กระทู้นี้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาโหราศาสตร์ หรือผู้ที่ได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นได้ถามไถ่ 1
กระทู้นี้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาโหราศาสตร์ หรือผู้ที่ได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นได้ถามไถ่
เรียนท่านผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ทุกท่าน
กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นนี้เพื่อไขข้อข้องใจให้กับผู้ที่ต้องการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทย (ดวงอีแปะ) ทั้งท่านที่กำลังจะศึกษา หรือท่านที่ได้ศึกษาอยู่ เพื่อมิให้ท่านต้องหลงทาง คำถามใดที่สามารถตอบได้ก็จะตอบ หากคำถามใดไม่สามารถตอบได้ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะจนใจเนื่องจากครูบาอาจารย์สั่งไว้ อ้อ! ลืมบอกไปว่าผมจะเข้ามาใน web นี้ทุกวัน และคำตอบของท่านใดที่ตอบไม่ทันก็ต้องขออภัยด้วย
จาก: การเวก (กรวิก) [14 jul 2004 13:10]ผู้ดู [1508]ผู้ตอบ[175] ลบ
ความคิดเห็นที่ 1โดย คุณ 1235 นิทานชาติเวร
14 jul 2004 17:49#600330ลบ
อยากสอบถามคำที่ว่า
"จันทร์ล่าราหู ราหูล่าจันทร์"
ทั้ง 2 ประโยคที่กล่าวมา ตำแหน่งของทั้ง 2 ดาว มันจะอยู่ในรูปแบบใหน บางท่านบอกว่าให้นับราหูทวนจักร บางท่านไม่นับราหูทวนจักร
สมมุติแล้วกัน ให้ราหูอยู่เมษ (คงที่) จันทร์จะอยู่ตรงใหน ?
แล้วมีความหมายอย่างไร
ความคิดเห็นที่ 2โดย คุณ การเวก(กรวิก)
15 jul 2004 10:15#600968ลบ
เรียน คุณ 1235 นิทานชาติเวร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า "จันทร์ล่าราหู
ราหูล่าจันทร์" นี้เป็นประโยคในคำกลอนเกี่ยวกับดวง
ภิณทุบาทย์ ซึ่งมีคำโคลงดังนี้
"เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้ว อสุรา
ภุมเมนท์อัษฎา ว่าไว้
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ ราหูเล่า
อาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ประเหินหิน"
คราวนี้เรามาว่ากันเกี่ยวกับ "จันทร์ล่าราหู ราหูล่าจันทร์" ในวิชาโหราศาสตร์ไทยเราการเคลื่อนย้ายราศีของดาวมี 2 ประเภทคือ
-อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ มฤตย์ จะเคลื่อนย้ายราศีในลักษณะทวนเข็มนาฬิกา (จากขวามาซ้าย)
-ราหู และเกตุ จะเคลื่อนย้ายราศีในลักษณะตามเข็มนาฬิกา (จากซ้ายมาขวา)
ตามตำแหน่งที่คุณว่า ให้นับจากราศีเมษมา 3 ราศี
ทวนเข็มนาฬิกา ดาวจันทร์จะอยู่ในราศีเมถุน เมื่อดาวจันทร์อยู่ในตำแหน่งนี้เรียกว่า "จันทร์ล่าราหู"
และเมื่อนับจากราศีเมษไป 11 ราศี ทวนเข็มนาฬิกา
ดาวจันทร์จะอยู่ในตำแหน่งที่ ราศีกุมภ์ ตำแหน่งนี้เรียกว่า "ราหูล่าจันทร์"
เดี๋ยวผมจะเข้ามาใหม่
ความคิดเห็นที่ 3โดย คุณ การเวก (กรวิก)
15 jul 2004 10:24#600977ลบ
เรียน คุณ 1235 นิทานชาติเวร
(ต่อ) เมื่อดาวจันทร์ล่าราหู ราหูก็จะให้ร้ายแก่ชะตากล่าวคือ เจ้าชะตาจะเป็นคนหูเบา ขี้สงสารคน เชื่อคนง่าย งมงายฯลฯ
เมื่อราหูล่าจันทร์ จันทร์ก็จะให้ร้ายแก่เจ้าชะตาในลักษณะเกี่ยวกับความหมายของจันทร์ คือพยายามที่จะทำตัวเอง (เฉพาะสุภาพสตรี) ให้อยู่เป็นเมียน้อยอะไรทำนองนี้
คำอธิบายดังกล่าวค่อนข้างสั้น และคำอธิบายนี้หากจะดูให้ละเอียดให้ไปซื้อหนังสือเรื่อง "เคล็ดลับการพยากรณ์" แต่งโดย ท่านอาจารย์บรรเทา จันทรศร
(ปัจจุบันหาซื้อค่อนข้างยาก หากท่านทั้งหลายอยากได้ก็ต้องไปที่วัดราชนัดดา ให้ไปในวันไหว้ครู จะมีตำราดังกล่าวจำหน่าย)
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 4โดย คุณ นร.
16 jul 2004 11:56#602091ลบ
คือ ผมอยากทราบว่าจะรวยเมื่อไหร่ มีเกณฑ์ดูอย่างไรครับ
ความคิดเห็นที่ 5โดย คุณ การเวก (กรวิก)
16 jul 2004 12:47#602162ลบ
เรียนคุณ นร.
ในการดูโหราศาสตร์หากจะดูว่ารวยเมื่อไรนั้นค่อนข้างดูลำบากสำหรับคนที่ไม่มีดาวส่งเสริม คนที่รวย ๆ
อยู่ในปัจจุบันนี้โดยส่วนใหญ่ดวงดาวจะให้คุณเช่น
มี ดาวเกษตร หรือ ดาวมหาอุจน์ หรือดาวราชาโชค
หรือดาวมหาจักร อย่างน้อย 3 ดวง และต้องอยู่ในเรือนดีเช่น เรือนกดุมภะ เรือนปุตตะ เรือนสหัชชะ
เรือนปัตตนิ เรือนศุภะ เรือนกัมมะ และเรือนลาภะ
หากคุณไม่เชื่อก็ดูในดวงตัวอย่างทั่ว ๆ ไปที่เห็นในหนังสือ เช่น ดวงคุณชาตรี โสภณพานิช หรือดวงคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
ผมเข้าใจว่าคุณคงอยากจะถามว่าเมื่อไรจะมีโชค ในกรณีนี้ผมมีข้อจำกัดให้ดูดังนี้
- พื้นดวงดาวดี ปีจรดี ดีเยี่ยม
- พื้นดวงดาวดี ปีจรเสีย เสียเพียงกึ่งหนึ่ง
- พื้นดวงดาวเสีย ปีจรดี ดีเพียงกึ่งหนึ่ง
- พื้นดวงดาวเสีย ปีจรเสีย เสียหนัก
อนึ่ง ในกรณีของคนที่จะมีฐานะดี ให้ดูที่ 3 ราศี หมายถึงสามารถมีทรัพย์สิน มีฐานะ
-ราศีที่1 ภพตนุ
-ราศีที่2 ภพกดุมภะ
-ราศีที่3 ภพลาภาะ
ในกรณีนี้ ต้องเป็นวงจรมหาเกษตร กล่าวคือ ดาวเจ้าเรือนภพตนุไปอยู่เรือนกดุมภะ ดาวเจ้าเรือนกดุมภะไป
อยู่เรือนลาภะ และดาวเจ้าเรือนลาภะไปอยู่ภพตนุ
ความหมายก็คือ เจ้าชะตาวิ่งไปหาเงิน มีความสามารถในการหารายได้ และรายได้ดังกล่าวงอกเงยขึ้นมา (ลาภะ) และเมื่องอกเงยขึ้นมาก็มาสู่เจ้าชะตาเก็บสะสม จะเป็นลักษณะนี้อยู่ตลอดไป
คำตอบนี้หวังว่าคงสามารถทำให้คุณได้เข้าใจและนำไปเปรียบเทียบได้ อ้อลืมไป ในกรณีที่จะดูได้อีกวิธีหนึ่งก็คือ ให้ดูในมหาทักษาจรด้วย เกี่ยวกับศรี และกาลี ปีใดมีเกณฑ์หากจรตกศรี และดาวมีตำแหน่งมาตรฐานด้วย ปีนั้นคุณมีเกณฑ์ได้ทรัพย์สินเพิ่มเติมหรือรวยขึ้น แต่ปีใดหากดาวกาลีเด่นในปีจร โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ปีนั้นคุณต้องระวังไว้ด้วยอาจจะจนลง และโดยเฉพาะถ้าหากไปเจอดาวราหูค้นทรัพย์ด้วยแล้ว แย่เลย
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 6โดย คุณ นร.
16 jul 2004 13:05#602181ลบ
แล้วเกณฑ์การแต่งงานละครับ จะทราบได้อย่างไร ว่าจะพบเนื้อคู่เมื่อไหร่ แต่งงานปีไหน มีหลักเกณฑ์ อย่างไรครับ
ความคิดเห็นที่ 7โดย คุณ การเวก (กรวิก)
16 jul 2004 15:59#602333ลบ
เรียน คุณนร.
ความจริงแล้วกระทู้นี้ว่าจะให้สำหรับผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์เบื้องต้นได้ถามไถ่ เมื่อคุณถามมาก็จะตอบให้แต่อาจจะตอบไม่หมดเพราะคงต้องรอให้ผู้เรียนโหราศาสตร์เบื้องต้นได้เรียนต่อก่อน เพราะการจะตอบไปแล้วหาตำราอ่านไม่ได้ หรือไม่มีผู้สอนก็จะทำให้สับสน วิธีที่ดูง่าย ๆ ในเบื้องต้นก็คือ.-
- ดาวตนุลัคน์ถึงดาวเจ้าเรือนปัตตนิ
-ดาวเจ้าเรือนปัตตนิถึงดาวตนุลัคน์
ส่วนที่ดูง่าย ๆ อีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมีอธิบายในหนังสือเรื่องเคล็ดลับการพยากรณ์ของท่านอาจารย์
มหาบรรเทา ก็คือ เมื่อใดก็ตามแต่ที่ดาวราหูถึงดาวตนุลัคน์ เมื่อนั้นเจ้าชะตาที่ยังเป็นโสดก็มีความรู้สึกอยากมีคู่และก็มีคู่ด้วย แต่จะแต่งหรือไม่ต้องดูให้ละเอียดว่า
เป็นดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล หรืออยู่ในราศีที่ให้คุณให้โทษอย่างไร ผมคงจะอธิบายได้เท่านี้เพราะถ้าอธิบายไปมากทางผู้ศึกษาโหราศาสตร์เบื้องต้นจะสับสน เพียงจำแค่นี้ก่อนก็นับว่าทำนายได้แม่นแล้ว
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 8โดย คุณ การเวก (กรวิก)
16 jul 2004 16:01#602335ลบ
เรียน คุณ นร.
(ต่อ) ที่ว่าดาวราหูถึงดาวตนุลัคน์นั้น หากถึงลัคนาก็นับด้วย
หมดแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 9โดย คุณ นร.
20 jul 2004 11:58#605930ลบ
ศุกร์เจ็ด อาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันด์.....
กับ ศุกร์สิบสองปองร้ายแรงร้อน......
ช่วยอธิบายด้วยครับ ว่าแรงร้อนอย่างไร และ ร้ายแรงร้อนอย่างไร
ความคิดเห็นที่ 10โดย คุณ กิ๊ก
20 jul 2004 12:56#605974ลบ
ดิฉันได้ศึกษาไพ่ยิบซี มาประมาณระยะหนึ่งแล้ว บอกตรงๆว่าอ่านไพ่พอเข้าใจแต่บางอย่างยังจำไม่ค่อยได้ (เนื่องจากมีงานทำประจำ จึงใช้เวลาว่างเล็กน้อย) และยังไม่สามารถโยงเรื่องราวของไพ่ได้ อยากจะขอคำแนะนำและเทคนิคพิเศษให้ด้วยค่ะ (ดิฉันศึกษาด้วยตัวเอง)
ความคิดเห็นที่ 11โดย คุณ การเวก (กรวิก)
20 jul 2004 13:04#605980ลบ
เรียน คุณ นร.
ความจริงแล้วตามที่คุณถามมานั้นเหมาะสำหรับผู้ที่เรียนโหราศาสตร์เบื้องต้นจบแล้ว และกำลังจะเรียนโหราศาสตร์ชั้นสูงต่อไป แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมตั้งใจไว้ว่าจะตอบในกระทู้นี้เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับท่านผู้ที่จะศึกษา และกำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยอยู่ ดังนั้นผมจะขออธิบายเป็นข้อ ๆ ดังนี้ ซึ่งบางทีอาจจะไม่ถูกใจเพราะคงจะไม่ละเอียดพอ แต่เพื่อให้ท่านที่กำลังศึกษาอยู่ได้ฝึกฝนไปด้วย กล่าวคือ
1. ศุกร์เจ็ด อาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันด์ เป็นดวงพินทุบาทย์เกณ แต่ต้องมีคุณลักษณะนี้ประกอบด้วย หากดวงชะตาใดมีศุกร์เป็นเจ็ด บุคคลผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่เกิดวันศุกร์ด้วย ถ้าเกิดวันอื่นถือว่าไม่เข้าเกณฑ์
ข้อนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะบางคนพอเห็นศุกร์เป็นเจ็ด แต่ยังไม่ทันดูเลยว่าเจ้าชะตาผู้มาให้ทำนายเกิดวันศุกร์หรือเปล่า ก็จะว่าเป็นพินทุบาทย์ไปซะทุกราย อย่าลืมน๊ะครับต้องเกิดวันศุกร์ตรงกับเกณฑ์เท่านั้น
ตอนนี้จะมาดูว่าร้อนนิรันดร์อย่างไร ในเบื้องต้นดาวศุกร์ก็จะหมายถึงความรัก ความมั่งมี ความสุขสดชื่น
หรืออาจจะหมายถึงเกี่ยวกับเงินทองก็ได้ เหล่านี้ก็ได้ความหมายหนึ่ง อีกความหมายหนึ่งต้องดูว่าศุกร์เป็นเจ้าเรือนอะไร ก็จะมีความหมายนั้นพ่วงเข้าไปด้วย เช่น ถ้าศุกร์เป็นเจ้าเรือนพันธุก็จะหมายถึงครอบครัว
ถ้าศุกร์เป็นสหัสชะก็จะหมายถึงญาตพี่น้องก็ได้ หรือเพื่อนฝูงก็ได้ ฯลฯ อธิบายมาเพียงเท่านี้หวังว่าท่านที่กำลังศึกษาอยู่คงจะต้องค้นคว้าต่อไปว่าเป็นจริงหรือไม่ โดยดูดวงคนอื่นแล้วจดไว้เป็นสถิติ
2. สำหรับศุกร์สิบสองปองร้ายแรงร้อน ก็เช่นกัน ภพสิบสองหมายถึงวินาศน์ ดังนั้นความรักของคนเราเมื่อวินาศน์แล้วมันจะไปเหลืออะไร แต่ก็ต้องมองดูที่มาที่ไปของศุกร์ด้วย ว่าเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ก็จะหมายถึงอย่างนั้นมันวินาศน์ รวมกับความหมายของดาวศุกร์ด้วย
ผมหวังว่าคำตอบของผมคงจะเป็นคุณประโยชน์สำหรับผู้ที่เข้ามาท่อง web รวมทั้งผู้ที่กำลังศึกษาโหราศาสตร์เบื้องต้นอยู่ด้วย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 12โดย คุณ นร.
20 jul 2004 13:17#605999ลบ
อยากทราบเกณฆ์พิเศษ เช่น
เสาร์ 3 และ 10
พฤหัส 5 และ 9
และดาวดวงอื่น มีเกณฑ์ อย่างไรครับ
ความคิดเห็นที่ 13โดย คุณ การเวก (กรวิก)
21 jul 2004 08:26#607025ลบ
เรียนคุณกิ๊ก
ความจริงกระทู้นี้ผมตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้ที่จะศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้น (ดวงอีแปะ) หรือผู้ที่กำลังศึ่กษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นอยู่ได้สอบถามข้อข้องใจ แต่รายของคุณถามมาเกี่ยวกับเรื่องของไพ่ยิปซี หรือ ไพ่ทาโร่ ซึ่งไม่ตรงกับกระทู้ แต่เพื่อมิให้คุณต้องรอคอยผมจะไขข้อข้องใจให้เพียงคร่าว ๆ เป็นข้อ ๆ ดังนี้
1. ไพ่ยิปซี(tarot) มีไพ่ทั้งหมด 78 ใบ แบ่งออกได้ดังนี้
-ไพ่ใหญ่ 22 ใบ(บนไพ่จะมีตัวเลขโรมันอยู่)
-ไพ่บุคคลมี 4 กลุ่ม ๆ ละ 4 ใบ รวม 16 ใบ(จะเป็นไพ่รูป กษัตริย์ ราชินี นักรบ และเด็ก)
-ไพ่เล็ก มี 4 กลุ่ม ๆ ละ 10 ใบ รวม 40 ใบ(เป็นไพ่
ไม้เท้า ดาบ เหรียญ ถ้วย)
2. ความหมายของไพ่แต่ละใบจะมีความหมายของมัน หนังสือที่มีความหมายตามไพ่ที่ดีที่สุดก็ควรจะเป็นหนังสือที่เขียนด้วยผู้ที่นำไพ่ยิบซีเข้ามาเผยแพร่ ได้แก่ คุณขุนทอง
3. คุณควรอ่านความหมายของไพ่แต่ละใบรอบหนึ่งก่อน พอรอบที่สองให้ shot note ออกมาถึงความหมายของไพ่แต่ละใบ (เพื่อคุณจะได้เข้าใจได้ ก็คือจำได้นั่นเอง)
4. การวางไพ่ผมเข้าใจว่าวิธีของ คุณขุนทอง ได้แสดงไว้แล้วในหนังสือ คงจะเป็นรูปแบบของ เซลติกครอส
(ไพ่ 10 ) และมีความหมายของแต่ละส่วน ว่าส่วนไหนหมายถึงอะไร อายุเท่าไร วิธ๊การวางไพ่จะมีความสัมพันธ์กัน ในส่วนนี้คุณควรอ่านให้เข้าใจและต้องจำด้วย
5. ในเบื้องต้นคุณควรจะปฏิบัติตามข้อ 1-4 ให้เรียบร้อยก่อน เมื่อคุณสามารถจำวิธีการ ความหมายของไพ่ได้คร่าว ๆ แล้ว คราวนี้จะว่าถึงรายละเอียด กล่าวคือ
การตีความหมายของไพ่ยิบซีนี้ คุณควรจะเป็นผู้ที่สังเกตุรูปในไพ่ให้ละเอียดละออ ว่าเป็นรูปอะไร มีส่วนประกอบอะไรในรูปบ้าง เพราะในรูปไพ่ยิบซี 1 ใบ สามารถตีความหมายได้จากส่วนประกอบทั้งหมด เช่น รูปมาจิเชี่ยน (นักมายากล) รูปนี้หมายถึงคนผู้นี้มีความรอบรู้ในศาสตร์ทุกเรื่อง ไม่ว่าคุณจะถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ตาม ดูตำแหน่งที่วางว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร และตำแหน่งดังกล่าวมีความหมายถึงอะไร
ฯลฯ ไพ่ทุกใบก็จะมีความหมายของมันเองในลักษณะนี้
ความหมายของไพ่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ไพ่ใบนั้นเป็นหมายเลขที่เท่าใด มีดาบกี่เล่ม มีถ้วยกี่ใบ มีเหรียญกี่เหรียญ ความหมายของการกำหนดจำนวนวัน จะอยู่ที่ความหมายที่กล่าวมาข้างต้น ว่ากี่วัน กี่เดือน วันที่เท่าไร ผมขอกล่าวมาเพียงเท่านี้เพื่อเป็นแนวทางให้
คุณได้ทราบน๊ะครับ ข้อต่อไปผมจะให้วิธีการดูอีกแบบหนึ่งให้คุณได้ลองใช้ดู แล้วอย่าลืมจดสถิติไว้ด้วยว่าวิธีดังกล่าวมีความแม่นยำแค่ไหน
6. -การดูรายวันตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรกับเจ้าชะตา ให้ใช้ไพ่หลัก 22 ใบเท่านั้น เมื่อสับไพ่แล้วให้ใช้มือข้างซ้ายตัดไพ่ (การใช้มือตัดไพ่เป็นเสมือนการใช้กระแสจิตของเจ้าชะตาในการตัดไพ่) ให้เจ้าชะตาเลือกไพ่มา 7 ใบ (คุณต้องจำด้วยน๊ะว่าไพ่ใบไหนใบที่ 1 2 3 4 5 6 7 เพราะตำแหน่งไพ่ดังกล่าวจะหมายถึงวัน อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ คำทำนายหรือคำพยากรณ์ก็ว่ากันไพตามความหมายของไพ่
-การวางไพ่ 6 ใบ (ใช้ไพ่รวมทั้งหมด) เมื่อผู้มาดูสับไพ่และใช้มือซ้ายตัดไพ่แล้ว ให้คุณกรีดไพ่แล้วให้ผู้มาดูเลือกมา 6 ใบ เวลาวางไพ่ ข้างบน 3 ใบ ข้างล่าง 3 ใบ ความหมายของไพ่แต่ละใบมีดังนี้
ใบที่1 หมายถึงอดีต
ใบที่ 2 หมายถึงปัจจุบัน
ใบที่ 3 หมายถึงคนรอบข้าง คนใกล้เคียง สังคม
ใบที่ 4 หมายถึงการงาน ภารกิจ การเรียน
ใบที่ 5 หมายถึงผู้ช่วยเหลือ ความสำเร็จที่ได้รับ
ใบที่ 6 หมายถึงอุปสรรค
ในการออกคำทำนายหรือการพยากรณ์ก็ให้ตีไปตามความหมายของไพ่
7. ความหมายของไพ่เล็กมีดังนี้
-ไพ่ไม้เท้า หมายถึงธาตุไพ ความหมายของไพ่ได้แก่ ภาระกิจ หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ
-ไพ่ดาบ หมายถึงธาตุลม ความหมายของไพ่ได้แก่ อุปสรรค ความยุ่งยาก อารมณ์
-ไพ่เหรียญ หมายถึงธาตุดิน ความหมายของไพ่ เกี่ยวกับเรื่องเงิน รายได้
- ไพ่ถ้วย หมายถึงธาตุน้ำ ความหมายของไพ่ หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ การเลี้ยงฉลอง ความรัก คู่ครอง
เมื่อคุณดูเกี่ยวกับเรื่องอะไร ไม่ว่าไพ่ชนิดใดขึ้นมาก็ให้ตีไปตามความหมายของไพ่ เช่น ถามเรื่องความรัก ปรากฎว่าไพ่ดาบขึ้นมาย่อมหมายถึงอุปสรรค หรือถามเรื่องเงินทอง ได้ไพ่ถ้วยขึ้นมาแสดงถึงจะประสบความสำเร็จแต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นถ้วยแบบไหนก็ต้องตีความหมายไปตามนั้น
ผมขอจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้น๊ะครับ เอาเพียงหอมปากหอมคอ และหวังว่าคำอธิบายดังกล่าวจะเป็นคุณประโยชน์แก่คุณและผู้เรียนไพ่ยิบซีทุกท่าน จากอานิสงค์ดังกล่าวผมขออุทิศให้ครูบาอาจารย์ทางด้านโหราศาสตร์ทุกท่าน และผมหวังว่าคุณคงใช้ความรู้ไปในทางสร้างสรรค์ มิใช่สร้างกระแสร์น๊ะครับ
สวัสดี (ผมมีเวลาเข้ามาใน web เพียงเท่านี้)
ความคิดเห็นที่ 14โดย คุณ การเวก (กรวิก)
21 jul 2004 12:57#607477ลบ
เรียนคุณนร.
ในเรื่องเกณฑ์ต่าง ๆ นี้ผมคงต้องรบกวนให้คุณนร.
ตอบให้ด้วยน๊ะครับ ที่ไม่ตอบเนื่องจากว่าไม่ต้องการให้นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ หรือจะศึกษา สับสน
ทั้งนี้เนื่องจากวิชาโหราศาสตร์หากผู้ที่ไม่มีพื้นฐานแน่นพอแล้วมาเจอเกณฑ์นี้ เกณฑ์โน้นเข้า นานไปจะสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะการกำหนดเกณฑ์ของครูบาอาจารย์มาจากสถิติ รวมทั้งต้องดูทีไปที่มาของดาว ของภพ รวมทั้งตำแหน่งมาตรฐานของดาว
ผมหวังว่าที่อธิบายมาคงไม่ทำให้เคือง หากจะให้อธิบายเกี่ยวกับเกณฑ์ไว้ให้ล่วงไปสักพักผมจะเปิดกระทู้ให้ถามเกี่ยวกับเกณฑ์โดยเฉพาะ
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 15โดย คุณ jazology
21 jul 2004 14:57#607640ลบ
ขอรบกวน อาจารย์ สอบถามเรื่อง ดวงยามอัฐกาล ว่ามีหลักในการดูอย่างไร คล้ายๆกับดวงกาลชะตาหรือเปล่า
ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
ความคิดเห็นที่ 16โดย คุณ การเวก (กรวิก)
22 jul 2004 08:37#608505ลบ
เรียน คุณjazology
ในเรื่องของดวงยามอัฐกาลนั้นหลักในการดูจะว่าคล้ายก็คล้าย จะว่าไม่คล้ายก็ไม่คล้าย อยู่ที่ผู้ที่ต้องการดู อย่างนี้แล้วกันผมจะพูดถึงรายละเอียดนิดหน่อยเผื่อผู้ที่กำลังเรียนโหราศาสตร์เบื้องต้นจะได้ค้นคว้าไปด้วย
1. ดวงยามอัฐกาล เป็นเรื่องของเวลาถ้าจะให้อธิบายไปคงจะยืดยาวมาก ผมจะแนะนำหนังสือให้เล่มหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องของดวงยามอัฐกาล ได้แก่หนังสือเรื่อง โหรทายหนู หนังสือเล่มนี้แต่งและเรียบเรียงโดย ท่านอาจารย์ประทีป อัครา ถ้าจะหาซื้อมาเก็บไว้เป็นตำราให้ไปที่ร้านขายหนังสือแถวจตุจักร (หมอชิต) เข้าใจว่าจะเป็นร้านแผง 13 ถ้าไม่ใช่ให้ถามคนแถวนั้นดู หนังสือเล่มนี้เหมาะที่ผู้กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นได้ศึกษา ผมยอมรับว่าท่านอาจารย์ประทีป อัคราเรียบเรียงตำราเล่มนี้ได้ดีมาก ๆ (ผมมิเคยเป็นลูกศิษย์ท่าน อยากจะพบท่านแต่ยังไม่มีโอกาส) เอาละผมจะพูดถึงวิธีการดูดังนี้
-อันดวงยามอัฐกาลเป็นเรื่องของเวลา ดังนั้นการผูกดวงยามอัฐกาลเป็นการผูกดวงขึ้นมาตามกำหนดวิธีของโหราจารย์ จะว่าไปยามอัฐกาลแบ่งเป็น 2 คาบเวลาคือ
ก. ช่วงเวลา 06.00-18.00 เวลาหนึ่ง โดยใช้ยามเวลากลางวัน แต่ละช่วงเวลาของดวงยามจะมีเวลา
1.30 ช.ม. แต่ละราศีจะแบ่งเป็นราศีละ 7.30 นาที
และการผูกดวงยามจะเป็นไปตามวันเช่น วันอาทิตย์ จะเริ่มต้นด้วย สุริยะ ศุกระ พุธะ จันเทา เสารี ครู ภุมมะ สุริยะ (วิธีการผูกมีอธิบายไว้ในหนังสือตำราโหรทายหนู)
ข. ช่วงเวลา18.00-06.00 เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งใช้
ดวงยามกลางคืน เช่นกันแต่ละช่วงเวลาของดวงยาม =
1.30 ช.ม. แต่ละราศีจะแบ่งเป็นราศีละ 7.30 นาที และการผูกดวงยามจะเป็นไปตามวันเช่น วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ สมมุติใช้ดวงยามกลางคืนของวันอาทิตย์ จะเริ่มต้นด้วย ระวิ ชีโว
ศศิ ศุโกร ภุมโร โสโร พุโธ รวิ (วิธีการผูกดวงก็มีอธิบายในหนังสือ โหรทายหนู)
วิธีการดูก็คือ ในช่วงเวลาที่คุณต้องการดูว่าเพื่อนคุณกำลังทำอะไรอยู่ ณ เวลา 07.35น. วันจันทร์ คุณก็หยิบดวงยามของวันจันทร์ เวลากลางวัน ดูในยามเวลา 07.30-09.00 เป็นยามที่ 2 ของวันจันทร์เวลากลางวัน ดูที่ภพสหัสชะ โดยดูว่าเจ้าเรือนภพสหัสชะไปอยู่ที่เรือนใด และเจ้าเรือนที่สหัสชะไปอยู่ กำลังโคจรไปอยู่ในเรือนใด (เป็นการดูภพดูดาว 3 จังหวะ)
เช่นนี้เป็นการดูดวงยามโดยการกำหนดภพ และในช่วงเวลาของดวงยามในขอบเขตระยะเวลา 1.30 ชม. กับ
การที่คุณจะดูว่า ขณะเวลา 09.20 น. กำลังเกิดเหตุการณ์อะไร คุณก็ดูในดวงยามวันจันทร์เวลา 9.20
น. ว่าอยู่ในภพใด แล้วดูภพดูดาวต่อไปอีก 2 จังหวะเช่นกัน อธิบายมาเท่านี้หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ และหากคุณจะดูในวันอื่นก็กระทำในวิธีเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ถ้าเป็นกลางวันก็ใช้ดวงยามกลางวัน ถ้าเป็นกลางคืนก็ใช้ดวงยามกลางคืน
2. หลักการดูในดวงกาลชะตา ก็เช่นกันถ้าอธิบายจะยาว ผมจะแนะนำหนังสือที่อธิบายวิธีการนี้อีกเล่มหนึ่งที่เหราะจะซื้อหาเป็นตำหรับตำราเอาไว้ ได้แก่ หนังสือเคล็ดลับการพยากรณ์ ของท่านอาจารย์มหาบรรเทา
เราจะมาว่าเรื่องของการดูในดวงกาลชะตากัน การดูในดวงกาลชะตาจะเป็นการผูกดวงขึ้นมาทันทีทันใดในเวลานั้น เมื่อผูกขึ้นมาแล้วเราจะดูว่า ผู้มาให้เราดูดวงชะตาจะมาให้เราดูเรื่องอะไร ก็ดูที่ลัคนา ว่าตนุลัคน์เจ้าเรือนที่ลัคนาสถิตย์อยู่ไปอยู่ที่ใด ก็หมายถึงผู้ที่จะมาให้เราดูดวงให้มีข้อสอบถามในเรื่องนั้น (เรือนที่ตนุลัคน์ไปอยู่) หากตนุลัคน์อยู่ในเรือนตนเองเป็นเกษตร
ก็หมายถึงว่าผู้มาดูต้องการมาดูเรื่องสุขภาพและเรื่องความเป็นอยู่ของตนเอง (อันนี้เป็นการอธิบายเพียงเล็กน้อยซึ่งหยิบมาจากหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทา)
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าท่านที่กำลังจะศึกษา หรือศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้นอยู่ จะได้เสาะหาหนังสือดังกล่าวทั้ง 2 เล่มไว้เป็นตำหรับตำราที่มีคุณค่ามาก เหมาะที่จะเก็บไว้เป็นของตนเอง อนาคตผมว่าจะหาลำบากถ้าไม่มีใครพิมพ์จำหน่าย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 17โดย คุณ การเวก (กรวิก)
23 jul 2004 08:16#609903ลบ
เรียน คุณjazology
เมื่อวานนี้ที่ให้คำอธิบายไปนั้นยังไม่หมด โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องกาลชะตา ผมลืมไปน่าตีมือตัวเองเป็นอย่างยิ่งที่ลืมพิมพ์อธิบายไว้ เรื่องมีอยู่ว่า อันการผูกดวงกาลชะตานั้นความหมายเพิ่มเติมก็คือ หากจะใช้พยากรณ์เช่นเดียวกับเรื่องของยามอัฐกาล ก็สามารถทำได้ โดยให้ตัดลัคนาออก แล้วใช้ดาวจันทร์แทน รายละเอียดมีดังนี้
1. เมื่อผูกดวงราศีจักร ณ เวลานั้นมาแล้ว ให้ดูว่าเวลาขณะนั้นเป็นเวลาเท่าไร กลางวัน หรือกลางคืน ถ้าเป็นเวลากลางวันก็ให้ใช้ยามอัฐกาลในเวลากลางวันดู ว่าเป็นวันอะไร อยู่ในยามที่เท่าไร สมมุติดูในเวลากลางวันของวันจันทร์ เวลา 08.00 น. ก็ให้ใช้ยามของวันจันทร์เข้ากำหนด เวลา 08.00 น.เป็นยามศุกร์ ดังนั้นให้ดูซิว่าดาวศุกร์ ณ เวลานั้นอยู่ที่ใด ภพอะไร ราศีอะไร ธาตุอะไร ก็ให้ดูดาว 3 จังหวะเช่นเดียวกับยามอัฐกาล
2. เมื่อตัดลัคนาออกแล้ว ให้ใช้ดาวจันทร์เป็นตัวแทน หากดาวจันทร์อยู่ในเรือนของใคร เมื่อจะทำนายเกี่ยวกับดาวจันทร์ให้ดูดาวเจ้าเรือนที่จันทร์สถิตย์อยู่ว่าไปอยู่ที่ใด เมื่อจะออกคำทำนายต้องใช้คำทำนายเกี่ยวกับดาวจันทร์ทำนาย (ในข้อนี้ผมหมายว่าเมื่อผูกดวงราศีจักร ณ เวลานั้นแล้วก็ตัดลัคนาออกให้เหลือแต่ดาวเพียงอย่างเดียว แต่เวลาจะกำหนดเป็นลัคนาให้กำหนดจันทร์เป็นภพตนุ)
3. ความหมายของดาวแต่ละดวงจะมีความหมายต่างกันออกไป เอาเป็นว่าเมื่อท่านได้เข้ามาใน web ของ
horathai.com. แล้ว ท่านคงเห็นกระทู้เกี่ยวกับเรื่องของ ท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์ เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ
ในเรื่องเหล่านี้มีเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของกาลชะตาที่ผมอธิบายให้ฟังเบื้องต้น และจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับความหมายของดาวว่าคืออะไร มิใช่ผมไม่ตอบแต่อยากให้ท่านได้ค้นคว้าแล้วจะเป็นผลประโยชน์แก่ท่าน
จะทำให้ท่านสามารถจำได้อย่างแม่นยำ
*การเรียนวิชาโหราศาสตร์ก็เช่นนี้ละครับ ถ้าบอกหมดก็คงจะดูแล้วผ่านไป ถ้าให้ไปค้นคว้าโดยมีแหล่งที่มาที่ไปแล้วจะทำให้การเรียนของคุณก้าวหน้าได้
วันนี้ก็มีเพียงแค่นี้ ผมหวังว่าคำอธิบายเพิ่มเติมจะทำให้เกิดความกระจ่างแก่ผู้ที่ยังสงสัยอยู่ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 18โดย คุณ ขอเป็นศิษย์
5 aug 2004 17:37#625111ลบ
เรียนอาจารย์การเวกครับ
ผมมีความสงสัยดาวพฤหัและเรื่องเกี่ยวกับดาวเกษตรเล็งกัน
คือเจ้าชะตา ลัคนา ราศีสิงห์ ดาวศุกร์กุมลัค ดาวอาทิตย์อยู่กับดาวพุธ ในเรื่อนกดุมพะ ดาวพฤหัส อยู่ราศีมิน เป็นมรณะ และเป็นเกษตร เจ้าชะตาเกิดวันพฤหัส
อ่านดวงว่า เจ้าชะตาการศึกษาไม่สูง ปรากฎว่าผิด
ตามเป็นจริงคือ จบปริญญาตรี ปัจจุบันทำงานเป็นดัวแทนบริษัทยา ต่างประเทศ
ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยเพื่อความมั่นใจในรายต่อไป
นับถืออย่างสูง
ความคิดเห็นที่ 19โดย คุณ ขอเป็นศิษย์
5 aug 2004 17:41#625115ลบ
ข้อความขาดไปครับ ดาวพฤหัส (5) อยู่ราศีมีน เรือนมรณะ ครับ ขอบคุณครับอาจารย์
ความคิดเห็นที่ 20โดย คุณ การเวก (กรวิก)
6 aug 2004 08:41#625743ลบ
เรียน คุณขอเป็นศิษย์
ตามที่คุณถามมานี้เผอิญดาวที่อยู่ตามราศีต่าง ๆ นั้นระบุมามิครบ แต่สิ่งที่คุณถามมานั้นเกี่ยวกับดาวพฤหัส
และดาวพุธที่เป็นเกษตรเล็งกัน อันนี้ผมจะใช้แนวทางการตอบของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ(หมอเถาวัลย์) ตอบให้น๊ะครับ
ตามที่คุณสมมุติเจ้าชะตาเกิดวันพฤหัสบดี และเผอิญอีกที่ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนมรณะ (ราศีมีน) แต่ดาวพฤหัสเป็นดาวพระเคราะห์ 2 เรือน คือเป็นเจ้าเรือนภพปุตตะราศีธนูอีกเรือนหนึ่ง ถ้าตามที่เรียนมาในตำราโหราศาสตร์จะระบุไว้ว่า ดาวเกษตรถ้าเล็งกันก็จะเป็นประ ดาวอุจจ์ถ้าเล็งกันก็จะเป็นนิจ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูก
แต่ตามตัวอย่างที่คุณยกขึ้นมานั้นเราต้องรู้ให้ลึกถึงแก่นด้วยว่า เจ้าชะตาเกิดวันพฤหัส และดาวพฤหัสเลือกที่จะอยู่ราศีมีนภพมรณะ (แทนที่จะเลือกอยู่ภพปุตตะราศีธนู) และภพมรณะนี้เป็นภพที่แปดในจักราศี จะมีคำโคลงเกี่ยวกับพินทุบาทย์เกณฑ์อยู่คำโคลงหนึ่ง (ผู้ที่จะเข้าเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องเกิดในวันเดียวกับดาวพระเคราะห์ที่อยู่ในคำโคลงนี้ถึงจะเข้าเกณฑ์พินทุบาทย์เกณฑ์ (ซึ่งเรียกว่าพินทุบาทย์เล็ก)) ผมจะเขึยนคำโคลงให้ดู มีดังนี้
ระวิภุมมะ ทั้งโสรา
ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า
จันทร์และชีวา เป็นแปด
ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันด์
ตามดวงตัวอย่างที่คุณยกมา พฤหัสเป็นแปดแก่ลัคนากอร์ปกับเจ้าชะตาเองก็เกิดวันพฤหัส จึงเข้าเกณฑ์พินทุบาทย์เข้าเต็ม ๆ อันดาวพฤหัสเป็นพระเคราะห์ 2 เรือน จึงรวมทั้งเรือนแห่งราศีธนูภพปุตตะ เมื่อพฤหัสอยู่ในภพมรณะคือการพลัดพราก การสูญเสีย เมื่อดาวพฤหัสเล็งกับดาวพุธ ซึ่งเป็นเกษตรอยู่ภพกดุมภะ จึงเข้าคำครูที่ว่าเกษตรเล็งกันเป็นประ รวมทั้งดาวอาทิตย์(ตนุลัคน์)มาอยู่ในเรือนพุทธด้วยหมายถึงเจ้าชะตาวิ่งเข้าหาเงินหาทองเพียงอย่างเดียวเป็นหลัก เพื่อความศุกร์ของตนเอง (ศุกร์เจ้าเรือนภพสหัสชะและกรรมมะ) มาดูความหมายของพระเคราะห์คู่ด้วย อาทิตย์(1) พุธ(4) ร่วมกันหมายถึงเอกสาร สัญญา การเจรจา ถ้าความหมายดีก็หมายถึง การเจรจา ข่าว หรือการตกลงที่ดีไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ แต่ถ้าเป็นความหมายที่เสียจะหมายถึง การหลอกลวง การทำให้เสียชื่อเสียง เกี่ยวกับเอกสารสัญญา หรือการเจรจา ฯลฯ
พุธ(4) พฤหัส(5) หมายถึงหลักการ เมื่อพุธเสีย พฤหัสเสีย ก็หมายถึงหลักการที่เสีย เมื่อเกี่ยวกับเรื่องการเงินก็หมายถึงการจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้เงินมาเพียงอย่างเดียว
ตามที่ท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์สอนเอาไว้ว่า เวลาดูดวงอย่าดูดาวเพียงความหมายเดียว อันดาวพฤหัสถ้าแปลเป็นการศึกษาก็หมายถึงสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ ถ้าแปลถึงการงานก็หมายถึงได้ตำแหน่งงานทางด้านวิชาการได้ การที่ดาวพฤหัสไปอยู่ในภพมรณะ มิใช่ว่าการศึกษาได้ตายไป ได้จากไปไม่สามารถเรียนได้จบ ถ้าดูให้ดีภพมรณะนี้อาจจะหมายถึงการจบการศึกษาเมื่อมีอายุก็ได้ หรือถ้าเอาความหมายของปุตตะเข้ามาก็หมายถึงการขาดบริวารก็ได้ (ปุตตะ มรณะ)
ผมหวังว่าการชี้แจงดังกล่าวสามารถสร้างความกระจ่างแก่คุณได้บ้างไม่มากก็น้อย และสามารถเป็นหลักให้ผู้อื่นได้ศึกษาด้วยครับ สวัสดี.
ความคิดเห็นที่ 21โดย คุณ นร.
6 aug 2004 10:02#625838ลบ
จากแนวทางของ อ.อรุณท่านบอกว่าดาว เจ้าเรือน ศุภะอันหมายถึงการศึกษาเป็นทุสถานะนั้นไม่เพียงพอที่จะบอกว่าการศึกษานั้นไม่สูง หากต้องดู อังคารด้วยว่าดีหรือไม่ หาก อังคาร ดี ก็รับรองว่าจะจบการศึกษาปริญญาตรีได้ แต่หาก อังคารเสียด้วย ก็บอกได้เลยว่าการศึกษา ไม่จบปริญญา...แล้วจากที่คุณให้ดวงมา เจ้าชะตาเป็นคนฉลาด ปฎิภาณไหวพริบดีมาก หาก อังคารดีแล้ว สามารถ จบ ด้อกเตอร์ได้เลยครับ....การอ่านดวงต้องอ่านภพ เป็นหลัก ***ดังนั้นดวงนี้ดูการศึกษาอันดับแรกต้องพิจารณา ภพ ศุภะ ซึ่งเจ้าเรือน คือ ดาวอังคาร ครับ ว่าดีไหม...อย่าลืมนะครับ ต้องพิจารณาภพเป็นหลัก
ความคิดเห็นที่ 22โดย คุณ การเวก (กรวิก)
6 aug 2004 13:11#626048ลบ
เรียน คุณ นร.
ผมต้องขอขอบคุณ คุณ นร. มากครับที่กรุณาเข้ามาต่อยอด เพื่อเป็นวิชาความรู้แก่ผู้ที่เข้ามาศึกษาในเวปนี้
คำตอบของคุณถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ ท่านที่ได้แวะเวียนเข้ามา อีกทั้งเป็นการแสดงว่าในกระทู้นี้จะไม่มีการกระแนะกระแหนเหมือนกระทู้อื่น จะมีแต่สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์จริง ๆ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากเกิดการผิดพลาดใด ๆ ในการอธิบาย จะมีผู้มาช่วยเหลือเช่นคุณ และผู้มีความรู้ทั้งหลายทั้งปวงเข้ามาช่วยกัน
ขอบคุณจากใจจริงครับ
ความคิดเห็นที่ 23โดย คุณ ขอเป็นศิษย์
8 aug 2004 11:43#628096ลบ
เรียนคุณ การเวก และคุณ นร ครับ
ขอบคุณอาจารย์ทั้งสองมาก เนื่องจากอาจรู้เพียงพื้น ๆก็กำลังศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ อยู่ด้วยซื้อตำรามาอ่านเอง และศึกษาจากครูอาจารย์ทางเวปต่าง ๆ เมื่อสงสัยด้านใดก็ขอความกรุณา ขอศึกษาจากท่านด้วยครับ อาจารย์ ผมดูดาวอังคารแล้ว อยู่ในเรือนลาภะ เป็นเจ้าเรือนศุภะและพันธู
ลัคนาราศีสิงห์ วันพฤหัสฯ เจ้าชะตาจะได้รับสิ่งใดจากดาวอังคารนี้ครับ
อีกอย่าง เรื่องดาวเกษตร 2 ราศีกุมลัคนา เราจะแยกแยะการอ่านวิเคราะห์อย่างไรครับ
เช่น ลัคนาราศีเมษ ดาว พุธ ซึ่งเป็นเกษตรเรือนสหัสชะและเรือนอริ กุมลัค และดาวอังคารมา อยู่เรือนสหัสชะคู่กับจันทร์
ผมอ่านว่า 1) จะมีโรคประจำตัว 2) จะมีศัตรูจากเพื่อนโดยที่ไม่รู้ตัวเสมอ เจ้าชู้
ไม่ทราบว่าถูกไหม ขออาจารย์การเวกช่วยแนะด้วย
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 24โดย คุณ นุวัฒน์
8 aug 2004 15:26#628246ลบ
เรียน คุณการเวก
ขอเรียนถาม ดาว 5 เป็นเจ้าเรือนภพกดุมพะและภพลาภะ ไปได้มาตรฐานนิจในภพวินาศน์ ราศีมังกร และยังมีดาว 7 ได้เกษตรในราศีดังกล่าวอีก รวมทั้งมีดาว 0 อยู่ร่วมด้วย หมายความว่าอย่างไรครับ (ลัคนาราศีกุมภ์)
ความคิดเห็นที่ 25โดย คุณ การเวก(กรวิก)
9 aug 2004 08:28#628770ลบ
เรียน คุณขอเป็นศิษย์
1. ขณะนี้ดาวอังคารอยู่ราศีสิงห์ ตามที่คุณกำหนดมาว่าอยู่เรือนลาภะ คงผิด
2. ตามที่คุณถามมาว่า ดาวพุธเจ้าเรือนสหัสชะและอริกุมลัคนาราศีเมษ ดาวอังคารเจ้าเรือนตนุและมรณะ
มาอยู่เรือนพุธภพสหัสชะร่วมกับดาวจันทร์เจ้าเรือนพันธุ เราต้องมาวิเคราะห์เกี่ยวกับเจ้าเรือนกัน กล่าวคือ
ดาวพุธกับดาวอังคารสลับเรือนกันถ้าจะอ่านกันคงจะนัวเนืยกันน่าดู ตามหลักการดูดาวของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์เราจะเห็นว่า
-อ่านจากดาวอังคารก่อน เมื่อเจ้าชะตามีปัญหาเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องของเอกสารก็จะมาปรึกษาหารือขอคำแนะนำจากพี่น้องหรือญาติผู้ใหญ่ (ดาวพุธเป็นพระเคราะห์สองเรือนแต่จะเลือกอยู่ที่ภพสหัสชะ และดาวพุธเป็นเจ้าเรือนสหัสชะและอริ) กรณีนี้ดูจากภพอริเข้าหาดาวอังคาร หากจะดูจากดาวอังคารเข้าหาภพสหัสชะก็จะอยู่ในความหมายที่ว่า เจ้าชะตา(อังคารตนุลัคน์) ชอบที่จะมีการไปไปมามากับบ้านของพี่น้อง โดยใช้บ้านของพี่น้องเป็นที่รวมสังสรรค์กัยในหมู่ญาติ
(ดาวจันทร์เจ้าเรือนพันธุมาอยู่เรือนสหัสชะร่วมดาวอังคาร) หรือจะอ่านจากดาวอังคารเจ้าเรือนภพมรณะก็จะหมายความว่า เมื่อเจ้าชะตาป่วยไข้ก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพี่น้องและญาติผู้ใหญ่ (อังคาร+จันทร์ได้ความหมายพระเคาระห์คู่ว่าการดูแลเอาใจใส่)
ผมหวังว่าคำตอบข้างต้นคงจะทำให้เข้าใจในปัญหาของการจะพยากรณ์ได้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 26โดย คุณ การเวก(กรวิก)
9 aug 2004 08:37#628774ลบ
เรียน คุณนุวัฒน์
ตามคำถามของคุณความจริงดาวไม่ครบ แต่ถ้าจะให้กล่าวถึงดาวเสาร์ พฤหัส และมฤตยูสามารถได้ระบุได้ดังนี้ (พอสังเขป)
-ดูดาวเสาร์อยู่เรือนวินาศน์เป็นเกษตร ในตำราของท่านอาจารย์มหาบรรเทา เมื่อลัคนาอยู่หน้าดาวเสาร์ก็จะหมายถึงวาสนาของเจ้าชะตาจะต้องพบกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน โดยเราจะดูว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันดังกล่าวจะเกี่ยวกับอะไรก็ดูดาวพฤหัสก็คงจะเกี่ยวกับเรื่องของการเงินและรายได้ ว่าจะได้ทรัพย์สินงอกเงยพูนเพิ่มขึ้นหรือไม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูดาวตนุลัคน์คือราหู ว่าไปอยูที่เรือนใดด้วยเพราะหากดาวราหูไปอยู่ในภพที่เสียก็จะมีความหมายที่แตกต่างเกิดขึ้น อนึ่งหากดาวเสาร์วินาศมีความหมายที่เสียดาวมฤตยูจะซ้ำทันที
อธิบายมาเพียงนี้หวังว่าคุณคงเข้าใจ อ้อลืมบอกไป
ดาวเสาร์อยู่ที่ใด (คือภพใดก็แล้วแต่)หากมีดาวอยู่ข้างหน้าและหลังอย่างละดวง (อันนี้บางตำราเรียกเป็นศูนย์พาหะหน้าและศูนย์ภาหะหลัง) ดาวนั้นเป็นเจ้าเรือนภพใดก็จะได้รับอิทธิพลของดาวเสาร์ไปด้วย ในกรณีนี้ท่านโหราจารย์เรียกว่า "ทุราทุระโยค"
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 27โดย คุณ ขอเป็นศิษย์
10 aug 2004 10:34#630094ลบ
เรียนอาจารย์การเวกครับ
ผมสงสัยเรื่องดาวในราศีจักร์หรือดวงอีแปะ ว่า เมื่อเราได้ตั้งดวงแล้ว ตรวจดูดาวเข้ากฎเกณฑ์แล้ว ทำไมเราต้องตั้งนวางค์จักร์ด้วย ว่าดาวต่าง ๆ นั้นเข้ากฎเกณฑ์จริงหรือเปล่า เท่าที่อ่านตำรามา บรรดาครูโหรให้ความสำคัญเกี่ยวกับนวางค์ของดาวมาก มันสำคัญจริง ๆหรือ
ผมก็เป็นนักล่าหมอดู ตามโรงแรม หรือตามงานกุศลที่มีโหร ผมจะผ่านไม่ได้จะต้องเข้าไปตรวจดวงทุกครั้ง ก็ยังไม่เจอที่ตั้งดวงมาคู่กัน ราศีจักร์กับนวางค์จักร์ มีแต่ดวงอีแปะแผ่นเดียวเท่านั้นทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโหรดังแค่ไหน
มันจึงทำให้ผมคิดว่า เมื่อเราเรียนดวงแล้ว ถ้าไม่เรียนการตั้งนวางค์จักร์แล้ว อย่าไปดูหมอให้ใครเลย เพราะดาวในราศีจักร์มันไม่สามารถบอกเราได้เลยว่า มันแท้แค่ไหน แล้วเราจะอ่านดวงแม่นได้อย่างไร จริงไหมครับอาจารย์
ความคิดเห็นที่ 28โดย คุณ นร.
10 aug 2004 11:55#630198ลบ
ขอออกความเห็นบ้างนะครับ ผิดถูก เดี๋ยวรอ อ.การเวกมาตอบใหม่..... จริงๆแล้วผมว่าท่านเหล่านั้นผูกดวงมาแล้ว ก็สามารถ ขับเข้านวางค์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเขียนอีกดวงเลยครับสามารถคิดในใจได้เลยครับผมเพิ่งหัดยังทำได้เลย ....ส่วนการดูดวงนั้นบอกตามตรงครับมีหลายสาย อย่างสายใต้ ตามแนวทางของ อ.อรุณ ท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ นวางค์เท่าไหร่ ถ้าใช้ก็จะพิจารณาแค่ตำแหน่งลัขนา ซึ่งหมายถึง บาทฤกษ์มากกว่า ...อีกสายหนึ่งคือสายทางอ. เทพย์ จะเน้นเรื่องนวางค์เอาเข้ามาอ่านประกอบกับดวงราศีจักร...อีกสายหนึ่งนั้นทางอ.พลูหลวง ท่านก็ใช้น้อยมาก ท่านจะใช้จุดอิทธิพลของดาว และ องศาดาว ซึ่งละเอียดกว่า
นวางค์อีกสามเท่า เพราะเล่นกันเป็นองศา ซึ่งเหมือนโหราศาสตร์สากล.....ซึ่งแบบไหนแม่นกว่า ดีกว่า ขอเรียนถาม อ. การเวก ด้วยครับผม
ความคิดเห็นที่ 29โดย คุณ นร.
10 aug 2004 11:58#630203ลบ
เป็นไรไม่รู็้้ครับ เวบมาสเตร์ ข้อความที่โพสท์ข้างบน มันซ้ำ แปลกๆ
ความคิดเห็นที่ 30โดย คุณ การเวก (กรวิก)
10 aug 2004 13:07#630287ลบ
เรียน คุณขอเป็นศิษย์
ตามที่คุณถามมาและทางคุณ นร.ได้ตอบไปบ้างแล้วก็ถูกต้อง เอาอย่างนี้สิ่งที่ผมจะอธิบายผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกสักเท่าใด เป็นอันว่าหากมีผู้รู้ก็ขอความกรุณาเข้ามาช่วยด้วยน๊ะครับ ผมจะเริ่มดังนี้
*ในวิชาโหราศาสตร์ปัจจุบันมีหลายสาย แต่ละสายก็จะว่าของตนเองแม่นที่สุดหรือแม่นกว่า วิชาโหราศาสตร์ไทยที่ผมพอนีกได้มีดังนี้
-จักรราศี (ดวงอีแปะ)
-10 ลัคนา
-อินทพาษบาทจันทร์
-กาลจักร ลัคจร
ฯลฯ
โดยทั่วไปในวิชาตามที่กล่าวมาข้างต้นจะต้องดูองศาของดาวด้วย และต้องมีการขับนวางค์ รวมทั้งตรียางค์ เช่น หากดาวดวงใดติดพิษ (พิษนาค พิษครุฑ พิษสุนัข ดาวที่ติดพิษจะดูได้ในตรียางค์) ซึ่งหากคุณได้ซื้อแผ่นลัคนาในนั้นจะมีบอกไว้ว่าเป็นนวางค์ที่เท่าใด ตรียางค์ที่เท่าใด ติดพิษอะไรหรือไม่
อันนวางค์จักรเป็นแก่นของดาวในจักราศีเช่น สมมุติว่าดาวอังคารเป็นอุจจ์อยู่ในราศีมังกร ตามดวงอีแปะ
แต่ในนวางค์จักรดาวอังคารอยู่ราศีตุลย์ (เป็นประ) เช่นนี้แสดงถึงดาวอังคารมิใช่อุจจ์แท้จริงจึงให้คุณไม่ได้เต็มที่ตามตำแหน่งดาวที่เป็นอุจจ์ ซึ่งต้องดูที่องศาของดาวด้วย และต้องดูว่าดาวดังกล่าวติดพิษอะไรในตรียางค์จักร
ตามที่คุณบอกว่าไปดูหมอตามโรงแรมหรือตามงานกุศลต่าง ๆ ไม่มีการตั้งนวางค์จักรนั้นเนื่องมาจากการดูดังกล่าวก็สามารถบอกได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งเวลาที่จะดูมีจำกัด (ผมคิดว่าตามที่คุณไปดูตามโรงแรมใหญ่ ๆ นั้นเขาจะมีกำหนดระยะเวลาว่าไม่เกิน 30 นาทีต่อท่าน) หากจะต้องมาตั้งนวางค์ ดูองศาของดาว ดูตรียางค์จักร จะต้องตั้งดวงขึ้นมา 3 ดวงด้วยกัน หากไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยกว่าจะตั้งดวงขึ้นมา 3 ดวงก็เกือบ
30 นาทีแล้ว ดังนั้นที่นักพยากรณ์โหราศาสตร์ที่คุณเห็นว่ามิได้ตั้งดวงนวางค์จักรขึ้นมาช่วยผมเข้าใจว่าเขาคงจะใช้ทักษาเข้ามาช่วยด้วย
อนึ่ง ในวิชาโหราศาสตร์ไทยจะมีอยู่ระบบหนึ่งของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ (หมอเถาวัลย์) ท่านมิได้ใช้ตรียางค์ หรือนวางค์เข้ามาช่วย ของท่านจะใช้เกณฑ์ชันษาจร ในการพยากรณ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการโหร ปัจจุบันจะหาอาจารย์สอนในระบบของท่านมีน้อยมาก เท่าที่ผมรู้ก็จะมี อาจารย์เชียร บางบอน, อาจารย์ปริญญา นิ่มประยูร และอาจารย์ที่อยู่ในรุ่นเดียวกับท่านอาจารย์อรุณก็จะมี ท่านอาจารย์ประทีป อัครา ท่านอาจารย์สถิตย์ เป็นต้น
สิ่งที่ผมจะแนะนำคุณก็คือให้เรียนวิชาโหราศาสตร์ในแนวของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ก่อน และผมเข้าใจว่ามูลนิธิสมาคมโหรเจ้าของเวปนี้ได้เปิดสอนวิชาโหราศาสตร์ตามแนวของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์ด้วย น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ
ผมหวังว่าสิ่งที่ผมอธิบายมาคงพอทำให้คุณหายสงสัยบ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 31โดย คุณ ขอเป็นศิษย์
10 aug 2004 18:30#630725ลบ
เรียนอาจารย์การเวก
ผมมีความยินดีและดีใจมากครับ ที่อาจารย์สละเวลามาตอบคำถามอย่างเต็มใจและไม่รำคาญกับการไม่รู้ของผู้ที่อยากรู้ ผมเข้าใจว่ายังคงมีผู้อยากรู้อีกมากที่ต้องการถาม และกล้าถามอาจารย์มากขึ้น ในเมื่อการบอกเต็มไปด้วยความปราณีและบริสุทธ์ใจ ผมนับถืออาจารย์มากครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 32โดย คุณ การเวก(กรวิก)
11 aug 2004 12:56#631791ลบ
สวัสดีครับ คุณขอเป็นศิษย์
ผมขอขอบคุณในคำชมของคุณ และขอน้อมรับเอาไว้
คำถามใด ๆ ก็ตามหากว่าผมสามารถตอบได้ก็จะตอบ
แต่ต้องเป็นคำถามสำหรับผู้ที่คิดจะศึกษา หรือกำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์เบื้องต้น เพราะนี่คือประตูทางเดินไปสู่นักพยากรณ์ที่ดี มีคุณธรรม อีกทั้งสามารถช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ (บางกรณี)
ความคิดเห็นที่ 33โดย คุณ นร.
13 aug 2004 10:13#633770ลบ
เรียน คุณกรเวก คือผมสนใจเรื่องยาม และการจับยามช่วยอธิบายและแนะนำด้วยครับ มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ความคิดเห็นที่ 34โดย คุณ นุวัฒน์
14 aug 2004 11:39#635045ลบ
เรียน คุณการเวก
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ดาว 570 ในเรือนวินาศน์ ตนุลัคน์(8) อยู่ภพมรณะ ครับ ในภพตนุมีดาว 14 จับคู่กัน การเงินและรายได้จะมีแนวโน้มดีหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 35โดย คุณ การเวก (กรวิก)
16 aug 2004 08:22#637004ลบ
เรียน คุณ นร.
ตามที่คุณ นร. ถามมาผมเข้าใจว่าคุณ นร. คงทราบแล้ว แต่เพื่อเป็นความรู้สำหรับผู้ที่จะเข้ามาท่องเวปนี้
ผมยินดีที่จะอธิบายเพียงสังเขป ถ้าผิดพลาดไปขอให้ผู้ที่รู้ช่วยเข้ามาท้วงติงด้วยครับ
1.ตามตำราของท่านอาจารย์ประทีป อัครา เรื่องของยามอัฐกาล (โหรทายหนู) ผมเข้าใจว่ายังมีหนังสืออีกเล่มหนึ่งแต่งโดยท่านอาจารย์เชย บัวก้านทอง (หากผมสะกดผิดก็ขออภัยด้วย) มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยหลักการจับยามมีอธิบายในหนังสือแล้วผมคงจะสรุปให้ทราบดังนี้
-วิธีการจับยามมี 2 แบบคือ จับยามตามเวลาที่ผู้ถามเข้ามาถามว่าช่วงเวลาที่ถามนั้นเกี่ยวกับภพอะไร, และจับยามดูตามเรื่องที่ผู้ถามเข้ามาถามตามภพ โดยใช้เวลาดวงยามสำเร็จที่ผูกไว้แล้ว ในกรณีทั้งสองนี้ในหนังสือของท่านอาจารย์ประทีป อัคราได้มีการอธิบายวิธีใช้ ที่มาที่ไปของการใช้โดยละเอียดอยู่แล้ว
ตามวิธีที่ 1 นี้ใช้ดวงยามสำเร็จ ดวงดาวที่มีอยู่ในดวงยามมี ดาวอาทิตย์ - ดาวราหู จะขาดไปก็เพียงดาวเกตุ และดาวมฤตยู
2. ดวงยามตามกาลชะตา อันดวงยามนี้ใช้ผูกขึ้นมา ณ.เวลาที่มีผู้เข้ามาถาม ในดวงยามจะมีดาวครบทั้ง 10 ดวง (ตามดวงจักราศี) อยากจะรู้ว่าผู้เข้ามาถามจะเข้ามาถามเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ดูที่ลัคนาและตนุลัคน์ เช่นหากตนุลัคน์กุมลัคนา ก็หมายถึงผู้มาถามจะถามเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและวาสนาของตนเอง หากตนุลัคน์ตกภพปัตตนิแสดงถึงผู้เข้ามาจะถามจะถามเกี่ยวกับเรื่องของคู่ครอง เป็นต้น
3.ดวงกาลชะตาเช่นกัน ผูกดวงขึ้นมาเช่นเดียวกับข้อ 2. เพียงแต่ตัดลัคนาออก ใช้จันทร์เป็นลัคนาแทน
รายละเอียดอ่านได้จากเรื่องเล่าจากหมอเถาวัลย์ ในเรื่องกาลชะตา
ผมหวังว่าคำตอบคงไม่สั้นเกินไป และคุณ นร. รวมทั้งท่านผู้ที่เข้ามาท่องเวปคงจะเข้าใจไม่มากก็น้อย
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 36โดย คุณ การเวก (กรวิก)
16 aug 2004 08:33#637018ลบ
เรียน คุณนุวัฒน์
ตามดวงดาวที่คุณสมมุติขึ้นมา จะเห็นว่า
1. ดาวราหูเป็นแปดต่อลัคนา เข้าเกณฑ์ภิณทุบาทย์แล้ว แสดงถึงเป็นคนขี้สงสารคนโดยไม่มีเหตุผล เห็นใครมาบีบน้ำตาหน่อยบอกว่าไม่มีกินไม่มีใช้ก็สงสาร หยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้
2. อาทิตย์และพุธอยู่เรือนราหู อาทิตย์มีตำแหน่งประ, พุธเป็นอนุเกษตรสลับเรือนกับราหู แถมติดทุราทุระโยคจากเสาร์เข้าอีก
-อาทิตย์เป็นประในเรือนราหูร่วมกับพุธ มาดูพระเคราะห์คู่ คือพุธและอาทิตย ด้านดีหมายถึงเอกสาร สัญญา การเจรจา ข่าวดี ข่าวเกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
การสื่อสาร ด้านเสียคือถูกหลอกลวงเกี่ยวกับเรื่องเอกสารสัญญา การผิดสัญญา ข่าวที่ทำให้เสียชื่อเสียเสียง จะเห็นว่าอาทิตย์เสีย ถึงแม้พุธกับราหูจะเป็นอนุเกษตรฟื้นในภายหลังแต่ราหูอยู่ภพมรณะ พุธถูกอาทิตย์ที่เป็นประเบียน ดังนั้นทั้งพุธและราหูต้องได้รับส่วนที่เสียไปก่อนถึงจะฟื้นในภายหลัง
สำหรับเรื่องการเงินและรายได้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับดาวอาทิตย์ ดาวพุธ และดาวราหู ไม่ถึงกันเลย (ดูตามตำราของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์น๊ะครับ)
หวังว่าคำตอบคงทำให้คุณ นุวัฒน์ กระจ่างขึ้นน๊ะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 37โดย คุณ พ่อผู้รอคอย
20 aug 2004 23:05#642145ลบ
เรียน อาจารย์การเวก
ผมอยากทราบว่า ลูกจะกลับมาหาผมไหม เพราะอยู่ต่างถิ่น(เหนือกับใต้) ถ้ากลับ กลับเมื่อไร จะอยู่ถาวรหรือชั่วคราว
ขอรบกวนอาจารย์ช่วยดูดวงชะตาให้ทีครับ ขอบพระคุณอย่างสูง ผมเกิด 24 กันยายน 2501 เวลา 06.00 น. ชลบุรี
ความคิดเห็นที่ 38โดย คุณ การเวก (กรวิก)
23 aug 2004 12:49#644441ลบ
เรียน คุณพ่อผู้รอคอย
ตามที่คุณได้สอบถามมานี้ผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้
เนื่องจากว่ากระทู้ที่เปิดเป็นกระทู้เกี่ยวกับวิชาการ หาก
ทางคุณพ่อผู้รอคอยต้องการสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ต้องการรู้ด้วยความร้อนใจ กรุณาเปิดกระทู้ขึ้นมาใหม่ในเวปนี้ โดยตั้งหัวข้อตามที่ได้สอบถามมา ผมเข้าใจว่าจะมีท่านผู้รู้หลายท่านเข้ามาให้ความกระจ่างตามที่ต้องการ
ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้จริง ๆ อ้อลืมไปหรือคุณพ่อผู้รอคอยจะโทร.เข้ามาติดต่อสมาคมโหรที่เป็นเจ้าของ
เวปนี้เพื่อติดต่อนักพยากรณ์โหราศาสตร์ให้ดูเป็นกิจจะ
ลักษณะไปเลย ผมคิดว่ายังมีข้อชี้แนะของนักพยากรณ์
ให้อีกหลายประเด็น สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 39โดย คุณ ผู้มีความรู้น้อย ด้อยประสพการแต่อยากเรียนโหราศาสตร
27 aug 2004 01:06#648867ลบ
ผมได้ผ่านเข้ามาอ่านกระทู้ต่างๆ ของweb นี้ ผมดีใจ
และขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่กรุณาให้ความรู้ ได้ตอบ
คำถามที่มีผู้ถามมา มีความหลากหลายดี ผมเองเริ่มสน
ใจโหราศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้เอง โดยการซื้อหนังสือ
มาอ่านเอง ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เมื่อมาพบและได้
อ่านกระทู้ถามตอบนี้เข้า นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ขอแสดงความเคารพยิ่ง
ความคิดเห็นที่ 40โดย คุณ น้องน้อยๆ
27 aug 2004 23:19#649927ลบ
คุณกรวิกขา...
การดูดวงให้คนอื่นที่กำลังมีปัญหา สามีแอบไปมีกิ๋ก ควรให้คำแนะนำอย่างไรดีคะ คือ
1. บอกเขาตามตรงว่าสามีคุณไปแน่
2. หรือ ให้ใช้ธรรมะข้อใด บอกเขาดีเพื่อให้เขาทำใจได้
ช่วยตอบหน่อยนะคะ ชอบคุณมากคะ
ความคิดเห็นที่ 41โดย คุณ การเวก (กรวิก)
30 aug 2004 08:15#651713ลบ
เรียน คุณน้องน้อย ๆ
ตามคำครูท่านห้ามทำนายเรื่องของคู่ (สำหรับผู้ที่กำลังจะแต่งงานกัน หรือคบกันอยู่) หากจะพูดคงจะพูดอ้อม ๆ ว่าให้ดูใจกันไปก่อนสักพักหนึ่ง รวมทั้งเรื่องการทำนายเกี่ยวกับเด็ก (พ่อแม่มาให้ดูว่าลูกคนไหนดี คนไหนไม่ดี คนไหนพึ่งได้ คนไหนพึ่งไม่ได้)สำหรับเด็กที่ยังมีอายุไม่ถึง 18 ปีบรบูรณ์ รวมทั้งเรื่องการทำนายการเสียชีวิต (จะทำให้ผู้ได้รับการทำนายมีอาการซึมเศร้า ใช้ชีวิตไปในทางที่ผิดกล่าวคือในเมื่อจะเสียชีวิตแล้วก็ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ถึงจะต้องทำผิดก็ยอม) เพราะบางครั้งผู้ที่เราทำนายไปทำบุญกุศลมามากหรือมีบุญกุศลมาช่วยอาจจะรอดพ้นจากเรื่องดังกล่าว
อนึ่งตามที่คุณถามมาตามความเห็นของผมน๊ะครับ
(เป็นความเห็นส่วนตัว)
1. ควรจะดูที่มาที่ไปของดาว ของภพก่อน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เช่น
-หากเจ้าเรือนภพปัตตนิมีตำแหน่งเป็นราชาโชค ไปอยู่ในเรือนลาภะ ร่วมเรือนกับดาวคู่มิตร (สมมติว่าเจ้าเรือนภพปัตตนิเป็นดาวศุกร์(6) ไปอยู่ร่วมเรือนกับดาวอังคาร(3) ในภพลาภะ ) แสดงถึงเจ้าชะตาจะมีเรื่องของความรักเข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเวลา และหากใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับเจ้าชะตาก็จะมีความสัมพันธ์ในเรื่องของรัก ๆ ใคร่ ๆ
-หากใครมีดาวเข้าคำกลอนดังต่อไปนี้มักจะมีเรื่องของรัก ๆ ใคร่ ๆ ตลอดเวลา (มีคำอธิบายให้อ่านได้ในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทา หนังสือเรื่องเคล็ดลับการพยากรณ์ เล่มหน้าปกสีเขียว) โดยเฉพาะดาวดวงใดดวงหนึ่งเป็นเจ้าเรือนภพปัตตนิ คำกลอนมีดังนี้
พฤหัสจันทร์ปั้นตัวหาผัวเมีย
มิให้พักต้องเสียขันหมากหมั้น
อังคารจันทร์เมถุนธนูคู่สำคัญ
มักอาจหาญการชู้คู่เจ้าเครา
อังคารร่วมราหูครูท่านทัก
มักแย่งรักเสพสู่คู่ของเขา
พุธศุกร์อีกคู่อย่าดูเบา
มักมากเมาเสพสมจนซมซาน
พฤหัสเสาร์ เสาร์ราหูได้คู่ชิด
มักแผกผิดพรากคู่ดูน่าขัน
กลับเอาทาสชาติชู้ขึ้นชูชัน
ถ้าอยู่สิงห์กุมกันกักขลา
อังคารเสาร์กุมกันและจันทร์เล็ง
มักซื้อเซ้งคู่ศักดิ์รักทาสา
ศุกร์ราหูหรือจันทร์กับศุกรา
มักเคล้าคู่โจราระวังภัย
อาทิตย์จันทร์เรือนครูอาจารย์ว่า
ถ้าทำการวิวาห์มักจะร้าย
พระเคราะห์คู่ที่มีอยู่ดังกล่าวนี้
หากตกที่ปัตตนิวุ่นวายใหญ่
ตกกดุมภะ กัมมะยิ่งเร้าใจ
ตลอดวัยทั้งสามตามเวลา
เป็นนิจจ์เป็นประเป็นกาลี
กุมศรีมนตรีไซร้ว่าไม่ดี
เป็นอุจจาวิลาศมูละดีนักหนา
ตกตนุพันธุและลาภา.
เทพวิวาให้ดีสุขีเอยฯ
ในคำกลอนดังกล่าวที่ท่านอาจารย์มหาบรรเทากล่าวเอาไว้จะมีที่มาที่ไปของมัน (หาอ่านรายละเอียดได้ในหนังสือ หากจะซื้อเก็บไว้เป็นหนังสือครูที่ดีมากเล่มหนึ่งทีเดียว) ซึ่งผมได้นำมาใช้สามารถทำนายได้ดั่งตาเห็น
จากเหตุผลข้างต้นสองประการนักพยากรณ์ควรจะบอกเจ้าชะตาว่าตามพื้นดวงของสามีของเจ้าชะตา
(อันนี้ผมหมายถึงการผูกดวงเจ้าชะตาขึ้นมาแล้ว และดวงดังกล่าวเป็นดวงของสามีของเจ้าชะตา) ดวงดาวที่ผูกขึ้นมาเปรียบเสมือนกรรมเก่าของสามีของผู้มาถาม หากจะตามไปราวีก็คงจะต้องเกิดเรื่องเกิดราว บางครั้งถึงต้องหย่าขาดจากกันเป็นไปตามพื้นดวง
การแก้ไขก็ดูที่ดาวว่าจะแก้อย่างไร หากแก้ไขไม่ได้ควรจะทำอย่างไรให้ชีวิตคู่สามารถอยู่ไปได้อย่างราบรื่น มิใช่การแก้ไขโดยทำพิธีทางไสยศาสตร์ (มนต์ดำ) โดยทำพิธีให้สามีหลง ผมว่าแก้ไม่ถูกทาง เผลอ ๆ อาจจะทำให้หมอทำเสน่ห์หลงเสียเอง อย่าลืมน๊ะครับ คนเราเกิดมามีกรรมเก่าตามมา และกรรมเก่าก็คือพื้นดวงที่ผูกขึ้นมานั่นแหละ ถ้าถามว่าสามารถเลี่ยงได้ไหมก็ต้องอยู่ที่ตัวของเจ้าชะตาเอง
2. ถ้าถามว่าใช้ธรรมะข้อใดบอกแก่ผู้ที่มาขอคำพยากรณ์ ผมว่าต้องบอกว่ามันเป็นกรรมของเจ้าของดวงชะตาที่ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และหากแก้ไขไม่ดีก็ยังคงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ในเรื่องแบบนี้ในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทามีการชี้แนะถึงวิธีการแก้ไขไว้ ผมเองไม่สามารถที่จะแสดงข้อความไว้ในที่นี้ เพราะจะเหมือนการส่งเสริม
ผมหวังว่าคำตอบ หรือคำชี้แนะ รวมทั้งมีวิชาการแถมให้คงสามารถทำให้คุณและผู้ที่ท่องเข้ามาในเวปนี้สามรถนำไปใช้สร้างคุณประโยชน์แก่ผู้มีทุกข์ทั้งหลาย
สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 42โดย คุณ จ้อย
30 aug 2004 11:53#651899ลบ
เรียน คุณการเวก ที่เคารพ
หนูอยากทราบว่าทำไม นักโหราศาสตร์จึงไม่ค่อยนำเรื่องธาตุมาช่วยในการอธิบายให้ลูกศิษย์นอกสายฟังบ้างคะ เห็นแต่อธิบาย เรื่องผสมภพ ผสมดาว เท่านั้นเอง และอยากทราบต่อไปอีกว่าเราสามารถศึกษาหาความรู้เรื่องธาตุจากที่ใดบ้าง (หนังสือ ตำรา แหล่ง) เคยได้ยินว่าผู้ที่แตกฉานเรื่องธาตุมีอยู่คนหนึ่งท่านชื่อ อาจารย์ส.แสงตะวัน ไม่ทราบว่าคุณการเวก พอใจช่วยเหลือนักเรียนโหรฯ รุ่นน้องได้ไหมคะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
จ้อย
ความคิดเห็นที่ 43โดย คุณ การเวก (กรวิก)
30 aug 2004 13:16#651991ลบ
การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 0.0.0.0)