เว็บบอร์ด

กระทู้ ถามตอบโหราศาสตร์ พยากรณ์ศาสตร์

ปิดปรับปรุงชั่วคราว

ทำไมเราจึงไม่สามารถให้ชนชาติใดหรือศาสนิกอื่นแบ่งแยกผืนแผ่นดินไทยไปตั้งประเทศที่นับถือศาสนาอื่นได้?



เรื่องที่จะเขียนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการสื่อสารสาธารณะกับผู้คนในแผ่นดินนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้ข้าพเจ้าจะไม่เรียกร้องสิ่งใดๆ จากท่านทั้งหลายให้เปลี่ยนแปลงความคิดและเชื่อตามข้าพเจ้าอีกต่อไป

โดยที่ข้าพเจ้าไม่ได้มุ่งหวังว่าการสื่อสารสาธารณะในครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือนำไปสู่การแก้ปัญหาใดๆ ที่ผู้คนในแผ่นดินซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “ประเทศไทย” ประสบหรือกำลังประสบทั้งจะต้องประสบในอนาคตข้างหน้า เพียงแต่ข้าพเจ้ามุ่งหวังว่า ภายหลังจากที่เราได้ผ่านเรื่องร้ายๆ ซึ่งควรที่จะเรียกว่าเรื่องร้ายแรงที่สุดในรอบที่ชั่วชีวิตของเราไม่เคยได้ประสบมาก่อน และคงอีกหลายชั่วชีวิตของคนรุ่นต่อๆ ไปจะได้ประสบ แล้วนั้น พวกเราจะได้ตระหนักรู้ว่า เหตุใดจึงต้องเกิดมหันตภัยล้างโลกอย่างยิ่งใหญ่ในครานี้

อาจบางทีเราคงนึกว่าประชากรชาวพุทธหรือที่เรียกว่าพุทธศาสนิกชน จะเป็นคนกลุ่มน้อยในโลกเมื่อเทียบกับศาสนิกของศาสนาอื่นๆ ซึ่งหากเทียบประชากรของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยที่แม้จะกล่าวได้ว่าร้อยละ 95 นับถือศาสนาพุทธ แต่ก็คิดเป็นประชากรแค่เพียงประมาณ 60 ล้านคน เมื่อเทียบกับศาสนิกอื่นๆ มีจำนวนเป็นหลายพันล้านคน แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกที่ประเทศไทยกลับสามารถดำรงความเป็นประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนามาช้านานเท่าที่จะสืบค้นประวัติศาสตร์ได้ โดยที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นหรือดินแดนของผู้คนที่นับถือศาสนาอื่นที่มีผู้นับถือเป็นจำนวนมากของโลก

อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอเป็นปัจจัย? เป็นคำถามที่ซ้อนคำถาม แต่จะเป็นคำตอบให้กับหัวข้อของเรื่องที่ว่า ทำไมเราจึงไม่สามารถให้ชนชาติใดหรือศาสนิกอื่นแบ่งแยกผืนแผ่นดินไทยไปตั้งประเทศที่นับถือศาสนาอื่นได้?

ข้าพเจ้าจะไม่อธิบายเหตุผลให้ยืดยาว เพราะไม่เหมาะกับข้อเขียนที่ต้องการสื่อสารแต่เพียงสั้นๆ จึงเลือกกล่าวแต่ข้อสรุปที่กลั่นและคั้นออกมาแล้วเท่านั้น!

เหตุและปัจจัยที่ประเทศไทยดำรงความเป็นประเทศที่ผู้คนยังคงนับถือพระพุทธศาสนาและสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยที่ไม่ตกเป็นประเทศเมืองขึ้นของประเทศที่นับถือศาสนาอื่น หรือถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ก็เพราะว่า ผืนแผ่นดินประเทศไทยเป็นผืนแผ่นดินอันเป็นแหล่งกำเนิดพระพุทธศาสนา เป็นที่อันพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระอสีติมหาสาวก พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา ย่อมมาบังเกิดในที่นี้ เป็นที่ตั้งของโพธิมณฑลสถาน สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต และไม่ได้เป็นดินแดนแห่งศาสนาพุทธมาเพียง 2,600 กว่าปีเท่านั้น แต่เป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนามาอย่างน้อยก็ 4,000 ล้านปีตั้งแต่เพียงย้อนไปถึงพระพุทธเจ้ากุกุสันโธ ดังหลักฐานพระพุทธบาทสี่รอย ที่โยนกประเทศหรือที่พระธาตุเชิงชุม สกลนคร และใต้ลงไปยังคาบสมุทรมลายู ก็คือดินแดนมลัยประเทศหรือลังกาทวีป อันเป็นที่ตั้งแห่งบริโภคเจดีย์ของพระพุทธเจ้าตั้งแต่พระพุทธเจ้ากุกุสันโธ จนถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน รวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านปี โดยมีศูนย์กลางดั้งเดิมอยู่ที่ เมืองยะลา

ดังนั้น นี่คือคำตอบที่ว่า ทำไมเราจึงไม่สามารถให้ชนชาติใดหรือศาสนิกอื่นแบ่งแยกผืนแผ่นดินไทยไปตั้งประเทศที่นับถือศาสนาอื่นได้?

และเมื่อคนจำนวนหลายพันล้านทั่วโลก ไม่สามารถที่จะทำใจยอมรับเรื่องราวเหล่านี้ได้ รวมทั้งไม่สามารถทำใจละทิ้งความเป็นมิจฉาทิฏฐิได้ ก็มีเพียงแนวทางสุดท้ายคือ ล้มกระดาน นับหนึ่งใหม่ จากวันนี้เป็นต้นไปนับได้ 8 เดือน จนสิ้นปีนักษัตรระกา จะเป็นช่วงเวลาแห่งปฏิบัติการล้างโลก ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านจงเป็นผู้โชคดีที่จะสามารถเอาตัวรอดได้จากมหันตภัยทั้งปวง แล้วค่อยกลับมาพบกันอีกครั้ง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ปีกุน พุทธศักราช 2550 ณ โพธิมณฑลสถาน อุรุเวลาเสนานิคม...ลาก่อน.


เอกอิสโร วรุณศรี - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 0.0.0.0)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ไร้เหตุ... ไร้ผล...

สร้างตัวตน ยึดติดใน รูป-นาม

ทุกสิ่งมี เกิด-คงอยู่-ดับไป เพราะอะไรถึงบอกว่า ล้มกระดาน นับหนึ่งใหม่ ไยทุกเวลา ก็เกิดใหม่แล้วก็ดับไปเอง เพียงเสี้ยวขณะจิต

ทำไม ต้องปฏิบัติการล้างโลก เป็นความหมายไหน พุทธธรรม นั้นแท้จริงแล้วมิใช่ ประหารล้าง"ใจ" ตัวเองหรือ ไยจะผลาญ ประหารคนอื่นเล่า

เขียนมาเพื่ออะไร อ่านแล้วหัวใจไม่สงบ นับถืออะไรไม่สำคัญ การเบียดเบียนสร้างกรรม เป็นมรรค ที่ไม่ใช่นิพพาน


หนูน้อย - 23 สิงหาคม พ.ศ.2548 16:15น. (IP: 0.0.0.0)

ความคิดเห็นที่ 2
ผมอาจจะไม่ใช่คนเคร่งในศาสนามากนัก แต่สำหรับศาสนาพุทธ เป็นศาสนายิ่งใหญ่ที่สอนให้คนรู้จักความเป็น " มนุษย์ " ไม่ใช่ทาสที่ต้องคอยรับใช้ใครต่อใครที่อ้างตนเป็น "พระเจ้า" หรืออ้างตนเป็นผู้รับใช้พระเจ้า พุทธ สอนไม่ให้คนเป็นทาส ไม่ให้โง่ ไม่ให้งมงายต่อคำพูดของใครบางพวกที่อ้างโองการ อ้างคำพูด หรือแม้แต่อิทธิฤทธ์ิของสิ่งที่มองไม่เห็น "พระเจ้า " หรือแม้แต่สิ่งที่นักบวชทั้งหลายอ้างว่ามีจริงบนสวรรค์และตัวเองเท่านั้นที่ได้คำสอนมา คิดแค่นี้ก็คิดได้แล้วว่าใครมันตอแหลจนคนกลัวเกรง ไม่กล้าแม้แต่จะคิด โอ๊ย บาป โอ๊ย พระเจ้าจะลงโทษ ถ้าอย่างนั้นอย่าไปนับถือมันเลย ถ้าคิดแต่ลงโทษคนที่ไม่เคารพนับถือ ศาสนาอย่างนั้นมันคือคำโกหก ผมจึงมานับถือพุทธ เพราะคำสอนไม่ใช่ให้เชื่อพระเจ้าหรือเชื่อสิ่งที่ตัวเองยังกังขาว่ามีจริงหรือไม่ ? ผมไม่ต้องการคำสอนที่ว่าอย่าสัย? อย่าคิดไม่เชื่อ? ผมชอบพระพุทธเจ้าที่พระองค์สอนว่า " จงอย่าเชื่อ " "จงสงสัย" แล้วให้นำคำสอนไปคิด อย่านี้ซิคือคำสอน ไม่ใช่คำขู่ ส่วนจะพบอะไรนั้น ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติคงทราบ แต่อย่าเอาขี้ปากคนอื่นมากล่าว พระพุทธเจ้าอยู่ในใจผมเสมอ.....


คนช่างสงสัยและพบแล้ว - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 21:51น. (IP: 61.19.67.2)