต้องฆ่าตัวตาย ต้องเป็นหนี้เป็นสินมาจนถึงปัจจุบันนี้ ต้องหลบหน้าออกจากสังคม ซึ่งปัจจุบันผมเองก็กำลังค่อย ๆ ชี้แนะให้คำปรึกษาแก้ไขกับชีวิตของเขาอยู่ นับว่าดีขึ้นกว่าเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่แต่ก่อนต้องคอยหลบลี้หนีหน้าออกจากสังคม ปัจจุบันก็เข้าสังคมได้ แต่ก่อนไม่กล้าไปสมัครทำงานที่ไหน ปัจจุบันมีงานทำเป็นหลักแหล่ง มีรายได้ที่ดีกว่าเก่า (ชีวิตช่วงตกอับอยากจะกินกุ้ง ต้องไปซื้อหัวกุ้งย่างมาจิ้มพริกน้ำปลากินกับข้าวสวย ปัจจุบันอยากจะกินอะไรก็สามารถซื้อกินได้ ถึงแม้จะไม่เต็มอิ่มนัก แต่ก็ยังกินได้แบบให้หายอยาก อยากจะซื้อเสื้อผ้าสักชุดต้องใช้เวลาเก็บเงินเก็บทองอย่างน้อยก็ 6 เดือน แต่ปัจจุบันใช้เวลาเพียง 2 เดือนก็ทำได้แล้ว) สิ่งที่ผมยกตัวอย่างให้ดูเพื่อเตือนสติพวกเราเหล่านักโหราศาสตร์ทุก ๆ ท่าน ให้สังวรถึงวิชาชีพที่เรากำลังจะทำว่า จะสามารถให้คุณ ให้โทษ แก่ผู้มาให้เราตรวจดวงชะตาได้

3. สำหรับดวงชะตาทั้งสามที่คุณนพดลฯ ได้ถามมาเป็นดวงชะตาของเด็ก ผมคงต้องขอผ่านไม่ตอบนะครับ ให้คุณนพดลฯ นำคำชี้แนะของผมทั้งข้อ 1 และ 2 ไปพิจารณา ผมมีคำเตือนอยู่ข้อหนึ่งที่เป็นกฎของโหราจารย์กล่าวไว้ว่า "ไม่ควรทำนายดวงชะตาของเด็กหรือทารกว่า เด็นคนนั้นดีพึ่งได้ เด็กคนนั้นไม่ดีพึ่งไม่ได้" ที่ครูโหรท่านห้ามไว้เพราะจะเป็นผลร้ายต่อเด็ก เนื่องจากพ่อแม่เด็กพอรู้ว่าเด็กคนไหนพึ่งได้ก็จะส่งเสริมจนสูดกู่ แต่เด็กคนไหนพึ่งไม่ได้ก็จะไม่ดูแลหรือใยดีสักเท่าใด และจะเป็นปมด้อยแก่เด็กไปจนโต ซึ่งจะเป็นการสร้างบาปกรรมแก่เด็กเปล่า ๆ ผมหวังว่าคุณนพดลฯ คงเข้าใจในคำอธิบายของผมนะครับ

ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 8 ตุลาคม พ.ศ.2550 09:05น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 27
ขอขอบคุณอาจารย์มากครับที่ได้อธิบายให้อย่างละเอียด

แท้จริงแล้วผมต้องการศึกษาเพราะหนึ่งในดวงนี้เป็นดวงของลูกสาวผม ซึ่งอาจารย์สองท่านให้ฤกษ์เกิดที่ต่างกันโดยไม่ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ ในตอนนั้นผมรู้สึกสับสนว่าเราควรเลือกฟังใคร และได้ทำการเลือกไปโดยใช้ความรู้สึกมากกว่าความรู้ที่แท้จริงจึงได้แต่รู้สึกผิดในตัวเองและตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะศึกษาเรื่องการพยากรณ์

ผมไม่คาดหวังให้ลูกมาเลี้ยงดูผมยามแก่เฒ่า เพียงแต่ต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก แต่ด้วยคำเตือนของอาจารย์ สะท้อนให้ผมคิดได้ว่าลูกเกิดมาแล้ว เราเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้วยิ่งถ้าได้รู้ว่าฤกษ์ที่เลือกไม่ใช่ฤกษ์ที่ดีที่สุด ยิ่งทำให้ไม่สบายใจ เอาไว้คราวหน้ามีลูกอีกคนค่อยมาคิดใหม่

แต่อยากจะฝากไปยังผู้ที่จำสำเร็จวิชาไปเป็นนักพยากรณ์ในอนาคตว่า ถ้าท่านได้พยากรณ์ฤกษ์เกิดก็ขอให้ทำด้วยความจริงใจ เพราะท่านสามารถกำหนดชะตาชีวิตให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาได้และควรให้เหตุให้ผลถึงฤกษ์ที่ท่านเลือก ว่าทำไมถึงเลือกทำไมถึงไม่เลือกให้พ่อแม่เด็กได้รู้และเลือกเอง อย่ากลัวว่าจะเสียรายได้ ถ้าท่านสามารถทำนายได้แม่นยำจริง อย่างไรเสียผู้ที่มารับคำพยากรณ์ก็จะกลับมาใหม่ รวมถึงแนะนำท่านให้กับเพื่อนๆของเขาอีกด้วย ผมขอฝากไว้เพียงแค่นี้ครับ

ขอขอบคุณอาจารย์การเวกอีกครั้งครับ สวัสดีครับ


นพดล - 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 18:43น. (IP: 203.144.201.92)

ความคิดเห็นที่ 28
เรียน คุณนพดลฯ

ได้เห็นข้อเขียนของคุณนพดลฯ แล้ว ผมเองมีความรู้สึกว่าหลาย ๆ ท่านที่มีลูกโดยได้ไปให้นักพยากรณ์ดูฤกษ์ในการผ่าคลอด อาจจะมีความกระหยิ่มยิ้มย่องว่าได้หาฤกษ์ที่ดีแล้ว จะทำให้บุตรหลานที่ผ่าคลอดออกมาจะได้ดิบได้ดีในอนาคต เลยมีความคิดว่าจะอธิบายบางสิ่งบางอย่างให้ได้เข้าใจกัน ก่อนที่คู่ครองทั้งหลายที่กำลังจะมีบุตรได้คิดไว้แต่เนิ่น ๆ ตามผมมาอ่านข้อคิดที่เป็นความคิดเห็นของผมเองกันเลยนะครับ

1. ปัจจุบันเราจะเห็นว่า ในการเปิดร้านใหม่ เปิดห้างใหม่ ออกรถใหม่ขึ้นบ้านใหม่ บวช สึก แต่งงาน โกณจุก ฯลฯ เวลาผู้ทำการจะกระทำการก็จะไปให้นักพยากรณ์ดูดวงชะตาแล้ววางฤกษ์ให้ ซึ่งฤกษ์ต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นจะต้องเป็นไปตามพื้นดวงชะตาของเจ้าของงาน เช่น การแต่งงาน ในการวางฤกษ์ก็ต้องดูด้วยว่า ฤกษ์ดังกล่าวเหมาะกับดวงชะตาทั้งชาย/หญิงหรือไม่ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะการวางฤกษ์แต่งงานนั้น ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายรวมทั้งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นคนมีชื่อเสียงในสังคม หรือเป็นไปในระดับธรรมดา หรือเป็นข้าราชการ ฤกษ์ที่ให้ก็จะต่างกันไป ทำไมถึงกล่าวว่าการให้ฤกษ์แต่งงานต้องต่างกันไป เป็นเพราะว่า หากตัวบ่าวสาวเป็นคนมีเกียรติมีชื่อเสียงในวงสังคม ผู้ที่จะมางานล้วนแล้วแต่จะเป็นผู้มีเกียรติมีชื่อเสียงและมีฐานะ ฤกษ์ที่วางจะอยู่ในลักษณะที่ดาวจันทร์นั้นอยู่ในฤกษ์บน มหัทธโนฤกษ์ ราชาฤกษ์ หรือเทวีฤกษ์ ซะเป็นส่วนใหญ่ ความสำคัญของฤกษ์ก็จะวางลักหลั่นกันไป ในขณะเดียวกัน การวางฤกษ์เปิดห้างใหญ่ ๆ เช่น ห้างต่างประเทศที่กำลังเปิดกันเกร่ออยู่ในปัจจุบันนี้ ฤกษ์ที่วางก็คงต้องใช้ดาวจันทร์เจ้าฤกษ์อยู่ในฤกษ์ของเทศาตรีฤกษ์ (เพื่อให้คนเข้าคนออกพลุกพล่านขายดิบขายดี) ส่วนการวางฤกษ์ของห้างขายเพชร ขายพลอยซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาสูง ผู้มาซื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีฐานะดี ฤกษ์ที่จะวางนั้นดาวจันทร์จะต้องอยู่ใน มหัทธโนฤกษ์ ราชาฤกษ์ หรือเทวีฤกษ์ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของต้องการในลักษณะใด ผู้วางฤกษ์ก็จะวางฤกษ์ให้ในแนวทางที่ต้องการกล่าวคือ มหัทธโนฤกษ์เป็นฤกษ์ที่คนมีสตางค์เข้ามาซื้อ ซื้อแล้วก็ออกไปหรือกลับไป ราชาฤกษ์ก็จะเป็นผู้มีเกียรติมีชื่อเสียงที่ได้รับการยกย่องเข้ามาซื้อ มาแล้วก็นั่งอยู่นาน ต้องให้เราคอยเอาอกเอาใจเหมือนดังเขาเป็นราชา ไม่เหมือนฤกษ์มหัทธโน เทวีฤกษ์ก็จะอยู่ในลักษณะคล้าย ๆ กับราชาฤกษ์สำหรับผู้ที่จะบวชเรียนฤกษ์บวชนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในสมโณฤกษ์ซะมากกว่า ส่วนฤกษ์สึกก็จะอยู่ใน มหัทธโนฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ ราชาฤกษ์ เทวีฤกษ์ อยู่ใน 4 ฤกษ์นี้ ฤกษ์อื่น ๆ ห้ามโดยเด็ดขาด เป็นต้น

2. เมื่อวางฤกษ์ต่าง ๆ ขึ้นแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดก็จะต้องใช้ภูมิทางทักษาในการอ่านซะเป็นส่วนใหญ่ ทำไมผมจึงกล่าวเช่นนี้ เพราะฤกษ์กำเนิดของมนุษย์นั้นหากเป็นไปทางธรรมชาติ เราก็จะใช้ดวงชะตาในจักราศีเพื่อการพยากรณ์ชีวิตของมนุษย์ผู้นั้น ขึ้นอยู่กับว่าลัคนาอยู่ในตำแหน่งใด ภพต่าง ๆ จะถูกกำหนดขึ้นจากลัคนา แล้วดูไปตามหลักเกณฑ์ ชีวิตของมนุษย์ผู้นั้นก็จะถูกกำหนดขึ้นหรือเรียกกันว่าแผนที่ชีวิต โดยมีตัวตนุลัคน์เป็นตัวแสดงเรื่อง กลับกันเมื่อเราไปให้นักพยากรณ์วางฤกษ์กำเนิดของมนุษย์ กลายเป็นว่ามนุษย์กำหนดให้กับมนุษย์ ดังนั้นชีวิตของมนุษย์ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยน้ำมือของมนุษย์นั้นการจะใช้ดาวในจักราศีพยากรณ์ก็จะผิดเพี้ยนไป เพราะนั่นเป็นฤกษ์ผ่าคลอด มันก็เหมือนกับการวางฤกษ์ในงานต่าง ๆ เพราะการวางฤกษ์ผ่าคลอดนั้นมนุษย์เป็นผู้กำหนดโดยใช้ดาวจันทร์เป็นตัวเจ้าการในการวางฤกษ์ผ่าคลอด ดังนั้นเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็จะเหมือนกับฤกษ์เปิดร้าน ขึ้นห้างใหม่ แต่งงาน บวช สึก เพราะการกำหนดฤกษ์เป็นจุดมุ่งหมายนั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สมควรที่จะใช้ภูมินำภพ มิใช่ใช้ภพนำภูมิ

ความคิดเห็นต่าง ๆ ที่ผมได้แสดงไว้ในข้อ 1 และ ข้อ 2 นั้น เป็นแนวความคิดเห็นของผมเอง มิได้เกี่ยวข้องกับครูโหรผู้ล่วงลับไปแล้ว ถ้าจะเกี่ยวข้องก็จะเกี่ยวข้องกับครูโหรคนแรกที่ได้สอนให้ผมรู้จักวิชานี้ และสอนให้ผมได้ทราบว่า "เราควรจะเปิดใจรับในวิชานี้ รับทั้งแนวทางการสอน รับทั้งแนวทางความคิดเห็น รับทั้งเหตุ รับทั้งผล จากผู้รู้ทุกท่าน อย่าให้อัตตา มาเป็นตัวกำหนดวิชาให้กับตัวเรา ผมหวังว่าข้อคิดเห็นของผมที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเป็นคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ที่กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยทุกท่าน


การเวก(กรวิก) - 11 ตุลาคม พ.ศ.2550 08:12น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 29
เรียน อ.การเวก(กรวิก)

ได้อ่านเรื่อง "พุธดับ" แล้วมีข้อสงสัยครับ คือ

1. หากพุธมีองศาใกล้ อาทิตย์มากถือว่าพุธดับ เช่น พุธ 3องศา และอาทิตย์ 4 องศา แบบนี้พุธดับหรือไม่ครับ เพราะบางตำราว่าหากร่วมนวางค์เดียวกับอาทิตย์ ถึอว่าดับ หากคนละนวางค์ก็ไม่ถือว่าดับ

2. หากพุธร่วมนวางค์เดียวกับอาทิตย์ แต่นวางค์นั้นเป็นวรโคตมนวางค์ แบบนี้พุธจะดับไหมครับ จะให้คุณหรือโทษประการใด

ขออาจารย์ช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ

ขอบคุณครับ


นพพันธ์ - 29 ตุลาคม พ.ศ.2550 08:54น. (IP: 125.25.164.108)

ความคิดเห็นที่ 30
ตอบ คุณนพพันธ์

คำถามที่คุณถามมานั้น หากเป็นนักศึกษาใหม่อาจารย์บางท่านอาจจะยังไม่สอนให้ดูแบบนี้ จะสอนในหลักการก่อน เพื่อให้เข้าใจ มีภูมิความรู้แน่นขึ้น แล้วจึงจะมาไขในเรื่องของรายละเอียดเกี่ยวกับองศา ซึ่งต้องบอกว่าคำถามของคุณดีมากสำหรับนักศึกษาที่มีพื้นอยู่แล้วในเบื้องต้น

เรื่องขององศาของดาวแต่ละดวง มีผลสำหรับดาวที่กระทบกัน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดวงดาวที่มีต่อกัน รายละเอียดตรงนี้ต้องค่อย ๆ ศึกษาสั่งสมประสบการณ์ของแต่ละคน ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร การจะมาอธิบายในทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มีรายละเอียดอยู่มาก วิธีที่ดีที่สุดคือการศึกษาจากดวงชะตาชีวิตของมนุษย์เราเป็นครู

ว่ากันถึงเรื่องที่คุณถามมาคงตอบได้ดังนี้ (ตรงนี้ผมตอบตามความรู้สึกของผมนะครับ อาจจะอิงกับหลักวิชาบ้าง อาจจะอิงกับความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน)

1. เรื่องดาวพุธดับ หากมีองศาใกล้อาทิตย์ ตรงนี้นักศึกษาบางท่านอาจจะสับสนเพราะมีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย อาจารย์แต่ละท่านที่สอนก็จะกำหนดเป็นกฎให้ใช้ ขึ้นอยู่กับนักศึกษาที่เรียนว่าจะยึดหลักของอาจารย์ท่านใด ที่คุณกล่าวเอาไว้ในคำถามที่ถามมานั้นก็ถูกทั้งนั้น หมายถึงว่า เมื่อดาวพุธอยู่ในนวางค์เดียวกันกับอาทิตย์ เพราะในแต่ละนวางค์นั้นมี 3 องศา 20ลิบดา ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ดาวอะไรก็ตามแต่ถ้าอยู่หน้าอาทิตย์ หรือ อยู่หลัง อาทิตย์ ไม่เกิน 3 องศา 20 ลิบดา ดาวนั้นดับ แม้จะเป็นอุจจ์ เป็นเกษตร เป็นราชาโชค เป็นปร เป็นนิจ เป็นมหาจักร ฯลฯ ตำแหน่งมาตรฐานที่มีอยู่ก็จะถูกทอนลงไป แทบจะไม่ให้คุณให้โทษตามตำแหน่งมาตรฐานของดาว ในขณะเดียวกัน เราต้องเข้าใจว่า ใน 1 ราศี มี 3 ตรียาง และใน 1 ตรียางค์ จะมี 3 นวางค์ ซึ่งดาวที่อยู่หน้าหรือหลัง อาทิตย์ จากองศาที่ 3องศา 21 ลิบดา ถึง 10 องศา ก็จะต้องได้รับผลจากอาทิตย์ไปด้วย หมายถึงว่าถ้าดาวจะให้คุณก็ให้คุณไม่เต็มที่ ถ้าจะให้โทษก็ให้โทษไม่เต็มที่เช่นกัน (ตรงนี้อยากจะให้คุณหรือนักศึกษาใหม่ ได้จดสถิติเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนมาขอรับคำพยากรณ์ไว้เพื่อศึกษาด้วย)

2. หากพุธ เป็นวรโคตรฯ อยู่ในตำแหน่งเดียวกับอาทิตย์ ไม่เกิน 3 องศา 20 ลิบดา ความเป็นวรโคตรฯ ของพุธนั้นเป็นเพียงแสดงให้เห็นว่า ดาวพุธนั้นมีตำแหน่งมาตรฐานที่สามารถปกป้องให้กับเจ้าชะตาได้ แต่เผอิญดับ การแสดงอำนาจของพุธก็ดับไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่า คุณก็ไม่ให้ โทษก็ไม่ให้ (ตรงนี้เป็นความคิดเห็นของผมนะครับ เพราะเท่าที่อ่านหนังสือมาก็ไม่เห็นว่าจะมีการกล่าวถึงกฎที่จะยกเว้นในกรณีดังกล่าว หรือครูโหรที่สอนผมมาก็มิได้กล่าวให้ได้ยินเช่นกัน)

คำตอบคงมีเพียงเท่านี้ หากผมมีข้อมูลเพิ่มเติมแล้วจะมากล่าวให้ได้รับรู้ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 30 ตุลาคม พ.ศ.2550 10:35น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 31
ขอขอบคุณท่านอาจารย์อย่างยิ่งที่ให้ความกระจ่าง

เรื่องวรโคตมนวางค์ ผมคงต้องเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันเอง บังเอิญกรณีที่ถามนี้มันเป็นดวงของลูกชายคนเล็กและตอนนี้ก็เพิ่งอายุไม่กี่ขวบ ...รอพิสูจน์กันต่อไป

ไหน ๆ ก็เป็นขอเป็นขาประจำแล้วมีคำถามอีกประการหนึ่งนะครับ (แฮ่ ๆ ...ขี้สงสัย)

เกี่ยวกับเรื่องทักษาวันเกิด และมหาทักษา คืออย่างนี้ครับ

คนที่เกิดวันพุธกลางคืน อาจารย์บางท่านก็บอกว่าเกิดวันราหู บางอาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้ เพราะวันราหูไม่มีจริงและพฤหัสเป็นดาวทรงธรรมไม่ยอมเป็นกาลกิณีหรอก

พิจารณาดูแล้วก็ดูมีเหตุผลเพราะวันราหูก็ไม่มีจริง ๆ แต่ผมก็เห็นในแผ่นหมุนของมหาทักษาเพื่อหาพระเคราะห์เสวยอายุและเสวยแทรกตามอายุของเจ้าชะตา ซึ่งก็มีพระเคราะห์ราหูเสวยอายุด้วย

ความสับสนของผมก็คือ ในมหาทักษามีการนับวันราหู คือเกิดวันพุธกลางคืนถือว่าราหูเสวยอายุและพระเคราะห์อื่น ๆ ก็เสวยแทรกไปตามกำลังถูกต้องไหมครับหรือว่าไม่ใช่ครับ ขณะเดียวกันหากเป็นทักษาคู่ธาตุหรือทักษาวันเกิดเราไม่นับวันราหูอย่างนี้ถูกต้องไหมครับ

ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยไขปัญหาด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ


นพพันธ์ - 30 ตุลาคม พ.ศ.2550 22:53น. (IP: 125.25.178.4)

ความคิดเห็นที่ 32
สวัสดีครับอ. การเวก... วันนี้มีคำถามเล็กน้อยสงสัยครับ ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกับโหราศาสตร์ไทยหรือเปล่าเหมือนกันครับ...

คือได้มีโอกาสดูดวงกับหมอดูคนนึงด้วยตัวเองครับ เค้าดูโดยใช้วิธีแบบโหราศาสตร์ไทยครับ... คือเค้าก็พูดๆไปเรื่อยๆ จนมาตอนจบแกก็ถามผมว่า "เนี่ย ดวงนี้ดีมากเลย แต่ต้องดูให้ดี ว่าไม่มีจุดดำที่ของลับ... ถ้ามีดวงนี้จะกลายเป็นชีวิตมีขึ้นมีลง ไม่มั่นคง"...

ผมเลยถามเค้าครับ ว่าแล้วถ้ามีเนี่ย จะต้องทำยังไง... แกก็บอกว่า ต้องทำพิธีสวดส่ง ทำเองไม่ได้ ถ้าไม่ให้เค้าทำให้ ก็ต้องไปหาคนที่ทำได้ทำให้... แต่ผมไม่เชื่อในเรื่องการทำพิธีอะไรแบบนี้เท่าไหร่ คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะหลอกเอาเงินมากกว่า...

เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีจุดดำที่ของลับจริงๆด้วยครับ แถมมีอยู่ตั้งสี่จุด... เลยมาถึงคำถามครับ... สงสัยว่า

1.เรื่องอะไรแบบนี้ มีอยู่ในโหราศาสตร์ไทยด้วยหรือครับ...

2.ละถ้ามีจริง มันจะร้ายแรงขนาดส่งผลกับตัวเราได้ขนาดที่หมอดูจะทักว่า "สำคัญมากๆ" เลยรึเปล่าครับ...

3.ละถ้าเป็นถึงขนาดนั้นนี่ มันมีวิธีแก้ไขแบบไหน หรือกว่ากับใครที่ไหนได้บ้างครับ...

ขอบคุณล่วงหน้ามากครับ...


จิตตรา - 31 ตุลาคม พ.ศ.2550 15:50น. (IP: 202.176.67.145)

ความคิดเห็นที่ 33
ตอบ คุณนพพันธ์

เรื่องของทักษาตามที่คุณนพพันธ์ฯ ถามมานั้น จะว่าไปแล้วเป็นปัญหาโลกแตกพอสมควรเลยทีเดียว เพราะหลาย ๆ ท่านที่เรียนวิชาโหราศาสตร์มาส่วนใหญ่แล้วก็จะทราบเลา ๆ ว่าคนเกิดวันพุธกลางคืนนั้นใช้ราหูเป็นตัวแทนวันเกิด เมื่อเป็นเช่นนั้นดาวพฤหัสก็จะเป็นกาลีสำหรับคนที่เกิดวันพุธกลางคืน ซึ่งครูโหรท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า พฤหัสฯ เป็นดาวคุณธรรมเป็นกาลีไม่ได้ ตรงนี้ผมคงต้องขอแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งเรื่องของ ทักษา แต่งโดยท่านอาจารย์สำราญ สมุทรวาณิช ท่านได้กล่าวเหตุผลดังที่ คุณนพพันธ์ ว่าไว้ คือ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทย หรือต่างประเทศ คนเราเกิดมาคงต้องเกิดใน 7 วันคือ อาทิตย์(1) จันทร์(2) อังคาร(3) พุธ(4) พฤหัส(5) ศุกร์(6) เสาร์(7) ไม่มีใครเกิดวันที่ 8 กันเลย ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ตรงนี้บางท่านก็ยอมรับ บางท่านก็ไม่ยอมรับ แต่ท่านอาจารย์สำราญ (ถ้ากล่าวชื่อผิด ผมคงต้องขอโทษด้วย) ท่านบอกเอาไว้ว่าที่ถูกนั้นไม่มีวันราหู ในทักษาที่ใช้อยู่นั้นจะเป็นทักษาคู่ธาตุ ซึ่งแยกออกเป็นทักษาวันเกิด กับทักษาครองวัย และในทักษาวันเกิดนั้นที่เล่นกันอยู่ก็จะมีวันราหู (คือคนเกิดวันพุธกลางคืน) ซึ่งหากใช้วันดังกล่าว พฤหัสฯ จะเป็นกาลีวันสำหรับคนเกิดวันพุธกลางคืน ถามกันว่าจะเป็นกาลีกี่ปี ก็คงเป็นแค่ปีเดียวในกรณีที่นับอายุทางทักษาคู่ธาตุ ดังนั้นตรงนี้ท่านที่เล่นทางคนเกิดวันพุธกลางคืน พฤหัสบดีเป็นกาลี คงต้องมาลุ้นเก็บสถิติกัน เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของตนเอง และของวิชาที่ได้ร่ำเรียนกันมา

ส่วนในกรณีทักษาครองวัย ตรงนี้ท่านอาจารย์สำราญฯ ท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า เป็นการคิดจากปีกำเนิด เมื่อคิดเช่นนี้ก็จะนำมาใช้กับ มหาทักษา (ทักษาครองวัย) โดยใช้ดาวเสวยอายุ กับดาวเสวยแทรก ตรงนี้บางท่านก็อาจจะกล่าวว่า หากใช้ทักษาคู่ธาตุ (โดยใช้วันพุธกลางคืน มีตัวแทนเป็นราหู8) ก็สามารถมาใช้ในระบบทักษาครองวัยได้ ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะในแผ่นหมุนตามที่คุณนพพันธ์กล่าวไว้ ก็มีการกำหนดทักษาครองวัยโดยดาวราหู ซึ่งมีดาวอื่น ๆ แทรกตามระยะเวลาที่กำหนด ตรงนี้ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ผมเองปัจจุบันก็ยังกังขาอยู่บ้างเหมือนกัน และพยายามเก็บสถิติของผู้มาขอรับคำพยากรณ์เอาไว้ดู เพื่อสอบดวงชะตาบุคคลอยู่ว่าตรงตามที่เราใช้ตามกฎเกณฑ์หรือไม่

สิ่งที่ผมกล่าวเอาไว้คร่าว ๆ เบื้องต้น เป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตรงนี้ผมคงต้องขอติดค้างในหลักการที่ควรจะใช้เอาไว้ก่อน ขอเวลาผมสัก 2 อาทิตย์ เพื่อสอบถามจากครูโหรที่ผมนับถือ หากได้รายละเอียดเพิ่มเติมแล้วผมจะนำมากล่าวให้ฟัง สวัสดีครับ

ตอบ คุณจิตราฯ

คำถามที่คุณจิตราฯ ถามมาเป็นคำถามที่ดีมากครับ เพราะปัจจุบันนี้ประชาชนคนไทยเราขาดที่พึ่งพา ส่วนใหญ่ก็หันมาทาง ดูหมอ ดูฮวงจุ้ย ฯลฯ และเมื่อดูแล้วด้วยความไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เวลาผู้ดูกล่าวว่าไม่ดีต้องสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา โดยต้องเสียเงินเท่านั้น เท่านี้ และต้องไปทำที่วัดนั้น วัดนี้ หรือตัวผู้ดูจะเป็นผู้ทำให้ ซึ่งผู้ที่ถูกทักในเบื้องต้นก็จะวิตกกังวล คำนึงถึงคำกล่าวคำพยากรณ์ของนักพยากรณ์ผู้นั้น และก็จะพยายามหาหนทางแก้ไขตามที่นักพยากรณ์ผู้นั้นกล่าว ในเบื้องต้นสิ่งที่ต้องเสียก็คือเสียสตางค์ และเมื่อเสียไปแล้วยังไม่ทราบเลยว่าจะได้ดีหรือพ้นภัยเมื่อไร แต่ที่แน่ ๆ นักพยากรณ์คนนั้นได้เงินไปแล้ว (เป็นเงินค่าพยากรณ์ เงินค่าซื้อของ เงินค่าธรรมเนียมที่เขาควรได้รับ) กล่าวมาถึงตรงนี้คุณจิตราคงเข้าใจนะครับ สำหรับคำถามที่ถามมาคงตอบได้ดังนี้

เรี่องจุด ไฝ ปาน ในใต้ร่มผ้า ถ้าดูตามหลักวิชาโหราศาสตร์นั้นก็มีจุดดูเหมือนกัน เมื่อผูกดวงชะตาขึ้นมาแล้วดูในพื้นดวงชะตาจะมีดวงดาวบ่งบอกเอาไว้ นักพยากรณ์ส่วนใหญ่ก็จะพยากรณ์ในจุดนี้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้มาตรวจดวงชะตา จุด ๆ นั้นจะมีหรือไม่ดวงดาวจะบอกได้ แต่จะดีหรือไม่ ถ้าถามผม ผมก็ให้ความเห็นได้ว่าไม่เกี่ยว เพราะดวงชะตาคุณจะขึ้นหรือลงต้องอยู่ที่พื้นดวงชะตา กับ ทักษาครองวัย ประกอบกัน (ในทักษาครองวัยนั้นดาวพระเคราะห์แต่ละดวงจะมีระยะเวลาครองวัยไม่เท่ากัน รวมทั้งดาวแทรกก็เช่นกัน เมื่อทักษาครองวัยไม่เท่ากัน การขึ้นลงในชีวิตของมนุษย์เราก็จะขึ้นลงตามทักษาครองวัยนี้ว่าจะขึ้นกี่ปี ลงกี่ปี ขึ้นอยู่กับกำลังดาวแต่ละดวง เช่น อาทิตย์ 6 ปี, จันทร์ 15 ปีอังคาร 8 ปี พุธ 17 ปีเสาร์ 10 ปี พฤหัส 19 ปี ราหู 12ปี ดาวศุกร์ 21 ปี ดาวดวงไหนเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ตำแหน่งดีหรือเสียอย่างไร ดวงคนเราจะขึ้นลงตามกำลังดาวนี้ โดยจะมีดาวแทรกเข้ามาว่าแทรกกี่ปี ก็ตามการคำนวณเช่นกัน ซึ่งดาวแทรกนี้ถ้าเป็นดาวที่ดีในภพและภูมิ เจ้าชะตาก็จะเบาหน่อย ถ้าเป็นดาวเสียทั้งภพและภูมิ เจ้าชะตาก็หนักขึ้นอีก เป็นต้น) หากคนเราแก้เคล็ดในสิ่งที่ไม่ดีแล้ว ต่อไปจะได้ในสิ่งที่ดี โลกเราทั้งใบคงไม่มีสงคราม ไม่มีขโมย ไม่ต้องมีตำรวจ ไม่มีคนจน ไม่มีคนรวย เพราะทุกคนแก้ไขในสิ่งไม่ดีแล้วจะดีขึ้นทุกคน จริงไหมครับ ตรงนี้ว่ากันถึงสิ่งที่ถูกต้องและมีเหตุผล ส่วนที่ว่าในปีไหนดาวดวงไหนเป็นกาลี เราก็ใส่บาตรทำบุญด้วยพระประจำดาว โดยถวายให้แก่พระนำไปบูชาในโบสถ์ เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีดีต่อชีวิตของเรา ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อความสบายใจของเราในส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นการแก้ตามหลักวิชา มิใช่ทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ ตรงนี้หวังว่าคุณจิตราคงเข้าใจนะครับ

คำกล่าวของผมเบื้องต้นคงเหมารวมคำถามของคุณทั้งสามข้อเลย แต่ขอยกตัวอย่างให้คุณได้ทราบ ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง มีลูกสาวทำงานในตำแหน่งที่ดี เผอิญมีอยู่วันหนึ่งลูกสาวของเพื่อนผมได้ไปดูหมอกับเพื่อน ๆ โดยรวมกันได้ 5 คน นัดหมอดูมาดู หมอดูผู้นั้นทึกทักเอาว่า เด็กทั้ง 5 คน จะต้องโดนข่มขืน และโดนทำร้าย เมื่อเด็กทั้ง 5 ทราบก็เกิดวิตกจริตขึ้นมา หมอดูผู้นั้นได้กล่าวว่ามีวิธีแก้โดยไปไหว้พระธาตุตามที่แกกำหนดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นแกจะเป็นคนพาไปไหว้แก้เคล็ดเอง โดยนัดไปไหว้ครั้งละคน เมื่อเพื่อนผมทราบจึงโทร.มาปรึกษากับผม ผมได้ตรวจดูดวงให้และได้ให้ข้อคิดไปว่า ดวงชะตาก็มิได้ร้ายอะไร เรื่องข่มขืนคงไม่มี หากมีก็คงจะโดยหมอดูผู้นั้นข่มขืนเองแหละ และได้แจ้งให้ลูกสาวเพื่อนไปบอกกับเพื่อน ๆ ทุกคนด้วย ปัจจุบันหมอดูผู้นี้ก็ยังเวียนว่ายไปเรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่งอยู่ และกำลังได้รับเวรกรรมตอบสนองเพราะกำลังโดนสุภาพสตรีที่แกหลอกในลักษณะเช่นนี้เปิดเผยพฤติกรรมของแกออกมา พร้อมกับจะจับแกแบบเอาเป็นเอาตายด้วย

ตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมาให้ทราบเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์สำหร้บผู้ที่งมงายกับหมอดูจนเกินเหตุ และหวังว่าคงจะเป็นสิ่งเตือนใจให้กับทุกท่านด้วย สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 09:06น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 34
ขอบคุณมากครับ


นพพันธ์ - 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 10:19น. (IP: 125.25.209.84)

ความคิดเห็นที่ 35
ขอบคุณมากครับอ.การเวก คำตอบชัดเจนดีครับ อ่านจบแล้วเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นเลยครับ...


จิตตรา - 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 11:01น. (IP: 202.176.67.51)

ความคิดเห็นที่ 36
ถึง คุณนพพันธ์

ตามที่ผมได้ติดค้างเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องของทักษา ครูโหร (ผู้เฒ่า) ท่านได้กล่าวสอนไว้ว่า ในการใช้ทักษาคู่ธาตุ มหาทักษา (ทักษาครองวัย) และ ทักษาคู่สมพล ผู้เกิดวันพุธกลางคืนก็ให้ใช้ วันพุธ (4) เพราะในโหรของไทยเราไม่มีวันราหู หรือโหรของต่างประเทศก็ไม่มีวันราหู ซึ่งตัวผมเองก็ใช้เช่นนี้มาตลอด เพียงแต่ในตลาดจะมีนักพยากรณ์บางท่านจะกล่าวถึงคนเกิดวันราหูกันส่วนมาก ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมเมื่อเวลาออกหน้าจอทีวีเขาจึงกล่าวเช่นนั้น ผมเองมีข้อชี้แนะอีกประการหนึ่ง สำหรับการใช้ในการพยากรณ์ กล่าวคือ คนเกิดวันพุธกลางคืน เมื่อเวลาผมใช้วันพุธ แทนวันเกิดแล้ว เวลาจะออกคำพยากรณ์ผมเองก็จะใช้ความหมายของราหูเข้ามาผสมกับความหมายของดาวพุธ 50/50

และสำหรับวันราหู ครูโหรท่านก็กล่าวเอาไว้ว่า จะใช้สำหรับหานามกำเนิด ปีกำเนิด และใช้ในการตั้งชื่อเท่านั้น ส่วนท่านที่เรียนมาทางเลข 7 ตัว หากเกิดวันพุธกลางคืน ถ้าจะลองเล่นดูก็ลองเอา 8-7 =1 แล้วลองตั้งฐานที่ 1 ด้วยเลข 1 ส่วนฐานอื่นก็ตั้งตามที่เรียนมา แล้วลองพยากรณ์ว่าได้ความเช่นไร ตรงกับชีวิตของเจ้าชะตาหรือไม่ (ตรงนี้ลองทำดูนะครับ ได้ผลประการใดก็จดเป็นสถิติเอาไว้)

ตกลงที่ผมติดค้างเอาไว้ก็จบแล้วนะครับ สวัสดีครับ


การเวก(กรวิก) - 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 10:09น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 37
ขอบคุณมากครับ

ผมจะทดลองใช้ตามที่อาจารย์แนะนำ


นพพันธ์ - 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 08:32น. (IP: 125.25.175.64)

ความคิดเห็นที่ 38
สวัสดีครับ อ.การเวก

คือพอดีผมเพิ่งหัดเรียนรู้การเรียนโหราศาสตร์

พอมาผูกดวงตัวเอง ดูพื้นดวงตัวเองคร่าวๆแล้วเห็นแล้วท้อ

จริงๆอยากจะพยายามฝึกฝนให้ยิ่งขึ้นไปอีกแต่อยากให้อ.การเวกช่วยชี้แนะให้ทีครับ

ผมเกิด วันอาทิตย์ 11 ธันวาคม 2520 เวลา 13.22 น. ชลบุรี มะเส็ง

ผูกดวงได้

ลัคน์อยู่มีน

ที่ท้อคือ พบพิณทุบาทว์ 3 อันเลยคับ

คือ 3 เป็น 5 แก่ลัคน์ เป็นตนุเศษด้วย

8 เป็น 7 แก่ลัคน์

4 เป็น 9 แก่ลัคน์

และ เรือนทุสถานภพ มีแต่ดาวร้ายทั้งนั้นเลยครับ

เสาร์-อริ

มฤตยู-มรณะ

เกตุ-วินาศน์

ข้อดีคือ 5 เป็น 4 แก่ลัคน์เป็นปทุมเกณฑ์แต่เป็นประและอุจจาวิลาส

ตกลง 5 ที่อยู่เมถุน เป็นประและอุจจาวิลาส ตกลงอำนาจอันไหน

เยอะกว่ากันหรอครับ ประคือไม่ต่อเนื่อง อุจจาวิลาสคือกำลังจะรุ่งเรือง

ความหมายจะตีความได้ดั่งนี้หรือเปล่าครับว่า ต้องใช้เวลาเป็นระยะๆจึงจะรุ่งเรือง

อยากถามคร่าวๆดังนี้ครับ

1.อยากรู้ว่าดวงจะเอาดีได้หรือไม่ครับ เพราะมีจุดร้ายๆเยอะเหลือเกิน

2.อยากรู้ว่าในดวงมีข้อดีอะไรบ้างหรอครับ เช่น 5 เป็น 4 แก่ลัคน์

ตอนนี้ก็ลุ่มๆดอนๆ แต่ยังพอมีทางไปที่ดีอยู่ครับ แต่เจออุปสรรคที่เกี่ยวกับ

อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิด ของตัวเอง ที่เป็นตัวปัญหาทำให้ชีวิตผกผันในทางไม่ดี

พอมาเจอเสาร์-อริ มฤตยู-มรณะ เกตุ-วินาศน์ ก็เริ่มตะหงิดๆใจแล้ว

จับผลัดจับผลู เริ่มมาสนใจเรื่องโหราศาสตร์ พอดีผมเริ่มฝึกหัดดูโดยหาอ่านผ่านเว็บ

เลยมาลองๆดูพื้นดวงตัวเองก่อน เห็นจุดร้ายเยอะ เลยนึกแล้วก็ท้อ

แต่ก็อยากจะพยายามฝึกเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราว

ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลาครับ แต่คิดว่าถ้าเราฝึกฝนอ่านดวงไม่ขาด แม้เป็นดวงชะตา

ตนเองถ้าเราดูผิดๆ เราก็๋จะจำผิดๆไป ก็จะพยายามฝึกฝนต่อไปครับ

แต่อยากให้ อ.การเวกชี้แนะดวงผมนิดนึงว่า จะพอเอาดีกะเขาได้หรือไม่(เป็นกำลังใจ)

เคยอ่านเขาบอกว่าพิณทุบาทว์แม้ว่าไม่ดี แต่ต้องดูเรือน ดูตำแหน่งดาวด้วยว่าดีไหม

แต่ผมเล่นพิณทุบาทว์ 3 อันเลย แถมดาวก็มี 3 ดวง คือ 5 เป็นประ 6 เป็นประ 3 เป็น นิจ

ดาวก็ไม่ค่อยมีคุณภาพ ยังไงผมจะฝึกฝนต่อไปครับ


ลักษณ์ - 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 05:39น. (IP: 117.47.36.188)

ความคิดเห็นที่ 39
ตอบ คุณลักษณ์

ผมเองก็มิได้ตอบคำถามในลักษณะนี้มานานพอสมควร เนื่องจากไม่ค่อยจะมีเวลามากนัก และการอธิบายบางครั้งจะทำให้ผู้ศึกษาใหม่นำไปยึดติดต่อคำพยากรณ์ เผอิญดวงคุณเองก็เป็นดวงที่น่าสนใจพอสมควร เหมาะที่จะนำมาเป็น case ศึกษาสำหรับนักศึกษาใหม่ทั่ว ๆ ไปด้วย ตามผมมาก็แล้วกัน (หากอธิบายผิดไปหรือสับสนไปต้องขออภัยไว้ด้วย)

ตามพื้นดวงชะตาคุณ ลัคน์อยู่ราศีมีน ดาวทุกดวงจะอยู่ในตำแหน่งที่คุณกล่าวถึง เว้นดาวพุธ ให้อยู่ในราศีธนู ภพกัมมะ เบื้องต้นให้ดูในภพที่ 1 4 7 10 ก่อนว่ามีดาวอยู่ในจักราศีดังกล่าวหรือไม่ หากมีครบแสดงถึงว่าชีวิตของคุณไม่อับเฉาหรือ จะตกอับอย่างไรยังมีดาวที่คอยสนับสนุนอยู่ (คนที่ไม่มีดาวในภพที่ 1 4 7 10 จะแย่หน่อย ชีวิตต้องเหนื่อยพอสมควร หรือมีดาวในภพใดภพหนึ่ง หรือสองภพ หรือสามภพ ก็ลดหลั่นกันไป)

ลัคนาอยู่ราศีมีน มีพฤหัสเป็นสี่ต่อลัคน์ เข้าเกณฑ์อัมพุเกณฑ์ และปทุมเกณฑ์ (ดวงคนหอม) ขณะเดียวกัน พฤหัสอยู่ในราศีเมถุน (ตำแหน่งประ และอุจจาวิลาศ) อันพฤหัสตำแหน่งประในราศีนี้ ครูโหรท่านกล่าวเอาไว้ว่า พฤหัสฯดวงนี้ไม่ถือว่าเป็นประ เพราะกำลังจะเป็นอุจจ์อยู่ และในตำแหน่งอุจจาวิลาศนี้ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งคล้าย ๆ กับดาวราชาโชคในตัว (ตรงนี้ในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านได้กล่าวเอาไว้) ในขณะเดียวกันในหนังสือตำราของโหรกรุงพาราณสีได้กล่าวเอาไว้ในตำแหน่งของดาวที่เป็นเกณฑ์ต่าง ๆ ว่า พฤหัสฯ ราศีเมถุน มักจะเป็นคนอวดรู้ เก่งไปหมด (แต่เป็นการรู้คร่าว ๆ เท่านั้น เรื่องการรู้ลึก ๆ นั้นไม่เท่าไร แต่เวลาอยู่ในสังคมคนหมู่มากที่กำลังคุยกันอยู่ เจ้าชะตามักจะอวดรู้ว่าตนเองรู้อย่างโน้น รู้อย่างนี้) มาถึงตรงจุดนี้คุณอาจจะมีคำถามว่าทำไมถึงว่าพฤหัสฯ ดวงนี้อวดรู้ ลองดูว่าในราศีเมถุนเป็นภพสหัสชะของโลก การกล่าวว่าพฤหัสอวดรู้จึงไม่ผิดนัก เพราะสหัสชะจะมีความหมายถึง สังคม หรือการพูดจา พฤหัสเป็นประ คือรู้ไม่หมด แต่ชอบคุยโม้โอ้อวด แถมในภูมิทักษาพฤหัสฯ เป็นภูมิอุตสาหะ มีความขยันในทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไร หรือทางภูมิทักษาอุตสาหะสามารถหมายถึงหน้าที่การงานได้ พฤหัสฯ ที่ได้ตำแหน่งปทุมเกณฑ์ และ อัมพุเกณฑ์ คุณดูได้จากคำอธิบายเกี่ยวกับเกณฑ์ดังกล่าว ก็เอาความหมายนั้นมาผสมในการพยากรณ์ หรือไม่ก็ให้สังเกตุดูว่าในภพที่สี่นั้นเกี่ยวกับครอบครัว ในขณะเดียวกันเป็นภพสหัสชะของโลก เกณฑ์ดังกล่าวจึงหมายถึงว่าตัวคุณเองจะมีฐานะหรือความเป็นอยู่ดีกว่าบุพการีหรือญาตพี่น้อง

ส่วนอังคารที่เป็นห้า และเป็นนิจจ์นั้นอังคารอยู่ในภพปุตตะ (หมายถึง อารมณ์ สังคม การพูดจา สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ฯลฯ) ตรงนี้ก็ต้องดูว่า อังคารนั้นมาจากภพอะไร อังคารมาจากภพ กดุมภะ - ศุภะ ภูมิทางทักษาเป็นเดช (หมายถึงการงาน อำนาจ หน้าที่ ตำแหน่งงาน ฯลฯ) ในภพกดุมภะ-ศุภะ ทางจักราศี ทางโลกจะเป็นภพ ตนุ - มรณะ แสดงถึงว่าในสังคม การพูดการจาของคุณ ส่วนใหญ่มักจะเป็นการพูดจาที่ไม่เพราะ เอาแต่อารมณ์ (ตามที่คุณได้บอกเอาไว้) ทีนี้มาดูว่าอังคารนั้นเป็นอังคารในราศีไหน (วิธีดูง่าย ๆ ก็คือ ดูในราศีที่อังคารเป็นเจ้าราศี ในราศีเมษไม่มีดาว ในราศีพิจิกมีดาวอยู่ แสดงถึงว่า อังคารดวงนี้เป็นอังคารที่มาจากราศีพิจิก 70% มาจากราศีเมษ 30% ความหมายที่จะออกคำพยากรณ์หากออกคำพยากรณ์เกี่ยวกับราศีใดก็ให้น้ำหนักตาม % ที่กล่าวไว้ ทีนี้เราก็มาดูว่าอังคารดวงนี้ที่เป็นอารมณ์ที่เสียจะเกี่ยวกับเรื่องของอะไร อังคารอาศัยเรือนจันทร์อยู่ ไปดูที่จันทร์อยู่ในราศีธนู ร่วมพุธ (ตำแหน่งประ) ดาวจันทร์+พุธ เป็นคู่มิตร เทียบเท่าราชาโชค ทางภูมิทักษา จันทร์เป็นภูมิอายุ พุธเป็นศรี จึงเกี่ยวกับฐานะความเป็นอยู่ของคุณ ที่เกี่ยวกับการงาน เกี่ยวกับผู้ใหญ่ (อังคารภพศุภะ) ซึ่งผู้ใหญ่นี้อาจจะหมายถึง ผู้ใหญ่ที่เป็นชาย หรือบิดาของคุณเองด้วยก็ได้ หรือผู้มีอิทธิพลก็ได้ ดังนั้นอังคารตัวนี้ที่เกี่ยวกับเรื่องของอารมณ์ของคุณจะเกี่ยวพันกับเรื่องงาน เกี่ยวพันกับหน้าที่การงาน เกี่ยวพันกับความเป็นอยู่ เกี่ยวพันเกี่ยวกับเงินทองที่สะสมไว้ เกี่ยวพันกับรายได้ ฯลฯ ซึ่งจะว่าไปแล้วตัวคุณเองต้องปรับปรุงตัวในเรื่องของการพูดการจา อย่าจริงจังกับการงานมากจนเกินไป คนเราอาจจะผิดพลาดกันได้ ต้องรู้จักการให้อภัย ต้องรู้ว่าในสังคมควรใช้การพูดการจาเช่นไร เพราะแต่ละสังคมนั้นไม่เหมือนกัน สังคมคนมีเกียรติ สังคมคนงาน สังคมคนทำงานระดับกลาง เป็นต้น แถมอังคารยังถูกทุราทุระโยคจากเสา (หาอ่านได้จากหนังสือเคล็ดลับการพยากรณ์ เขียนโดย ท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ได้อธิบายเกี่ยวกับทุราทุระโยคเอาไว้พอสมควร) ดังนั้นผลกระทบจากเสาร์คือ ลาภะ (รายได้) มูละ (ทรัพย์สิน) จึงเป็นการตอกย้ำตัวคุณเองว่า อารมณ์จะเสีย ไม่ดี หาก รายได้ หรือทรัพย์สินที่คาดหวังเอาไว้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการของคุณ

ว่ากันถึงราหูที่เล็งลัคน์ ราหูเล็งลัคน์ถือเป็นพิณทุบาทย์ ก็ต้องดูกันว่าราหูนั้นเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ราหูเป็นเจ้าเรือนภพวินาศน์ลัคน์ ทางภูมิทักษาคือมนตรี แถมถูกทุราทุระโยคจากเสาร์ด้วย กอร์ปกับมีมฤตยูบีบ เหมือนโดนที่คีบถ่านคีบเอา (ราหูอยู่ตรงกลาง มีเสาร์กับมฤตยูคีบอยู่ข้าง ๆ) ความหมายของราหูดวงนี้ก็ต้องดูด้วยว่า ราหูเป็นภพลาภะของโลก มาอยู่ในภพปัตนิลัคน์ (ภพอริของโลก) แสดงถึงว่าราหูเล็งลัคน์ดวงนี้เป็นจุดเสียในเรื่องของความรักที่มีแต่ความลุ่มหลง ลุ่มหลงในอะไร ลุ่มหลงในเรื่องของการเสี่ยง (ดูเสาร์อยู่ในภพปุตตะ เสาร์เป็นภูมิมูละ อยู่เรือนบริวาร) แสวงหารายได้ คุณอาจจะถามว่าทำไมเกี่ยวกับรายได้ด้วยละ ลองหันไปดูดาวพุธปรากฎว่าดาวพุธอยู่ราศีธนูเป็นประร่วมดาวจันทร์คู่มิตร จึงกล่าวได้ว่าการเสี่ยงในการแสวงหารายได้ การแสวงหาความสุขส่วนตัวรวมไปด้วย (จันทร์-พุธ อยู่ภพกัมมะ ถือว่าเป็ฯกรรม แถมภพดังกล่าวเป็นภพศุภะของโลก หมายถึงความสุข ความสำเร็จของเจ้าชะตา) มาถึงตรงนี้คงต้องสรุปว่า ราหูตนนี้จะเกี่ยวกับเรื่องของคุณที่ทุ่มเทให้กับคู่ครองหรือคนที่คบกันอย่างลับ ๆ ไม่เปิดเผย เพราะราหูมาจากภพวินาศ แสดงว่าตัวคุณเองมีการจุนเจือให้กับคู่ขาหรือกิ๊กก็ได้ จริงเท็จนี่ผมไม่รู้ ตัวคุณย่อมจะรู้ตัวคุณดี หากจะปรับปรุงตัวคงแนะได้ว่าอย่าได้ลุ่มหลงอะไรง่าย ๆ ก่อนจะทุ่มเทอะไรก็ตาม (ที่เกี่ยวกับเงินทองหรือทรัพย์สินที่เก็บสะสมไว้) ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ถึงผลได้ผลเสียก่อนทำ

ทีนี้มาดูอาทิตย์กับศุกร์ในราศีพิจิก อาทิตย์กับศุกร์ได้คู่สมพล แต่คู่สมพลนั้นมีขอบเขตของมันคือ ถ้าเป็นเรื่องเสียก็ตัวใครตัวมัน ไม่ช่วยเหลือกัน (หมายถึงว่า สมมติในระหว่างดาวอาทิตย์กับศุกร์ ดาวดวงใดดวงหนึ่งเสีย ดวงใดดวงหนึ่งดี ดวงที่ดีจะไม่ช่วยเหลือดวงที่เสีย เว้นเสียแต่ ดีทั้งสองดวง เสียทั้งสองดวง พร้อม ๆ กัน ก็จะสมพลให้ดีสุดโต่ง หรือเสียสุดโต่ง เหมือนกัน) อาทิตย์เป็นเจ้าเรือนภพอริ (จักราศี) เป็นภพปุตตะ (โลก) ศุกร์เป็นเจ้าเรือนภพสหัสชะ (จักราศี) เป็นภพมรณะ (โลก) มาอยู่ในภพศุภะ (ราศีพิจิก เรือนอังคาร) อาทิตย์เป็นบริวาร อังคารเป็นเดช ศุกร์เป็นกาลี แสดงถึงว่าตัวคุณเองอาจจะมีหน้าที่ติดต่อธุรกิจกับชาวต่างประเทศ กับคนต่างถิ่น ที่เกี่ยวกับรายได้ของคุณหรือของบริษัทฯ ซึ่งการติดต่อต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องอารมณ์เสียต่อการเจรจา หรือในขณะเดียวกับอาจจะหมายถึงสังคมของเพื่อนฝูงหรือญาตพี่น้อง ที่ทำให้คุณต้องอารมณ์เสียอยู่บ่อย ๆ ชอบนำเรื่องนั้นเรื่องนี้มาให้ เรื่องนี้จบไป เรื่องใหม่ก็เข้ามา เป็นต้น สิ่งที่จะปรับปรุงในเรื่องนี้ก็คือต้องรู้จักการปล่อยวางลงบ้าง ถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจก็โอเค ดำเนินการไป ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นสาระก็อย่าได้เข้าไปยุ่ง เรื่องของคนอื่นก็ให้คนอื่นแก้ไขเอง เป็นต้น

สำหรับเรื่องที่คุณถามว่าตัวคุณจะเรียนวิชาโหราศาสตร์ได้หรือไม่ โดยรวมแล้วตัวคุณเองก็สนใจในเรื่องสิ่งเร้นลับอยู่แล้ว ที่ผมว่าตัวคุณเองสนใจในเรื่องเร้นลับ โดยดูจาก พฤหัสฯ มฤตยู และ เกตุ ดาวทั้งสามดวงนั้นอยู่ในราศีธาตุเดียวกัน ย่อมถึงกัน ย่อมผูกพันกัน ดังนั้นตัวคุณจึงพิศมัยอยากจะค้นคว้าหาความจริงในศาสตร์ที่ลึกลับ (เรื่องของดาวเกตุและมฤตยู ที่อยู่ในราศีต่าง ๆ สามารถหาอ่านได้ในหนังสือ โหรกรุงพาราณสี เล่มสีชมภู รวบรวมโดยท่านอาจารย์ชัยเมศฯ ไม่ทราบว่าจะยังมีขายอยู่ตามแผงหนังสือหรือไม่ ลองหาตามศูนย์หนังสือต่าง ๆ ดู)

คำอธิบายเกี่ยวกับดาวต่าง ๆ ในพื้นดวงชะตาของคุณก็อธิบายไปหมดแล้ว หากคุณอ่านแล้วยังสับสนอยู่คงต้องอ่านดูหลาย ๆ เที่ยวว่า การพยากรณ์เขาใช้วิธีการอย่างไร ดูอย่างไร ลองดูนะครับ เวลาดูดวงชะตา กับการนำมาเขียนนั้นต่างกันอธิบายลำบากพอสมควร ค่อย ๆ แคะ ค่อย ๆ แกะดูก็แล้วกันนะครับ และต้องขอบคุณที่คุณใช้ดวงชะตาคุณมาให้วิเคราะห์วิจารณ์ สวัสดีครับ

ปล. เผอิญกระทู้นี้ยาวไป ผมคงจะขอเปิดกระทู้ใหม่เป็นกระทู้ที่ 25 ขึ้นมาใหม่นะครับ


การเวก(กรวิก) - 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 09:41น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 40
ขอบคุณอ.การเวกมากครับ ที่ช่วยวิเคราะห์ดวงผม ทำให้เปิดปัญญาผมมากเลย

ผมคงต้องฝึกฝนอีกเยอะอ่ะคับ ในเรื่องคู่สมพล คู่ธาตุ ทักษาต่างๆ

ดวงที่อ.การเวก วิเคราะห์มาค่อนข้างแม่นยำครับ ในงานผมต้องเป็นการติดต่อสื่อสารเจรจาต่างๆ

บางทีลูกน้อง เอาอย่าง เพื่อนร่วมงานเอาอย่าง เจ้านายเอาอย่าง ผมต้องคอยประสานงาน

ดูแลผลงานให้ได้ตามประสิทธิภาพก็เลยค่อนข้างมีปัญหาน่าดู และบางทีผมก็ออกจะ

จริงจังเข้มงวดกับงานมากเกินไปจริงๆ ก็พยายามปรับปรุงตัวเองอยู่อ่ะครับ เรื่องคู่ก็ออกจะเป็นลักษณะ

แบบที่ อ.ได้บอกไว้ล่ะครับ ขอบคุณ อ.การเวกนะครับ ส่วนผมก็จะพยายามฝึกฝนต่อไป

จริงๆอยากไปเรียนที่ กทม.ฯ ที่ในเวบโหราไทยนี้ก็มีการเปิดคอร์สอยู่ เพียงแต่ผมอยู่ต่างจังหวัด

บางเสาร์ อาทิตย์ก็ต้องไปเคลียร์งานที่บริษัท เลยไม่มีเวลาว่างไป คงต้องศึกษาจากตำราไปก่อน

และอาศัยการพูดคุยผ่านเวบแบบอาจารย์นี่แหล่ะครับ ได้เปิดไปดูกะทู้เก่าๆของอาจาย์เห็นอาจารย์

แนะนำ หนังสือ "เคล็ดลับ ทายดาว" ของท่าน อาจารย์ เศก ดุสิต (ศ.ดุสิต) ราคาเล่มละ 125.- บาท

กับ อีกเล่มหนึ่งก็คือของท่านอาจารย์มหาบรรเทา เรียบเรียงโดยท่านอาจารย์ชัยเมศ เชี่ยวเมศ

เรื่อง "เคล็ดลับการพยากรณ์" ถ้าผมเพิ่งหัดเรียนรู้โหราศาสตร์ผมเริ่มหัดเรียน หัดอ่านจากหนังสือ

ที่อาจารย์แนะนำไปก่อนได้ใช่ไหมครับ ผมจะได้มาหาซื้อไปอ่านและถ้ามีจังหวะเวลาจริงๆ

ก็คงหาเวลามาเรียนที่ กทม เป็นเรื่องเป็นราวเลย ยังไงถ้ามีหนังสือเล่มไหนอีกที่อาจารย์จะแนะนำ

เกี่ยวกับโหรชั้นอนุบาลอย่างผม อาจารย์ช่วยแนะนำทีนะครับ ผมจะได้ไปหาซื้อมาอ่านฝึกฝน

เป็นขั้นต้นเบสิกไปก่อน ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่ช่วยกรุณา


ลักษณ์ - 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 21:09น. (IP: 117.47.36.188)

ความคิดเห็นที่ 41
คุณลักษณ์ ดูคำตอบในกระทู้ที่ 25 ที่ผมเปิดใหม่นะครับ


การเวก(กรวิก) - 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 08:13น. (IP: 203.144.211.51)

ความคิดเห็นที่ 42
เรียนอาจารย์การเวกครับแวะมารายงานว่า หลังจากใช้สูตร 30/70 ของอาจารย์แล้ว

ผลการตีความเข้าที่เข้าทางมาก ขอบคุณมากๆครับ

วันนี้ขอถามเรื่องพฤหัสครับ

1.

พฤหัสทับอาทิตย์เดิม หรือทับพฤหัส เขาว่าดีมาก

ถ้าอาทิตย์ หรือพฤหัสอยู่ในเรือนที่ดี และเป็นเจ้าเรือนที่ดีน่าจะดีมาก

แต่ถ้าอยู่ในเรือนที่ไม่ดี จะส่งผลต่างอย่างไรครับ คือให้คุณน้อยลง หรือว่าให้โทษแทน

2.

พฤหัสจรมากุมลัคน์ ส่วนใหญ่เขาว่าดี

แต่เห็นมีบางคนพฤหัสกุมลัคน์กลับตายก็มี

มีข้อแตกต่างอะไรที่จะสังเกตแยกกลุ่มคนสองประเภทนี้บ้างครับ

3.

พฤหัสจรมากุมลัคน์ แต่พอดีปีนั้นนับทักษาเป็นกาลกิณี

จะให้ผลอย่างไร

4.

คนลัคนาราศีธนู ถ้าพฤหัสกุมลัคน์ย่อมเป็นเกษตร

แต่ถ้านับทักษาแล้วเป็นกาลกิณี จะต่างกับข้อ 3 อย่างไร

ผมว่าจะอ่านแยกทีละอย่างก่อน คือ อ่านดาว ดูดาวในดวงเดิมกับที่จรมากระทบ

พฤหัสเดิมให้คุณ น่าจะอ่านว่าให้คุณ เดิมอยู่ในภพไม่ดี ว่าจะอ่านว่าให้คุณแบบเจือโทษ (หรือว่าจะอ่านว่าให้โทษดี)

ไปไม่ค่อยเป็นเลยครับ เวลาเจอปัจจัยร่วมหลายๆอย่างพร้อมกันแบบนี้

ขอแสดงความนับถือครับ


มือใหม่ - 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 16:19น. (IP: 124.121.33.141)

ความคิดเห็นที่ 43
ขอบคุณอาจารย์มากครับ พอดีแถวบ้านผมมีห้างฯอยู่ห้างฯนึง มีร้านซีเอ็ดบุ๊คส์ด้วยครับ

เด๋วผมจะจดหนังสือที่อาจารย์แนะนำและผมจะไปถามพนักงานดูครับ แล้วจะเอามาลองศึกษาดู

จะทำตามที่อาจารย์แนะนำครับ ศึกษาเบื้องต้นไปก่อน ผมว่าศาสตร์โหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ

ก็ต้องค่อยๆศึกษาเรียนรู้ไป ยังไงถ้ามีจังหวะโอกาสเวลาเหมาะ ถ้าผมอ่านหนังสือที่อาจารย์แนะนำจน

พอเริ่มเข้าใจแล้ว จะหาโอกาสมาเรียนจริงๆจังๆซักที ยังไงผมก็ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่ช่วยชี้แนะ

แนะนำ ครับ ขออวยพรให้อาจารย์โชคดีมีสุขครับ ขอบคุณครับ


ลักษณ์ - 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 21:33น. (IP: 117.47.28.195)

ความคิดเห็นที่ 44
เผอิญผมไปโพสต์กระทู้ที่ 25 ของอาจารย์แล้วผมโพสต์ไม่ติดครับ

เลยมาโพสต์ที่กระทู้นี้ครับ


ลักษณ์ - 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 21:36น. (IP: 117.47.28.195)

ความคิดเห็นที่ 45
โพสต์ในกระทู้ที่ 25 ไม่ติดเหมือนกันครับ


มือใหม่ฯ - 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 23:50น. (IP: 124.121.31.171)

ความคิดเห็นที่ 46
ตอบ คุณมือใหม่

1. เรื่องดาวจรต้องดาวเดิม ผมอยากจะให้คุณมือใหม่ย้อนกลับไปอ่านในตำนานชาติเวร ทั้ง 12 เรื่อง และจำให้ได้ด้วย ในเนื้อเรื่องของตำนานชาติเวรแต่ละเรื่องจะมีสรุปตอนท้ายว่า หากดาวจรต้องดาวเดิมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น (เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะนำที่ผมได้เก็บไว้เป็นข้อมูลส่วนตัวมาให้อ่าน)

2. เรื่องพฤหัสจรกุมลัคน์ ที่จริงก็เป็นไปตามที่คุณสังเกตุนั่นละครับว่าดี แต่ที่มีเสียคงต้องดูเกี่ยวกับเกณฑ์บังคับด้วย เช่น คนที่มีลัคนาสถิตย์ในราศีปัสวะ พฤหัสฯจะเป็นดาวเกณฑ์ฆาต (ปัสวะชีโว) หรือในขณะเดียวกันดาวพฤหัสฯเป็นดาวเจ้าเรือนภพวินาศ หรืออริ หรือมรณะ แล้วมีดาวเกณฑ์ที่มีความสัมพันธ์ถึง ตรงนี้ถ้าจะอธิบายคงหลายอยู่ เอาไว้เวลาคุณเรียนถึง ครูโหรคงสอนให้ละครับ ส่วนที่คุณถามว่าเมื่อพฤหัสฯทับลัคน์ และในปีนั้นพฤหัสเป็นกาลีจร คำว่ากาลีอย่าเพิ่งแปลความหมายในทางเลวร้ายนัก กาลีตัวนี้จะมีความหมายว่า เหนื่อย ลำบาก ก็ได้ ส่วนจะมีควาหมายใดก็ต้องดูด้วยว่าในปีจรนั้น ราศีที่พฤหัสเป็นเจ้าเรือนเป็นภพอะไร (ภพจร) ก็จะเกิดในเรื่องนั้น ๆ หนักเบาก็คงต้องดูดาวในดวงเดิมด้วยว่าอยู่ในสถานะอะไร และในขณะที่จร มีดาวอะไรสัมพันธ์ถึงบ้าง

3. ข้อ 3 และ ข้อ 4 รวมตอบอยู่ในข้อ 2 แล้ว แต่ผมมีข้อสังเกตุให้ดู บางครั้งการนับอายุจรจะไม่เหมือนกัน เช่นชันษาจรนับอย่างหนึ่ง กาลจักร-ลัคจรนับอย่างหนึ่ง ตรีวัยก็นับอีกอย่างหนึ่งฯลฯ รวมทั้งต้องดูด้วยว่า พื้นชะตา ต้อง กระทิงวัน ดิถีพิฆาต หรือ ดิถีอสูร หรือไม่หรือ เกณฑ์ฆาต เกณฑ์โชคเคราะห์ ซึ่งแต่ละวิธีจะมีวิธีหาและข้อกำหนดต่าง ๆ ตรงนี้เวลาคุณเรียนสูงขึ้นอาจารย์คุณจะเป็นผู้สอน

คำตอบคงมีเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ


การเวก (กรวิก) - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 08:39น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 47
ขอบพระคุณมากครับอาจารย์การเวก

กำลังกลับไปค้นเรื่องตำนานชาติเวรต่อครับ

ส่วนเรื่องชันษาจร กับเรื่อง กาลจักร-ลัคน์จร

ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านในหนังสือของท่านอาจารย์ ศ.ดุสิตที่ซื้อมา เดี่ยวจะกลับไปค้นต่อ

1.สงสัยเพิ่มนิดครับ

เรื่องพฤหัสเป็นเกณฑ์ดาวฆาตของราศีีปัศวะ

ผมลองเขียนแผนผังดูแล้วพบว่าในลัคนาราศีปัศวะมีพฤหัสเป็นเจ้าเรือนทุสถานะ

เช่น เมษ มังกร มีพฤหัสเป็นเจ้าเรือนวินาศน์

และ พฤษ กับสิงห์ มีพฤหัสเป็นเจ้าเรือนมรณะ

เพราะเหตุนี้เมื่อทับลัคน์จึงให้ผลของเรือนที่ตนเป้นเจ้าเรือนด้วย

2 ถ้าอย่างนั้นลัคนาเมษนั้นเป็นราศีปัสสวะ และมีพฤหัสเป็นเจ้าเรือนวินาศน์ ก้ต้องเกณฑ์เดียวกัน

แต่ที่ผมสงสัยก้คือ เมื่อพฤหัสอยู่ในราศีเมษ เป็นราชาโชคแล้วเราจะอ่านอย่างไร สำหรับราศีเมษ

3.ั้งนี้ ฆาตเกณฑ์น่าจะใช้ น้ำหนัก 70/30 เป็นข้อสังเกตได้ ใช่ไหมครับ

4.กรณีน้ำหนักดาว เราสมมุติรลัคนาเมษตั้ง

ถ้าทั้งสองเรือนของพฤหัสมีดาวอยู่ทั้งคู่

เราจะนับอย่างไร จะดูที่ขนาดดาว

หรือจำนวนดาวครับ เช่น มีศุกร์อุจน์อยุ่ 1 ดวงในส่วนที่เป็นเรือนทุสถานะคือเรือนวินาศน์ของพฤหัส

และมี จันทร์กับพุธในเรือนศุภะเรือนพฤหัส


มือใหม่ทักษา - 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 19:26น. (IP: 124.121.31.171)

ความคิดเห็นที่ 48
ตอบ คุณมือใหม่ทักษา

คำถามที่ถามมา คำตอบของผมอาจจะผิดเพี้ยนไปหรืออาจจะไม่เหมือนท่านอื่นก็เป็นได้ แต่ให้ถือเป็นแนวทางการศึกษาไปด้วย คือ

1. เรื่องของเกณฑ์ฆาต ตรงนี้เราคงต้องมาดูเรื่องของเรือนเกณฑ์ก่อนเป็นอันดับแรก ในเรือนเกณฑ์ 1 4 7 10 ก็จะมีเกณฑ์ นระเกณฑ์ อัมพุเกณฑ์กีฎะเกณฑ์ และปัสวะเกณฑ์ ดาวที่เป็นองค์เกณฑ์ก็จะให้คุณตามคุณสมบัติของดาวของภพ เมื่อดาวเป็นฆาตเกณฑ์ ดาวที่จะให้คุณสมบัติของความเป็นฆาตตามดาวตามภพเช่นกัน แต่ในหนังสือของท่านอาจารย์เศกฯ ท่านเปิดเผยถึงราศี ธนู มังกร และกุมภ์ ว่ายังมีดาวบางดวงที่เป็นองค์เกณฑ์อยู่สองสถานะ หากมีองศาในเกณฑ์ที่กำหนด คุณคงหาอ่านได้ ผมเข้าใจว่าคุณมีหนังสืออยู่แล้ว ลองอ่านให้ละเอียดสักนิดในเรื่องของ องค์เกณฑ์ และเกณฑ์ฆาต สำหรับเรื่องเกณฑ์ฆาตนั้นเมื่อใดที่โดนเกณฑ์ฆาตก็คงต้องดูด้วยว่าดาวฆาตนั้นเป็นเจ้าเรือนภพอะไรก็ต้องนำความหมายนั้นมาด้วย แต่ผมอยาวกจะให้ข้อคิดเห็นไว้อยู่อย่างหนึ่งว่า กรณีที่ดาวอยู่ในตำแหน่งของภพ อริ มรณะ วินาศ ภูมิกาลี หรือภูมิศรี การจะแปลความหมายของดาวควรจะดูภาพรวมของจักราศีก่อนว่า พื้นดวงชะตาโดยรวมไปในทางใด มิใช่ว่าพอเห็นเป็นวินาศน์ พอเห็นเป็นอริ พอเห็นเป็นมรณะ พอเห็นเป็นกาลี ฯ ก็จะแปลร้ายไปในทันทีทันใด ต้องดูส่วนประกอบของดาวที่มา เล็ง โยค ตรีโกณฑ์ ด้วย ว่าดาวที่มีเกณฑ์ถึงจะให้คุณหรือให้โทษประกอบ

2. เราก็อ่านตามปกติ เมื่อเป็นเกณฑ์ฆาตที่ไม่ดี สมมุติว่า ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนภพวินาศกับศุภะ ก็คงจะต้องอ่านความหมายถึงให้ระมัดระวังผู้ใหญ่ หรือระมัดระวังเรื่องที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ คำว่า ราชาโชค หมายถึงไม่ต้องซื้อต้องหาก็มาให้อยู่เสมอ ๆ เมื่อราชาโชคมีความหมายในทางดีคือได้มาโดยไม่ต้องออกแรงหรือเรียกร้อง พอแปลเป็นเสียก็ต้องอยู่ในลักษณะเดียวกันคือ โดยตำหนิอยู่เป็นประจำโดยที่มิได้กระทำผิด (ทำนองเดียวกับราชาโชค)

3. ให้น้ำหนักในลักษณะเดียวกันได้ครับ

4. สมมุติว่าในราศีธนูกับราศีมังกรมีดาวอยู่ด้วยกันทั้งสองราศีดังที่คุณกล่าว หากจะให้ตัดสินว่าควรจะเป็นในราศีไหน 70% ราศีไหน 30% คงต้องมาพิจารณากันว่าเขาคนนั้นเกิดในเวลาอะไร เช่น จาก 06.00 น. - 18.00ก็นับจากราศีสิงห์ถึงราศีมังกร หากเกิดในเวลา 18.01 น. -05.59 น. นับจากราศีกุมภ์ - กรกฎ คือแบ่งช่วงระยะเวลากำเนิดระหว่างภาคกลางวันกับภาคกลางคืน นี่แหละครับคือสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ในวิชาโหราศาสตร์ไทย คือ พอจนมุมในจุดหนึ่งก็จะมีมุมมาขยายให้ ดีไหมครับ

ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

ปล. หากมีคำถามใหม่ให้โพสต์ไปที่ กระทู้ที่ 25 นะครับ


การเวก (กรวิก) - 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 09:55น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 49
เสฎฐันติ ระตะนัง โลเก วะนะทิตะวา ปะการะณัง อิมัง เลขะ สะมุทะยัง กะริสะ สามิ ยะถา พะลัง อะหัง

อันว่าข้าอภิวันทิยะ นมัสการแล้ว พุทรเสฎฐัง ซึ่งสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าอนึ่งโสด อะหัง อันว่าช้า อภิวันทิยะ นมัสการแล้วธัมมัง ซึ่งพระปริยัติธรรม แล้วนพโลกอรธรรม จะ อนึ่งโสด อะหัง อันว่าช้า อภิวันทิยะ นมัสการแล้ว คณัง ซึ่งหมู่พระอริยะสงฆ์ อุตตมัง อันอุดม ข้าพเจ้าอาจารย์ อัมฤทธิ์ คำฎีโต (สามิข้างบน กับอาจารย์อัมฤทธิ์ข้างบนนี้คืออะไรเขาเป็นใครคือเขาบอกว่าชนะประกวดเกี่ยวกับโหราศาสตร์ไทย อยากทราบด่วนไม่แน่ใจว่าโดนหลอกไหม แล้วคนที่สวดคาถาข้างบนจะเป็นไง)


nn_mm - 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 11:12น. (IP: 58.9.125.248)

ความคิดเห็นที่ 50
ช่างเขาเถิด อย่าไปสนใจมากนัก เอาไว้ท่านอาจารย์วรกุลฯ ท่านกลับมาแล้วค่อยโพสต์มาถาม

จริง ๆ แล้ว ในหนังสือธรรมะจะมีบทสวดมนต์ไหว้ครูอยู่บทหนึ่ง ลองสวดตามนั้นก็แล้วกัน ส่วนของพวกที่อวดสรรพคุณหากคุณไม่สนใจมันก็จะเงียบไปเองนะครับ


การเวก (กรวิก) - 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 11:22น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 51
เรียนถามอาจารย์การเวก...เพื่อเป็นความรู้ครับ

1)ลัคนาราศีกุมภ์ ดาวเสาร์ราศีกรกฏดาวเสาร์ดวงนี้ดีร้ายต่อพื้นดวงประการใดครับ (เกิดวันพฤหัส)

2)ลัคนาราศีกุมภ์ ดาวอาทิตย์ราศีกรกฏดาวอาทิตย์ดวงนี้ดีร้ายต่อพื้นดวงประการใดครับ (เกิดวันพฤหัส)

ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าครับ


น้องจิรัฎฐ์ - 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 23:52น. (IP: 125.25.173.135)

ความคิดเห็นที่ 52
ตอบ คุณน้องจิรัฎฐ์

ตามที่คุณถามมา ถ้าจะว่ากันเฉพาะดาวก็ต้องดูว่าดาวนั้นเป็นเจ้าของราศีอะไร ภพอะไร ทางภูมิทักษาเป็นเช่นไร ตรงนี้ผมจะอธิบายเฉพาะนะครับ (ที่จริงจะต้องขอดูดาวทั้ง 10 ดวงในจักราศี)

1. เสาร์เป็นเจ้าราศีมังกร และกุมภ์ (ซึ่งราศีกุมภ์นั้นดาวเสาร์ให้ราหูเช่าอยู่ เวลาจะกล่าวเกี่ยวกับนวางค์จะเห็นว่าไม่มีดาวราหูอยู่เลย เพราะราศีนี้เป็นราศีของเสาร์) เมื่อคุณถามเช่นนี้แสดงว่าเป็นเสาร์ราศีมังกร ตามที่คุณบอกราศีมังกรเป็นภพวินาศ ราศีเมถุนเป็นภพอริ เสาร์ทางภูมิทักษาเป็นกาลี สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเรียนเมื่อเห็นกาลีตกอริ ก็จะดีใจว่ากาลีมีปัญหา แต่ที่จริงแล้วต้องดูทุกส่วนประกอบ กาลีอาจจะมิใช่สิ่งไม่ดี กาลีอาจจะหมายถึงความเหนื่อยที่จะต้องเจอะเจอ ความเหนื่อยที่จะต้องได้พบ ภพวินาศน์อาจจะมิใช่ความเสียหาย ภพวินาศน์อาจจะมิได้หมายถึงคำว่าหมดไปสลายไป ภพวินาศน์อาจจะหมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยมิคาดคิด สิ่งทีปกปิดเอาไว้ ฯลฯ เมื่อมาตกภพอริ ซึ่งอาจจะมีความหมายว่า ปัญหา หนี้สิน การดิ้นรน (จะไปทางใดก็ต้องดูดาวดูภพด้วย) ทั้งหลายทั้งปวงยังจะต้องดูด้วยว่า ภพในจักราศีของเจ้าชะตาเป็นภพอะไรของโลก บางครั้งก็ต้องเอาความหมายของภพของโลกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย (เป็นส่วนขยาย ซึ่งมันจะสอดคล้องต้องกัน)

2. ในคำอธิบายข้อ 1. ในข้อ 2. นี้ คุณจิรัฎฐ์ ลองนำความหมายของคำว่า มรณะ (ทางภพ) ทางภูมิเป็นศรี มาผสมผสานกันตามแบบข้อ 1. ก็จะได้ความหมายที่คุณต้องการ ลองฝึกสมองดูนะครับ บอกหมดเดี๋ยวจะนำไปท่องเหมือนนกแก้วนกขุนทอง (ล้อเล่นนะครับ)

หวังว่าคุณจิรัฎฐ์ คงได้รับความกระจ่างบ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ

ปล. ผมเปิดกระทู้ที่ 25 แล้ว เนื่องจากกระทู้นี้ต้องใช้ระยะเวลาในการค้น


การเวก (กรวิก) - 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 09:09น. (IP: 203.152.57.5)

ความคิดเห็นที่ 53
เธ–เน‰เธฒ1เน€เธ›เน‡เธ™เน€เธเธฉเธ•เธฃเธญเธขเธนเนˆเธ เธžเธงเธดเธ™เธฒเธจเธ™เนŒเนเธฅเธฐ8เน€เธ›เน‡เธ™เน€เธเธฉเธ•เธฃเธ เธžเธญเธฐเธฃเธดเนเธ›เธฅเธงเนˆเธฒเธญเธฐเน„เธฃเธ„เธฃเธฑเธš


m - 29 มกราคม พ.ศ.2551 13:05น. (IP: 203.158.118.14)

ความคิดเห็นที่ 54
เกิดวันพุธ04.00(จะเข้าเช้าวันพุธไม่ใช่เข้าเช้าวันพฤหัสฯนะค่ะ)ถือเป็นวันพุธกลางวันหรือกลางคืน ค่ะ


น้ำหลาหวาน - 2 มิถุนายน พ.ศ.2551 10:39น. (IP: 58.10.87.118)