ความคิดเห็นที่ 1อาจารย์การเวกคะขอเรียนถามอาจารย์หน่อยค่ะว่า โดยปกติ คนที่มีดาวเกตุกุมลัคนา และมีดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนปัตนิไปอยู่ภพวินาสน์นี่ มักจะเป็นเกย์ไหมคะ (ดาวศุกร์เป็นอุจจ์)ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2ตอบ คุณชลาตามที่คุณถามมาว่าดาวเกตุกุมลัคนา และมีดาวศุกร์เจ้าเรือนปัตนิ (ตำแหน่งอุจจ์) อยู่ภพวินาศน์ มักจะเป็นเกย์ไหม ตรงนี้คงต้องเตือนไว้ว่าอย่าเพิ่งไปยึดติด เพราะการจะดูว่าคนไหนเป็นเกย์ต้องดูจากส่วนประกอบหลาย ๆ อย่าง ดังเช่นที่คุณถามมาว่าดาวเกตุกุมลัคน์ ตรงนี้ท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านเคยเขียนในหนังสือของท่านว่า คนที่มีดาวเกตุกุมลัคน์ (โดยเฉพาะราศีสิงห์) มักจะเป็นคนมากรัก ถ้าเป็นหญิง............(เป็นคำเขียนที่ไม่เพราะ เกี่ยวกับสุภาพสตรี ต้องไปหาอ่านเอาเอง) ไม่รู้จักอิ่มในรสรัก ถ้าเป็นชายก้อจะเจ้าชู้แบบลูบแผ่นหลังไม่มีหางเป็นเหมาหมด ไม่สนว่าจะมีสามีหรือไม่ถ้ามาติดพันตนเอง สำหรับสิ่งที่คุณถามเมื่อเกตุกุมลัคนราศีเมษ ต้องดูอังคารเจ้าเรือนลัคน์ และดาวตนุเศษด้วย เฉพาะคนที่เกิดราศีเมษก็เป็นคนไม่อยู่นิ่ง ทำอะไรรุกรน ใจร้อน ไม่ย้อท้อ หยิ่ง เมื่อมีเกตุมากุมก็แสดงว่าในสมองนี้จะมีใยแมงมุมซ้อนกันเต็มไปหมด (หมายถึงเป็นคนมีความคิดสับสน หรือมีความคิดหลาย ๆ ชั้น) เลยต้องดูอังคารว่าอยู่ในราศีใด ภพอะไร มีดาวอะไรเป็นเจ้าเรือน ราศีที่อยู่เป็นธาตุอะไร ส่งเสริมกันหรือไม่ ส่วนดาวศุกร์เจ้าเรือนปัตนิและกดุมภะ ไปอยู่ราศีมีนภพวินาศน์ อย่าเพิ่งแปลว่าคน ๆ นี้มีความรักวิปริต การแปลความหมายดาวศุกร์ภพปัตนินั้นมีหลากหลาย เช่น มีคนรักแบบปกปิด มีคนรักแบบไม่ประกาศให้ใครได้รับรู้อยู่กินกันแบบเงียบ ๆ หรือหากแปลความหมายถึงการลงทุนก็จะเป็นการลงทุนแบบลับ ๆ ปกปิด ไม่มีใครทราบ เป็นต้น ส่วนจะดูว่าคน ๆ นี้เป็นเกย์หรือไม่ ต้องดูด้วยว่าคน ๆ นี้เป็นชายหรือหญิง มีดาวที่เบียนอยู่ด้วยหรือไม่ เป็นต้น ตรงนี้หากจะให้ดีถ้าคุณรู้จักคนที่เป็น เกย์ หรือ ตุ๊ด หรือทอม หรือดี้ คุณลองขอวันเดือนปีเกิด เวลาเกิดของคนเหล่านี้มา ผูกดวงชะตาให้ดี ๆ เอาไว้ศึกษา แล้วคุณจะเห็นแจ้งด้วยตนเองผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับตอบคุณนักศึกษาโหร (ในกระทู้ที่ 27)เรื่องอาจารย์ผู้สอนที่ผมเห็นว่าดี สมควรที่จะไปเรียนด้วยก็มีอยู่ด้วยสองท่านคือ 1. ท่านอาจารย์เศก ดุสิต ท่านสอนที่ วัดไตรมิตร (แถว ๆ วงเวียนโอเดียน) ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น - 11.00 น. เฉพาะวันเสาร์จะเป็นนักเรียนใหม่ (สอนมาแล้วประมาณ 1ปี ส่วนวันอาทิตย์จะเป็นนักเรียนเก่าที่มีประสบการณ์มาเรียนกันนะครับ2. ท่านอาจารย์ปริญญาฯ (หมอน้อย) ตรงนี้คุณคงต้องไปเปิดดูในหนังสือที่ท่านแต่ง จะมีเบอร์โทร.อยู่ด้านหลังหนังสือ พร้อมทั้งแผนที่ที่ท่านสอนอยู่ เป็นแฟลตแถวคลองเตยค่าเล่าเรียนของอาจารย์ทั้งสองท่านนี้ไม่แพงเหมือนที่อื่น และแนวทางการสอนก็เป็นไปในแนวเดียวกับท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญลองโทร.คุย หรือเสาะหาตามที่ผมแนะนำก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 3สวัสดีครับ อาจารย์การเวกก็เป็นน้องใหม่ของเว๊บบอร์ดนี้ครับ พอดีเพื่อนแนะนำมา เพราะเห็นว่าผมสนใจ ก็พอดีได้มาพบกระทู้วิทยาทานของอาจารย์ จึงอยากขออนุญาตถามบ้างนะครับ๑. เคยพบคำอธิบายเวลามีดาว ๘ ๙ และ ๐ หรือเรือนวินาสน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ว่ามักจะมีความหมายเกี่ยวกับ ความผันผวน ผันแปร แปรปรวน ไม่ทราบว่าความผันผวน ฯลฯ สำหรับปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ๒. กรณีดาวตนุลัคน์เป็นนิจ แต่มีดาวอุจมากุมลัคน์ กับกรณีดาวตนุลัคน์เป็นอุจ แต่มีนิจมากุมลัคน์ นั้น ลีลาหรือวาสนาชีวิตจะต่างกันอย่างไรครับ สับสนครับ เพราะบางทีก็จะเห็นมีการจับเอาดาวกุมลัคน์มาสรุป แต่บางทีก็เห็นเน้นดาวเจ้าเรือน คือ ตนุลัคน์ เป็นหลัก ๓. พอดีพบดวงชะตาหนึ่ง ดาว ๕ เป็นอุจกุมลัคน์ ดาว ๒ ตนุลัคน์มาอยู่ตุลย์ ผมก็กำลังจะบอกว่าวาสนาดี แต่ดูอีกจังหวะดาว ๖ มาอยู่กันย์เป็นนิจ เลยสับสนครับ อย่างนี้ถือว่าวาสนาดีหรือไม่ครับ แล้วก็มีดาว ๔ (เจ้าเรือนวินาสน์) กุม ๒ ด้วย แต่พอดีเจ้าชะตาเกิดวันเสาร์ทำให้กลายเป็นกาลีกุมตนุลัคน์ด้วยครับ ถ้าผมสรุปจะเป็นว่าเจ้าชะตาจะมีวาสนาขึ้นๆ ลงๆไปตลอด (เห็น ๔ กับ ๖ สลับเรือนด้วย) ไม่ทราบว่าจะถูกไหมครับ๔. กรณีดาวเกตุ (๙) กุมปัตนินี่เมื่อไหร่ควรจะแปลเป็นแก่ หรือ แปลเป็นต่างชาติดีครับ กรณีดวงชะตาในข้อ ๓ นั้น มีดาวปัตนิคือ ๗ กุมดาวเกตุในภพมรณะ และดาวเจ้าเรือนมรณะ (๘) ไปอยู่เมษ อย่างนี้แปลว่ามีคู่ที่มีอายุมากกว่าได้ไหมครับ พอดีเจ้าชะตาเป็นชาย ส่วนตัวผมว่าน่าจะได้แฟนต่างชาติ เพราะผู้ชายทั่วๆ ไป คงไม่ค่อยชอบผู้หญิงอายุมากกว่า หรือว่ากรณีนี้จะไม่ใช้ทั้งสองกรณีข้างต้นเลยครับขอรบกวนอาจารย์ด้วยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 4ตอบ คุณahaผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณได้เรียนวิชาโหราศาสตร์ไทยกับอาจารย์ท่านใด และไม่ทราบพื้นความรู้ของคุณว่าอยู่ในระดับใด เอาเป็นว่าผมจะตอบแบบกลาง ๆ ให้อ่านแล้วเข้าใจในระดับหนึ่งไว้ก่อนก็แล้วกันนะครับ1. คำถามข้อนี้ต้องขอให้แยกออกเป็นสองตอน คือ เรื่องของดาว ๙ และ ดาว0 ดาวสองดวงนี้ขึ้นอยู่กับว่าไปอยู่ในภพใด ภพนั้นดีหรือเสียประการใด หากภพนั้นตำแหน่งดาวดี ดาวสองดวงนี้ก็จะส่งเสริม แต่หากภพนั้นตำแหน่งของดาวไม่ดีดาวสองดวงนี้ก็จะเบียน (ให้โทษทันที) และหากไปอยู่ในภพที่เสีย คือ ภพอริ มรณะ วินาศน์ หรืออยู่ร่วมกับดาวกาลี ดาวสองดวงนี้ก็จะเบียน (ในลักษณะส่งเสริมให้ออกทะเลไปเลยแบบสุด ๆ ก็ได้) ณ ตรงนี้อยากจะให้เข้าใจในลักษณะนี้ไปก่อน ส่วนดาวราหู หรือดาวเจ้าเรือนภพวินาศน์ (ไม่ว่าจะเป็นดาวอะไรก็ตาม จาก 1-8) นั้นต้องดูว่าดาวราหูเป็นเจ้าเรือนภพอะไร เหตุการณ์ที่จะเกิดก็จะเกิดเกี่ยวกับภพนั้น ๆ และราหูไปอยู่ในภพใด ก็จะนำความหมายของราหูที่เป็นเจ้าของภพนั้น ๆ ไปด้วย บวกกับ ความหมายของดาวราหูโดยเฉพาะ (ซึ่งก็จะมีอธิบายไว้ในหนังสือแล้วว่า ดาวราหูมีลักษณะนิสัยเช่นไร) ส่วนดาวเจ้าเรือนภพวินาศน์ไปอยู่ร่วมกับดาวอะไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่า ดาวนั้นมีตำแหน่งอย่างไร ไปอยู่ในราศีธาตุอะไร มีดาวอะไรเป็นเจ้าเรือน เป็นดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่ศัตรู หรือคู่สมพล ดูภาพรวมของภพในจักราศีทั้งหมด ก่อนที่จะออกคำพยากรณ์ ดีหรือร้าย ต้องดูภาพรวมทั้งหมดก่อน2. คำถามข้อนี้ดีมากครับ เพราะนักศึกษาใหม่จะสับสน ไม่ทราบว่าจะออกคำพยากรณ์เช่นไร ตรงนี้ผมอยากจะให้ถือเป็นกฎตายตัวเลยก็ได้ คือ ดาวที่มีตำแหน่ง เกษตร อุจจ์ หากมีดาวเจ้าเรือนภพ อริ มรณะ วินาศน์ ดาวกาลี หรือ ดาวที่เป็ฯนิจจ์ เป็นประ เข้ามากุมร่วมราศีเดียวกัน จะไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับดาวที่มีตำแหน่ง เกษตร (เพราะดาวเกษตรเป็นดาวเจ้าบ้าน บ้านเป็นของเขาเอง ผู้มาอยู่อาศัยไม่สามารถแสดงความเป็นเจ้าของ หรือรังแกเจ้าของบ้านได้ อาจจะสร้างความรำคาญให้บ้างเท่านั้น ให้ลองเปรียบเทียบว่า ถ้าเราไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ ได้แต่สร้างความรำคาญใจให้เจ้าของบ้านไปวัน ๆ ) ส่วนดาวอุจจ์นั้นตำแหน่งใหญ่สุด เรียกได้ว่าเกินมาตรฐาน 100% ไปเสียด้วยซ้ำ ดาวที่มีตำแหน่งอุจจ์เปรียบเสมือนกับเจ้าของบ้านยกให้ดาวดังกล่าวมีอำนาจในบ้านหลังนั้น สามารถทำอะไรก็ได้ (แม้กระทั่งดาวที่มีตำแหน่งอุจจ์ มาอยู่ในบ้านของดาวที่มีตำแหน่งเกษตร ดาวเจ้าบ้านยังไม่กล้าที่จะขับไล่ หรือแสดงอำนาจบาตรใหญ่ข่มกัน จะต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของดาวที่ได้มาตรฐานของตนเอง)3. ข้อนี้ผมอยากจะให้คุณถือคติไว้อย่างว่า ภพเป็นตัวฟ้องบอกเรื่อง ดาวเป็นตัวแสดงเรื่อง ที่ผมให้ถือกฎไว้เช่นนี้ เพื่อมิให้คุณสับสน จะได้ยึดเอาไว้ว่า ภพพันธุ ก็คือพันธุหมายถึง บ้าน ยานพาหนะ ตำแหน่งหน้าที่การงาน ญาต ฯลฯ ส่วนดาวที่เข้ามาอยู่ในภพพันธุมีดาวเจ้าเรือนภพอะไรบ้างที่เข้ามาอยู่ เช่น ดาวจันทร์ตนุลัคน์หมายถึงตัวเจ้าชะตา ดาวพุธเจ้าเรือนภพสหัสชะกับวินาศน์ ก็จะหมายถึงว่าตัวเจ้าชะตา มักจะชอบเที่ยวหรือ พูดจา หรือชอบแข่งขัน (ภพสหัสชะจะหมายถึง การพูดจา การเที่ยว การแข่งขัน เพื่อน หรือพี่น้อง) เผอิญดาวพุธเป็นดาวกาลีมาอยู่เรือนนี้ซึ่งมีดาวศุกร์คู่ธาตุ (ตำแหน่งนิจจ์) สลับเรือนกันอยู่ แถมได้ดาวจันทร์คู่มิตรมาร่วมด้วย เลยเที่ยวกันสนุกไปเลย เมื่อศุกร์เป็นนิจจ์ สลับเรือนกับพุธ แสดงถึงตัวเจ้าชะตาชอบที่จะเที่ยวเตร่แบบปกปิด ไม่ให้ใครรู้ หรือเป็นคนชอบพูดจาลามกใต้เข็มขัดอยู่เป็นประจำโดยที่เพื่อนก็นึกไม่ถึงว่าจะกล้าพูดจาเช่นนี้ เป็นต้น ส่วนความหมายอื่นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการพยากรณ์ออกมาในลักษณะใด แต่ต้องให้สอดคล้องกับดาวที่มีอยู่ทั้งสิบสองภพ4. เรื่องของดาวเกตุที่อยู่ในภพปัตนิ ไม่จำเป็นจะต้องแปลว่าแก่ หรือแปลว่าต่างชาติเสมอไป ควรจะดูดาวเจ้าเรือนก่อนว่ามีตำแหน่งมาตรฐานอะไร ไปอยู่เรือนใคร ดีหรือเสียประการใด ดาวเกตุก็จะส่งเสริมหรือเบียนไปตามสภาพของดาวเจ้าเรือนภพ หากดาวเกตุแปลว่าแก่ เจ้าชะตาต้องมีแฟนแก่เสมอไปหรือ หรือหากดาวเกตุแปลว่าต่างชาติ เจ้าชะตาจะมีแฟนเป็นคนต่างชาติเสมอไปหรือ ต้องดูภาพรวมของดาวในจักราศีทั้งหมด ว่ามีดาวอะไรที่ตรีโกณ จตุโกณ โยค หรือเล็ง ดาวที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวจะมีผลกับดาวที่เราต้องการดูเสมอ ส่วนในกรณีที่ถามว่า กรณีดวงชะตาในข้อ ๓ นั้น มีดาวปัตนิคือ ๗ กุมดาวเกตุในภพมรณะ และดาวเจ้าเรือนมรณะ (๘) ไปอยู่เมษ อย่างนี้แปลว่ามีคู่ที่มีอายุมากกว่าได้ไหมครับ พอดีเจ้าชะตาเป็นชาย ตรงนี้ต้องดูว่าดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ ไปอยู่ภพมรณะ (เสาร์โดยความหมายของมันเองจะหมายถึง ความละเอียด รอบคอบ ยาวนาน ) เมื่อมาอยู่ในภพมรณะก็จะแสดงว่า ตัวเจ้าชะตาจะมีเรื่องที่ต้องเดินทางไปต่างถิ่นต่างแดนเป็นระยะเวลานาน ที่ไปก็เกี่ยวกับเรื่องของงาน ที่ต้องไปจัดการ และต้องใช้เวลาด้วย หากให้คำพยากรณ์เช่นนี้จะดูดีกว่า มาถึงตรงนี้ก็เลยอยากให้ข้อคิดว่า ดาวแต่ละดวงนั้นมีหลายความหมาย หากจะพยากรณ์อะไรก็ตามแต่ ต้องดูว่าความหมายที่จะพยากรณ์สอดคล้องกับดวงชะตาหรือไม่ อย่าได้ยึดติดว่าพอเห็นเสาร์ก็จะหมายถึงแก่ อายุมาก ตรงนี้อยากจะให้ปรับทัศนะคติเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาวเสียใหม่นะครับผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 5สวัสดีครับ อาจารย์การเวกต้องขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงสำหรับคำชี้แนะครับ ก็คงต้องเรียนอาจารย์ตามตรงครับ ว่าผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ศึกษาแบบเรียนรู้ด้วยตนเอง ถ้าว่าตามพื้นฐานก็คิด(เอาเอง)ว่าอยู่ในระดับจบประถมศึกษาแล้วครับ ในแง่ของความรู้เรื่องเกณฑ์มาตรฐานก็ได้เกือบหมดแล้วล่ะครับ เพราะสิ่งเหล่านั้นสามารถหาได้ด้วยการซื้อตำรา ซึ่งผมก็หมดเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่ในแง่การตีความต่างๆ การประยุกต์ความหมายต่างๆ หรือ "เคล็ดลับต่างๆ" นั้น ก็คิดว่าเป็นประสบการณ์เดียวกับทุกคนที่ศึกษาในเส้นทางเดียวกันกับผม คือ ตกอยู่ท่ามกลางความสับสน เนื่องจากกฏเกณฑ์เหล่านั้น เป็นการวางแนวทางกลางๆ และหลายๆ อย่างก็มีความขัดแย้งกันเพิ่งได้ลองย้อนกลับไปอ่านกระทู้เก่าๆ 2-3 กระทู้ของอาจารย์ (กระทู้นี้ก็ลำดับที่ ๒๘ แล้ว เยอะจริงๆ ครับ) ก็พบคำแนะนำที่ได้ให้ไว้บ่อยๆ คือ ควรไปเรียนรู้กับอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งอย่างจริงจัง แต่ผมมักจะมีข้อจำกัดด้านเวลา ที่ไม่มีความสม่ำเสมอเอาเสียเลย ความพยายามหลายครั้งจึงสูญเปล่า เคยมีอาจารย์บางท่านที่ผมได้มีการติดต่อกันเป็นส่วนตัว หลังจากได้เห็นดวงชะตาของผม และทราบว่ามีความสนใจในศาสตร์ด้านนี้ ก็ได้แนะนำให้ผมศึกษากับท่าน แต่ผมก็จำใจต้องบอกปัดความหวังดีที่ท่านได้ให้มาด้วยความเสียดายอย่างที่สุดระหว่างที่ศึกษาด้วยตัวเองอยู่นี้ หลายครั้งก็คิดเหมือนกันว่าวิชาด้านนี้ (คล้ายกับวิชาโบราณหลายอย่าง) นั้น "มีครู" จึงน่าจะต้องไปเรียนกับครูบาอาจารย์ ความไม่ก้าวหน้าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นก็คงจะเป็นเพราะ "ไม่มีครู" คล้ายๆ โบราณจารย์ท่านหวงวิชาน่ะครับ ไม่ครอบครูก็ไม่ให้รู้รอดตลอดฝั่ง อะไรอย่างนั้น แต่ผมก็คิด(เอาเอง)ว่าถึงผมไม่มีครูเป็นกิจจลักษณะ แต่ผมก็ "ขอความรู้" อย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมานะครับ คล้ายๆ ถึงเรียนมหาวิทยาลัยเปิด แต่ก็ลงทะเบียนนะครับ ผมพยายามที่จะไม่ใช้การเรียนแบบ "ครูพักลักจำ" เพราะเวลาครูพักนั้น ผมก็พักด้วยครับ ด้วยเหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ที่ทำให้ความรู้ที่ได้ถึงกระท่อนกระแท่น แต่ถึงอย่างไรผมก็ถือว่าผมเอามาจากวิทยาทานที่ท่านอาจารย์ทั้งหลายเต็มใจเผยแพร่ให้รู้กันโดยทั่วไป หรือบางครั้งก็เต็มใจให้ผมตรงๆ เป็นการส่วนตัว ผมไม่เคยคิดแอบไปรับรู้เคล็ดวิชาอะไรที่ท่านๆ หวงแหนกันครับ เข้าใจว่าท่านเหล่านั้นคงได้มาด้วยความยากลำบาก ผมจึงจะรับเมื่อท่านๆ เต็มใจให้แล้วเท่านั้นอย่างเช่นกระทู้ของอาจารย์ด้วยครับ เข้าใจว่าอาจารย์ก็มีความเต็มใจที่เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่น ซึ่งโดยส่วนตัวผมถือว่าเป็นกุศลที่ดีอย่างยิ่งประการหนึ่งครับอืม แนะนำตัวผ่านทัศนคติมาพอสมควร ขออนุญาตถามอาจารย์เพิ่มเติมด้วยนะครับ๑. ประเด็นที่ถามไปทั้ง 4 ข้อนั้น อันที่จริงก็โยงมาจากความพยายามของผมที่จะประเมิน"วาสนาโดยรวม"ชองเจ้าชะตา ผ่านการดูเจ้าเรือนลัคน์นั่นเองครับ แต่จากคำอธิบายของอาจารย์ก็ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมในแง่มุมที่นึกไม่ถึงด้วยครับ โดยเฉพาะเรื่องการพูดจาของเจ้าชะตาที่อาจารย์ตีความนั้น ตรงเลยครับ (เรื่องการเที่ยว ผมไม่แน่ใจ - เพราะคิดว่าถ้าเที่ยวจริงๆ ก็คง"เที่ยวเตร่แบบปกปิด"ตามที่อาจารย์บอก) ผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่าแง่มุมเพียงเท่านี้สามารถบอกลักษณะด้านนี้ได้ด้วย (เท่าที่ทราบจะมีเพียงคนที่สนิทกับเจ้าชะตาจริงๆ เท่านั้นนะครับที่ทราบ)๒. เข้าใจว่าด้วยตำแหน่งดาวเท่าที่บอก การตีความจากตนุลัคน์และดาวที่สัมพันธ์ถึงเท่าที่บอกไป ก็จะทำได้เพียงที่อาจารย์บอกมาเท่านั้น คือ เจ้าชะตามีนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างไรเท่านั้น ยังตีความ "วาสนาโดยรวม" ของเจ้าชะตาไม่ได้ ถ้ายังไม่ทราบตำแหน่งดาวที่เหลือ ถูกต้องไหมครับ ที่จริงผมก็ตีความนิสัยส่วนตัวของเจ้าชะตาไว้ส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ขอคำชี้แนะ คือ "ตนุ-พันธุ-สหัชชะ" เท่ากับ เจ้าชะตาสนใจการปรับปรุงบ้าน หรือการสร้างฐานะ หลักฐาน ไม่ทราบว่าพอได้ไหมครับ แต่ก็ติดที่การตีความ"วาสนาโดยรวม"อีก ทำให้แปลต่อไม่ได้ว่าทำอย่างนั้นแล้ว จะสร้างบ้านหรือฐานะ ได้สำเร็จหรือไม่ หรือ หลังใหญ่แค่ไหน๓. เรื่องวาสนาขึ้นๆ ลงๆ นั้น คือทีแรกความสับสนของผมก็อยู่ที่ดาว ๕ ที่มากุมลัคน์ (เป็นอุจ แม้เป็นเจ้าเรือน 2 เรือน คือ อริ-ศุภะ แต่เคยได้ยินว่ากรณีพื้นชะตา ให้ใช้ความหมายร้าย-อริ ก่อนความหมายดี-ศุภะ ก็ไม่รู้ว่ามติที่ว่า "ร้ายก่อนดี" นั้น ถูกต้องหรือเปล่านะครับ แต่ใช้แล้วก็ช่วยให้หายงงในขั้นนี้ครับ)แต่เรือนที่ดาว ๒ ไปอยู่นั้นเจ้าเรือนเป็นนิจ ผมก็งงว่าตกลงวาสนาเจ้าชะตานี้สูง(อุจอยู่ในบ้าน)หรือต่ำ(ไปอยู่บ้านที่เจ้าของบ้านเป็นนิจ)กันแน่น่ะครับ เรื่ององคเกณฑ์ผมไม่ใช้เพราะเข้าใจ(เอาเอง)ว่าไม่ใช่"เกณฑ์แท้" (ที่ว่าต้องมีดาวได้อำพุเกณฑ์กับเจ้าเรือนตนุที่ได้องค์อำพุเกณฑ์นี้ด้วย) ส่วนการถามเรื่องความผันผวนนั้นก็เนื่องมาจากเห็นว่าดาว ๘ นั้นเล็งตนุลัคน์ แม้ไม่นับความเป็นเจ้าเรือนมรณะ แต่เท่าที่ทราบดาว ๘ ก็เกี่ยวกับความผันผวน (โดยเฉพาะกับดาวที่มาเล็ง - กับดาวที่มากุม หรือดาวเจ้าเรือนที่ดาว ๘ ไปสถิต ผมถึงจะใช้) ผมเลยนำมาผสมกับการที่ดาว ๔ ซึ่งเป็นเจ้าเรือนวินาศน์(-แปลว่า ความผันแปร ได้ด้วย)มากุมตนุลัคน์ แต่ก็สลับเรือนกับดาว ๖ ซึ่งไปเป็นนิจอีก (ทราบว่าเป็นอนุเกษตรครับ แต่ยังงงอยู่ว่า แปลว่า "มั่นคงขึ้น"-ดีขึ้น หรือ"มั่นคง"-ในสภาพดังกล่าวสลับไปๆ มาๆ - แต่ไม่เกี่ยวกับว่าดีขึ้นหรือไม่) ก็เลยตีความว่าชีวิตเจ้าชะตาโดยรวมน่าจะผันผวน เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะผันผวนจากสูงไปต่ำ หรืออย่างไร๔. สำหรับเรื่องปัตนิยอมรับว่างงจริงๆ ครับ เพราะไม่นึกว่าการมองเจ้าเรือนปัตนินั้นสามารถสะท้อนได้ถึงวิถีชีวิตของเจ้าชะตาได้ด้วย ในกรณีนี้เป็นด้านวิถีชีวิตที่น่าจะกระทบถึงชีวิตครอบครัว (ซึ่งความหมายก็ยังอยู่ในเรื่องปัตนิ) ด้วย ผมนึกไม่ถึงน่ะครับ ตอนที่ดูก็เพียงแต่คิดถึงด้านชีวิตคู่และลักษณะของคู่โดยรวมของเจ้าชะตา ที่จริงเดิมผมยังตีความเพิ่มเติม (แต่ยังไม่ได้บอก เพราะคิดว่าคิดถูกแล้ว) อีกคือมองจากดาว ๗ ไปอยู่เรือนมรณะของดาว ๘ ได้คู่มิตร ก็ว่าชีวิตคู่น่าจะเสียหายเพราะ"มีกิ๊ก"(แปลความสัมพันธ์แบบคู่มิตรว่า"มาก" แปลถูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ขอใช้ศัพท์ใหม่ๆ ซักทีครับ) และเสียหายไปถึงการงานด้วย อืม....ดูจากความรู้ผมน่าจะยังอยู่ในระดับประถมจริงๆ ด้วยนะครับถ้าอาจารย์ไม่ว่าอะไรก็คงขออนุญาตมารบกวนคำชี้แนะอีกนะครับ
ความคิดเห็นที่ 6ตอบ คุณahaได้อ่านคำแนะนำตัวคุณแล้วทึ่งพอสมควร ที่เรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ด้วยตนเองได้ในระดับนี้ ซึ่งถือว่าเก่งพอสมควรเลยทีเดียว ว่ากันถึงเรื่องที่คุณถามมาดีกว่า คำตอบของผมจะเขียนตอบแบบตลาดคือ ให้อ่านง่ายไม่ต้องไปแปลความหมายของคำตอบอีก เริ่มเรื่องเลยดีกว่าครับเดี๋ยวจะไม่มีเวลาตอบ 1. ไม่มีคำถาม เลยไม่มีคำตอบ2. ข้อนี้เห็นคุณคุยถึงเรื่องการดูวาสนาเลยฉุกคิดขึ้นได้ และไม่ทราบว่าเคยเขี่ยนไว้หรือไม่ ในการดูดวงชะตา เบื้องต้นให้ดูที่ภพ 1 4 7 10 เพราะภพทั้งสี่มีความสำคัญต่อเจ้าชะตามาก (ตรงจุดนี้เป็นจุดที่นักพยากรณ์จะให้ความสำคัญ เพราะตำแหน่งทั้งสี่นั้นจะเป็น จตุโกณ-ภพจอมฟ้าต่อกัน จะถึงกัน จะบ่งบอกถึงวาสนาของเจ้าชะตาว่าเจ้าชะตาจะเป็นเช่นไร มีที่พึ่งหรือไม่ เช่น สมมุติเจ้าชะตามีดาวในภพที่ 1 ส่วนภพอื่นไม่มี ก็แสดงว่าเจ้าชะตาพึ่งตนเองเป็นหลัก แม้ไม่มีผู้ส่งเสริมก็สามารถผ่านมรสุมต่าง ๆ ได้ หรือ มีดาวในภพที่ 4 แต่ภพอื่นไม่มีเลย ก็แสดงว่าเจ้าชะตาได้รับการช่วยเหลือหรือผู้ดูแลเอาใจใส่ ส่งเสริม จากญาตพี่น้องในครอบครัว หรือหากเจ้าชะตามีดาวในภพที่ 7 แต่ภพอื่นไม่มีเลย แสดงถึงเจ้าชะตาจะได้รับความช่วยเหลือจากคู่ครอง ในการส่งเสริมเจ้าชะตา และถ้ามีแต่ดาวในภพที่ 10 แต่ในภพอื่นไม่มีดาวเลย ก็แสดงว่าแม้เจ้าชะตาไม่มีผู้ช่วยเหลืออื่น แต่ตัวเจ้าชะตาก็ยังมีงานที่สามารถเลี้ยงชีพตนเองได้ตลอดรอดฝั่ง) ซึ่งหากเจ้าชะตาไม่มีดาวในภพที่ 1 4 7 10 ในเบื้องต้นจะต้องถือว่าแย่ ชีวิตต้องต่อสู้สมบุกสมบันพอสมควรเลยทีเดียว ไม่มีผู้ช่วยเหลือ วาสนาดังนี้ไม่ค่อยดีนักแต่ครูโหรท่านก็ยังบอกทางที่ใช้ดูช่วยอีกส่วนหนึ่งโดยให้ดูที่ ดาวอาทิตย์ (1) หรือดาวจันทร์ (2) เป็นหลักในการช่วย โดยถือดาวอาทิตย์เป็นตนุ หรือดาวจันทร์เป็นตนุ (ในกรณีนี้ถ้าดูที่ดาวอาทิตย์แล้วยังไม่มีดาวที่เป็นภพที่ 1 4 7 10 อีก ยังมีให้ดูที่ดาวจันทร (2) ต่อ แต่ถ้าดูที่ดาวจันทร์แล้วยังไม่มีดาวอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวอยู่อีก วาสนาของคนผู้นี้ต้องถือว่าแย่มาก ๆ เลยทีเดียว ต้องต่อสู้แบบน่าเวทนาพอสมควร เพราะไม่มีผู้ช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว นี่คือสิ่งที่นักพยากรณ์ใช้ดูเป็นหลักก่อนจะออกคำพยากรณ์ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ค่อยมาว่ากันตามดวงชะตา ตามดวงดาวที่อยู่ในจักราศี ตามที่คุณถามมาว่า "ตนุ-พันธุ-สหัสชะ" จะเห็นว่าดาวจันทร์มาอยู่ในราศีตุลย์ร่วมกับดาวพุธ (เจ้าเรือนภพวินาศน์+สหัสชะ) ภพพันธุ แล้วเจ้าเรือนคือดาวศุกร์(เจ้าเรือนภพ พันธุ+ลาภะ) ไปอยู่เรือนสหัสชะตำแหน่งดาวเป็นนิจจ์ ดาวศุกร์กับดาวพุธ เป็นอนุเกษตรแบบสลับเรือน (ตามหลักโหราศาสตร์ จะต้องได้รับความเป็นอนุเกษตรไปก่อน แล้วจึงเป็นเกษตรในภายหลัย) ดาวจันทร์+พุธ ได้คู่มิตรกัน ดาวคู่นี้ถ้าเป็นพระเคราะห์คู่ หากมีความหมายที่ดีก็จะหมายถึง ชอบท่องเที่ยว มีการนัดแนะกันเที่ยวอยู่ตลอดเวลา และในโหราศาสตร์ไทยได้กล่าวไว้ว่า "คู่มิตรเทียบเท่าราชาโชค" เหตุการณ์ที่เกิดแก่เจ้าชะตาจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ตรงนี้หากจะหาตัวเสริมก็ต้องมาดูว่า ภพพันธุของเจ้าชะตานั้นเป็นภพปัตนิของโลก และภพสหัสชะของลัคนาจะเป็นภพอริของโลก ภพลาภะของลัคนาจะเป็นภพกดุมภะของโลก ส่วนภพวินาสน์ของลัคนาจะเป็นภพสหัสชะของโลก ตรงจุดนี้สามารถนำมาขยาย ภพ ตนุ+พันธุ+สหัสชะ ได้ คุณ aha ลองนำไปขยายคำพยากรณ์เองแล้วกันนะครับ3. ข้อนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะดูจากข้อความแล้วแสดงถึงว่าคุณมิได้ให้ความสำคัญของ องค์เกณ เลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะนักโหราศาสตร์ที่พยากรณ์แบบพิศดาร หรือแม่นยำ เบื้องต้นนั้นเขาจะดูพื้นดวงชะตาในจักราศีก่อนว่า มีดาวในภพ 1 4 7 10 หรือไม่ , มีดาวที่เป็นองค์เกณฑ์หรือไม่ , มีดาวที่เป็นอุดมเกณฑ์หรือไม่ , มีดาวที่เป็นอุดมเกณฑ์หรือไม่ , มีดาวที่เป็นมาตรฐานอะไรบ้าง , มีดาวที่เสียอย่างไรบ้าง , มีดาวที่เป็น โยค เล็ง ตรีโกณฑ์ จตุโกณ+ภพจอมฟ้า หรือไม่ แล้วจึงค่อยพยากรณ์ไปตามดาวในจักราศี หากคุณให้ความสนใจตรงนี้ คุณก็จะสามารถพยากรณ์ได้อย่างราบรื่นไม่มีติดขัด (ที่ผมยกกรณีนี้มาให้เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะ องค์เกณฑ์สามารถล้างความเป็นนิจ เป็นประ ของดาวที่เสียได้)4. ข้อนี้เป็นข้อเสียของผู้ที่ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ด้วยตนเอง เพราะไม่มีมุขปาฐะกันในขณะที่มีความสงสัย ผมจึงมักจะเน้นตลอดเวลาว่า อย่างน้อยก็ควรหาครูโหรสักคนมาสอนหรือไปหาที่เรียน (โดยเลือกครูโหรที่ดี ๆ เพราะจะได้รับแต่สิ่งที่ดีดี) เพื่อไขข้อข้องใจเมื่อมีปัญหา เช่นข้อนี้ของคุณเกี่ยวกับเรื่องปัตนิ ภพนี้มีวิธีการดูได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าครูโหรผู้สอนจะรู้มากหรือรู้น้อย หากคุณได้ครูโหรที่รู้มากก็จะสนุกสนานไปกับการดูเรื่องนี้ แต่ถ้าได้ครูโหรที่รู้น้อยก็จะด้อยความสนุกสนานลงไป ผมคงต้องขออนุญาตจบคำตอบไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 7สวัสดีครับ อาจารย์การเวกต้องขอขอบคุณสำหรับคำชี้แนะดีๆ อีกครั้งหนึ่งครับ ได้ความรู้ในการตีความและแปลความหมายที่หาไม่ค่อยได้ตามตำราจริงๆ ครับ ก่อนจะหลบไปทำความเข้าใจการตีความที่อาจารย์ชี้แนะ ขออนุญาตถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎเกณฑ์มาตรฐานเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคำตอบของอาจารย์ดังนี้ครับ๑. ต้องขอถามอาจารย์ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ตกลงเรื่อง องคเกณฑ์, อุดมเกณฑ์ นั้นมีผลจริงๆ ใช่ไหมครับ ที่ต้องถามแบบที่อาจดูเกินไปบ้าง เพราะบางทีผมเคยนำมาใช้ร่วมเพื่อเสริมความหมายด้านบวก ปรากฎว่าเจ้าของดวงชะตาที่เค้าให้ดวงชะตามาฝึกทำนายเค้ามักว่าไม่ค่อยตรง ผมก็เลยค่อนข้างอยากจะ "พัก" กฎเกณฑ์ด้านนั้นไว้ก่อน เน้นจับเกณฑ์มาตรฐานแบบ เกษตร อุจ นิจ ประ ไว้ก่อน เพราะค่อนข้างจะตรงและเห็นได้ชัด นอกจากนั้น ตามความเห็นของอาจารย์ องคเกณฑ์นั้นต้องมีเกณฑ์บังคับเพิ่มเติม เช่น ที่ผมว่า กรณีดวงชะตาตัวอย่างที่ไม่มีดาวใดมาเป็น ๔ กับดาวที่ได้อำพุเกณฑ์ จึงมิใช่องคเกณฑ์แท้ หรือไม่ครับ หรือว่าสำหรับอำพุเกณฑ์ที่ว่าแค่มีดาวศุภเคราะห์เป็น ๔ กับลัคน์ก็นับว่าเข้าเกณฑ์ได้แล้วครับ๒. สำหรับองคเกณฑ์นั้น ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับ "ระยะเวลาการแสดงผล" ด้วยหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะกรณีที่อาจารย์บอกว่า "องค์เกณฑ์สามารถล้างความเป็นนิจ เป็นประ ของดาวที่เสียได้" แบบว่าดาวนิจ+ประที่เป็นองคเกณฑ์จะดีได้แต่ต้องถึงช่วงอายุหนึ่งๆ เสียก่อน ถ้าใช่ เราน่าจะประเมินเวลานั้นได้จากอะไรครับ ตอนนี้ เวลาพูดถึงช่วงอายุไหนจะรุ่งเรือง-ตกต่ำ ผมก็"พยายาม"ใช้ อยู่ 2 แบบ (ตามหนังสือของอาจารย์ท่านหนึ่งที่แนะนำ) ประกอบกัน คือ ทักษาดาววันเกิดเสวยอายุ และตรีวัย โดยถือว่าดาวเสวยอายุกับดาววัยหากได้มาตรฐานดีทั้งคู่ก็จะเป็นช่วงอายุที่ดี เป็นต้น แต่ก็ยังใช้ไม่ค่อยเป็นหรอกครับ และบางครั้งก็เหมือนไม่ตรง (ไม่รู้ว่าเพราะจริงๆ พื้นฐานการตีความนั้นก็ยังไม่แน่น หรือเปล่า เลยตีความผิดไป) และอยากรบกวนถามอีกหน่อยว่า ไม่ทราบว่าอาจารย์ใช้ตรีวัยหรือไม่ครับ ถ้าใช้แล้วตามความเห็นของอาจารย์คิดว่าได้ผลมาก-น้อย อย่างไรครับ (ผมจะได้มีกำลังใจนำวิธีนี้มาเพียรใช้ต่อไปน่ะครับ)๓. เรื่องที่มีดาวในมุมจตุโกณแล้วจะส่งเสริมวาสนาโดยรวมที่ว่านั้น จำเป็นต้องดูปัจจัยอื่นประกอบก่อนไม่เช่นว่า 1) ดาวนั้นมาจากเจ้าเรือนใด, 2) ดาวนั้นมีความสัมพันธ์กับเจ้าเรือนตำแหน่งนั้นในทางคู่มิตร คู่ธาตุ คู่ศัตรู อย่างไร เป็นต้น (ส่วนนี้เข้าใจว่าถ้าดาวได้มาตรฐานดีแบบอุจหรือเกษตร ความสนับสนุนก็จะมาก เป็นประหรือนิจก็กลับกัน - เฉพาะส่วนนี้ ผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ) หรือว่าไม่จำเป็น โดยให้ถือว่าถ้ามีดาวในมุมดังกล่าวก็จะส่งเสริม "ระดับวาสนาโดยรวม" ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง หมายถึงอาจจะมีผู้มาช่วยแต่ให้ความลำบากบ้าง(กรณีคู่ศัตรู)หรือมาช่วยอย่างสบายๆ (กรณีคู่มิตร+คู่ธาตุ) ก็ได้ ๔. จากคำถามข้อที่แล้ว หากเป็นอย่างกรณีที่มีดาว อยู่ในมุมพันธุเพียงดวงเดียว แล้วดาวนั้นก็เป็นตนุลัคน์พอดี เช่น ลัคน์กรกฎ แล้วดาว ๒ มาอยู่พันธุ ดาวอื่นไม่เป็น 1 4 7 หรือ 10 เลย อย่างนี้จะแปลอย่างไรดีครับ เพราะดาวที่อยู่ในเรือนญาตินั้นก็เป็นตัวตนุเสียเอง หรือให้นับแต่ว่ามีดาวลอยในภพพันธุ เพราะฉะนั้นความสนับสนุนนั้นจะยังคงมาจากญาติ อยู่ดี ถูกต้องไหมครับ๕. ถ้าดาวในมุมจตุโกณสามารถบอกถึงระดับวาสนาได้ หากเปรียบเทียบกับดาวในมุม ตรีโกณ (1 5 9) และ โยค (1 3 11) นั้น พอจะสามารถเทียบระดับได้หรือไม่ครับ สำหรับในแง่ของการให้ความสนับสนุนเกี่ยวกับวาสนาโดยรวม หรือว่าจะต่างกันในด้านวิธี หรือลักษณะของการให้ความสนับสนุนครับ๖. พอดีนึกขึ้นได้สำหรับเรื่องดาว ๔ ที่อาจารย์ทำนายเรื่องการพูดได้ตรงเลยน่ะครับ เท่าที่ทราบดาว ๔ นั้นก็เกี่ยวกับเรื่องการเขียนด้วย อย่างนี้เมื่อไหร่ถึงความตีความว่าดาว ๔ นั้น เกี่ยวกับการเขียน หรือเมื่อไหร่ถึงตีความว่าเป็นการพูดครับ จุดนี้ผมว่าสำคัญเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะถ้าพูดถึงอาชีพ เพราะอาชีพการพูดกับการเขียนนั้นถือเป็นเส้นทางอาชีพ 2 สายที่ค่อนข้างต่างกันนะครับ (แม้จะมีส่วนสัมพันธ์กันบ้าง)คงขอรบกวนอาจารย์เพิ่มเติมเพียงเท่านี้ครับ สำหรับคำแนะนำเรื่องการเรียนรู้กับอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งอย่างเป็นกิจลักษณะนั้น ผมก็คงรับไว้พิจารณา(อย่างจริงจัง)ล่ะครับ เพราะไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ได้รับคำชี้แนะเช่นนี้ ตอนผมปฏิเสธอาจารย์ท่านดังกล่าวไป ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าถ้ารับปากไปแล้วแต่ไม่มีเวลาไป น่าจะยิ่งทำให้เสียความรู้สึกขึ้นไปอีกนะครับ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความกรุณาชี้แนะของอาจารย์ครับ
ความคิดเห็นที่ 8ตอบ คุณahaคำถามที่คุณถามมาตอบได้ดังนี้1. เรื่องขององค์เกณฑ์ ตรงนี้ผมมีหนังสือที่แนะนำให้คุณเล่มหนึ่ง เรื่อง ขุมทรัพย์โหร เรียบเรียงโดย ท่านอาจารย์เศก ดุสิต วางจำหน่ายมานานแล้ว เข้าใจว่าคงหาตามท้องตลาดได้ยาก หากต้องการคงต้องไปถาม สำนักพิมพ์มติชน ดู หนังสือเล่มนี้ ท่านอาจารย์ฯ ท่านเขียนเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องขององค์เกณฑ์ แบบที่ไม่มีตำราได้เขียนเอาไว้ ลองซื้อหาอ่านดูนะครับ เอาเป็นว่าได้หนังสืออ่านแล้วคุณจะเข้าใจกฎเกณฑ์มากขึ้น2. เรื่ององค์เกณฑ์ได้กล่าวไว้แล้วในข้อ 1. ส่วนเรื่องการใช้หลักวิชาในการพยากรณ์ ตามที่คุณถามมาว่าควรใช้หลักใด เพราะคุณใช้ ตรีวัย กับทักษาครองวัย ผมคงอธิบายในข้อนี้ว่า เรื่องการใช้หลักเกณฑ์ในการพยากรณ์ โดยข้อเท็จจริงแล้วในหลักวิชาจะมีวิธีการดูหลาย ๆ แบบด้วยกัน เช่น ดวงอีแปะ การใช้ตรีวัย การใช้ทักษาคู่ธาตุ ครองวัย การใช้ทักษาคู่สมพล ครองวัย กาลจักร-ลัคน์จร อินทภาษ-บาทจันทร์ เกณฑ์ชันษาจร หรือหลักการธรรมดา ๆ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่า มีความชำนาญมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องเลือกหลักการที่ชำนาญที่สุดมาใช้ เพราะความชำนาญและความเข้าใจของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน หลักการต่าง ๆ จะแม่นยำหรือไม่แม่นยำขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่ามีความชำนาญมากน้อยเพียงใด3. เรื่องของเรือนเกณฑ์ มุม โยค จตุโกณฑ์ ภพจอมฟ้า ตรีโกณฑ์ ตรงนี้อยากจะให้ถือเป็นเปอร์เซนต์ว่า ศูนย์พาหะ (หน้า-หลัง)50%, โยค (หน้า-หลัง) 75%, จตุโกณฑ์-ภพจอมฟ้า 100%, ตรีโกณฑ์ 100%ขึ้นไป , กุม 100% ขึ้นไป , เล็ง 100% แล้วมาพิจารณาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของดวงดาว ความสัมพันธ์ของธาตุดาว กับ ธาตุของราศี ซึ่งคุณเข้าใจมาถูกทางแล้วครับ4. จากการที่คุณถาม จะเห็นว่าดาวตนุลัคน์มาอยู่ในภพพันธุ ร่วมกับดาวพุธ โดยดาวเจ้าเรือนไปเป็นนิจจ์ สลับเรือนกับดาวพุธ จะเห็นว่าตัวเจ้าชะตาจะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูลจากครอบครัวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นญาตผู้ใหญ่หรือญาตพี่น้อง แม้เจ้าชะตาจะตกอับก็ยังได้รับการช่วยเหลือจากญาต ส่วนจะช่วยเหลือมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างดาวกับดาว และธาตุดาวกับธาตุราศี 5. ข้อนี้ผมได้ให้คำจำกัดความไว้แล้วในข้อ.36. เรื่องการแปลความหมายของดาวต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญของนักพยากรณ์ ว่า เข้าใจในความหมายของดวงดาวมากน้อยเพียงใด ตรงนี้นักพยากรณ์ต้องค้นคว้าหาความหมายของดาวว่า ถ้าหมายถึงบุคคลจะหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงสถานที่จะหมายถึงสถานที่ใด ถ้าหมายถึงสิ่งของจะมีความหมายถึงของอะไร และความหมายทั่ว ๆ ไป บวกกับ ความหมายของพระเคราะห์คู่ เช่น 1+2 มีความหมายทางด้านดีหมายถึงอะไร ความหมายทางด้านเสียหมายถึงอะไร ฯลฯ เป็นต้น ตรงนี้ในตำราของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ จะระบุเอาไว้ให้แก่ผู้ศึกษาละเอียดมากทีเดียว ดีกว่าตำราเล่มอื่น ๆ เท่าที่ผมเคยได้อ่านผ่านตามา ตรงนี้คุณลองไปหาซื้อที่ร้านลุงมี ตรงข้ามวัดบวรฯ แถว ๆ บางลำภู อยู่ตรงข้ามด้านหน้าโบสฑ์ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้ เฉลยมามากเดี๋ยวครูโหรหลาย ๆ ท่านจะพากันค้อนเอา สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 9สวัสดีครับ อาจารย์การเวกขอขอบคุณสำหรับคำชี้แนะเพิ่มเติมอีกครั้งครับ สำหรับหนังสือของอาจารย์เศก ที่อาจารย์แนะนำนั้น รวมถึงเล่มอื่นๆ ของอาจารย์เศก ที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ดังกล่าวนั้น ผมมีแล้วครับ ที่ผมบอกว่าผมถือว่าลักษณะของดวงตัวอย่างว่าไม่เข้ากฎองคเกณฑ์ก็มาจากหนังสือเล่มดังกล่าวครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่สนใจกฎเกณฑ์เรื่ององคเกณฑ์นะครับ สำหรับหนังสือของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ผมก็มีอยู่ 2-3 เล่ม ไม่ทราบว่าเล่มที่อาจารย์หมายถึงนั้นคือ "โหราศาสตร์ดวงดาว" ที่รวมบทเรียนใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ผมก็มีแล้วครับก็อย่างที่เคยเรียนอาจารย์แต่ต้นน่ะครับ ปัญหาของผมไม่ใช่เรื่องกฎเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีการกล่าวถึงอยู่ในตำราต่างๆ มากมายหลายเล่ม แต่ปัญหาของผมอยู่ที่การตีความและประยุกต์ใช้กฎเหล่านั้น เพราะหลายครั้งกฎเกณฑ์เหล่านั้นก็มีความขัดแย้งกันเอง แต่ตำราเหล่านั้นจะไม่ได้บอกถึงวิธีตีความกรณีที่พบกฎเกณฑ์ที่แย้งกันเหล่านั้น และไม่บอกว่ากฎอะไรเป็นหลัก กฎอะไรเป็นรอง เป็นต้น ผมคิดว่าแม้แต่อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ท่านก็เคยประสบกับปัญหานี้ คืออ่านตำรามากมายแต่ออกคำทำนายไม่ได้ เพราะกฎต่างๆ เหล่านั้นตีกันยุ่งไปหมด ปัญหาของท่านมีคลี่คลายก็ตอนที่จะมีวาสนาได้พบกับอาจารย์ของท่าน ซึ่งเป็นช่างที่มาต่อเติมบ้าน (ตามประวัติที่เป็นที่ทราบกันทั่วไป)แต่จากคำอธิบายของอาจารย์โดยรวม ผมคิดว่าอาจารย์คงต้องการบอก(เป็นนัย)ว่าการชี้แนะในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นไปนั้น จะมีความซับซ้อนและยากต่อการอธิบาย (โดยเฉพาะย่อหน้าสุดท้ายที่ว่า เดี๋ยวครูโหรหลายๆ ท่านจะพากันค้อนเอา - ผมคิดว่าเนื่องจากเป็นการอธิบายที่บางทีอาจต้องลงไปในเคล็ดวิชา แต่กลับมาชี้แนะกันนอกระบบอาจารย์-ลูกศิษย์ และดูเหมือนจะมากเกินไปแล้ว ใช่ไหมครับ) ก็เข้าใจได้นะครับ ผมก็คงต้องนำคำชี้แนะเท่าที่ได้รับมาพอสมควร ไปใช้เวลาทำความเข้าใจเอาเองต่อไปจากวันนี้ผมคงขออนุญาตหลบไปเป็นผู้ติดตามอ่านกระทู้ต่อไปก่อนแล้วล่ะครับ ไว้โอกาสหน้าหากมีข้อสงสัยมากๆ อีกคงต้องมารบกวนคำชี้แนะของอาจารย์ต่อไปครับ หวังว่าอาจารย์จะยังคงอยู่ช่วยให้วิทยาทานแก่ผู้ศึกษาศาสตร์ด้านนี้ต่อไปอีกนะครับคงต้องขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำชี้แนะที่อาจารย์ได้ให้มาทั้งหมดนะครับ สุดท้ายนี้ ผมขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขสดชื่นตลอดไป ครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 10ตอบ คุณahaคำถามที่คุณถามมา การตอบของผมอาจจะตอลแบบเลี่ยง ๆ ซึ่งอาจจะดูเหมือนว่าไม่เต็มใจตอบ หรือตอบแบบไม่ครบ มิใช่ว่าจะหวงเคล็ดวิชาเอาไว้ บางครั้งผมก็ต้องตอบแบบเลี่ยง ๆ ให้ผู้ที่สนใจจริง ๆ อ่านแล้วเข้าใจว่าควรจะต้องพิจารณาอย่างไร มิใช่อ่านแล้วเก็บเอาไว้งงกับตัวเอง หลาย ๆ ครั้งหลักในการพิจารณาเพื่อพยากรณ์ผมเองก็จะสอดแทรกให้รู้ว่าเวลาจะพยากรณ์อะไร จะเอาจุดไหนมาดู จุดไหนมาขยายเมื่อเวลาถึงทางตัน ลองอ่านบทความเกี่ยวกับการพยากรณ์ของผมดูแล้วคุณจะรู้วิชาโหราศาสตร์ไทยเป็นวิชาที่ดูเหมือนเรียนง่าย แต่จบยาก ผมเองกว่าจะรู้มาถึงตรงนี้ก็ต้องขวนขวาย ทั้งศึกษาด้วยตนเอง และทั้งศึกษาจากครูโหร (ที่ต้องเลือกที่จะไปขอเป็นศิษย์) ที่จริงแล้วครูโหรทางด้านวิชาโหราศาสตร์ของผมมีเพียง 3 ท่านเท่านั้น (เฉพาะวิชาโหราศาสตร์ไทย) จะว่าน้อยก็น้อย เพราะผมต้องรอให้ภูมิความรู้ที่มีอยู่แน่นพอที่จะไปต่อเติมเสริมสร้างความรู้ก่อนจึงจะไปเรียนต่อ ความรู้ที่ได้มาทั้งหมดไม่ว่าจะวิชาอะไรที่สามารถตอบได้ ก็จะตอบให้ทุกท่าน เพราะมิต้องการให้นักศึกษาใหม่ต้องเดินหลงทาง สำหรับวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นผมเองจะตอบให้ทุกกรณีเว้นแต่ว่าไม่ทราบเท่านั้นก็จนใจ และจะขอเวลาไปค้นคว้าสอบถามจากเพื่อนฝูงที่สนิทและมีตำราเก่า ๆ ไว้ศึกษา เพื่อเอามาไขข้อข้องใจให้กับผู้ถาม หากคุณaha สนใจจะศึกษาต่อก็ลองไปเรียนตามที่ผมเคยบอกกล่าวไว้ ครูโหรทั้งสองท่านมีความรู้แน่นสามารถให้ความสว่างกับคุณได้ จะเรียนทุกวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ก็แล้วแต่คุณสะดวก คนที่มีพื้นฐานดีอย่างคุณหยุด ๆ เรียน ๆ ก็ไม่เสียหายอะไร เหมือนกับไปทบทวนวิชาไปในตัวสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณต่อคำอวยพรที่ให้ และเช่นกันก็ขอให้คุณมีความสุข ไม่เจ็บ ไม่ไข้ ไม่จน มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 11สวัสดีคะ อ.การเวกคะหนูก้อติดตามอ่านบอร์ดของอาจารย์เรื่อยๆ วันนี้หนูขอรบกวนถามอีกครั้งนะคะ หนูอยากเปลี่ยนงานจังเลยคะ ทำที่นี่เงินเดือนน้อยน่ะคะ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นหลักฐานซักที บ้านก้อไม่มี รถก้อไม่มี เงินเดือนหมื่นกว่าน่ะคะอาจารย์คะ ทำอย่างไรหนูถึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจะมาจากทางไหนบ้างคะ เพราะอายุก้อมากขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ราหูค้นทรัพย์ซะด้วย เศร้าจัง (หนูทำงานฝ่ายควบคุมคุณภาพ ผลไม้สด คะ)หนูเกิดวันที่ 28 เมษา 2520 เวลา 00.15 คะ จ. นครศรี อาจารย์เคยดูดวงหนูแล้วคะ
ความคิดเห็นที่ 12ตอบ คุณภัทร์อายุเพิ่งจะ 31 ปี ใจเย็น ๆ ครับ ส่วนเรื่องราหูค้นทรัพย์ไม่รู้ไปเอามาจากไหน คงไม่ใช่ ผมเองก็ไม่ทราบว่าคุณแต่งงานหรือยัง หากยังปีนี้คงได้มีการคิดอยากมีครอบครัวกับเขามั่ง ส่วนถ้าแต่งงานแล้ว หากมีคนเข้ามาขายขนมจีบก็หลีกให้พ้นนะครับ ส่วนเรื่องรถคงรอไปอีกสัก 3-4 ปี ค่อยซื้อ เรื่องงานคุณมิได้ระบุมาว่าทำงานอะไรและอยากจะเปลี่ยนไปทำงานอะไร ส่วนเรื่องเงินเดือนคงต้องค่อยเป็นค่อยไป กรุงโรมมิได้สร้างเสร็จในวันเดียว สำหรับดวงคุณในอนาคตเงินเดือนอยู่ในระดับ 5 หมื่น up อยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ผมคงจบเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 13เรียน อาจารย์การเวกขอบคุณมากคะ ที่ช่วยชี้แนะ หนูยังไม่ได้แต่งงานคะ มีคนมาจีบเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย แต่ไม่เคยมีจริงจังคะ ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ละคนมาแล้วก้อไป ฐานะคงต้องพยายามสร้างด้วยตัวเองคะ หนูทำงานเป็นฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ บริษัทเอกชน ส่งออกผลไม้บบรจุกล่องทั้งในและต่างประเทศ หนูเป็นคนนครศรีแต่มาเรียนและทำงานในภาคเหนือคะ ตอนนี้อยากจะเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าท้องถิ่นภาคเหนือ ทางอินเตอร์เนตนะคะ ควรทำคนเดียวหรือชวนเพื่อนด้วยดีคะ เทอมนี้หนูคงจะจบปริญญาโททางด้านการตลาดน่ะคะ ถ้าทำงานที่เก่าก้อ เหมือนเดิม หนูทำงานที่นี่มาตั้งแต่เรียนจบ 8 ปีแล้วคะ (พักนี้จิตใจว้าวุ่นคิดอะไรไม่ออกน่ะคะ ไม่รู้จะไปทางไหน เรียนโทก้อเสียตังค์ไปเยอะนะคะ)ขอบคุณคะอาจารย์ หนูขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ความคิดเห็นที่ 14สวัสดีอาจารย์การเวกที่เคารพถ้าตัดเรื่องความหมายและความสัมพันธ์เจ้าเรือนต่างๆออกไปก่อน อยากทราบว่าทักษา"มูละ"ในดวงชะตาเดิม อยู่ในตนุ หรืออยู่ในกดุมภะน่าจะแสดงว่ามีฐานะมากกว่ากันคะ?แล้วเรื่องศูนย์พาหะ อยากทราบว่าหมายถึงแค่ภพตนุ หรือหมายถึงทุกๆภพคะ?แล้วการที่ศูนย์พาหะ (หน้า-หลัง) 50% อย่างนี้แล้ว ดิฉันมีดาว 2 อยู่เรือนวินาศ แล้วแบบนี้ ดาว 2 ของดิฉันจะมีความสัมพันธ์ใดๆส่งเสริมมาถึงตัวดิฉันไหม ตาม 50% ที่ว่า?ที่เคยได้ยินมา เค้าบอกว่าเลข 2 เสีย ไม่ถึงเรือนตนุ ทำให้ขาดความอ่อนหวาน น่ารักแต่ดาว 6 ดิฉันอยู่ปัตนิเล็งอยู่ ส่งผลเหมือนกุมกัน ก็น่าจะมีความน่ารักบ้างนะคะ รึเปล่า?ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 16ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ
ความคิดเห็นที่ 17ขอบคุณมากคะอาจารย์ ระหว่างนี้หนูจะอ่านเว็บบอร์ดของอาจารย์ไปเรื่อยๆ คะ ได้ความรู้เยอะดีขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรงนะคะ สมองปลอดโปร่งแจ่มใสคะ
ความคิดเห็นที่ 18จากความเห็นที่ 38 (2088055)กระทู้ 27ตอบ คุณนักเรียนใหม่ตามที่คุณกล่าวมาว่าได้อ่านปรัชญาโหราศาสตร์แล้วสนุก ลองหาบทความที่เขียนโดย ท่านอาจารย์วรกุลฯ และท่านอาจารย์ สส. ในเวปนี้ (ค้นหาดูที่ผ่านมานะครับ) มาอ่าน แล้วคุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นและสนุกมากขึ้นเรียนอาจารย์การเวกหลังจากได้อ่านกระทู้อาจารย์วรกุลก็มีคําถามขอเรียนถามอาจารย์เพิ่มค่ะ1.เรือนเป็นเรื่องราว ดาวเป็นเรื่องขยายเช่น อริ(เรือนว่าง) มรณะ (ดาว 1 เป็นนิจ) ศุภะ(ดาว 6 เป็นประ)-ลองแปลเองก็ ศัตรู/อุปสรรค จะสลายไปด้วยการช่วยเหลือ แต่ก็น่าจะเหนื่อยเพราะ 6 เป็นประใช่ไหมคะ- แต่ทีนี้ อาจารย์วรกุลบอกว่าต้องดูความสัมพันธ์ดาวทั้ง 10 เลย เพราะต้องดูการส่งพลังงานดาวพลังงานธาตุที่ถึงกันด้วยส่วนอาจารย์เองก็ได้เคยอธิบายไว้ความเห็นที่ 33 (2021459)กระทู้ 27ดาวที่อยู่ในราศีที่ 1 3 5 7 9 11 ดาวในราศีเหล่านี้จะเป็นสหัสชะต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หนึ่ง ส่วนประเด็นที่สองก็จะเป็นดาวที่เป็นจตุโกณฑ์และภพจอมฟ้าต่อกัน ประเด็นที่สามก็เป็นดาวที่เป็นตรีโกณฑ์ต่อกัน อย่างนี้ ถ้าจะสรุปว่า เจ้าของดวงมีพลังงานธาตุและพลังงานดาวไม่เสียเลยจะถูกไหมคะนิจ หรือประก็ไม่เป็นอะไร เพราะพลังงานธาตุและพลังงานดาวถึงกันหมด-อาจารย์วรกุลได้กล่าวว่าลัคนาเป็นทางผ่าน ดังนั้น ดาวเจ้าเรือนที่ลัคนาอยู่ก็จะได้รับพลังงานตลอดทีนี้ลัคนาอยู่มีน ซึ่งดาวพฤหัสที่เป็นเจ้าเรือนมีนไปอยู่มังกร 5 เป็นนิจ อย่างนี้ ถ้าจะสรุปว่า ดาวพฤหัส จะมีพลังงานธาตุและพลังงานดาวไม่เสียก็ได้ใช่ไหมคะขออนุญาตเรียนถามแค่นี้ก่อนนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 19ตอบ คุณนักเรียนใหม่เพิ่งหัดดูเรื่องที่คุณถามมามีทั้งเรื่องเรือน เรื่องภพ และธาตุ ตรงนี้ผมคงจะตัดเรื่องธาตุออกไปก่อน เอาแต่เรื่องเรือนเรื่องภพมาอธิบาย เพราะการอธิบายเรื่องของระบบพลังงานธาตุเป็นเรื่องที่อธิบายได้ยาก ต้องผู้มีภูมิความรู้ทางด้านนี้แน่นหนาจริง ๆ จึงจะอธิบายได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนว่ากันถึงเรื่องที่คุณถามกันนะครับ 1. ต้องคิดไว้อย่างว่า ภพเป็นตัวฟ้องบอกเรื่อง หมายถึงว่า ภพอะไร เช่น ตนุคือตัวเจ้าชะตา กดุมภะการเงิน สหัสชะคือสังคมหรือญาตพี่น้องฯ ดาวเป็นตัวแสดงเรื่อง หมายถึงว่าดาวใดก็แล้วแต่ไปลอยอยู่ในภพใด ต้องดูว่าดาวนั้นเป็นเจ้าเรือนภพใด มาลอยอยู่ในภพอื่นคือภพอะไร มีตำแหน่งมาตรฐานใด มีความสัมพันธ์กับเจ้าเรือนและราศีอย่างไร เมื่อทราบทั้งหมดแล้ว ดาวดังกล่าวก็จะแสดงไปตามสิ่งที่ตนสามารถแสดงได้ โดยมีดาวที่เป็นเจ้าของราศีเป็นผู้กำกับบทให้แสดง (เพราะเป็นบ้านของดาวที่เป็นเจ้าของราศี) ยกตัวอย่างเช่นดาวอาทิตย์ (1) เจ้าเรือนภพอริ มาอยู่ภพมรณะ ตำแหน่งนิจจ์ จึงหมายถึงว่าอุปกสรรคดังกล่าวมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อมาอยู่ภพมรณะต้องดูว่าเจ้าเรือนภพมรณะไปอยู่ที่ใด ปรากฎว่าเจ้าเรือนภพมรณะไปอยู่ภพศุภะ ได้ตำแหน่งปะ แสดงถึงว่าความเสียหายก็จะมีบ้างประปราย ไม่มากนัก เป็นต้น มาถึงตรงนี้ก็จะเป็นเรื่องของภพ เรื่องของดาว ทีนี้เราต้องมามองดูว่า ในภพดังกล่าวมีดาวอะไรมาเล็ง โยค จตุโกณ-ภพจอมฟ้า หรือตรีโกณ หากมีก็ต้องดูว่าดาวดังกล่าวเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ความสัมพันธ์ของภพดังกล่าวจะมาช่วยเหลือหรือเบียนก็ต้องขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดวงดาวที่ถึงกันดังกล่าว คุณนักเรียนใหม่ก็ลองทอดสอบความรู้ดูนะครับ2. เรื่องของพลังงานธาตุ คุณนักเรียนใหม่ลองอ่านไปก่อน เมื่อมีปัญหาใด คงต้องรอให้ท่านอาจารย์วรกุลฯ ท่านเข้ามาโพสต์ตอบคำถามอธิบายให้ฟัง เพราะท่านชำนาญในเรื่องนี้มาก ผมอยากจะให้ได้ความรู้จากผู้ชำนาญจริง ๆ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ถามมากที่สุดผมคงตอบปัญหาเพียงเท่านี้ก่อน สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 20สวัสดีค่ะ อ.การเวกดิฉันเกิดความสงสัยค่ะว่า คนเราที่ไม่ใช่เนื้อคู่กันรักๆกันแล้วต่อมาก็เลิกกันทำไมตอนแรกๆเค้ารักกันได้ค่ะ ไม่ใช่เนื้อคู่มันก็น่าจะเฉยๆกันไปเลยแต่แรก มันมีดาวอะไรทำให้เค้าลุ่มหลงตามืดมัวมารักกันหรือ?คืออยากทราบไว้จะได้ไว้เตือนตัวเอง เตือนเพื่อนๆ หากว่าเรามีดาวแบบนี้มาสัมพันธ์ถึงลัคนาน่ะค่ะขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 23ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำชี้แนะ ^_^
ความคิดเห็นที่ 24มาขอเสริมคำตอบอาจารย์ คห.22 เพิ่มเติมจริงๆด้วยค่ะ อาจารย์ ดูเลข 8 ชัดเจนมากๆได้ไปดูของหลายๆคนในดวงอดีต มันใช่มากเลยค่ะ มหัศจรรย์จริงๆ!!
ความคิดเห็นที่ 25สวัสดีค่ะ อ.การเวก"ตอบ คุณศิรภัส เรื่องการพิจารณาเกี่ยวกับคู่ครองว่าเป็นเวรหรือกรรมกันผมคงไม่บอกนะครับ"สงสัยทำให้อาจารย์เข้าใจผิดแน่เลยค่ะคือ ดิฉันสนใจด้านการใช้คนให้ถูกกับงาน เลยซื้อหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมีโปรแกรมการผูกดวงให้มาด้วยจึงลองผูกดวงตัวเองดู ก็พบว่ามีจันทร์ อยู่ในราศรีเมถุน (ลัขณา ราศรีธนู อาจารย์เคยบอกว่า สำคัญที่เจ้าเรือนใดไปอยู่ที่ภพใด) ซึ่งตัวของจันทร์เป็นเจ้าเรือนมรณะ ก็เลยคิดเอาเองว่าเพราะอย่างนี้หรือเปล่าที่ทำให้ดิฉันมีปัญหากับสามีเสมอ
ความคิดเห็นที่ 26สวัสดีค่ะ อ.การเวกรบกวนดูดวงให้ด้วยนะคะ เพราะกลุ้มเหลือเกินคะ ไปให้หมอดู ก็ถูกหลอกสตางค์ ตอนนี้สตางค์ก็ไม่มีแล้วคะ แล้วดิฉันจะเข้ามาอ่านนะคะ ดิฉันเกิด อาทิตย์ที่11 กรกฎาคม 2508 เวลา 06.15 น. ที่กรุงเทพฯ ช่วยดูแบบละเอียดเลยนะคะ ส่วนไหนตรงไม่ตรง ดิฉันจะเข้ามาตอบคะ ตอนนี้ถูกหมอดูหลอกเงินไปเยอะ ก็เลยไปหาหนังสือมาอ่านแล้วศึกษาเอง แต่ไม่สามารถตีดวงได้แตก หวังความกรุณาจากอ.การเวกนี่แหละคะเป็นผู้ชี้แนะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะคะ
ความคิดเห็นที่ 27รบกวนดูดวงให้ด้วยนะคับเกิดวันอังคาร ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๑๑ ปี วอก เวลาตีสามตามที่อ.รวิบอก ขอบพระคุนยิ่ง
ความคิดเห็นที่ 28มีเรื่องอยากสอบถามอีกนิดนึงค่ะ ดาว 6,3 อยู่เรือน 5 ราศีมีน(พันธุ) แต่ 5 ไปอยู่เรือน 6 ราศี พฤษภ (อริ) แลกเรือนกันใช่มั้ยคะ แต่ 3 เป็นเจ้าเรือน ปุตตะและวินาศ 6 เป็นเจ้าเรือนอริและลาภะ ดิฉันรู้สึกสับสนค่ะไม่ทราบว่าจะตีความว่าอย่างไรดีจึงอยากจะขอความกรุณาจากอาจารย์ช่วยวิเคราะห์ให้หน่อยน่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 29ขอบพระคุณอาจารย์การเวกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 30ตอบ คุณศิรภัสเรื่องของดาวจันทร์(เจ้าเรือนภพมรณะ) มาอยู่ในภพปัตนิ มิใช่ว่าดูเพียงแค่สองภพนี้แล้วจะเกี่ยวกับเรื่องคู่ครองทั้งหมด ตรงนี้ต้องดูภาพรวมทั้งหมดด้วย เพราะคำว่าปัตนิมิใช่หมายถึงคู่ครอง ยังมีความหมายถึง หุ้นส่วน เพศตรงข้าม ทรัพย์มรดกที่ต้องแบ่ง รวมทั้งคำว่ามรณะนั้นมิใช่ว่าจะแปลเป็นความเสียหาย ความสูญเสีย ยังหมายถึงมรดกก็ได้ เช่น กดุมภะ+มรณะ จะหมายถึงทรัพย์สินที่ได้มาจากการเสียชีวิต เหมือนในกรณีของคุณ ในภพมรณะจะมีดาวเสาร์มาอยู่ (เสาร์ตำแหน่งปะ) จึงหมายถึงทรัพย์มรดกที่คุณได้มาในบางโอกาส เป็นต้น ส่วนเรื่องที่คุณกับแฟนมีปัญหากันนั้นมาจากพื้นดาวในดวงชะตาของคุณทั้งคู่ ซึ่งหากจะอธิบายคงต้องใช้เวลาพอสมควร ผมจึงขอละเอาไว้ คำตอบมีเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับตอบ คุณรัตนาคงต้องรบกวนคุณรัตนาฯ โพสต์สอบถามดวงชะตากับท่านอาจารย์ระวิฯ นะครับ สวัสดีครับตอบ คุณ songskคงต้องรบกวนคุณโพสต์ถามท่านอาจารย์ระวิฯ นะครับ สวัสดีครับตอบ คุณศิรภัสเรื่องดาวพฤหัสฯ กับดาวศุกร์ แลกเรือนกัน ตามวิชาโหราศาสตร์เรียกว่า อนุเกษตร (กรณีดาวแลกเรือนกัน) และ อนุเกษตรแบบปะ (กรณีดาวที่อยู่ราศีตรงข้ามแลกเรือนกัน) การแลกเรือนกันระหว่างดาว ในเบื้องต้นต้องได้รับความเป็นอนุเกษตรไปก่อน บั้นปลายจึงจะกลายเป็นเกษตร เช่น พฤหัส (เจ้าเรือนพันธุ) แลกเรือนกับ ศุกร์ (เจ้าเรือนอริ) ศุกร์จะมีตำแหน่งอุจจ์ ดังนั้น ทั้งอริ +ลาภะ จึงยิ่งใหญ่ (เพราะความเป็นอุจจ์) ตรงเฉพาะดาวศุกร์นี้แหละควรจะหมายถึง ลาภผลที่ได้จะได้มากพอสมควรกอร์ปกับมีปัญหาผูกติดมากับลาภผลด้วย ซึ่งทำให้ครอบครัวมีปัญหาไปด้วย (พันธุไปตกอริ) ขณะเดียวกันมีอังคารเจ้าเรือนภพปุตตะ+วินาศน์ ภพปุตตะจะมีหลายความหมายเช่นกันกับภพวินาศน์ ปุตตะคือ การเสี่ยง การสังคม การพูดจา บุตรฯลฯ ส่วนวินาศน์จะมีความหมายถึง ฉิบหาย ลับลับ อยู่เบื้องหลัง สิ่งที่ไม่คาดคิด ฯลฯ เป็นต้น คุณลองนำความหมายในเบื้องต้นจับคู่กันแล้วดูว่าสิ่งใดที่เกิดกับคุณได้ถูกต้องที่สุด ที่ผมให้คุณลองจับคู่เพื่อเป็นการฝึกการให้ความหมายในการพยากรณ์ไปในตัว คุณจะได้มีความชำนาญและเข้าใจ ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 31เรียนอ.การเวกรบกวนดูดวงให้หน่อยครับผมเกิด16กุมภาพันธุ์2505 เวลา 04.15น. ผมจะรวยกับเขาไหมครับ ภรรยาที่แต่งงานด้วยกันจะอยู่กันยืดไหม ตอนนีผมมีเมียน้อยอีกคนขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 32สวัสดีค่ะ อ.การเวกต้องขอโทษนะคะที่เขียนมาอีกครั้ง คือดิฉันชอบที่จะอ่านการตอบปัญหาของอาจารย์มาก เพราะบังเอิญได้เข้ามาอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเอง โดยหวังว่าสักวันจะสามารถอ่านดวงตัวเองได้ ก็ได้จดทุกอย่าง ที่อาจารย์ได้สอนไว้ในกระทู้เก็บรวบรวมไว้เป็นเล่ม เพราะดิฉันไม่มีสตางค์ที่จะไปซื้อหาหนังสือมาอ่านเองได้ อีกอย่างปัจจุบันนี้ดิฉันก็ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด การหาซื้อหนังสือก็ไม่ใช่เรื่องงาย รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาโพสถามอ.การเวก เพียงเพราะเกิดความศรัทธาในตัวอ. เป็นอย่างยิ่งจากการได้อ่านที่ท่านตอบและให้ความรู้แก่ผู้ที่เข้ามา แต่ก็รู้สึกน้อยใจและเสียใจที่อ.มิได้อ่านดวงให้ แต่ก็คิดว่าจะเข้ามาเก็บเล็กผสมน้อยจากความรู้ในกระทู้ต่างๆ ที่อ.ได้ตอบ คงมิหนีหายไปไหน
ความคิดเห็นที่ 33สวัสดีคะ อ.การเวกเพิ่มเติมอีกนิดค่ะ ตอนแรกที่พิมมาตัวใหญ่ เพราะไม่เคยมาโพสจึงกะขนาดของตัวอักษรไม่ถูกค่ะ ส่วนเรื่องจะให้ไปให้ใครอ่านดวงให้ คงไม่แล้ว เพราะการที่เราจะนำวันเดือนปีเกิดของเราไปให้ใครสักคนดู คนคนนั้นต้องเป็นคนที่เรามีความศรัทธาเท่านั้น มิใช่เจอใครก็จะให้เขาดูไปทั่ว คิดว่าถ้าพอมีสตางค์ (เก็บเล็กผสมน้อย) คงจะสามารถนำไปซื้อหนังสือที่อ.ได้แนะนำไว้ในกระทู้ อาจจจะหลายเดือนหน่อย ถ้าพอมีเงินแล้ว คงจะหาลุ่ทางที่จะเป็นเจ้าของหนังสือดีๆ และมีประโยชน์กับเขาสัก 2-3 เล่ม เกิดวันหน้าฟ้าใหม่ อาจพอนำมาประกอบอาชีพด้วยการสร้างสรรค์ มีคุณธรรม และเลี้ยงตัวเองและลูกได้บ้าง ตอนนี้สามีนอกใจไปแล้ว กลุ้มเหลือเกิน แต่ก็พยายามทำใจ อาศัยโตมากับวัด กินข้าวและใช้เงินพระ จึงมีธรรมหล่อเลี้ยงจิตใจ (พอดีพ่อบวชพระตั้งแต่ดิฉัน7-8ขวบ) แต่ตอนนี้พ่อเสียแล้ว เส้นทางชีวิตมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ สวัสดีคะ
ความคิดเห็นที่ 34ขอบคุณค่ะอาจารย์ตอนนี้ที่นึกออกอยู่เรื่องเดียวค่ะคือเรื่องการพูดเพราะพูดอะไรแล้วคนอื่นมักจะไม่เข้าใจ(หรือเข้าใจในอีกความหมายนึง)เกือบทุกครั้ง
ความคิดเห็นที่ 35สวัสดีค่ อ.การเวกดิฉันเข้าใจอ.แล้วค่ะ อ.ไม่ดูดวงให้ใคร แต่ยินดีให้ความรู้และสอนในเรื่องโหราศาสตร์ ดิฉันขอรบกวนถามนะคะดิฉันลัคนาราศีกรกฎ มี4 6 กุมลัค 0 อยู่ราศีสิงห์3 อยู่ราศีกันย์9 อยู่ราศีตุลย์2 อยู่ราศีพิจิก7อยู่ราศีกุมภ์5 8 อยู่ราศีพฤษภ1 อยู่ราศีเมถุนเกิดวันอาทิตย์ขอถามดังนี้นะคะ1. 4 6 กุมลัคน์ได้อสิติธาตุ ความเป็นอสิติธาตุสามารถช่วยให้ 6 ซึ่งเป็นกาลีและเป็นประในนวางค์ ฟื้นไหมคะ และการได้คู่อสิติธาตุกุมลัคน์จะช่วยให้ดีอย่างไรคะ 2. การที่เจ้าเรือนปัตนิ(7) ตกมรณะ หมายถึงว่า คนคนนี้จะไม่สามารถมีชีวิตคู่ที่ดีได้ใช่ไหมคะ (ดิฉันแต่งงานครั้งเดียว แต่สามีนอกใจ ทุกวันนี้ไม่เคยมีใครมา 10 ปีเห็นจะได้ ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีแฟน แต่งงานก็เจอปัญหา)3. เคยอ่านเจอคนที่มีคู่อสิติธาตุกุมลัค เขาว่าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงไม่ดี ดิฉันจึงสงสัยว่า ดิฉันมีปัตนิตกมรณะ และ 1 ตกวินาศ ดวงแบบนี้ต้องเป็นเมียน้อยหรือคะ แต่ดิฉันมี 5 โยกหลัง ดิฉันคิดว่า ดิฉันคงทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ขึ้นมากกว่านะคะ (ในชีวิตไม่เคยคิดทำสิ่งที่ไม่ดี คือ เป็นคนรักดีคะ แม้ดวงจะไม่ดีก็ตาม)4. ดาว 7 ที่อยู่ราศีกุมภ์เห็นบางตำราก็บอกว่า ได้ตำแหน่งมูลเกษตร(ถ้าจำไม่ผิด) แล้วมันดีอย่างไรคะ ทุกวันนี้ ไม่เคยมีที่อยู่เป็นของตัวเอง (อาศัยเขาอยู่) ดิฉันสามารถที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองไหมคะ5. เรื่องดาวจรดิฉันอ่านไม่เป็นเลยคะ รบกวนหน่อยนะคะ ช่วงนี้ 1 4 6 จรเข้าราศีพฤษ (ลาภะ) ทับดาว 5 8 1 เจอ 5 คู่มิตร ดาวจรเข้าภพปัตนิ 5 8 เจอ 4 6 ไม่ทราบว่าจะได้เจออะไรบ้างที่มันดีๆขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 36ตอบ คุณรัตนาก่อนอื่นต้องขออภัยด้วยที่มิได้ตอบเป็นกิจจะลักษณะให้ทราบ เนื่องจากเห็นโพสต์เข้ามาถามเรื่องดวงชะตา ซึ่งในเวปนี้มีอาจารย์หลาย ๆ ท่านได้โพสต์ตอบคำถามให้เป็นวิทยาทานอยู่แล้ว ผมนาน ๆ จะใช้สักครั้งหนึ่งเกรงว่าจะพยากรณ์ได้ไม่ดีพอ เรื่องของคุณผมอยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่เข้ามาดูในเวปนี้ ในเรื่องของการไปดูดวงชะตาอยู่บ่อย ๆ เพราะปัจจุบันนี้พวกอลัชชีที่ชอบหลอกเอาเงินผู้ทุกข์ร้อนมีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่เมื่อพยากรณ์แล้ว ผู้รับคำพยากรณ์ไม่รู้ จะเกิดวิตกจริต เรียกให้ทำอะไร- เสียเงินเท่าไรถ้าสามารถหามาได้ก็ยอม จึงอยากจะให้เรื่องของคุณเป็นตัวอย่างแก่คนทั่ว ๆ ไปว่า หากไปดูโหราศาสตร์แล้วถ้านักพยากรณ์ท่านนั้นไม่มีชื่อเสียงพอ แนะนำให้เสียเงินเป็นพันเพื่อสะเดาะเคราะห์ก็อย่าเชื่อมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่หลอกเอาเงินเกือบจะทั้งนั้น จะเสียเงินก็ขอให้เสียเงินแบบรู้หลัก มิใช่เสียรู้ว่ากันถึงเรื่องดวงชะตาที่คุณถามมา ที่จริงพื้นดวงของคุณก็ได้องค์เกณฑ์อยู่ มีคู่อสีติธาตุกุมลัคนา จะเสียก็ที่จันทร์เป็นนิจจ์ สุภาพสตรีที่จันทร์เป็นนิจจ์แล้วเป็นตนุลัคน์ หรือเป็นดาวกุมลัคน์ส่วนใหญ๋ชีวิตค่อนข้างน่าสงสาร จะมีปัญหาเรื่องครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ สำหรับคุณก็ยังดีอยู่ที่ยังมีดาวคู่อสีติธาตุกุมไว้ และมีพฤหัสฯโยคหลัง ว่ากันถึงปัญหาที่คุณถามมาดีกว่า1-2. คู่อสีติธาตุจะให้คุณแก่ดาวก็เป็นดาวในจัราศี หากดาวใดมีตำแหน่งปะหรือนิจจ์ เมื่อได้คู่อสีติธาตุก็จะลบล้างความเป็นปะเป็นนิจจ์ไป เกิดผลกระทบบ้างเพียงเล็กน้อย ส่วนที่จะทำให้ภูมิกาลีดีไม่เสีย เท่าที่อ่านหนังสือมาไม่เคยมีอาจารย์ท่านใดกล่าวเอาไว้ ผมจึงอยากจะให้แยกแยะว่าภูมิส่วนภูมิ ภพส่วนภพ อย่าได้เอามาปนกัน เมื่อศุกร์เป็นกาลี หากจะแปลความหมายของศุกร์ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ก็จะมีความหมายถึงว่า ความรักทำให้คุณต้องเหนื่อยพอสมควร หรือรักของคุณจะมีปัญหา ซึ่งตรงนี้จะเป็นการเสริมเรื่องของดาวจันทร์ที่ได้ตำแหน่งนิจจ์ เพราะจันทร์เป็นตนุลัคน์ซึ่งเปรียบเสมือนตัวคุณ ได้ตำแหน่งนิจในภพปุตตะ ในขณะเดียวกันดาวเจ้าเรือนปุตตะคืออังคารได้ตำแหน่งมหาจักในภพศุภะ รวมทั้งเป็นดาวตนุเศษด้วย อังคารมาอยู่เรือนพุธ พุธไปอยู่เรือนจันทร์ ดาวสามดวงนี้จึงเป็นดาวมหาเกษตร หรือพูดง่าย ๆ ว่า ดาวได้วงจรมหาเกษตร คือ พุธอยู่จันทร์ จันทร์อยู่อังคาร อังคารอยู่เรือนพุธ เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อคุณก็ เมื่อใดก็ตามหากนับอายุตามทักษาแล้วตก จันทร์ หรือ อังคาร หรือพุธ ตกดาวไหนดาวนั้นทำงาน ขณะเดียวกันให้มองดูให้ดีว่า ดาวเสาร์เจ้าเรือนภพปัตนะ ถูกมฤตยูเล็ง แถมยังมีดาวเจ้าเรือนเงาภพปัตนิ (บางตำราอาจจะกล่าวเอาไว้ว่า ดาวจันทร์กับพฤหัส เป็นดาวเจ้าเรือนเงาภพปัตนิ) ดาวสองดวงนี้ทำมุมจตุโกณ-ภพจอมฟ้ากับดาวเสาร์ ซึ่งจะให้โทษเกี่ยวกับเรื่องของปัตนิในดวงชะตาคุณ จากจุดทั้งหลายที่ผมกล่าวเอาไว้นี้เป็นการยืนยันเรื่องของคู่ครองคุณว่าจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอนจนถึงขั้นต้องเลิกลากัน คือ จันทร์-เสาร์ (คู่พลัดพราก) มาถึงตรงนี้คุณคงเข้าใจแล้วนะครับเรื่องคู่ครอง มีปัญหาก็มีไป เลิกแล้วก็เลิกกันไป อย่าได้ไปเชื่อนักพยากรณ์ว่าจะสามารถทำให้ดาวคู่ครองกลับมาอยู่กับคุณได้ นั่นเป็นการหลอกเอาเงินในกระเป๋าคุณ และขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่านได้ถือเป็นบทเรียนเอาไว้ด้วยว่าอย่าให้นักพยากรณ์อลัชชีหลอกเอาได้3. คู่อสีติธาตุที่กุมลัคน์แล้วไม่ดี จะต้องมีดาวเฉพาะจริง ๆ อย่างในดวงชะตาคุณหากมีดาวจันทร์กุมลัคน์อีกดวงหนึ่งก็จะเข้าข่ายในลักษณะว่า หญิงใดที่มีดาว จันทร์ พุธ ศุกร์ กุมลัคนาในราศีกุมภ์ หญิงนั้นจะมีเสน่ห์ในเรื่องของกามราคะ ชายใดได้สัมผัสจะลุ่มหลง แม้จากไปแล้วก็ยังหวนกลับมา ตรงนี้ผมเข้าใจว่าในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านได้กล่าวอธิบายเอาไว้ให้ผู้ศึกษาได้ทราบ หากคุณมีหนังสือก็ลองเปิดอ่านดูนะครับ อนึ่งดวงชะตาคุณยังโชคดีอยู่ที่พฤหัสฯนั้นเล็งกับจันทร์อยู่ แม้จันทร์เป็นนิจจ์ก็ไม่ค่อยจะเสียมากนัก4. เรื่องดาวเสาร์ที่ว่าเป็นมูลเกษตร ในราศีกุมภ์ซึ่งในวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นจะกล่าวเอาไว้ว่าเป็นเรือนของดาวเสาร์ที่ให้ดาวราหูเช่าไป เมื่อเสาร์มาอยู่กุมภ์ก็เหมือนอยู่บ้านตนเองคือได้ตำแหน่งเกษตรกลาย ๆ ในดวงชะตาคุณเมื่อพันธุกาลี หากจะซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ควรจะใช้ชื่อบุตรเป็นเจ้าของ หรือเป็นเจ้าของร่วมกับคุณ คนที่พันธุกาลี หากเป็นเซลส์ขายบ้านจะขายได้ เหมือนกับรับเข้ามาแล้วขายออกไป เป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน และ รถยนต์ จะดี 5. เรื่องดาวจร เมื่อดูแบบง่าย ๆ ก็ดูว่า 1 4 6 เป็นเจ้าเรือนภพอะไร เข้ามากระทบดาว 5 8 ก็เอาความหมายของภพที่ 1 4 6 เป็นเจ้าเรือนภพ มาผสมกับ ความหมายของภพที่ดาวพฤหัสกับราหูครองอยู่ ก็จะมีความหมายนั้นในปีดังกล่าว (ตรงนี้เป็นวิธีดูแบบในราศีจักในดวงเดิมดู) ที่ผมชี้แนะเช่นนี้เพื่อให้ท่านที่ยังไม่เข้าใจลองใช้ดู เป็นแบบง่าย ๆ เมื่อเข้าใจแล้วจะได้เรียนสูงขึ้นได้แบบค่อยเป็นค่อยไป เรื่องดาวในกระทบดาวใด ผมอยากให้คูณรัตนาฯ กลับไปอ่านในเรื่อง ตำนานชาติเวร (ในหนังสือโหราศาสตร์เกือบทุกเล่มจะมีเรื่องตำนานชาติเวรเขียนเอาไว้ มีประมาณ 12 เรื่อง จะกล่าวเกี่ยวกับเรื่องดาวใดกระทบดาวใด แล้วจะเกิดเรื่องอะไร ลองไปอ่านดูแล้วเอาความหมายมาผสมกัน ถือว่าเป็นการฝึกไปในตัวก็แล้วกันนะครับ (สำหรับดาว 5 8 ทีเล็งกับ 4 6 ก็ให้คิดในลักษณะเดียวกันกับดาว 1 4 6 ทับดาว 5 8)ผมคิดว่าคำตอบคงทำให้คุณสบายใจขึ้นนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 37สวัสดีคะ อ.การเวกอีกอย่าที่สงสัยและได้ยินคนพูดกันบ่อยก็คือจันทร์ผีกะ และศุกร์แม่เล้า ไม่ทราบว่ามันคืออะไรขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 38สวัสดีคะ อ.การเวก1. ดิฉันสงสัยว่า การดูดวงเขายึดราศีจัก หรือนวางจักรคะ คือจันทร์ที่เป็นนิจในพื้นดวงของดิฉันนั้นมันไม่เป็นนิจในนวางค์จักคะ ดิฉันใช้โปรแกรมในเวปคะ2.ส่วนที่ดิฉันเคยไปพึ่งหมอดูนั้นคงเป็นช่วงหลายปีก่อนที่สามีไปมีคนอื่นใหม่ๆ มันทุกข์มาก เพื่อนชวนไปก็ไป(ทั้งที่ปกติจะไม่ดูดวง) แต่มันน่าแปลกตรงที่ว่า แต่ละคนที่ไปจะชวนให้ดิฉันไปเป็นเมียน้อยเขา ดิฉันก็ลุกออกมาเลย พอได้มาลองศึกษาเองก็เลยคิดว่าเขาคงเห็น 4 6 กุมลัคน์ แม้แต่พระก็ยังพูดจาทางชู้สาว ดิฉันงงมาก แต่ไม่เคยเสียเงินสะเดาะห์เคราะห์นะคะ เพราะสิ่งที่ดิฉันคิดมาตลอด ดิฉันเชื่อเรื่อง บุญ กรรม3. ดิฉันได้อ่านเกี่ยวกับตำนานชาติเวร บ้างแล้ว ในเวป แต่มีความคิดว่าถ้าเราพยากรณ์ตามนั้น ก็แสดงว่าทุกๆ ปีเหตุกาณ์ต่างๆ ก็จะวนมาหาเราแบบนี้ ตามที่ดาวโคจร ซึ่งมันแปลก งงมากคะแล้วดิฉันจะเข้ามาอ่านหาความรู้เพิ่มไปเรื่อยๆ นี่ก็ไม่รู้จะทำไงให้ตัวหนังสือเป็นสีดำ เพราะบังเอิญไปcopy คำมาจากข้างบน สีมันเลยเป็นแบบนี้ ขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 39ขอแก้ไขในกระทู้ที่ 36 ข้อ 3 ที่ว่าหญิงใดที่มีดาว จันทร์ พุธ ศุกร์ กุมลัคนาในราศีกุมภ์ หญิงนั้นจะมีเสน่ห์ในเรื่องของกามราคะ ชายใดได้สัมผัสจะลุ่มหลง แม้จากไปแล้วก็ยังหวนกลับมา เปลี่ยนเป็น หญิงใดที่มีดาว จันทร์ พุธ ศุกร์ กุมลัคนาในราศีกรกฎ หญิงนั้นจะมีเสน่ห์ในเรื่องของกามราคะ ชาใดได้สัมผัสจะลุ่มหลง แม้จากไปแล้วก็ยังหวนกลับมา
ความคิดเห็นที่ 40สวัสดีคะ อ. การเวกขอรบกวนถามอีกนิดนะคะ ไม่ทราบว่าดวงแบบไหนถึงจะได้ไปต่างประเทศ วินาสน์กุมลัคน์จะได้ไปไหมคะ ขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 41สวัสดีค่ะ อ.การเวกไม่ทราบว่าการที่2 3 4 สลับเรือนกัน เรียกว่าเกษตร 3 ชั้น แล้วเวลาอ่านจะอ่านว่าอย่างไร ถึงจะถูกคะ ถ้าดาว3 ดวงนี้ไม่สลับเรือนกัน แล้วบังเอิญว่า 5 เสีย ดวงนี้ก็เข้าข่ายเป็นเมียน้อยใช่ไหมคะ เพราะตอนนั้นที่ไปให้เขาดู เขาก็จะว่าดวงเมียน้อย พอดิฉันบอกดิฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น คนดูเขาก็ไม่เชื่อ แต่พอดิฉันเถียงหัวชนฝา เขาก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดู แล้วจับยาม แล้วก็บอกว่าเขาเชื่อแล้วว่าดิฉันพูดจริงขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่างด้วยนะคะขอบคุณคะขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 42ตอบ คุณรัตนาฯต้องขออภัยที่ตอบช้าไปหน่อย เผอิญไป ตจว. มา ว่ากันถึงคำถามของคุณนะครับ1. คำถามที่ว่า จันทร์ผีกะ คำ ๆ นี้ผมอ่านหนังสือมาหลาย ๆ เล่ม ไม่เคยผ่านตามา ครูโหรผมเองก็ยังไม่เคยสอน เลยต้องขอผัดไปก่อน เอาไว้ทราบความหรือไปถามครูโหรก่อนแล้วจะมาตอบให้ครับ ส่วนศุกร์แม่เล้า ตรงนี้จะหมายถึงศุกร์ที่ราศีพฤษภ เท่าที่ผ่านดวงชะตามา คนที่ศุกร์กุมลัคน์ในราศีนี้จะรวยด้วยรัก เห็นใครก็รักไปหมดถ้าถูกสเป็ค อีกประการหนึ่งคงต้องให้สังเกตุว่า ศุกร์ราศีพฤษภในรูปของจักราศีจะเป็นรูปวัว ราศีธาตุดิน บางครั้งครูโหรจะเรียกกันว่า ท่านครูมัวโง่ ซึ่งจะหมายถึงว่า เรื่องอื่น ๆ รู้ไปหมด พอเรื่องใกล้ตัวกลับโง่ไม่รู้ ส่วนศุกร์ราศีตุลย์จะเป็นตาชั่ง ศุกร์ราศีนี้จะมีความยับยั้งชั่งใจ เหมือนรูปภาพประกอบ2. เรื่องของจักราศี ในการดูดวงชะตาทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่จะใช้ราศีจักรในการดูเบื้องต้น หากต้องการรู้ว่าดาวแต่ละดวงในราศีจักรเป็นเช่นไรก็ต้องผูกดวงนวางค์จักรขึ้นมาดูว่าใส้ในของดาวเป็นเช่นไร พร้อม ๆ กับผูกดวงตรียางค์จักรขึ้นมาด้วยเพื่อดูให้ลึกเข้าไปถึงใส้ในอีก อย่างเช่นที่คุณว่าดาวในราศีจักรเป็นนิจจ์ แต่ในนวางค์ไม่เป็น คนผู้นั้นก็จะได้รับความเป็นนิจจ์ไปบ้างในเบื้องต้น ตอนปลายชีวิตจะดีขึ้น จึงเกิดระบบการดูดวงชะตาของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์ (อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ) ขึ้นมาเป็นระบบการดูดวงชะตาอีกระบบหนึ่ง ซึ่งต่างจากการดูดวงชะตาทั่ว ๆ ไป เพราะท่านอาจารย์ได้ผสมผสานภพ เรือน ตำแหน่งดาว จนไม่ต้องไปดูในนาวางค์จักร หรือตรียางจักร ซึ่งระบบดังกล่าวดูเหมือนเรียนง่ายแต่เข้าใจยาก 3. คนโดยส่วนใหญ่เมื่อเห็นดาว พุธ+ศุกร์ กุมลัคน์ มักจะเข้าใจว่าเป็นคนเจ้าชู้ มักจะเป็นเมียน้อย ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก เหมือนอย่างเช่นที่ผมได้กล่าวเอาไว้ว่า คนที่มี 2 4 6 กุมลัคน์ จะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์ ใครได้สัมผัสด้วยเมื่อกลับมาก็จะมาหาเหมือนเดิม ที่ผมอ่านในหนังสือท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านเคยกล่าวถึงดวงชะตาดวงหนึ่งที่มีสถานะทางสังคมสูง กอร์ปกับมีอาชีพคล้าย ๆ กับว่ารับแขกแบบปกปิด ไม่เปิดเผย สมัยก่อนมีชาวอเมริกันเข้ามาในประเทศไทยเรา และได้สนิทชิดชอบกับบุคคลดังกล่าว เมื่อจากไปแล้วพอกลับมาเมืองไทยก็ยังต้องไปหาสตรีผู้นี้ เข้าใจว่าท่านได้ยกตัวอย่างเอาไว้ให้เห็นโดยกล่าวว่า เป็นเพราะดาวศุกร์ได้ราชาโชค จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นพวกที่ไม่ดูตาม้าตาเรือจึงเข้าใจในเบื้องต้นว่าคนที่มีดาวดังกล่าวกุมลัคนาจะเป็นดังเช่นที่คุณว่า4. เรื่องของตำนานชาติเวร ที่ผมกล่าวว่าให้ไปอ่านให้คล่อง ท่องให้จำ เพื่อนำมาใช้กับการพยากรณ์ สิ่งที่คุณแย้งมาก็ใช่ หากว่าเราจะดูดวงชะตาแล้วให้ลัคนาอยู่ที่เดิม (ผมได้กล่าวไว้แล้วว่า การให้ลัคนาอยู่ที่เดิมเป็นการดูแบบง่าย ๆ ) อันที่จริงคนเราจะมีอายุเปลี่ยนไป เพิ่มขึ้นทีละ 1 ปี ดังนั้นลัคนาก็จะต้องเวียนไปทีละราศีจนกว่าจะถึงอายุเต็มของเจ้าชะตา ตกตรงไหนก็ให้กาดอกจันทร์ไว้ว่า ปีดังกล่าวอายุเต็มเท่าไร ซึ่งเมื่อทำอย่างที่ผมว่า ภพก็จะเปลี่ยนไป ดังนั้นดาวเจ้าเรือนภพก็จะทำหน้าที่เปลี่ยนไปด้วยตามปีที่กำหนด ดาวจรก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้คำพยากรณ์ต้องเปลี่ยนไปในแต่ละปีด้วย มาถึงตรงนี้คุณคงเข้าใจแล้วนะครับ ลองใช้ดู5. เรื่องดวงแบบไหนจะได้ไปต่างประเทศ ตรงนี้อธิบายยาก เพราะบางคนดาวตนุลัคน์ต้องไปอยู่ภพมรณะเป็นเกษตร แสดงว่าคน ๆ นั้นอยู่ในถิ่นเกิดไม่ได้ ต้องไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดนถึงจะดี ส่วนที่จะไปต่างประเทศ หากไปแบบค้างคืนก็ต้องดูภพศุภะ (แบบง่าย ๆ นะครับ) ปีใดดาวเจ้าเรือนภพศุภะเป็นศรี ปีนั้นก็มีโอกาสได้ไปต่างประเทศ อยากจะให้ถือหลักนี้ไปก่อนเพราะจะไม่พลาด ส่วนหลักอื่น ๆ เมื่อคุณอ่านตำราแล้วค่อย ๆ แกะไป ในตำราจะบอกใบ้ไว้ให้ 6. เรื่องของดาวมหาเกษตร เวลาจะอ่านขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ภพไหนเป็นประธาน ภพนั้นก็จะสำคัญที่สุด ภพอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันก็จะเป็นภพรอง ให้ยึดถือตามนี้ก็แล้วกันผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 43สวัสดีคะ อ.การเวกขอแย้งนิดหน่อนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ ท่านครูแกล้งโง่ ในความหมายนี้น่าจะหมายถึง 5 ที่ราศีพฤษภ มากกว่าดาว 6 นะคะอีกข้อนะคะ ในดวงดิฉันมี 58 กุมกันอยู่ในตำราก็จะบอกว่า เป็นครูคู่โกหก ไม่ทราบว่าจะหมายความว่าอย่างไรคะ แต่ดิฉันไม่ชอบการโกหกนะคะ แล้ว 5 ในภพลาภพ ได้สิงหเกณฑ์ ลงทุนน้อยกำไรมาก แต่ตั้งแต่ดิฉันจำความได้ ดิฉันขายของ มักขายขาดทุน ก็ยังงงอยู่เหมือนกันคะขอบคุณคะที่กรุณาตอบ
ความคิดเห็นที่ 44ตอบ คุณรัตนาก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบผิดไปเกี่ยวกับเรื่อง ท่านครูมัวโง่ ขอบคุณครับที่ท้วงติงมา สำหรับเรื่องดาว 58 ดาวคู่นี้เป็นคู่เทคนิค เรียกได้ว่าเป็นคู่แห่งการฉวยโอกาส เช่น ก่อนที่รัฐบาลฯจะประกาศขึ้นราคาน้ำตาล หรือราคาบุหรี่ คนที่มีดาวคู่นี้และค้าขายเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าว ก็จะหูไว ตาไว กักตุนสินค้าไว้รอการขึ้นราคา เป็นต้น ส่วนเรื่องที่ว่าเข้าเกณฑ์ต่าง ๆ นั้น อันที่จริงจะมีการจำกัดองศาเอาไว้ด้วย ตรงนี้คงต้องไปค้นหากันเองนะครับว่า องศาที่เท่าไรจึงเข้าเกณฑ์ดังกล่าวผมคงจบคำตอบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 45เรียน อ.การเวกหนูคนหนึ่งค่ะ ที่กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยอยู่และะเพิ่งจบภาคพื้นฐานค่ะ ( จากสมาคมโหร)และขอขอบคุณอาจารย์ที่แนะนำเรื่องการเรียนเพิ่มเติมกับ อ.เศก ดุสิต เพราะหนูเองก็ได้ใช้หนังสือ ของ อ.เศก ดุสิต มาศึกษาด้วยแต่แรกเริ่ม แต่ไม่รู้ว่าจะเรียนกับท่านได้ที่ไหน..ขอบคุณครูอาจารย์ทางโหราศาสตร์ทุกท่าน ที่ดลใจให้หนูเข้ามาดู กระทู้นี้ ในวันนี้ (ความเห็นที่2 2412833)หนูเอง ลัคนา ราศีพิจิก มีดาว ๕๘๙ เล็งลัคน์ อยู่ภพปัตนิ ดาว ๑๓ อยู่ภพ ปุตตะ ดาว ๖ อยู่สหัสชะ และ ๐อยู่กัมมะ ๒๔๗ อยู่พันธุ ค่ะ เกิด วันเสาร์ 23.30 น.เชียงราย 19 มี.ค 2509 อยากเรียนถามอ.ว่ามีแนวโน้มจะได้เป็น นักพยากรณ์มือ อาชีพไหมคะทุกวันนี้ไม่มีอาชีพค่ะ เป็นแม่บ้านให้สามี กับลูกเท่านั้นขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 46เรียน อ.การเวก(กรวิก)ขอรบกวนเรียนถามเรื่องการอ่านในระบบดาว ความหมายของดาว หลังจากเราอ่านสองจังหวะในระบบเรือนเสร็จแล้ว1. พอเราอ่านเรือนเสร็จแล้ว มาอ่านดาวที่อยู่ในเรือน ดังที่ อ.วรกุลท่านอธิบายไว้ในกระทู้แรกๆ มีคำถามเรื่องการอ่านดาวว่า ถ้าดาวอาทิตย์(๑) เป็นเจ้าเรือนวินาสน์ อยู่ในเรือนกัมมะ(ราศีมิถุน) อ่านความหมายของอาทิตย์ในเรือนกัมมะ ผมจะอ่านว่า เป็นงานที่เกี่ยวกับราชการ งานมียศตำแหน่ง อย่างนี้ได้ไหมครับ2. และในเมื่ออาทิตย์มาจากเรือนวินาสน์ จะหมายถึง การมียศตำแหน่งนั้นไม่คงทน หรือครับขอความกรุณาอาจารย์อธิบายด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ความคิดเห็นที่ 47ตอบ คุณlataคำถามที่คุณถามมา เกี่ยวกับเรื่องดวงชะตาว่าสามารถเรียนวิชาโหราศาสตร์ และ ทำเป็นอาชีพได้หรือไม่ ได้ครับ เรียนไปแล้วค่อย ๆ ฝึก เมื่อมีความชำนาญขึ้นก็ทำเป็นอาชีพได้ พื้นดวงให้ด้วย สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะก็คือ เมื่อไรก็ตามที่สมาคมโหรจัดไหว้ครู ก็ไปไหว้ครูกับเขาสักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง และทำให้เราสามารถศึกษาได้แตกฉาน ผมเข้าใจว่าคุณคงอยู่กรุงเทพฯ เอาอย่างนี้ ผมทราบมาจากเพื่อนว่า ขณะนี้ ท่านอาจารย์เศก ดุสิต กำลังจะเปิดชั้นเรียนใหม่ ทั้งวิชาเลข 7 ตัว และวิชาโหราศาสตร์ไทย ในเบื้องต้น เริ่มเรียน วันที่ 5 ก.ค. 2551 เรียนทุกวันเสาร์ เวลา 08.30 -09.30 วิชาเลข 7 ตัว และ 10.00-11.00 วิชาโหราศาสตร์ไทย สนใจศึกษาก็ลองแวะเวียนไปที่ วัดไตรมิตร (วงเวียนโอเดียนเก่า) ผมคงจบคำตอบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับตอบ คุณหนึ่งคำตอบของคุณมีดังนี้1. ตามคำถาม ถ้าดาวอาทิตย์(๑) เป็นเจ้าเรือนวินาสน์ อยู่ในเรือนกัมมะ(ราศีมิถุน) อ่านความหมายของอาทิตย์ในเรือนกัมมะ ผมจะอ่านว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับราชการ งานมียศตำแหน่ง คุณจะอ่านอย่างที่คุณต้องการก็ได้ ซึ่งการอ่านแบบนี้คุณจะยึดถือว่าดาวอาทิตย์เป็นเรื่องเกี่ยวกับราชการ และตำแหน่งหน้าที่การงาน หากคุณจะอ่านเช่นนี้ก็อยากจะให้เพิ่มความหมายของอาทิตย์ราชาโชค คือ จะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเป็นประจำในเรื่องของการงาน ซึ่งเป็นเรื่องการติดต่อสื่อสาร ลองเอาความหมายนี้แทนดูนะครับ2. การจะแปลความหมายควรจะดูภาพรวมของพื้นชะตาด้วย รวมทั้งความหมายของภพ กับ ดาวที่จะต้องสอดคล้องกันผมคงจบคำตอบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 48เรียน อาจารย์ การเวก ค่ะขอบคุณค่ะ สำหรับรายละเอียดเรื่องการเรียนที่วัดไตรมิตรหนูอยู่ จังหวัดนนท์ค่ะ และที่สมาคมโหรมีการไหว้ครู วันที่ 8 นี้ ไปแน่นอนค่ะอ่านตามที่อาจารย์ตอบคุณรัตนา..... ภพจอมฟ้า คือภพอะไรคะ และดาว ๗ อยู่ราศีกุมภ์ (ภพ พันธุ) เท่ากับเป็นมูลเกษตร ฉะนั้นในดวงหนูดาว๗ก็เป็นเกษตรกลายๆไปด้วย แต่มี ๔ เจ้าเรือนมรณะ เป็นกาลีกุม จะมีปัญหากับญาติพี่น้องเรื่องมรดกไหมคะ หรือจะทำนายว่า อยู่ห่างจากญาติพี่น้อง แถมยังมีดาว ๒ เจ้าเรือนศุภะกุมอีก เลยชักงง ค่ะอาจารย์ส่วนดาว ๑ เป็นคู่กัดกับดาว ๓ อยู่ปุตตะ ทำให้มีปัญหากับบุตรบริวาร แต่ดาว ๑ เป็นอุจจาวิลาสซึ่งเป็น เจ้าเรือนกัมมะ และดาว๓ เป็นเจ้าเรือน อริลัคน์ และตนุลัคน์ และดาว ๕ เจ้าเรือนปุตตะ อยู่ปัตนิ มีบางตำราว่า ยิ่งมีดาวในภพมาก ยิ่งยุ่งเหยิงมาก ใช่ไหมคะและ ถ้าภพใดมี ๙ อยู่ ภพนั้นๆๆจะวุ่นวาย ขอความกรุณาอาจาร์ย์ช่วยอธิบายด้วยค่ะขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 49ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 50อาจารย์คะ รบกวนสอบถามเพื่อเป็นกรณีศึกษานะคะปีนี้ราหูจรให้ภพเดิมสหัชชะและมีดาวเดิมคือจ ๒ ๔ ๖ ๙ จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมั้ยคะ
ความคิดเห็นที่ 51สวัสดีค่ะ อ.การเวก๏ ดิฉันอยากขอรบกวนถามอาจารย์ เกี่ยวกับการอ่านดวงแบบเรือนชะตาสัมพันธ์ ไม่ทราบว่ามีหนังสือขายไหมคะ อีกอย่างดิฉันเห็นอ.พูดถึงการสอนของอ.ส ดุสิต ก็อยากเรียนเหมือนกันคะ แต่ดิฉันอยู่ต่างจังหวัดคงหมดโอกาส เพราะด้วยเหตุผลหลายอย่าง ขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 52ตอบ คุณลาตาคำถามของคุณตอบได้ดังนี้1. ภพจอมฟ้า คือ ภพที่เป็นสิบกับลัคนา ที่ผมมักจะกล่าวว่า "จตุโกณ-ภพจอมฟ้า" ดาวที่อยู่ในตำแหน่งนี้จะถึงลัคนา 100% คล้าย ๆ กับว่า อยู่ตรงกลางของศรีษะมนุษย์ในเวลา 12.00 น. ตรง เป็นชื่อเรียกเกณฑ์ ๆ หนึ่ง ของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ2. สำหรับดาวที่เป็นมูลเกษตร จะมีองศาจำกัดเอาไว้ อย่างเช่น ดาว ๗ (เสาร์ในราศีกุมภ์) เป็นมูลเกษตร เมื่อมีองศาที่ 1-20 องศา ส่วนดาวอื่น ๆ คงต้องไปดูในหนังสือของท่านอาจารย์ สิงห์โตฯ ท่านเขียนไว้ละเอียดพอสมควรเกี่ยวกับดาวมูลเกษตร (ราคาเดิมของหนังสือประมารณ 800 บาท ปัจจุบันไม่ทราบว่าเท่าไร) เอาไว้ผมมีเวลาจะคัดลอกมาลงไว้ให้3. สำหรับพื้นดวงชะตาคุณ ดาวพุธจะอยู่ร่วมกับดาวอังคารและอาทิตย์ในราศีมีน ส่วนราศีกุมภ์จะมีดาวจันทร์+เสาร์ อาทิตย์ที่เป็นอุจจาวิลาส เปรียบเสมือนราชาโชค ในพื้นดวงชะตาของคุณมักจะมีงานใหม่ ๆ มาอยู่เสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดการแบ่งสรรปันส่วน เช่น งานคุณอาจจะเป็นงานเกี่ยวกับทนายความ งานส่วนใหญ่ก็จะเป็นการฟ้องร้องเรื่องมรดก คดีความเกี่ยวกับการแบ่งปันมรดก เป็นต้น ที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมานี้เพราะ พุธเป็นกาลีหนึ่ง พุธเป็นเจ้าเรือนมรณะหนึ่ง พุธเป็นเจ้าเรือนภพลาภะหนึ่ง ดังนั้นคาดว่างานคุณเกี่ยวกับทนายความหรือเป็นข้าราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นผู้พิพากษาด้วยก็ได้ เป็นการพิจารณาคดี หรืออาจจะเป็นอัยการก็ได้ 4. เรื่องดาวในภพหลาย ๆ ดวง บางครั้งก็ดูเหมือนพยากรณ์ยาก แต่ในสิ่งที่ยากก็จะมีส่วนที่เป็นคุณประโยชน์คือ ดูภพเดียวได้ตั้งสี่ห้าภพพร้อม ๆ กัน ซึ่งดูเหมือนยากก็ได้ ง่ายก็ได้ ประหยัดเวลาในการพยากรณ์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะแยกแยะการพยากรณ์ออกมาเป็นเรื่อง ๆ ของมัน5. ส่วนดาวเกตุ เป็นดาวที่แปลก จะช่วยก็ได้ จะเบียนก็ดี ขึ้นอยู่กับว่าดาวที่อยู่ร่วมกับดาวเกตุ ดีหรือเสีย ถ้าดีดาวเกตุก็จะส่งเสริม ถ้าเสียดาวเกตุก็จะเบียนคำตอบมีเพียงเท่านี้นะครับตอบ คุณยุ้ยเห็นคำถามแล้วไม่เข้าใจ คงต้องให้ถามมาใหม่ อีกอย่างคือ ช่วยบอก วัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิดมาด้วยตอบ คุณรัตนาลองหาซื้อตำราของท่านอาจารย์เศกฯ มาอ่าน มีเล่ม 1-4 ค่อย ๆ อ่าน ตำราของท่านอ่านง่าย หากคุณมีพื้นอยู่แล้วยิ่งง่ายขึ้นผมคงจบคำตอบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 53สวัสดีคะ อ.การเวกหนังสือของอ.ศ .ดุสิต จริงๆแล้วท่านเขียนได้น่าอ่านมาก ไม่เครียด แต่ไม่ทราบว่าเป็นไง อ่านแล้วไม่สามารถเข้าถึงได้ ไว้ดิฉันจะลองอ่านหลายๆ รอบ ขอบคุณคะ อันที่จริงเริ่มท้อเหมือนกันขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 54สวัสดีค่ะรบกวนสอบถามอาจารย์ว่า มีเว็ปไซด์มั้ยคะ ที่มีการเรียนการสอนผ่านทางอีเมลหรือมีผู้ตอบคำถามเกี่ยวกับโหราศาสตร์ คือดิฉันเป็นคนไทยอาศัยอยู่ต่างประเทศ ไม่มีเวลากลับไปเรียนที่มีไทย ซื้อหนังสือมาอ่านหลายตำราแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจอาจารย์ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ดิฉันสนใจศาสตร์นี้และอยากเรียนให้รู้แบบจริงๆจังๆ
ความคิดเห็นที่ 55จากยุ้ยค่ะ ขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะ ดิฉันเกิด คืนวันศุกร์ที่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๑๙ ปีเถาะ เวลา 01.28 (เช้ามาเป็นวันที่ ๒๘ ค่ะ)พอดีหนูกำลัฃศึกษารายละเอียดจากดวงตัวเองอยู่ค่ะ ถ้าอาจารย์จะช่วยให้เข้าใจมากขึ้น และเป็นกรณีศึกษาสำหรับดวงของดิฉันเองจะขอบพระคุณค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศค่ะ
ความคิดเห็นที่ 56(ต่อจากยุ้ย)อยากถามอาจารย์เกี่ยวกับสิ่งที่ควรระวังในชีวิต โดยทั่วไป และ เรื่องราวในปีนี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 57เรียน อ. การเวกขอบคุณค่ะที่ให้ความกระจ่าง
ความคิดเห็นที่ 58ตอบ คุณรัตนาค่อย ๆ อ่านหนังสือของท่านอาจารเศกฯ สัก 2-3 รอบ แล้วหากมีปัญหาอะไรก็โพสต์มาถามได้นะครับ สวัสดีครับตอบ คุณพรนิชาเรื่องเวปไซด์ ลองเข้าไปโพสต์ที่ www.payakorn.com แล้วลอง search เข้าไปในกระทู้เกี่ยวกับ โหราศาสตร์ของท่านอาจารอรุณ ลำเพ็ญ (อ.หมอเถาวัลย์) จะมีบทความให้ศึกษาหลาย ๆ บทความ ลองเข้าไปอ่านดู และในเวปนี้ก็ลองดูใน หมอเถาวัลย์1 หมอเถาวัลย์2 หมอเถาวัลย์3 ก๊อป***บทความเอามาอ่านและศึกษาดู แล้วซื้อหนังสือของท่านอาจารย์เศก ดุสิต มาอ่าน (มีเล่ม 1-3 รู้ชีวิตด้วยดวงดาว ส่วนเล่ม4 จะเป็นขุมทรัพย์โหร จะมีเกณฑ์ต่าง ๆ ลองให้ญาตในกรุงเทพฯ ซื้อส่งไปให้อ่าน อ่านสัก 3 รอบ แล้วค่อยมาอ่านเรื่องเล่าของอาจารย์หมอเถาวัลย์ ค่อย ๆ ศึกษา แล้วคุณจะเข้าใจเอง หากไม่เข้าใจก็โพสต์มาถามได้นะครับ สวัสดีครับตอบ คุณยุ้ยปีนี้พื้นดวงชะตาคงต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเงินทอง ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไร หรือจะเรียนวิชาอะไรก็คิดให้ดี ๆ ควรจะดูความสัมพันธ์วิชาที่เรียนกับเงินที่จะเสียไป รวมทั้งต้องระมัดระวังในเรื่องที่พักพิง เนื่องจากคุณอยู่ต่างประเทศ ให้ระมัดระวังเรื่องที่อยู่อาศัย เลือกให้ดี ๆ อย่าเอาราคาถูกเข้าว่า เดี๋ยวจะมีปัญหา ตรงนี้เนื่องมาจากราหูจรเข้ามากุมดาวเดิม ราหูเดิมก็มีตำแหน่งราชาโชคอยู่แล้ว จรมาก็ยังมีตำแหน่งมหาจักรอีก แถมกุม พุธ จันทร์ ศุกร์ เกตุ พร้อม ๆ กับเล็งดาวเสาร์ด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นจะทุกข์ร้อนเหมือนไฟสุมขอน ไม่ว่าจะเรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องแฟน จะให้ดีก็ต้องตั้งสติ จะทำอะไรก็ขอให้คิด ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามคำอธิบายมีเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับเนื่องจากกระทู้นี้ค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลพอสมควร ผมจึงขอเปิดกระทู้ที่ 29 ขึ้นเพื่อความสะดวกในการถามตอบนะครับ
ความคิดเห็นที่ 59สวัสดีค่ะ หนูขอรบกวนนะคะหนูเกิดวันพุธที่20 กรกฏาคม 2520 ปีมะเส็ง หนูขอถาม1.งานที่ทำในตอนนี้จะเป็นยังงัยบ้างคะมัน2.ชีวิตรอบครัวจะดีขึ้นบ้างมั้ย3.สามีจะทำงานกับคนต่างชาติได้อีกหรือเปล่า
ความคิดเห็นที่ 60สวัสดีค่ะ อ.การเวกจริงๆแล้วดิฉันก็ได้ก็อป***ของอาจารย์หมอเถาว์ไป***เป็นเล่มเรียบร้อยแล้วคะ อ่านสนุกดี แต่ยังอ่านได้ไม่กี่ตอน แต่ก็เข้าใจง่าย ส่วนของอาจารย์ศ.ดุสิต อ่านสนุกจริง แต่คิดตามไม่ค่อยทัน คงเพราะหัวไม่ค่อยจะดี แต่จะพยายามคะ ขอบคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 61ขอขอบพระคุณอ.การเวกมากนะคะ ดีใจมากที่ในขณะอยู่ต่างแดนแต่มีอาจารย์ออนไลน์คอยให้ความรู้ ขอกราบบูชาครูและทุกท่านที่ให้สาระที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะนี้ ขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ และเทพเทวดาคุ้มครอง ตลอดไปเทอญ