เว็บบอร์ด

กระทู้ ถามตอบโหราศาสตร์ พยากรณ์ศาสตร์

ปิดปรับปรุงชั่วคราว

ถามเรื่อง เสาร์และราหูเล็งลัคนา (เคยอ่านบางตำราบอกว่า ในดวงชะตาไม่มีอะไรดี ให้ไปบวชเสีย)

ผมเกิดวันที่ 11 มีนาคม 2523 เวลา 05.29 น. วันจันทร์

ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์

แรม 9 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม จศ.1341

ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ มีดาว ๑(ประ) และ๔ กุมลัคนา

ราศีเมษ มีดาว๖ (ประ)

ราศีสิงห์ มีดาว ๓ ๕ ๗ ๘(ประ) เล็งลัคนา

ราศีตุล มีดาว 0

ราศีพิจิกมีดาว ๙

ราศีธนู มีดาว ๒

อยากถามว่า

1. ถ้ามีเสาร์กับราหูเล็งลัคนา จะไม่มีอะไรดีในชีวิตจริงหรือป่าวครับ (อ่านจากตำรา "เป็นโหราศาสตร์ภายใน 30 ชม." ของ........จำไม่ได้) และถ้ามีดาวพฤหัสอยู่ด้วย จะช่วยได้ไหมครับ และถ้ามีดาวอังคาร(เป็นคู่สมพลกับดาวพฤหัส)อยู่ด้วย จะทำนายว่ายังไงครับ

2. อยากทราบเกี่ยวกับหน้าที่การงาน จะต้องดูดาวหรือภพอะไรครับ ถึงจะรู้ว่าทำชีพอะไรจึงจะเหมาะสมและก้าวหน้ามากที่สุด (เคยอ่านในตำราแล้วมันกว้างมาก )

3. จะดูยังไง ถึงจะรู้ว่าดวงชะตาใดมีฐานะอย่างไร ร่ำรวยหรือจน และในดวงชะตาผมอยู่ในฐานะใดครับ

4. ผมไม่เข้าใจเรื่องการแลกเรือน จะต้องมีลักษณะยังไงครับ ถึงจะแลกกันได้ อย่างดวงผม ๑ กับ ๘ ถือว่าแลกเรือนกันได้ไหมครับ

5. ถ้าบางดวงที่ไม่ดาวอยู่ในภพปัตนิ แปลว่า จะไม่มีคู่ หรือป่าวครับ

ไม่รู้ถามมากไปป่าว แต่ขอบคุณทุกคำตอบครับ

ผมก็ศึกษาเรื่องโหราศาสตร์อยู่นะครับ เคยอ่านหลายตำรา แต่ไม่แตกฉานเลย ยิ่งอ่านยิ่งมั่ว


ธาวิน พล. - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 202.28.21.4)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ตอบ คุณธาวิน พล

1.ดวงคุณแม้เข้าเกณฑ์พินทุบาทว์ก็อย่าเพิ่งตกใจไปเลยครับ การจะอ่านดวงให้แตกต้องดูให้ทั่วเสียก่อน เพราะดวงคุณมีตัวช่วยเยอะ กล่าวคือ มี ๖ เป็นสามแก่ลัคน์ , มี ๒ เป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ และเป็นดวงธนโยค ด้วย ตัวช่วยเหล่านี้แหละครับค้ำยันให้ดวงคุณต่อไปจะได้ดีจนได้ ตามคำโคลงที่ว่า

อนึ่งจันทร์สิบเอ็ดแท้ แก่ลัคน์

พฤหัสบดีสี่ทรงศักดิ์ แช่มช้อย

ศุกร์สามดังนี้จัก เจริญยิ่ง ยศแฮ

หากว่าชาติต่ำต้อย ยกให้เสมอพงศ์ฯ

2. ดวงคุณมีพรสวรรค์ทางโหราศาสตร์หรือศาสตร์เร้นลับทั้งหลาย จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์คิดค้นก็ได้ทั้งนั้นคุณเป็นคนที่ขี้หงุดหงิดใจร้อนสักหน่อยแต่ก็เป็นคนความคิดอ่านลึกซึ้งดี

3. ดวงคุณมีเกณฑ์ธนโยค ย่อมหมายความว่า มีโอกาสร่ำรวยในอนาคต การดูคนรวยหรือไม่ก็ดูดาวเจ้าเรือนตนุ,กดุมพะ,ปุตตะ,ปัตนิ, ศุภะ และลาภะ หากแลกเรือนซึ่งกันก็มีเกณฑ์ครับ

4. การแลกเรือนคือ ดาวพระเคราะห์ต่างแลกเรือนเกษตรซึ่งกันและกัน(อนุเกษตร) ในลักษณะที่ไม่ใช่มุมเล็ง เช่น ๑ สถิตราศีตุล และ ๖ สถิตราศีสิงห์ ผลของการแลกเรือนลักษณะนี้คือ ค่อยๆมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ กับอีกประเภทหนึ่งเรียกว่าสับเรือน หรือ สัปดเกณฑ์ คือ การแลกเรือนในมุมเล็ง เช่นดวงคุณเป็นต้น ผลของการสับเรือนแบบนี้คือ มักทำให้เจ้าชะตาล้มลุกคลุกคลานในเบื้องต้นแล้วไปร่ำรวยภายหลัง มีเกร็ดโบราณท่านว่า นิจต่อนิจเล็งกัน มักเจริญรุ่งเรืองในยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นที่นับถือของผู้คนทั่วไป แต่ถ้าประต่อประเล็งกัน(สับเรือน) มักเจริญรุ่งเรื่องในทรัพย์สมบัติ ดียิ่งกว่าเกษตรหนึ่งตัวอีกด้วย

5.การที่ไม่มีดาวในภพปัตนิมิได้หมายความว่าไม่ม่คู่ การจะดูเรื่องใดก็ต้องวินิจฉัยที่เจ้าเรือนนั้นเป็นหลักก่อนเสมอ ดวงไม่มีคู่ส่วนใหญ่ดาวเจ้าเรือนปัตนิเป็นมรณะกลับลัคน์และเป็นวินาศกับตนุลัคน์ เป็นต้น แต่ดวงคุณมักจะได้พวกแม่ม่ายที่อายุมากกว่าคุณสักหน่อย เป็นดวงที่เสน่ห์แรงพอดูมีคนมาติดพันหรือแอบชอบคุณเสมอและตัวคุณมักจะขี้หงุดหงิดเวลาเข้าบ้านมักมีปัญหากับพ่อเสมอ(พ่อเป็นคนใจร้อนเจ้าอารมณ์)

หมายเหตุ ดวงที่ได้เกณฑ์พินทุบาทว์แล้วถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็เคยมีมาให้เห็น เช่น ดวงชะตาหนึ่งเกิดวันที่ 14 พ.ย. 2462 เวลา 18 น.เศษ ดวงเขาได้เกณฑ์ธนโยค, จันทร์ ครุ สุริยา แม้ ๘ กาลกิณีเล็งลัคน์แต่ก็กลับพลิกชีวิตจากคนที่ตกงานบ่อย ล้มลุกคลุกคลานมาเกือบครึ่งค่อนชีวิตแต่มาร่ำรวยภายหลังตามจังหวะดวงดาวตรีวัยและเกณฑ์ดวงมาตรฐาน(ตัวช่วย)ในดวงชะตาเขาในที่สุด....หวังว่าที่อธิบายมาพอสังเขปคงจะช่วยทำให้คุณมีกำลังใจสู้ชีวิตขึ้นมาบ้างนะครับ


สิทธาฯ - 15 ธันวาคม พ.ศ.2549 11:36น. (IP: 203.150.86.250)

ความคิดเห็นที่ 2
เสริมอีกนิด

การจะดูดวงใดย่ำแย่ถึงขั้นหนีบวชไปเลยนั้นขอให้ตรวจภพเกณฑ์ก่อน เพราะเป็นภพสำคัญในชีวิต ดวงชะตาใดแข็งหรือไม่เพียงใดโบราณท่านให้ตรวจภพเกณฑ์ก่อนครับ คือ ภพตนุ-พันธุ-ปัตนิ-กัมมะ หากเจ้าเรือนในภพเกณฑ์เหล่านี้เข้มแข็งชีวิตก็มั่นคงตามไปด้วย หากเจ้าเรือนภพดังกล่าวเสียหรืออยู่ในตำแหน่งที่อ่อน(นิจ-ประ-กาลกิณี-ทุสถานภพ) ดวงนั้นชะตาตกครับ


สิทธาฯ - 15 ธันวาคม พ.ศ.2549 11:47น. (IP: 203.150.86.250)

ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณครับ ที่ช่วยตอบคำถาม ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น

โหราศาสตร์ ไม่ง่ายเลย มีเคล็ดลับเยอะจัง ผมคงต้องหาอาจารย์ เรียนด้วยแล้วมั้งครับ อ่านเองแล้วตีความผิดทุกที


ธาวิน พล. - 15 ธันวาคม พ.ศ.2549 15:51น. (IP: 58.137.48.4)

ความคิดเห็นที่ 4
ถ้ามีความตั้งใจจริงแล้วหากมีญาติพี่น้องหลายคนเรียนโหราศาสตร์ด้วยตนเองก็จะเป็นเร็วครับ (ผมก็ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง) ศึกษาตำราทีละเล่มแล้วค่อยๆตรวจสอบกับดวงพี่น้องของเรา(เพราะเรารู้เรื่องราวชีวิตของเขาดีอยู่แล้ว)เดี๋ยวก็เป็นเองครับเพียงแต่ต้องเลือกตำราที่ดีก็จะเป็นเร็วไม่หลงทางง่ายๆลำพังอ่านแต่ตำราอย่างเดียวไม่มีวันแตกฉานหรอกครับถ้าไม่ขึ้นเวทีชกกับดวงชะตาจริง สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำ ไม่เท่าชำนาญ (ประสบการณ์คือครูบาอาจารย์ที่ดีครับ)


สิทธาฯ - 15 ธันวาคม พ.ศ.2549 21:00น. (IP: 210.203.179.46)

ความคิดเห็นที่ 5
ผมอยากถามอีกข้อ อาชีพผม เป็นคนขับเครื่องบิน (นักบิน) ได้ไหมครับ (สอบปีหน้า)

ตอนนี้ เรียนโทอยู่ ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใกล้จะจบแล้วครับ แต่จบไปแล้วไม่อยากเป็นอาจารย์นะครับ ชอบการเดินทางมากกว่า

เพิ่มเติมอีก 2 ข้อครับ

โหราศาสตร์ตอบได้ทุกคำถามหรือป่าวครับ

แล้วคนเหนือดวง หรือดวงเหนือคนครับ


ธาวิน พล. - 16 ธันวาคม พ.ศ.2549 15:18น. (IP: 58.137.48.4)

ความคิดเห็นที่ 6
ตอบ คุณ ธาวิน พล

เนื่องจากคุณไม่ได้บอกช่วงเวลาที่จะสอบ แต่ถ้าเป็นหลังวันเกิดปีหน้าคุณไปแล้วโอกาสในการสอบผ่านค่อนข้างน้อยครับ ช่วงอายุ 24-27 ปี เป็นช่วงอายุที่มีปัญหาอุปสรรคต่างๆไม่ค่อยราบรื่น โดยเฉพาะช่วงปีหน้าหลังวันเกิดเป็นช่วง ๗ แทรกอายุ(๗ เป็นอุบาทว์ในปีที่เกิด) และดาวตนุลัคน์(๗)เป็นกาลกิณีจร เป็นเกณฑ์กับเจ้าเรือนศุภะ(๖)ที่ราศีเมษ จึงค่อนข้างยากครับ แต่ถ้าตั้งแต่อายุ 28-30 มาสอบอีกโอกาสผ่านมีสูงครับ ถ้าทำอาชีพนักบินก็ทำได้ครับเพราะดวงคุณลัคนาราศีธาตุลม และภพศุภะมีดาวมฤตยู ก็บ่งบอกว่าตัวคุณมักชอบเดินทางไกลๆหรือเคยได้ไปต่างประเทศ ไม่ค่อยชอบเข้าบ้านเข้าบ้านแล้วหงุดหงิด และเจ้าเรือนศุภะก็สถิตภพสหัชชะก็หมายความว่าความสุขของคุณคือการสังสรรค์พบปะผู้คน ,เพื่อนฝูง หรือได้ไปโน่นมานี่อยู่เสมอๆ ครับ

-โหราศาสตร์ตอบได้เท่าที่รู้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณถามเรื่องอะไรหากถามเรื่องที่ผมรู้ก็ตอบได้ทั้งนั้นครับ

-คนเหนือดวงเพราะคนๆนั้นแก้ใจตัวเองได้แล้วครับ(พ้นทุกข์) แต่ดวงเหนือคนเพราะคนๆนั้นยังไม่สามารถปลดพันธนาการทางใจได้ครับ ย่อมเป็นไปตามวิบากกรรมที่ทำมาสามารถรู้ได้จากรหัสดวงดาวครับ ผมจะยกตัวอย่างดวงชะตาพระอริยเจ้าองค์หนึ่ง คือ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย หรือนามเดิม นายสมชาย มติยาภักดิ์ แห่งวัดเขาสุกิม ท่านเกิดวันอังคารที่ ๗ เม.ย. ๒๔๖๘ เวลา ๑๒.๐๐ น. จ.ร้อยเอ็ด (ตามรายละเอียดในหนังสืออัตโนประวัติของท่านที่พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ)

ลัคนาของท่านสถิตราศีกรกฏ(เรือนกาลกิณี) มีราหูกุมลัคน์

๒ สถิตราศีกันย์๓ สถิตราศีพฤษภ

๑๔๖ สถิตราศีมีน ๗(ตนุเศษ) สถิตราศีตุลย์

๐ สถิตราศีกุมภ์ ๕ สถิตราศีมังกร

๙ สถิตราศีมิถุน

ชีวิตท่านในวัยเยาว์กำพร้าบิดา-มารดา ตั้งแต่เล็ก ต้องอยู่กับคุณตาจนต่อมาคุณตาก็มาเสียชีวิตด้วยโรคอหิวาห์โดยกระทันหันแล้วก็ระหกระเหินไปอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ ต่อมาพี่สะใภ้ก็มาเสียชีวิตอีกแล้วทิ้งลูกให้เลี้ยงดูถึง 5 คน โดยพี่ชายไม่สนใจเลี้ยงดูเลยทั้งๆที่เป็นลูกของตัวเองแท้ๆ ทำให้หลวงปู่ลำบากมากในช่วงชีวิตตอนเป็นฆราวาส ทั้งนี้เพราะอิทธิพลของตนุลัคน์เป็นกาลกิณี และ๗ ในภพพันธุ ทำให้หลวงปู่ไม่มีบ้านอยู่อาศัยต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลงตลอด ต้องหาเลี้ยงหลานตั้งแต่หลวงปู่อายุ 14 ปี (ช่วงอายุ 13-16 ปี ดาว ๕ แทรกอายุ / ๕ เป็นโลกาวินาศในปีที่เกิด) จนต่อมาหลานๆเติบใหญ่ช่วยเหลือตัวเองไปได้แล้ว หลวงปู่ก็เกิดความเบื่อหน่ายทางโลกแล้วมีเหตุให้ไปพบพระอริยสงฆ์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทำให้หลวงปู่เกิดศรัทธาและสละเพศฆราวาสเข้าสู่สมณเพศและปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมชั้นสูง(บรรลุคุณธรรมและอภิญญา)

จะเห็นว่าตอนที่หลวงปู่ยังเป็นปุถุชนธรรมดาลำบากยากแค้นเพียงใด เรื่องราวในชีวิตล้วนเป็นไปตามอิทธิพลของดวงดาว(กรรม)หรือจะเรียกว่า "ดวงเหนือคน" ก็ได้ครับในช่วงนั้น แต่พอหลวงปู่ลาชีวิตทางโลกแล้วปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤษจนสามารถชนะจิตใจตัวเองพร้อมทั้งชนะกิเลสทั้งหลายภายในได้แล้ว ความเป็นไปต่างๆในชีวิตก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นบุคคลที่ผู้คนเคารพกราบไหว้ทั่วแผ่นดินแม้แต่เชื้อพระวงศ์ เป็นพระสงฆ์ระดับราชาคณะขึ้นมาทันที นี่แหละครับที่เรียกว่า "คนเหนือดวง" จะว่าโหราศาสตร์งมงายก็ใช่ที่ อิทธิพลของเสาร์อุจราศีตุลให้โทษในวัยเด็ก แต่กลับมาให้คุณในช่วงปลายกลายเป็นพระสงฆ์ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ระดับราชาคณะ(พันธุแปลว่าตำแหน่งหน้าที่การงานเมื่อดาวอุจมาสถิตตรงนี้ก็ทำให้มีเกีรติเฟื่องฟู แต่ดาวอุจในดวงหลวงปู่เป็นบาปเคราะห์จึงให้โทษก่อนที่จะสนองคุณภายหลัง)

ดังนั้น ที่ว่าแก้กรรมไม่ต้องไปแก้ที่ไหนหรอกครับให้แก้ที่ใจตัวเองนั่นแหละคือ การแก้กรรม ทุกอย่างเกิดจากใจถ้าใจดีแล้วทุกอย่างก็จะดีตามไปเอง ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ใจดีก็ย่อมคิดดี, พูดดี, ทำดี ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากมหาเหตุคือ "ใจ" เป็นสำคัญ จะเป็นคนพาล,บัณฑิต, อริยสงฆ์ ก็เกิดจากใจเจ้าของผู้พาให้ประพฤติปฏิบัติให้เป็นไปตามอำนาจอิทธิพลของใจตัวเอง

คำถามมีว่าแล้วจะทำอย่างไรให้ใจมันดีก็ต้องเดินตามวิชาพระก็คือใช้กรรมฐาน(ฐานที่ตั้งแห่งการงานทางใจ) นั่นแหละครับเป็นอุปกรณ์ฝึกหัดดัดแปลงจิตใจให้มันดี ซึ่งมี 2 ประเภท

1.สมถกรรมฐาน คือการฝึกใจให้เข้าถึงความสงบตั้งมั่นเพื่อให้เกิดฐานแห่งสติที่มั่นคง

2.วิสปัสสนากรรมฐาน คือการฝึกสติปัญญาให้รู้แจ้งเห็นจริงในสรรพสิ่งของตัวเอง(ขันธ์ห้า)

รู้แล้วได้อะไร...........รู้แล้วก็หายหลง .......หลงในอะไร.....หลงในภพในชาติที่เกิดมาไงครับ......พอหายหลงแล้วจิตดวงนั้นก็พลิกสภาพกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานจริงๆ ไม่กลับไปหลงอีก(เพราะมีญาณหยั่งรู้ภายในว่าสิ่งนี้เป็นทุกข์, สิ่งนี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ , สิ่งนี้คือการดับแห่งทุกข์ และสิ่งนี้คือทางแห่งการดับทุกข์) ทำให้เขาคนนั้นเลื่อนฐานะจากปุถุชนกลายเป็นอริยบุคคล, อริยสงฆ์ไป เพราะเหตุที่มีใจประเสริฐไม่ตกอยู่ใต้อำนาจอิทธิพลแห่งความหลงมัวเมาในขันธ์ห้าอีก...จึงพ้นจากกรรมที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในที่สุด(นิพพาน) ของเหล่านี้เป็นเรื่องของวาสนาบารมีใครมีมากก็ทำได้มากเข้าถึงได้ง่าย ใครมีน้อยก็ทำได้ยากเข้าถึงได้ยากต้องต่อสู้ฝืนใจตัวเองค่อนข้างมาก แต่ก็มิได้หมายความว่าต้องรอวาสนาบารมีแล้วจึงค่อยทำเพราะถ้าไม่ลงมือทำจะไปเอาวาสนาบารมีที่ไหนมาเกื้อหนุนในภพชาติต่อไป

หมายเหตุ.....เวลาคนมีเคราะห์เขาจึงนิยมถือศีลปฏิบัติธรรมสักระยะหนึ่งเพื่อฟอกใจที่หลงให้สว่างมิให้ตกอยู่ใต้อำนาจอิทธิพลของเจ้ากรรมนายเวรที่ย่อมมีอำนาจอิทธิพลกับดวงจิตที่มืดมัว(มีเคราะห์) ดวงจิตแบบนั้นย่อมถูกพญามารกลุ้มรุมทำร้ายได้อย่างง่ายดาย(มีจริงๆตัวมารนี่ถ้าผู้ใดมีอภิญญาก็จะสามารถเห็นตัวได้) แต่ดวงจิตใดที่สว่างด้วยอำนาจของกรรมฐานและบุญกุศล(แม้เพียงชั่วระยเวลาอันสั้น)ย่อมเป็นที่เกรงขามแก่ภูตผีปีศาจ(พวกที่มาจากทุขคติภูมิย่อมเกลียดกลัวความสว่าง)ทำให้แคล้วคลาดพ้นภัยไปได้ในยามที่ดวงชะตาเขาเข้าเกณฑ์"ฆาต" (ถ้าเขารู้ตัวก่อนแล้วรีบปฏิบัติ)

**********************




สิทธาฯ - 16 ธันวาคม พ.ศ.2549 16:50น. (IP: 203.150.87.133)

ความคิดเห็นที่ 7


ขออนุญาติคุณผู้ตั้งคำถาม

เรียนคุณสิทธาฯ

พยายามมองดาวของคุณธาวิน พล. ตามที่คุณสิทธาฯบอกว่าเป็นธนโยค แต่อ่านไม่ออกค่ะ สนใจเรื่องดวงธนโยคเหมือนกันค่ะ แต่หาในตำราเล่มหนึ่งบอกเพียงว่า เจ้าเรือนกดุมภะแลกเรือนกับลาภะ กลับไปตนุ ตนุกลับไปกดุมภะ เป็นธนโยค รบกวนคุณสิทธาฯอธิบายตำแหน่งธนโยคของคุณธาวิน พล.ให้เป็นตัวอย่างด้วยได้ไหมคะ จะได้อ่านตาม และถ้าจะกรุณา ขอรบกวนอ่านดวงที่คุณให้ตัวอย่างใน หมายเหตุ "ดวงชะตาหนึ่งเกิดวันที่ 14 พ.ย. 2462 เวลา 18 น.เศษ ดวงเขาได้เกณฑ์ธนโยค" ด้วยนะคะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ


ปอ - 17 ธันวาคม พ.ศ.2549 07:45น. (IP: 207.44.220.36)

ความคิดเห็นที่ 8
ตอบคุณ ปอ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับดวงธนโยคก่อนครับ ดวงนี้ท่านว่าเป็นดวงเจ้าทรัพย์ ดวงเศรษฐีมีทรัย์อุดมสมบูรณ์ ซึ่งหากมีเกณฑ์พินทุบาทว์เข้าแทรกแล้ว ก็อาจจะร่ำรวยแล้วแล้วเดือดร้อนเสียทรัพย์เป็นหนี้สินภายหลังก็ได้ ซึ่งมีสูตรดาวดังนี้ คือ หากดาวเจ้าเรือนตนุ,กดุมพะ,ปุตตะ,ปัตนิ, ศุภะ และลาภะ ต่างสถิตในเรือนของกันและกันในหกเรือนนี้ ท่านว่าเป็นเกณฑ์ธนโยคครับ แต่จะได้เกณฑ์หนักเบาเพียงใดต้องดูว่ามีพินทุบาทว์แทรกหรือไม่ อย่างดวงคุณธาวิน พล นี้ มีทั้งร้ายและดีผสมกัน กล่าวคือ เจ้าเรือนปุตตะ(การเสี่ยงโชค, การลงทุน)กุมลัคนาร่วมกับเจ้าเรือนปัตนิ(หุ้นส่วน) แล้วเจ้าเรือนตนุก็สถิตภพปัตนิ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนชอบเสี่ยงโชค ชอบการลงทุนซึ่งอาจเป็นการลงทุนที่เลี่ยงกฏหมาย(กาลกิณีกุมลัคน์เล็งเจ้าเรือนลาภะ, กดุมพะ และกัมมะ) ซึ่งต้องต่อสู้ดิ้นรนทำทุกวิถีทาง แต่ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคได้แม้ว่าเจ้าชะตาจะเป็นคนพูดจาที่ตรงไปตรงมาเปิดเผยทำให้ผู้ใหญ่รักใคร่สนับสนุนเจ้าชะตา(ศุภะ--->สหัชชะ--->ปัตนิ) ศุภะแปลว่าผู้ใหญ่,ผู้อุปถัมภ์เมื่อมาสถิตราศีเมษเรือนคู่มิตรภพสหัชชะทำให้มีผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาใกล้ชิดให้การสนับสนุนเจ้าชะตาและรักใคร่เอ็นดู(สหัชชะเป็นปัตนิโดยเจ้าเรือนสหัชชะตรีโกณกับเจ้าเรือนศุภะเป็นมุมส่งเสริม) ซึ่งดูจากดาวทั้งคู่มิตรและคู่ศัตรูที่ที่ทำมุมเล็งยันกันระหว่างภพปัตนิและลัคน์ ชีวิตของเจ้าชะตามักจะโลดโผนครับ แต่เป็นการโลดโผนที่ออกไปลักษณะเฮงมีคนค่อยส่งเสริมช่วยเหลือดี(มี ๖ คอยดึงเป็นปทุมเกณฑ์ และมี ๒ คอยดัน เป็นปทุมเกณฑ์อีก) ในดวงเจ้าชะตาเจ้าเรือนตนุ, กดุมพะ-ลาภะสถิตภพปัตนิ และเจ้าเรือนปัตนิ, ปุตตะกุมลัคน์ ตรงตามหลักธนโยค ที่ อาจารย์พ.อ.(พิเศษ)เอื้อน มณเฑียรทอง ได้กล่าวไว้ในตำราของท่าน(พระคัมภีร์โหราศาสตร์ไทยพิศดารศาสตราคม)และที่ผมพบเห็นและพิสูจน์มาแล้วก็ค่อนข้างเป็นจริงตามที่ท่านกล่าวไว้ แม้จะมีกาลกิณีเข้าแทรกก็มักจะมีโชคด้านการเงินประกอบความเสียหายร่วมกันไปคือเดี๋ยวมีเดี๋ยวหมดแต่ก็สามารถดิ้นรนจนมีได้เรื่อยๆดวงนี้ผมว่าน่าจะเรียกว่าดวงนารีอุปถัมภ์มักได้รับโชคลาภจากสตรีเพศ ทำนองทุกขลาภ ได้รับการช่วยเหลือแล้วมักจะมีเรื่องร้อนใจตามมา

ส่วนดวงที่ผมยกตัวอย่างมา คือ เกิดวันที่ 14 พ.ย. 2462 เวลา 18 น.เศษ ดวงเขาได้เกณฑ์ธนโยค เพราะตนุลัคน์เขาอยู่ภพปุตตะ ,เจ้าเรือนกดุมพะเขาอยู่ภพปัตนิ ,เจ้าเรือนปุตตะสถิตภพปัตนิ เจ้าเรือนปัตนิสถิตภพพันธุ แต่เป็นลาภะแก่ตนุเศษ แม้ว่าจะเป็นวินาศลัคน์ก็ส่งผลคุณในบั้นปลายดวงบุคคลนี้ตามประวัติเป็นคนฐานะไม่ดี เดินเตะฝุ่นหลายหน ล้มลุกคลุกคลานตั้งตัวไม่ติดเพราะเจ้าเรือนกดุมพะกุมเจ้าเรือนกาลกิณีในภพปัตนิทำให้การเงินในระยะแรกฝืดเคือง จะลงทุนร่วมหุ้นกับใครก็ไม่ได้รับผลดี(๔๘ คู่ศัตรูเล็งลัคน์) การที่ดวงชะตาล้มลุกคลุกฝุ่นมาหลายปีดีดักเพราะ อิทธิพลของ ๗ ประในภพพันธุ(ตำแหน่งหน้าที่)ทำให้ทำงานที่ไหนหาความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่การงานมิได้เลยต้องตกงานบ่อยและได้เจ้านายที่ไม่ค่อยเป็นธรรมเข้ากับเจ้าชะตามิได้(เจ้าเรือนกัมมะเป็นวินาศกับตนุลัคน์) ทีนี้ลองมาพิจารณาผลคุณที่ทำให้เจ้าชะตาเหมือนบุญหล่นทับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1ว่าเพราะอิทธิพลของดาวใด(ดวงเจ้าชะตามีเกณฑ์ธนโยคสนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว)หากดูจากดวงเจ้าชะตาจะเห็นว่าดาว ๔ เจ้าเรือนกดุมพะ-ปุตตะสถิตภพปัตนิกุมกับ ๘(การพนัน) จึงมีเกณฑ์ทายว่าเจ้าชะตามีโชคจากการเสี่ยงการพนันเกณฑ์ที่ได้เงินมหาศาล(๘ เป็นอุจ) ในช่วงหนึ่งของชีวิตอย่างแน่นอนเพราะเจ้าเรือนลาภะมาเป็นโยคหน้ากับลัคน์กุมกับ ๒ คู่มิตรในตำแหน่งที่เข้มแข็งเช่นนี้และได้เกณฑ์อะสะธิโส หรือจันทร ครุ สุริยา อีกตำแหน่งหนึ่งคือมี ๑๒๕ สถิตในราศีแม่ธาตุ แต่เนื่องจากกว่าดวงชะตานี้อาทิตย์เป็นตนุเศษและสถิตภพอริจึงทำให้ทอนคุณลงไป หากเราจะอ่านให้ซับซ้อนจากตนุเศษ(๑)ที่สถิตราศีตุลแล้วดาวกดุมพะเกษตร(๓)สถิตภพปุตตะลัคน์ก็บ่งบอกว่าเจ้าชะตามีโชคการจากเสี่ยงเช่นกัน

เจ้าชะตาถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2504 ดาวจรในปีนั้น คือ

๑, ๔ สถิตราศีกรกฏ ๒ สถิตราศีพฤษภ

๖ สถิตราศีมิถุน๓,๘,๐ สถิตราศีสิงห์

๙ สถิตราศีพิจิก ๗ สถิตราศีธนู

๕ สถิตราศีมังกร

ในปีนั้นเจ้าชะตาอายุย่าง 42 ปี ทักษาจรตกภูมิ ๔(มูละเดิม) มี ๘ เป็นศรีจร , ๖ (ตนุลัคน์)เป็นมูละจร(หลักทรัพย์ฐานะบ้านช่อง) ตกวัยลาภะทางตรีวัย(๑)โดย ๑ เป็นกดุมพะแก่ตนุลัคน์เดิมมีเกณฑ์ได้ทรัยพ์ร่ำรวยมหาศาล(๘เป็นอุจในภพกดุมเกษตร) ทีนี้มาดูดาวจรในปีนั้น จะเห็นว่า ๘ เป็นศรีจร(มีโชคจากการพนัน)มาทับ ๗ เดิมในภพพันธุ(หลักทรัพย์)ย่อมให้คุณ และ ๕ จรมาเป็นนิจเล็งกับ ๑ จร ให้คุณสถานหนึ่ง คือหลังจาก ๘ จรมาทับ ๗ เดิมในภพพันธุแล้วรอจังหวะที่ ๑ จรมาเล็งกับเจ้าเรือนลาภะจร(๕)เพื่อจุดระเบิดให้เจ้าชะตาได้รับโชคมหาศาลในวันที่ ๒ ทับลัคน์ในมุมพอดีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2504 นั่นเอง

ผมถึงบอกว่าชั่วชีวิตเขามาร่ำรวยภายหลังตามจังหวะดวงดาวตรีวัย(ลาภะ)และเกณฑ์ดวงมาตรฐาน(ตัวช่วย)ในดวงชะตาเขาสนับสนุนผลักดันในที่สุด. ดวงชะตาดังกล่าวนี้เป็นดวงตัวอย่างที่ท่านพ.อ.อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์ ได้กรุณารวบรวมปูมประวัติดวงมาตรฐานต่างๆไว้ แต่ผมนำวิเคราะห์ต่อยอดอีกทีหนึ่ง และทำให้ผมเห็นความอัศจรรย์แห่งโหราศาสตร์ไทยว่าลึกซึ้งซับซ้อนเกินกว่าจะถอดมาเป็นคำพูดได้ครบกระบวนความเพราะในการพยากรณ์นั้นประกอบด้วยเครื่องปรุงและศาสตร์อาวุธหลายแขนงประกอบกัน(ตรีวัย, ทักษา, มหาทักษา, กาลโยค, ตนุเศษ, ชันษาจร)

หากวิเคราะห์ในทางชันษาจรจะเห็นว่าช่วงนั้นเจ้าชะตาอายุ 41 ปีบริบูรณ์ ชันษาจรตกภพวินาศลัคน์ตนุจรเป็นปุตตะลัคน์-->ปัตนิ ก็อ่านได้ความหมายเดียวกันกับที่อ่านมาข้างต้นคือเจ้าชะตาจะมีโชคจากการเสี่ยงแบบไม่คาดฝันและเป็นโชคมหาศาล(ตนุเป็นมหาจักรกุมกับคู่มิตร) หรืออ่านภพการเงินจากชันษาจรคือราศีพฤษภ(เรือนลัคน์เดิม)ก็ย่อมได้เช่นกันอีก คือ กดุมพะ-->ปุตตุ---->ปัตนิ ได้ความหมายเหมือนกัน

โดยสรุปแล้วโหราศาสตร์ไทยลึกลับซับซ้อนสามารถอ่านได้หลายแง่หลายมุมขึ้นอยู่กับไหวพริบปฏิภาณและความละเอียดลึกซึ้งของแต่ละท่านว่าจะนำมาใช้อย่างไรครับ

*******************


สิทธาฯ - 17 ธันวาคม พ.ศ.2549 10:37น. (IP: 203.150.87.66)

ความคิดเห็นที่ 9
ดวงตัวอย่างที่ผมยกมากล่าวนี้(เกิดวันที่ 14 พ.ย. 2462 เวลา 18 น.เศษ) ใครสนใจสามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือ ประมวลโหราทรรศนะ โดย พ.อ.อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์ ซึ่งเป็นหนังสือที่มีคุณค่าเล่มหนึ่งที่รวบรวมแง่คิดวิเคราะห์วิจารณ์ด้านโหราศาสตร์ไทยไว้อย่างลึกซึ้ง


สิทธาฯ - 17 ธันวาคม พ.ศ.2549 10:45น. (IP: 203.150.87.66)

ความคิดเห็นที่ 10
เรียน อาจารย์สิทธาฯ

ขอบพระคุณอย่างยิ่งสำหรับคำอธิบายค่ะ ละเอียดมากเลยค่ะ ดิฉันอ่านตามได้ค่ะ ตอนแรกอ่านไม่ออกเพราะไม่ทราบหลักการณ์ค่ะ กราบขอพระคุณในความกรุณานะคะ


ปอ - 18 ธันวาคม พ.ศ.2549 08:22น. (IP: 207.44.132.115)

ความคิดเห็นที่ 11
แก้ไขคำผิด

ขอแก้ไขข้อความที่กล่าวว่า "เจ้าเรือนลาภะมาเป็นโยคหน้ากับลัคน์กุมกับ ๒ คู่มิตร " นั้น ที่ถูกต้องคือ "เจ้าเรือนลาภะ(๕)เป็นคู่ธาตุดินกับ ๒ ในตำแหน่งที่เข้มแข็งเช่นนี้และได้เกณฑ์ "อะสะธิโส" หรือ จันทร์ ครุ สุริยา ....

อ้อ ...สำหรับดวงชะตาของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย นั้น บางท่านอาจสงสัยว่า ๕ เป็นนิจทำไมถึงส่งผลคุณให้ท่านบรรลุคุณธรรมเป็นพระอริยสงฆ์ขึ้นมาได้ ทั้งนี้เพราะ ดวงของหลวงปู่ภาษาโหรเขาเรียกว่า "นิจจะภังคะราชาโยค" หรือ "ดวงกลับ" ที่ว่าดาวนิจฟื้นไม่ให้โทษตลอดมาให้คุณภายหลัง ซึ่งหลักโบราณท่านให้หลักไว้ว่า "ดาวนิจสถิตราศีใด ให้ตรวจดูดาวเจ้าเรือนเกษตร และดาวอุจประจำราศีนั้นก่อนว่า อยู่ในภพเกณฑ์กับลัคนา หรือจันทร์ ในดวงชะตาหรือไม่ ถ้าตั้งอยู่ในภพเกณฑ์ดังว่านี้ ดาวนิจนั้นไม่ส่งผลร้ายให้แก่ชะตานั้น" ซึ่งดวงของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ดาวนิจ(๕)อยู่ในภพปัตนิ (เป็นเกณฑ์แก่ลัคน์)และเจ้าเรือนเกษตร(๗) สถิตราศีตุลย์ก็เป็นเกณฑ์กับดาวนิจในดวงชะตา จึงเข้าหลักนิจฟื้นตามโบราณท่านกล่าวไว้นั่นเอง อีกทั้ง ดาวนิจนี้ก็ส่งกระแสตรีโกณมายังคู่ธาตุ(๒)ของตนที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นราชาโชค ทำให้หลวงปู่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งในและต่างประเทศ เมื่อดาวร่วมธาตุกันเช่นนี้จึงส่งผลคุณด้านมหานิยมแก่ตัวหลวงปู่อย่างยิ่งเป็นที่รักใคร่แก่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย แม้แต่หลวงปู่ฝั้น, หลวงปู่มั่นท่านก็เมตตาสั่งสอนถ่ายทอดวิชาทางธรรมให้อย่างหมดเปลือก....


สิทธาฯ - 18 ธันวาคม พ.ศ.2549 10:51น. (IP: 210.203.178.219)

ความคิดเห็นที่ 12
ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านมานะครับ ไปดูใบสูติบัตร มันบอกบอกเวลาเกิดเป็น 6 โมงเช้า งั้นผมก้อต้องเป็นคนวันอังคารใช่ไหมครับ (ไม่ใช่วันจันทร์แล้ว ตอนแรกเข้าใจผิด นึกว่าเกิด ตี 5) งั้นดวงผมจะเปลี่ยนไปจากเดิมไหมครับ

ผมสอบช่วงเดือน มิถุนาคม - พฤศจิกายน ของปี50 การสอบมีหลายขั้นตอนครับ ประกาศผลสอบด่านสุดท้าย ก็เดือน ธันวาคมครับ

ผมว่าถ้ารอให้อายุ 28 ปี มันอาจจะสายไปครับ เขารับอายุไม่เกิน 28 ปีครับ

ถ้าตั้งใจอ่านเต็มที่ มันก็น่าจะมีหวังใช่ไหมครับ มันน่าจะฝืนดวงกันได้นะครับ (เป็นอาชีพที่ผมอยากทำมากที่สุด เคยสอบมาแล้ว 2 ครั้ง )

ช่วงนี้ผมก็ยังเรียนโทอยู่ (จบยากมาก) และกำลังหางานอยู่ อยากจบเร็วๆ จะได้ทำงานใช้หนี้ซะที (หนี้บานเลยครับ) แต่สมัครงานที่ไหน ไม่ค่อยได้ แต่ถ้าสมัครเป็นครูอ่ะได้ ดวงผมจะถูกกะอาชีพครูมากเหรอครับ หรือว่าเป็นเพราะ เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น หรือป่าวครับ

ตั้งแต่เรียนโทมา รู้สึกว่าผมจะดวงตก โดยเฉพาะปีนี้ ตกสุดๆ เลย โดนอาจารย์ ว่าตลอด กว่าจะสอบผ่านแต่ละวิชาก็ยาก ไปทำงานพิเศษ ก็ยังไม่ได้เงินเดือน การเงินติดขัดหมด กลับบ้านไปก็โดนพ่อว่าทุกที แต่ได้กำลังใจจากแม่เยอะมาก

ปีหน้า ถ้าผมดวงไม่ดี ก็ต้องเหนื่อยอีกใช่ไหมครับแต่ยังงัย ถ้าผมรู้ว่าไม่เหนื่อยไปตลอดชีวิต ก้อโอเคละครับ

ขอบคุณครับ ที่ตอบคำถามผม ตอบได้ตรงคำถาม และชัดเจน ดีมาก

ผมลองให้คนอื่น ดูให้ เขาดูให้ผมเหมือนจะตอบมั่วๆ คลุมเคลือ ทำให้ผมสับสนมากขึ้นในชีวิต แบบว่าดวงผม หาอะไรดีไม่ได้ แถมบอกว่าผมมีดวงกินลูกกินเมียอีก เจอทักแบบนี้ ก็เครียดเลย และเขาก็แนะนำ ให้สร้างพระ แต่ผมคิดว่า มันไม่น่าจะช่วยได้ เพราะถ้าสร้างไป แต่ถ้าไม่ทำไรเลย รอโชคชะตา ชีวิตก็คงไม่ดีขึ้น ตังค์ไม่มีด้วย ผมเลยปล่อยปลาแทน (ถูกกว่าเยอะ )

ถ้าเป็นเรื่องโหราศาสตร์ ผมยังเชื่อถือ เพราะเป็นสถิติ เป็นข้อมูลที่เก็บสะสมไว้ตรวจสอบได้ มีตัวอย่างให้เห็น แต่เรื่องพิธีกรรม พวกเสริมดวง แก้เคล็ด แก้อาถรรพณ์ เชื่อยาก เพราะมันพิสูจน์ยาก ครับ

ผมสงสัยอีกข้อหนึ่ง คือ ถ้าลัคนาอยู่ราศีกุมภ์เหมือนกัน แต่ฤกษ์ เกิดต่างกัน ดวงมันจะต่างกันมากไหมครับ เช่น เพชฆาตฤกษ์ กับ เทวี ฤกษ์


ธาวิน พล. - 21 ธันวาคม พ.ศ.2549 16:46น. (IP: 58.137.48.4)

ความคิดเห็นที่ 13
ตอบ คุณธาวิน พล

แม้เปลี่ยนเวลาเกิดเป็น 6.00 น. ก็ยังคงเป็นวันจันทร์อยู่ดีครับ เพราะต้องลบเวลาอัตราออกจากเวลาที่เกิด เช่น ถ้าคุณเกิดที่กรุงเทพฯ ต้องลบ 18 นาที ก็จะเป็นเวลาท้องถิ่นที่แท้จริง 05.42 น. เนื่องจากเวลาที่เราใช้อยู่ปัจจุบันไม่ใช่เวลาท้องถิ่นที่แท้จริง ต้องลบเวลาอัตราออกเสียก่อน(เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2463)

เมื่อเป็นวันจันทร์ ดังนั้น ๑ จึงเป็นกาลกิณีกำเนิด ทำให้คุณมักประสบปัญหาการเงินจนเกิดหนี้สิน(อริเป็นลาภะในเรือนครูจึงเป็นหนี้จากการศึกษา) มักมีปากเสียงกับบิดา/นายจ้าง เสมอเพราะกัมมะ(๓ )เล็งกับ ๑ ที่กุมลัคน์ การติดต่อหางานจะมีปัญหาอุปสรรคต้องต่อสู้ดิ้นรน(กัมมะในเรือนกาลกิณี/คู่ศัตรู)ค่อนข้างสูง

ปีนี้ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมามีปัญหาด้านการเงิน,อุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ ตุลาคม เป็นต้นมาก็มีแนวโน้มจะทะเลาะเบาะแว้งกับพ่อเสมอๆ ทั้งนี้เพราะ คุณเกิดวันจันทร์ปีนี้ทักษาจรตกภูม ๖และ ๘ เป็นกาลกิณีจร ขณะนี้ ๘จรทับลัคน์อยู่จึงควรระงับอารมณ์ทำใจให้เย็น โอกาสมีปากเสียงค่อนข้างสูง การติดต่อเจรจาใดๆค่อนข้างประสบผลสำเร็จยาก(๘ทับ๔ คู่ศัตรู) ช่วงนี้ควรหมั่นไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ถวายสังฆทานบ้างนะครับ แต่หลังวันเกิดปีหน้าไปแล้วดวงจะดีขึ้นครับจะมีโชคฟลุ๊คๆจากกิจการงานที่ทำ พยายามอ่านหนังสือไว้ให้เต็มที่บางทีคุณอาจสอบผ่านได้อย่างไม่คาดฝันครับ(๘ เป็นอุตสาหะจร) เพราะ ๕(มูละจร) ก็มาสถิตภพกัมมะจึงเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าน่าจะเกิดสิ่งดีๆกับชีวิตคุณครับ

สำหรับเรื่องอาถรรพ์ คุณไสย พิธีกรรมอะไรต่างๆนั้น มีได้เป็นได้สำหรับคนที่เขาฝึกฝนอบรมจิตมาดีแล้ว(อย่างน้อยต้องได้ปฐมฌาน) แต่ถ้าจิตยังไม่นิ่ง(ขณิกสมาธิ)จะไปปลุกเสกใช้คาถาอาคมใดๆมันก็ไม่ขลังหรอกครับไม่ต่างอะไรกับคนบ่นเพ้อเจ้อเท่านั้นเอง (คาถาจะขลังต้องเกิดจากจิตที่มีพลัง-ข่มนิวรณ์ ๕ ได้แล้ว) คนที่ปฏิบัติธรรมเขาจึงห้ามแช่งใครเพราะมันมักจะเป็นไปตามนั้น

ส่วนลัคนาอยู่ราศีกุมภ์แต่เกาะฤกษ์ต่างกัน ระหว่างเพชฆาตฤกษ์ กับ เทวีฤกษ์(บาทฤกษ์ที่สอง-บาทฤกษ์ที่สี่) ให้ผลต่างกัน กล่าวคือ หากเกาะเพชฌฆาตฤกษ์มักจะเป็นคนใจร้อน ใจคอเด็ดเดี่ยวชอบงานเสี่ยงภัยอันตรายต่างๆ ชีวิตมักประสบปัญหาอุปสรรคเนืองๆ ในการให้ฤกษ์ประกอบการมงคลท่านห้ามให้ฤกษ์นี้ เพราะเป็นฉินทฤกษ์ หรือฤกษ์แตก ส่วนเทวีฤกษ์(เฉพาะบาทฤกษ์ที่สองถึงบาทฤกษ์ที่สี่)นั้น ให้ผลร้ายที่หนักกว่าหากลัคนามาเกาะฤกษ์นี้ เนื่องจากเกาะตรียางค์ลูกพิษ(พิษครุฑ) เว้นแต่ไปเกาะบาทฤกษ์แรก(นวางค์๕) หากลัคนามาเกาะภายในบาทฤกษ์ที่2-4 ในเทวีฤกษ์นี้(ทุติยตรียางค์) ย่อมทำให้บุคคลนั้นประสบความอาภัพอับเฉา มีเรื่องเดือดร้อน ทั้งกายและจิตใจ มักเกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือพิกลพิการอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกทั้ง เมื่อคลอดมาใหม่ๆก็มักทำให้เด็กคนนั้นน้ำเหลืองไม่ดี เป็นฝีเป็นหนองตามผิวหนังร่างกายได้ง่าย ชีวิตจะมีอุปสรรคมากกว่า เว้นแต่ว่าเกิดในบาทฤกษ์แรก(นวางค์ ๕) เพราะไม่ได้เกาะตรียางค์ลูกพิษ นั่นเอง

หมายเหตุ ในการคำนวณฤกษ์ประกอบการมงคลท่านห้ามวางลัคนาเกาะฉินทฤกษ์(ฤกษ์แตก) , นวางค์ขาด(บาทฤกษ์นวางค์ที่ 9 ของฤกษ์ที่ 9, 18 และ 27) และ ตรียางค์ลูกพิษ เพราะจะทำให้ประสบเหตุเพศภัยพิบัติต่างๆ

*******************


สิทธาฯ - 21 ธันวาคม พ.ศ.2549 22:36น. (IP: 203.150.86.111)

ความคิดเห็นที่ 14
ผูกดวง วางลัคนา ใช้อันโตนาทีสามัญ สัมผุสอาทิตย์อุทัย 6:31 น. (สัมผุสดาว ณ.เวลาเกิด)

เจ้าชะตาชื่อไม่ได้ระบุ วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2523 6:00 น. พิษณุโลก

ตรงกับวันอังคาร แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม จ.ศ.1341 ค.ศ.1980

ดาว

สถิตย์ราศี

องศา ลิปดา

ตรียางค์

นวางค์

ฤกษ์ นาที นักษัตร

สถิตย์ฤกษ์

ลั.

ลัคนา

10.

กุมภ์

17

18

2 : 4 ครุฑ

6 : 5

24

49



สตพภิสช

6. เทวี

1.

อาทิตย์

10.

กุมภ์

27

00

3 : 6

9 : 4

25

32



ปุพพภัทท

7. เพชรฆาต

2.

จันทร์

8.

ธนู

12

52

2 : 3

4 : 2

19

59



มูล

1. ทลิทโท

3.

อังคาร

4.

สิงห์

8

59



1 : 1

3 : 4

10

41



มาฆะ

1. ทลิทโท

4.

พุธ

10.

กุมภ์

3

40



1 : 7

2 : 3

23

47



ธนิษฐ

5. เทศาตรี

5.

พฤหัส

4.

สิงห์

11

19



2 : 5 ครุฑ

4 : 2

10

52



มาฆะ

1. ทลิทโท

6.

ศุกร์

0.

เมษ

9

18

1 : 3 นาค

3 : 4

1

42



อัศวินี

1. ทลิทโท

7.

เสาร์

4.

สิงห์

27

37



3 : 3

9 : 5

12

04



อุตรผัคคุนี

3. โจโร

8.

ราหู

4.

สิงห์

4

01

1 : 1

2 : 6

10


ธาวิน พล. - 22 ธันวาคม พ.ศ.2549 14:19น. (IP: 58.137.48.4)

ความคิดเห็นที่ 15
งั้นดวง ผมติด พิษ ครุฑ ใช่ป่ะครับ แต่ผมไม่พิการนะครับ มีอาภัพบางเรื่องถ้าเป็นพิษครุฑ จะมีปัญหากับนก ใช่ป่ะครับสงสัยเรื่อง พิษครุฑ พิษนาค พิษสุนัข นะครับถ้าคุณ สิทธา ตอบข้อนี้ ผมก็ไม่กล้าถามละครับ รู้สึกเกรงใจครับ


ธาวิน พล. - 22 ธันวาคม พ.ศ.2549 14:22น. (IP: 58.137.48.4)

ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณค่ะ หนูได้อ่านแล้ว เข้าใจอะๆไรขึ้นเยอะ ขอบคุณที่ชี้แนะ สรรพสิ่งอยู่ที่ใจเรานี่เอง แต่ขอรบกวนถามอีกอย่างนึงได้มั๊ยค่ะ คำว่า กินลูกกินเมียหมายความว่าอย่างไรหรอค่ะ มีวิธีแก้ใหมค่ะ แล้วตาจระเข้เป็นตาแบบไหนหรอค่ะ ถ้าจะประพฤติพรมหมจันควรระวังสิ่งใดมากเป็นพิเศษที่สุดค่ะขอบคุณค่ะ


ไข่ย้อย - 25 มกราคม พ.ศ.2551 00:02น. (IP: 124.121.81.250)

ความคิดเห็นที่ 18
เรียนคุณสิทธาที่เดารพยิ่ง.กระผมเป็นคนที่อาภัพมาตั้งน้อย.มารดาหนีตามชายแยกทางกับบิดา..บิดาทำงานก่อสร้างผมโดนเพื่อนล้อแต่ผมไม่เคยอาย..ที่บ้านตอนเรียนมัธยมผมกินข้าวกับน้ำปลา..ดูเหมือนชีวิตไม่อะไรดีเลยเพราะผมเกิดพุธกลางคืนเจ้าเรือนลัคนาก็ลงวินาศ...สมัยเด็กตั้งใจเรียนมีคนมาอุปถัมแต่ผมก็ทำผิดเพราะคบเพื่อนไม่ดีพาไปลักโขมยโดนจับ...จนความฝันที่จะนายร้อยดับลง...นับแต่วันนั้นมาผมเหมือนคนที่ตายทั้งเป็นสอบทหารได้แต่ก็ตกไม่มีช์อในรอบสัมภาษณ์จนกลายเป็นคนไม่รมีทิศทางใจมืดมัวผมเคยศึกษาดวงตัวองด้ยความรู้ผิวเผินก็ดูแล้วแย่หมดผมไม่มีทางหนีพ้นจากการเป็นเด็กวัดเด็กล้างเด็กเก็บขยะได้เลยไม่อาจหนีจากการดูถูกดูแคลนจากสังคม..ไม่อาจมีปากมีเสียงกลับใครที่มาดูหมิ่นได้..วินาทีที่ผมบันทึกข้อความนี้ผมมั่นใจได้...ว่าผมเป็นคนดีมีความกตัญญูหลังจากผ่านมรสุมต่างๆก็ทำให้ผมเรียนรูว่าความดีเท่านั้นที่ช่วยเราช่วยให้ฟ้ามองเห็นเด็กที่อาภัพคนนี้ช่วยให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สงสารเมตตาผมคนนี้ว่าผมก็เป็นคนที่รักดีคนหนึ่ง..ผมรู้ตนว่าว่าชาติกำเนิดขอแงผมมันเป็นกาลกิณีต้อยต่ำนัก...แต่ผมเลือกเกิดไม่ได้...ขณะผมพิมพ์อยู่นี้น้ำตาผมไหลผมจะไม่มีทางได้ดีเลยหรือภพชาตินี้.....ทุกอย่างสัมพัธ์กันหมดไม่ว่าใฝที่ใต้ปากปานที่ของลับ...ผมชื่อชลธีผมไม่ปกปิดใครกล้ายอมรับสิ่งทำสิ่งที่กำเนิดผมแทบหมดหวังในการเรียนแต่ผมไม่ยอมแพ้วันนึงโชคชะตาก็พาผมมาพบกับหลวงพ่อแดงแสงกายสิทธิ์ในความโหดร้ายไร้ไออุ่นท่านเป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาผมไปร้องไห้ขอออุ่นความรักความมตตาช่วยวัดล้างจานเมื่อมีงานทำทุกอย่างที่สุจริตเก็บขยะทุกครั้งเพียงหวังว่าฟ้าจะเมตตาและทุกคนจะให้อภัยไม่ว่าชาตินนี้หรือชาติก่อนที่ทำไม่ดีผมมองไม่เห็นแป้นพิมเพราะน้ำท่วมนัยน์ตา....ทุกวันน้ผมได้โดนล้างมลทินเพราะตอนทำผิดเป็นเยาวชนผมเอาศรีษะกราบแทบเท้าหลวงพ่อผมสอบได้ทุนเรียนต่อผมเรียนที่มหาลัยธรรมศาสตร์วิศวกรรมและเรียนนิติศาสตร์ที่รามคำแหงแต่ผมต้องกลับบ้านมาทำงานแบกตาลขายของเก็บขยะที่ตลาดนัดเป็นสิ่งที่ผมกตัญญูต่อคนที่มีพระคุณจนแทบไม่มีสมาธิไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเลยต้องสู้...แต่ที่เรียนที่มีชื่อกลับเจอแต่คนไม่ดีเห็นแก่ตัว...ผมพูดตามตรงว่าผมคิดจะย้ายไปเรียนนิติศาสตร์ที่รามคำแหงเต็มตัวเพราะผมชอบคนที่นั่นยืนตรงหมดเมื่อเพลงชาติขึ้นไม่หลงไหลกับแฟชั่นเทคโนโลยี....เชื่อรึไม่ว่าที่ธรรมศาสตร์ต้องไป้รียนที่รังสิตผมแอบไปยืนมองเวลาเขาสอนกฏหมายแต่คนที่มีโอกาสนั่งเรียนกลับออกมานั่งดูดบุหรี่จีบกันผม........สามารถมีโอกาสย้ายเข้าเรียนนิติที่ธรรมศาสตร์ได้แต่ต้องสอบและรอคำตัดสินกรรมการแต่กว่าจะจบหลายปี...ที่รามผมคิดถ้าตั้งใจ1ปีจะจบเพราะผมฝันเรียนเนติบัณฑิตไทยไม่รูอุปสรรคจะสูงเท่าเขาลูกใดผมอยากช่วยเด็กที่หลงผิด....ผมฝันที่ได้รับการยอมรับในสังคมแต่โชคชะตาที่ผมไม่อาจเลือกได้บอกว่าโอกาสแทบไม่มี....ผมควรเรียนที่ใดถามคนภายนอกเองถามเหตุผลผมก็ว่าที่ธรรมศาสตร์แต่ความประทับใจความอยากจะต่อสู้ความรู้สึกคือที่รามคำแหง...แต่ก็มีคนที่คอยจับตาดูถูกอยู่ไม่น้อยเลยผมไม่มีทางพันจากความบีบบังคับหรืออาภัพได้เลยหรือครับไม่มีทางรุ่งเรืองเลยใช่ไหมที่ผมกำลังท้อขอขอบคุณนะครับที่อ่านความในใจจนหมดวันพรุ่งนี้ผมจะมาดูคำแนะนำจากคุณสิทธานะครับใบเกิดบอกว่าผมเกิด12มิถุนายน2529เวลา01.29นครปฐมกรุณาชี้ทางสว่างด้วยครับ


นายชลธี - 8 มีนาคม พ.ศ.2551 17:51น. (IP: 117.47.17.189)

ความคิดเห็นที่ 21
เรียนคุณสิทธาฯดิฉันเกิดวันที่27ต.ค.2518เวลา5.10น.ตรงกับวันจันทร์แรม7ค่ำเดือน11ปีเถาะลัคนาสถิตราศีกันย์ธาตุดินเทศาตรีแห่งฤกษ์ลัคนามี๔กดุมพะมี๑,๘,๐ปัตตนิมี๙,๕กัมมะมี๓ลาภะมี๗,๒วินาสมี๖ดิฉันกำลังศึกษาโหราศาสตร์ได้ไม่นานค่ะได้ศึกษาจากหนังสืออาจารย์พลูหลวง,อาจารย์จรนังกูรและอีกหลายท่านขณะนี้ยังอ่านตัวตนและอาชีพดาวจรได้ยังไม่แตกและชัดเจนดิฉันจึงต้องการให้คุณสิทธาฯกรุณาวิจารณ์ดวงชะตาดิฉันอย่างละเอียดเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและเห็นความแตกต่างในมุมมองเดิมที่ดิฉันอ่านเองขอบคุณค่ะ


พัชร - 11 กรกฎาคม พ.ศ.2551 02:27น. (IP: 124.120.117.153)

ความคิดเห็นที่ 22
สวัสดีค่ะคุณสิทธา ดิฉันเคยดูดวงโดยดูจากลักษณะของเส้นลายมือและลักษณะของนิ้วมือ มีคนทักว่าดิฉันจะเป็นคนที่ร่ำรวยมากในอนาคต และจะผ่านพ้นอุปสรรคใด ๆ ทั้งหมดไปได้ แต่ในความเป็นจริงกลับตรงข้ามค่ะ ขอความกรุณาตรวจเช็คดวงให้ด้วยเถอะค่ะ ดิฉันเกิดวันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม 2519 เวลาไม่แน่นอนแต่เป็นเวลาหลังเทียงคืนของวันศุกร์ ค่ะ


มด (mod_x_x_x-at-hotmail-dot-com) - 23 ธันวาคม พ.ศ.2552 09:57น. (IP: 58.147.71.2)

ความคิดเห็นที่ 23
ช่วยตรวจสอบดวงให้ด้วยคะตอนนี้มีปัญหาเรื่องงานมากคะไม่รู้เป็นเพราะเสาร์กับกับราหูเล็งลัคน์หรือเปล่าเกิด13กย2510เวลา22.30น


ni - 9 มกราคม พ.ศ.2557 23:16น. (IP: 27.55.144.153)

ความคิดเห็นที่ 38
สวัสดีครับอาจารย์สิทธาอยากขอความเมตตาช่วยวิเคราะห์และชี้แนะดวงชะตาผมด้วยครับชีวิตมีแต่อุปสรรคสู้มาตลอดแต่ก็หนักขึ้นและลัมเหลวทุกเรื่องและต้องรับผิดชอบครอบครัวคือพ่อแม่น้องและมีคนมาพึ่งพาตลอดชักหมดแรงและหมดกำลังใจครับดวงผมนี่ดวงแตกแบบเลวร้ายสุดจริงๆทุกเรื่องคือครอบครัว การงาน การเงิน ความรัก เรื่องเพื่อน ใช่ไหมครับ อยากไปบวชก็ทำไม่ได้ เพราะทิ้งทุกคนไม่ได้ผมเกิด 10 ก.พ 2522;6:40 ที่กรุงเทพ


เจ - 25 มิถุนายน พ.ศ.2558 08:13น. (IP: 49.230.165.126)