กระทู้นี้เพื่อผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยได้ถามไถ่(4)
กระทู้นี้เพื่อผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยได้ถามไถ่(4)
ผมเปิดปกระทู้นี้ขึ้นเป็นกระทู้ที่ 4 เพื่อให้กระทู้นี้ clean ไม่มีการโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
เอาละผมคงต้องตอบคำถามที่ค้างไว้ในกระทู้ที่ 3
1. จากคำถามคุณกัน
1.อันดาวเกตุ และดาวมฤตยู เป็นดาวที่มิได้มีภพ เป็นของตนเอง ดังนั้นเมื่ออยู่กับดาวอะไรก็ตามแต่ ถ้าดาวนั้นดีมีตำแหน่งมาตรฐานดี เกตุและมฤตยูจะช่วยเสริม แต่ถ้าดาวนั้นเสียมีตำแหน่งมาตรฐานเสีย ดาวเกตุและดาวมฤตยูก็จะช่วยซ้ำ ในกรณีเดียวกัน เมื่อดาวเกตุหรือดาวมฤตยูถ้าโดนตรียางพิษ จะเสริมก็เสริมได้ไม่เต็มที่ จะซ้ำก็ซ้ำได้ไม่เต็มที่เช่นกัน
สำหรับดาวที่ได้ตำแหน่งมาตรฐานเป็นนิจจ์ก็จะลดความเป็นนิจลง ในการลดความเป็นนิจลงก็ต้องดูดาวด้วยว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ บาปเคราะห์ อยู่ในราศีธาตุที่ส่งเสริม หรือขัดแย้ง
หรือเป็นกลาง ตรงนี้เป็นส่วนประกอบ พร้อมกับดาวลอยที่อยู่ในราศีเดียวกันด้วย
2.ดาวอุจจ์และดาวเกษตร จะไม่รับสิ่งต่าง ๆ จากดาวที่มีมาตรฐานต่ำกว่า แม้แต่อุจจ์และเกษตรเองก็ไม่ยอมต่อกัน หรือแม้แต่ราศีธาตุที่ดาวอุจจ์อยู่ก็ยังขัดเกลาไม่ค่อยจะได้ สำหร้บในกรณ๊ที่เป็นคู่มิตร คู่ธาตุ ก็ต้องมาดูภพด้วยว่าเป็นภพอะไรกับภพอะไร ธาตุอะไรกับธาตุอะไร เช่น แม้ดาวจันทร์กับดาวพฤหัสจะเป็นดาวคู่ธาตุก็ยังเป็นคู่ศัตรูด้วย แม้ดาวอาทิตย์กับดาวเสาร์จะเป็นคู่ธาตุก็ยังเป็นคู่ศัตรูกันในนิทานชาติเวรด้วย
ส่วนราหูที่โดนพิษนั้นก็จะทอนความดื้อรั้นลงแต่ก็อีกนั่นแหละต้องดูว่าราหูเป็นเจ้าเรือนภพใด โดนพิษอะไร ภพนั้นต้องระวังเรื่องเกี่ยวกับพิษที่โดน
3.ดวงมหาจักรหรือดวงใดก็ตามแต่คุณสมบัติมาตรฐานของดาวก็ส่วนหนึ่ง ต้องดูด้วยว่าติดกฎเกณฑ์ข้อใดหรือไม่ เช่น นระเกณฑ์ อัมพุเกณฑ์ กีฎะเกณฑ์ หรือปัศวะเกณฑ์ หรือโดนเกณฑ์ฆาตใด หรือเข้ากฎพินทุบาท/ภินทุบาท หรือไม่ หรือกฎเกณฑ์อื่น ๆ เช่น ทุราทุระโยค(ดาวอะไรก็ตามแต่ที่อยู่ราศีข้างหน้าหรือราศีข้างหลังเสาร์) ฯลฯ
4. เมื่อดาวโดนพิษนาค ก็ต้องดูว่าดาวดวงนั้นมาจากภพอะไร อุปนิสัยของดาวเป็นอย่างไร
พิษที่โดนเป็นพิษอะไร ก็ให้ระวังเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อันพิษนาคเกี่ยวกับน้ำหรือของเหลว เช่น หากดาวที่โดนพิษเป็นเจ้าเรือนภพกัมมะ
การจะทำอาชีพอะไรที่อยู่ใกล้กับน้ำ ของเหลวอย่างเช่น น้ำมัน สารเคมีที่เป็นน้ำ หรือทำอะไรเกี่ยวกับน้ำก็จะไม่ดีอย่างนี้เป็นต้น ส่วนจะว่าเรื่องการเดินทางก็ต้องดูว่าในปีใดดาวดังกล่าวเป็นเจ้าเรือนภพสหัสชะจรหรือภพศุภะจร
(ดาวในพื้นดวงเดิม) ปีนั้นก็จะต้องระวังเรื่องการเดินทางทางน้ำเป็นพิเศษเป็นต้น
สำหรับเรื่องพิษครุฑก็จะอยู่ในทำนองเช่นเดียวกับพิษนาค ในเรื่องความปลอดภัยก็เช่นกัน ในปีจรใดที่ดาวเจ้าเรือนมรณะ หรือดาวเจ้าเรือนอริ หรือดาวเจ้าเรือนวินาศ ถึงลัคนา ถึงตนุลัคน์ อีกทั้งมีดาวมฤตยูถึงด้วย ในเรื่องอุบัติเหตุก็ต้องระวัง วิชาโหราศาตร์ลึกซึ้งนั้ก
การดูต้องดูหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกันไป
เมื่อคุณเรียนลึกมากขึ้นคุณก็จะเป็นคนสังเกตุสังกามากขึ้นตามไปด้วย
ผมหวังว่าคำตอบนี้คงสามารถทำให้คุณเข้าใจได้มากขึ้น
2.จากคำถามคุณสว่างนภา
ในแนวทางของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ
สามารถเรียนได้ทาง
-มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์
-สำหร้บอาจารย์ที่สอนที่อื่นในปัจจุบันเท่าที่ผมทราบก็จะมี
*วัดไตรมิตร สอนโดย อ.ศ ดุสิต
*อาจารย์เชียร บางบอน
*อาจารย์ปริญญา นิ่มประยูร (หมอน้อย) หาเบอร์โทร.ได้จากหนังสือ ศาตร์แห่งโหร แต่งโดย อ.ปริญญา มีขายตามร้านหนังสือต่าง ๆ
*สำหรับตำราที่เป็นแนวเดียวกับอาจารย์
อรุณ ลำเพ็ญ แต่ละเอียดขึ้นก็จะมีตำราของ
ท่านอาจารย์สถิตย์ สถิตย์ยืนยง ปัจจุบันท่านสอนทางไปรษณีย์ คงหารายละเอียดได้จากหนังสือโหราเวส
ส่วนหนังสือตำราของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ นั้นไม่มีขายในท้องตลาด แต่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านหลายคนมีอยู่ หากคุณสนใจคงจะต้องมาเรียนที่สมาคมแห่งนี้ หรือที่อาจารย์ ศ.ดุสิต หรืออาจารย์เชียร บางบอน
หรือ อาจารย์ปริญญา นิ่มประยูร
ผมคงให้รายละเอียดคุณได้เท่านี้
สวัสดีครับ
จาก: การเวก (กรวิก) [13 jan 2005 08:35]ผู้ดู [536]ผู้ตอบ[23] ลบ
ความคิดเห็นที่ 1โดย คุณ นร.
13 jan 2005 12:57#779280ลบ
สวัสดีครับ ท่าน อ. กรวิก
ยินดีด้วยครับ ที่ยังมีกำลังใจเข้มแข็ง และมีปณิธานที่แน่วแน่ ที่จะให้ความรู้ สำหรับ น้องๆ ที่กำลังสนใจโหราศาสตร์ต่อไป ขอให้บุญรักษาครับ
ความคิดเห็นที่ 2โดย คุณ กัน
13 jan 2005 22:28#779870ลบ
ขอบพระคุณ อาจารย์กรวิกค่ะ
ตอนนี้หนังสือของอาจารย์ ศ.ดุสิต ที่แพร่พิทยา มีจำหน่ายอยู่หลายเล่มค่ะ(ดิฉันไม่ทราบว่าเป็นแนวเดียวกับท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ค่ะ)
ดิฉันเกิดความสงสัยค่ะ ว่าการที่คน ๆ หนึ่งเป็นคนดีมาตลอด(การศึกษาดี,ครอบครัวดี,หน้าที่การงานดี) แล้วมาวันหนึ่งเกิดทำผิดร้ายแรง ฆ่าผู้อื่นได้โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ดิฉันอยากทราบว่าคนแบบนี้ ในดวงชะตาของเขาจะเป็นอย่างไร มีอะไรที่โดดเด่นค่ะ
ขอถามดังนี้ค่ะ
1.ดวงชะตานี้จะมีดาวเจ้าเรือนวินาสน์กุมหรือเล็งกับเจ้าเรือนลัคน์หรือเปล่าค่ะ เพราะไม่ได้เกเรหรือเป็นนักเลงมาตั้งแต่แรก ๆ
2.ในมุมมองของดิฉันเองกลับคิดว่า ตนุเศษ น่าจะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของคน ทำนอง ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว
อาจารย์กรวิก มีความคิดเห็นอย่างไรค่ะ และขอบพระคุณสำหรับความกรุณา ที่เปิดกระทู้ที่ 4 ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3โดย คุณ การเวก (กรวิก)
14 jan 2005 07:51#780048ลบ
เรียน คุณกัน
ในเรื่องที่คุณถามมานั้น น่าจะมีรายละเอียดในเรื่องของ "เรื่องเล่าจากหมอเถาวัลย์" ลองไปอ่านดู แล้วจับใจความ ดูดาว คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่เป็นลูกเศรษฐี คบเพื่อนเลว แล้วฆ่าคนเพื่อหวังทรัพย์สิน (ชอบเกเร มีเรื่องอยู่ตลอดเวลา แต่พ่อแม่รวย คอยใช้เงินปิดคดีอยู่ตลอดเวลา) เมื่อฆ่าคนแล้วหนีมาพึ่งหลวงตา แล้วหลวงตาได้ดูดวงให้ พร้อมกับสั่งสอนไปในตัว
คุณกัน ลองแกะดาวดู จะเห็นเป็นรูปธรรม ว่าดาวควรจะอยู่ในลักษณะใน (ในเรื่องการฆ่าคน) ดังนั้น
ตามที่คุณกันถามมาน่าจะหมายถึงดาวลอยเข้ามาในตำแหน่งเช่นเดียวกัน คน ๆ นั้นจึงได้เปลี่ยนบุคคลไปได้ ซึ่งจะมีส่วนประกอบคือ
-ตนุลัคน์จรในปีนั้น
-ลัคนาจรในปีนั้น
-ดาวลอยที่เดินเข้ามาทับดาวเดิมในปีนั้น
-ดาวจุดระเบิดและดาวเสริม (มฤตยูและเกตุ) หมายถึงดาวทั้งสองดวงที่เดินอยู่ในปีนั้น ๆ ด้วย
ผมหวังว่าคุณกันคงได้อ่านเรื่องดังกล่าวผ่านตาไปบ้างแล้ว ลองเปรียบเทียบดู สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 4โดย คุณ สว่างนภา
14 jan 2005 22:20#780770ลบ
เรียน อาจารย์การเวกที่เคารพ
อยากทราบถึงลักษณะของคนที่มักชอบใช้เล่ห์ลิ้นหลอกลวง มีดาวหรือเรือนต่างๆ เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5โดย คุณ กัน
14 jan 2005 22:40#780788ลบ
ขอบพระคุณ อาจารย์กรวิกค่ะ
"เรื่องเล่าจากหมอเถาวัลย์" จะกลับไปอ่านอีกหลาย ๆ รอบค่ะ และจะพยายยามแกะดาวค่ะ
ดิฉันคงหายไปสักพักค่ะ เพราะช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดีค่ะและแมวของดิฉันก็ป่วยหนัก อยู่ในความดูแลของคุณหมอมาเกือบเดือนแล้วค่ะ คงจะจากไปเร็ว ๆ นี้
แล้วจะกลับมาถามไถ่ อ.กรวิก อีกนะคะ สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6โดย คุณ การเวก (กรวิก)
18 jan 2005 08:53#783599ลบ
เรียน คุณสว่างนภา
ตามที่คุณถามมาก่อนอื่นก็ต้องขออภัยในคำตอบที่ช้าไปสักนิดหนึ่ง ตัวผมเองต้องมานั่งคิดว่าจะตอบอย่างไรดีถึงจะไม่ทำให้ผู้กำลังศึกษาใหม่ยึดติดในสิ่งที่จะตอบ มาว่ากันเลยน๊ะครับ
ก่อนอื่นคงต้องพูดถึงพระเคราะห์คู่ก่อน ในเรื่องของการเจรจา นักศึกษาฯคงทราบแล้วว่าดาวพุธนั้นหมายถึงการเจรจา ทีนี้ต้องมาดูว่าดาวพุธ (4) ควรจะจับคู่กับดาวอะไรจึงจะมีความหมายในลักษณะที่ชอบใช้ลิ้นหลอกลวง
-พุธ(4) + ราหู (8) คู่นี้คือคู่ที่เจรจาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง คือขอไปที หรือถ้าจะหลอกลวงให้คนเชื่อถือก็ได้ สำคัญที่ดาวคู่นี้อยู่ในราศีอะไร
*ถ้าจะหมายถึงลิ้นตวัด หลอกลวง ปลิ้นปล้อน ลิ้นไม่มีกระดูก ดาวทั้งคู่ต้องอยู่ในราศีธาตุลม อันนี้ยังไม่พูดถึงภพ ถ้าจะกล่าวถึงภพก็ต้องดูว่าเป็นภพอะไร เกี่ยวกับอะไร เช่น ถ้าภพสหัสชะ -เมื่อเข้าสังคมหลอกเป็นลิงหลอกเจ้าได้เลย, ถ้าเป็นภพปุตตะ-ก็สามารถเจรจาให้คนเชื่อเป็นตุเป็นตะเป็นคุ้งเป็นแควได้เลย หรือถ้าอยู่ในภพอื่นที่จะมีอีกความหมายหนึ่งก็คือภพปัตตนิ ตรงนี้ก็จะเข้ากฎภินทุบาท อย่างนี้ในเรื่องความรักจะเจอกับคนปลิ้นปล้อนหลอกลวงให้ลุ่มหลงในคารม แล้วก็จะทุกข์ตรมกับความรักอยู่ร่ำไป
*มาดู พุธ(4) กับ ศุกร์ (6) อันดาวพุธกับดาวศุกร์
ต่างก็เป็นดาวที่เปรียบเสมือนธาตุน้ำ ดังนั้นการเจรจา
การพูดจา ก็จะไปเรื่อย ๆ เหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปตลอดเวลา เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แต่ตราบใดถ้ามาอยู่ในราศีธาตุลมละก็ มันจะมีเล่ห์เหลี่ยมเช่นกันแต่ก็ยังแพ้ พุธ+ราหู และก็อีกนั่นแหละ เมื่ออยู่ในภพสหัสชะ
ภพปุตตะ ก็จะคล้าย ๆ กับ พุธ+ราหู แต่ความกะล่อนจะไปในทางทีเล่นทีจริงปนเรื่องเซ็กส์บ้าง และถ้าเป็นภพปัตตนิรวมทั้งเกิดวันศุกร์ หรือพุธ ด้วย ก็จะเข้ากฎพินทุบาทย์ (จะเห็นว่ากฎมีสองกฎคือ พินทุบาทย์/
ภินทุบาทย์)
*ทีนี้มาดูแบบกะล่อนสุด ๆ คือ ดาวพุธ+ดาวศุกร์+
ดาวราหู อยู่ในราศีธาตุลมด้วย ตำแหน่งนี้ละคือความกะล่อนแบบไม่สามารถมีใครมาลูบคมได้เลย และถ้าอยู่ในภพปัตตนิด้วยแล้ว (สมมุตติน๊ะครับคือ พุธ+ศุกร์+
ราหู อยู่ในราศีธาตุลม ภพปัตตนิ ก็คือ เมื่อดาวทั้งสามดวงมาอยู่ร่วมกันที่ ราศีใดราศีหนึ่งในสามราศีนี้คือ ราศีมิถุน ราศีตุลย์ และราศีกุมภ์ และทั้งสามราศีนี้
จะเป็นภพปัตตนิเมื่อลัคนาอยู่ราศี ธนู ราศีมีน ราศีสิงห์ ) ก็จะเข้ากฎเกี่ยวกับพระเคราะห์คู่คือ
*พุธศุกร์อีกคู่อย่าดูเบา มักมากเมาเสพสมจนซมซาน
*พุธศุกร์อีกคู่ดูไม่ละ ชอบตะกละเสพสมชมคาวหวาน อยู่เรือนพุธ ศุกร์ จันทร์ และอังคาร มักร้าวรานหมางเมินห่างเหินกัน
ที่กล่าวถึงพระเคราะห์คู่ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่าในวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้น มิใช่ว่าเห็นดาวสองดวง สามดวง อยู่ด้วยกันแล้วจะมีเพียงความหมายเดียว แล้วยึดถือความหมายนั้นเป็นหลักเสมอไปมิใช่ ต้องดูกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เข้าประกอบด้วย ว่ามีกฎเกณฑ์อะไรบ้างที่ควรจะกล่าวถึงหรือพิจารณาถึง
สิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นผมคิดว่าสำหรับผู้ที่ศึกษาใหม่ควรจะคำนึงถึง ฝึก และหัดดูรายละเอียดต่าง ๆ ทึ่เกี่ยวเนื่องกันก่อนแล้วค่อยออกคำพยากรณ์ อย่าไปยึดติดกับการกำหนดว่าดาวอยู่ในตำแหน่งนี้เป็นเช่นนี้
ดาวอยู่ในตำแหน่งนั้นต้องเป็นเช่นนั้น ตลอดไป ควรจะศึกษาให้เข้าใจในเรื่องของเรือน เรื่องของภพให้ดีเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาสนใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้
ผมหวังว่าคำอธิบายเบื้องต้นคงทำให้เข้าใจได้แจ่มชัดขึ้นไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 7โดย คุณ ศิษย์วัดใหม่ฯ
22 jan 2005 06:40#787618ลบ
ดิฉัน เพิ่งติดตามงานของคุณการเวก (กรวิก) ได้มาไม่นาน จึงเพิ่งเข้าไปอ่านในถามไถ่1,2,3และ4คืออันปัจจุบัน
ดิฉันอ่านสำนวนการตอบและสอน แล้ว ทำให้ดิฉันนึกถึง อ.ท่านหนึ่งเมื่อครั้งที่ดิฉันไปเรียนที่วัดใหม่ฯนะคะ
ดิฉันขอรบกวนถามนะคะ ว่าคุณ การเวก (กรวิก) ใช่ อ.พายัพ มั๊ยคะ ถ้าใช่ก็จะมาขอสวัสดี แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขอโทษด้วยคะ
ความคิดเห็นที่ 8โดย คุณ การเวก (กรวิก)
24 jan 2005 08:24#789244ลบ
ไม่ใช่ครับ ไม่เคยพบหน้า เพียงแต่ได้ยินชื่อเสียง
พอสมควร
ความคิดเห็นที่ 9โดย คุณ กบ
25 jan 2005 21:34#790927ลบ
ปทุมเกณฑ์ หมายถึงอะไร
ความคิดเห็นที่ 10โดย คุณ การเวก (กรวิก)
26 jan 2005 08:42#791217ลบ
เรียน คุณกบ
คำถามที่ถามมาโดยทั่ว ๆ ไปจะมีอธิบายอยู่ในหนังสือวิชาโหราศาสตร์ ซึ่งถ้าไม่มีผู้อธิบายถึงความหมายและลักษณะของความหมายก็คงจะใช้ผิด ๆ ถูก ๆ ได้ ถ้าจะอธิบายเพียงสังเขปให้พอเข้าใจแบบลูกทุ่ง ไม่ต้องมีคำอธิบายที่เยิ่นเย้อก็พอจะอธิบายได้ดังนี้
อันดวงปทุมเกณฑ์นั้นโดยความหมายที่แท้จริงจะหมายถึง ดวงคนหอม กล่าวคือ จะพูดจาอะไรก็แล้วแต่
หรือจะแต่งตัวยังไงก็แล้วแต่ หรือจะวางมาดอย่างไรก็แล้วแต่ ฯลฯ ทำอะไรดูดีไปหมด คนที่ได้สัมผัสด้วยชอบไปหมด ซึ่งจะมีคำกลอนตามที่ครูบาอาจารย์ท่านแต่งไว้คือ
จันทร์เป็นสิบเอ็ดแท้แก่ลัคน์
พฤหัสสี่ทรงศักดิ์ แช่มช้อย
ศุกร์สามดั่งนี้จัก เจริญยิ่ง ยศแฮ
หากว่าชาติต่ำต้อย ยกให้เสมอพงษ์
เรามาดูกัน จากคำกลอนดังกล่าวจะเห็นว่า ดาวที่กล่าวถึงทั้งสามดวงนั้นล้วนแต่เป็นดาวศุภเคราะห์ทั้งสิ้น ทีนี้มาดูความหมายของคำกลอนกัน แค่ 3 บรรทัดที่เกี่ยวกับดาวน๊ะครับ
-จันทร์เป็นสิบเอ็ดแท้แก่ลัคน์ จันทร์ดวงนี้ต้องอ้อนนิด ๆ หรืออ้อนหน่อย ๆ ละก้อ ใครเห็นก็จะดูงามไปหมด อยู่เรือนสิบเอ็ดเป็นลาภะ คือดูดีไปหมด
-พฤหัสสี่ทรงศักดิ์แช่มช้อย พฤหัสดวงนี้ต้องวางมาดให้เท่ห์เข้าไว้ ทำตัวให้ดูเหมือนนักวิชาการที่ผู้อื่นต้องยำเกรง อย่างว่าละครับยิ่งอยู่เรือนที่สี่ภพพันธุด้วยแล้ว อันภพพันธุนั้นหมายถึงตำแหน่งหน้าที่ได้
ยังไงละครับความหมายก็คือ หน้าที่ดี น่านับถือ จะอธิบายอะรก็ดูดีไปหมด
-ศุกร์สามดั่งนี้จัก เจริญยิ่งยศแฮ อันดาวศุกร์ก็มีความหมายของมันอยู่ในตัวแล้วว่า สุข ถ้าดาวศุกร์อยู่ในเรือนที่สาม ภพสหัชชะ ก็จะหมายถึงการพูดจา การเที่ยวที่มิได้ค้างคืน(ไปเที่ยวสนุกเฮฮา) กล่าวคือ
ถ้าทำตัวพูดจาตอหลด ตอแหล (ต้องขออภัยด้วยถ้าใช้คำพูดที่ไม่น่าพูด แต่ต้องอธิบายให้เห็นภาพ) แต่งตัวโป๊ๆ วับ ๆ แวม ๆ ให้เห็นแล้วมีเสน่ห์ ผู้ที่ได้พบได้เห็นก็จะว่าดูดีไปหมด ไม่มีข้อตำหนิ มีเสน่ห์ เก๋ดี
คำอธิบายเบื้องต้นจะเห็นว่าดาวทั้งสาม จะทำอย่างไร ไม่ว่าดูน่าเกลียด หรือ ดูเว่อ ๆ ไป ผู้คนก็จะดูดีไปหมด แต่ก็อีกนั่นแหละบางท่านอาจจะว่าถ้าหากดาวดังกล่าวเป็นประ เป็นนิจละ มิเสียหายเหรอ จะทำอะไรยิ่งกว่าดาวที่มีตำแหน่งมาตรฐาน หรือดาวที่ไม่เสีย ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ถ้าดาวทั้งสามมีตำแหน่งเป็นประ เป็นนิจ ก็จะมีเสน่อแบบประ แบบนิจ ดูเก๋ไปอีกแบบหนึ่ง
อ้อยังมีความหมายเกี่ยวกับจันทร์อีก ได้แก่
*หากจันทร์สัมพันธ์กับ เรือนศุกร์/ราหู จะอุทานคำหยาบ ๆ ออกมา ผลที่ตามมาก็คือ
-ถ้าจันทร์เป็นเสน่ห์ คนจะชอบว่าดี (เพราะจันทร์เป็นสิบเอ็ด)
-แต่ถ้าจันทร์ไม่เป็นสิบเอ็ด คำอุทานดังกล่าวเมื่อผู้คนได้ยินก็จะตำหนิ ติเตียน ว่าพูดจาลามก
คำอธิบายเบื้องต้นคงทำให้คุณกบ และผู้ที่กำลังศึกษาอยู่เข้าใจได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ผมคิดว่าสิ่งที่อธิบายเพียงสังเขป (แต่มากพอสมควร) คงทำให้กระจ่างได้น๊ะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 11โดย คุณ เจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
27 jan 2005 19:57#793168ลบ
อยากรู้เรื่องดวงพิเศษว่ามีอะไรบ้างนอกจาก จันทร์ ครู สุริยา กับ ปทุมเกณฑ์
ความคิดเห็นที่ 12โดย คุณ การเวก (กรวิก)
28 jan 2005 08:31#793538ลบ
เรียน คุณ เจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
ผมคิดอยู่แล้วว่าน่าจะมีวิชาอยู่ในตัว ที่ถามนี่ไม่ทราบว่าจะแซวหรืออย่างไร แต่ก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าผมคงตอบเพียงคร่าว ๆ ให้ทราบ ที่มีเพิ่มเติมจากที่ระบุมาก็จะมี
-องค์เกณฑ์
-ดวงพระจันทร์ครึ่งซีก
-อุดมเกณฑ์
-จตุสดัยเกณฑ์
-ดอกพิกุล
-ดาวกระจาย
คงต้องบอกไว้ก่อนน๊ะครับจะไม่เจาะลึก คงจะต้องหาเรียนกันเอง หรือนำไปถามอาจารย์กันเองน๊ะครับ
สำหรับนักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยหากทราบเรื่องดังกล่าวแล้วรับรองได้ว่า พยากรณ์อย่างไรก็ไม่พลาด
สำหรับเรื่องเคล็ดลับก็คงต้องแล้วแต่อาจารย์ผู้สอนว่าจะแนะให้มากน้อยแค่ไหน สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 13โดย คุณ เจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
28 feb 2005 18:15#819494ลบ
ดาว124อยู่ร่วมกันในราศีมีน หมายความว่ายังไงครับ
ความคิดเห็นที่ 14โดย คุณ การเวก (กรวิก)
1 mar 2005 08:26#819945ลบ
ตอบ คุณเจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
การจะให้ความหมายของดาวโดยไม่รู้ลัคนาคงกำหนดตายตัวไม่ได้ เพียงแต่จะให้ความหมายกว้าง ๆ ไว้ แล้วคุณเจ้าไกร ฯ คงต้องจับเอาไปลงภพลงเรือนเอง ว่ากันเลยน๊ะครับ
-อาทิตย์ (1) หมายถึงความมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ทำอะไรต้องเป็นที่หนึ่ง พูดจาอะไรต้องมีอำนาย สิ่งของอาจจะได้แก่เครื่องเพชรที่ส่องประกาย ที่อยู่อาจจะหมายถึงที่มีความสะดวกสบาย ตำแหน่งของอาทิตย์ในราศีมีนคือ อุจจาวิลาศ (จะเปรียบได้เท่ากับน้อง ๆ ราชาโชค) แต่อาทิตย์เป็นดาวธาตุไฟ เมื่อมาอยู่ราศีมีนแถนเป็น สถิรราศี ธาตุน้ำ ความไม่แน่นอนจึงมีมากกว่าความแน่นอน ไฟในน้ำ
-จันทร์ (2) ดาวจันทร์เป็นดาวแห่งความง่าย ๆ ยังไงก็ได้ ไม่ค่อยอยากมีเรื่อง ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นเท่าไร ใครว่าอะไรก็จะว่าตามกัน เป็นดาวแห่งความนุ่มนวล จันทร์เป็นดาวธาตุดิน มาอยู่ราศีธาตุน้ำพอเกื้อหนุนกันได้
-พุธ(4) เป็นดาวแห่งความอลุ้มอล่วย เป็นดาวแห่งการเจรจารอมชอม เป็นดาวธาตุน้ำ ลื่นไหลได้ตามสถานการณ์ เมื่อมาอยู่ราศีธาตุน้ำ ก็คงลื่นไหลพอสมควร แต่ตำแหน่งของดาวพุธเป็นประ ดังนั้นการลื่นไหลก็คงจะไปทางค่อนข้างจะเอาผลประโยชน์ใส่ตนสักหน่อย
ทีนี้มาดูพระเคราะห์คู่กันหน่อย
-อาทิตย์+จันทร์ เป็นดาวคู่ผัวตัวเมีย ว่าอะไรก็จะว่าตามกัน พูดจากันรู้เรื่อง ปรึกษาหารือกันได้ฯลฯ
-อาทิตย์กับพุธ เป็นดาวแห่งการเจรจา เรื่องสัญญา
เรื่องโฆษณา เรื่องการต่อรอง ฯลฯ
-จันทร์กับพุธ เป็นดาวคู่มิตร เวลาพูดจากันมักจะเกี่ยวกับเรื่องการเที่ยวเตร่อยู่เสมอ พูดกันง่าย ๆ ก็คือ
หากเรื่องอะไรก็ตามถ้าเกี่ยวกับการเที่ยวเตร่ละก้อคุยกันได้ทั้งวันทั้งคืนเลย
ทีนี้การจะนำภพมาใส่ ก็คือดูว่าดาวแต่ละดวงอยู่ภพอะไร ตำแหน่งมาตรฐานเป็นอย่างไร กล่าวคือ ถ้าตำแหน่งมาตรฐานเป็นอุจจ์ เกษตร ราชาโชค มหาจักร ประ นิจจ์ ดาวก็จะดีเสียไปตามตำแหน่ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ดูว่าดาวเจ้าเรือนที่ดาวทั้งสามดวง (1 2 4) มาอยู่นี้ไปอยู่ในภพใด ถ้าเป็นภพ อริ มรณะ วินาศ ดาวทั้งสามดวงก็จะได้รับผลดังกล่าวด้วย (ตามกฎดาวเจ้าเรือนจะขัดเกลาดาวที่มาอยู่ในเรือน ถ้าดาวเจ้าเรือนเสีย คือ อยู่ในภพอริ มรณะ วินาศ หรือกาลี ดาวที่มาอยู่ในเรือนถ้าไม่ได้ตำแหน่งอุจจ์ เกษตร ก็จะได้รับผลกรรมจากดาวเจ้าเรือนไปด้วย)
สรุป จากคำอธิบายเบื้องต้น ทางคุณเจ้าไกรฯ คงจะต้องนำภพมาใส่ แล้วดูไปตามจังหวะเรือน จังหวะภพ
ค่อยผสมภพ ผสมเรือน ก็คงจะทราบได้ว่า ดาว อาทิตย์ จันทร์ พุธ มาอยู่ในเรือนพฤหัส จะมีผลเช่นไร
ความคิดเห็นที่ 15โดย คุณ สว่างนภา
10 mar 2005 10:33#826960ลบ
เรียน อาจารย์การเวกที่เคารพ
**อาจารย์สบายดีหรือเปล่าคะ ตอนนี้รู้สึกว่าโลกจะวุ่นวายใหญ่ อากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวในวันเดียวกัน ปรับสภาพแทบไม่ทัน อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ**
มีคำถามมารบกวนอีกแล้วคะ เกี่ยวกับดาวเดิมจรมาต้องดาวเดิม (เป็นดาวบาปเคราะห์) ต้องกันในเรือนเสีย(อริ) จะให้ผลดีหรือผลเสียคะ
ซึ่งดาว 7 จะย้ายราศีช่วงกลางปี 48
(ลั อยู่ราศีกุมภ์,
ดาว7 อยู่เรือนอริ ราศีกรกฎ,
ดาว 2 อยู่เรือนสหัชชะ ราศีเมษ,
ดาว 3 อยู่เรือนปุตตะ ราศีเมถุน,
ดาว 4 อยู่เรือนลาภะ ราศีธนู,
ดาว 59 อยู่เรือนกดุมภะ ราศีมีน)
ความคิดเห็นที่ 16โดย คุณ การเวก (กรวิก)
10 mar 2005 12:58#827093ลบ
ตอบคุณสว่างนภา
สบายดี สุขภาพแข็งแรงดีครับ แล้วคุณสว่างนภา
สุขภาพคงแข็งแรงดีน๊ะครับ
สำหรับคำถามคงต้องขอดาวให้ครบจักราศี และวันเกิดเป็นวันอะไร ถ้าถามเกี่ยวกับดาวลอย ๆ เช่นนี้จะผิดพลาดได้ คงไม่ว่าอะไรน๊ะครับ
อ้อ แล้วที่ไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเล่าของหมอถาวัลย์
เป็นอย่างไรบ้าง ?
ความคิดเห็นที่ 17โดย คุณ เจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
11 mar 2005 11:31#827814ลบ
เทวีโชค หินจันทร์ ยาจกโชค ลมหัวกุดเป็นอย่างไร
--------------------------------------------------------------------------------
อยากทราบมากๆครับ โดยเฉพาะจันทร์อยู่ราศีมีนเป็นเทวีโชค
แล้วดาวมฤตยูอยู่ราศีใดถึงจะเป็นอุจจ์ แล้วจะให้คุณอย่างไร
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 18โดย คุณ สว่างนภา
11 mar 2005 16:29#828028ลบ
เรียน อาจารย์การเวกที่เคารพ
ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
เกิดวันอาทิตย์(ลั อยู่ราศีกุมภ์)
ดาว ๕๙ อยู่เรือนกดุมภะ ราศีมีน
ดาว ๒ อยู่เรือนสหัชชะ ราศีเมษ
ดาว ๓ อยู่เรือนปุตตะ ราศีเมถุน
ดาว ๗ อยู่เรือนอริ ราศีกรกฎ
ดาว ๖๘๐ อยู่เรือนศุภะ ราศีตุลย์
ดาว ๑ อยู่เรือนกัมมะ ราศีพิจิก
ดาว ๔ อยู่เรือนลาภะ ราศีธนู
การศึกษาเรื่องเล่าหมอเถาวัลย์ ยังไม่ไปถึงไหนเลยค่ะ แต่พิมพ์เข้าเล่มไว้หมดแล้ว ช่วงนี้ต้องสะสางงานต่างๆ เพื่อส่งมอบหน้าที่ให้คนใหม่ทำแทน เพราะดิฉันได้ลาออกจากงานแล้ว สิ้นสุดงานวันสุดท้าย คือ 20 มีนาคม 48 นี้แหละค่ะ
หลังจากนั้นคงไม่ได้เข้ามาเว็บนี้ เพื่อสอบถามปัญหา และเรียนรู้เพิ่มเติมจากอาจารย์อีก
**ปล.ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ให้ความรู้ต่างๆ มากมาย**
ความคิดเห็นที่ 19โดย คุณ การเวก (กรวิก)
14 mar 2005 08:12#829864ลบ
ตอบคุณสว่างนภา
ตามที่คุณสว่างนภา ถามมาในกระทู้ที่ 15 คงอธิบายได้ดังนี้ (ผิดถูกหากมีผู้ชี้แนะ ยินดีรับฟังครับ)
-ดูเสาร์ เสาร์เป็นเจ้าเรือนภพวินาศน์ มาอยู่ภพอริเรือนคู่ศัตรูคือจันทร์ จันทร์เดิมเป็นอุจจาวิลาศ (เปรียบเสมือนราชาโชคกลาย ๆ)อยู่เรือนอังคารเจ้าเรือนภพกัมมะและภพสหัสชะ แสดงถึงปัญหาที่เกิดอย่างคาดไม่ถึงจะเกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ อันเกี่ยวเนื่องมาจากการเข้าหุ้นลงทุน ซึ่งอาจจะเป็นคดีความกันอยู่ รวมทั้งปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน ถ้าดูตามพื้นดาว ดาวเสาร์จรกำลังจะเข้าทับดาวเสาร์เดิม
กอร์ปกับอังคารจรกำลังจะเข้าทับจันทร์เดิมในช่วงเวลาเดียวกัน แสดงถึงว่าปัญหาคาราคาซังดั้งเดิมคงจะประทุขึ้นมาอีกรอบหนึ่งเกี่ยวกับคดีความที่คั่งค้างกันอยู่
สำหรับคุณสว่างนภา ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไร หากมีปัญหาสงสัย หรือต้องการปรึกษา ผมจะให้เบอร์มือถือไว้ คือ 06-7609380 และหวังว่าคุณคงประสบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 20โดย คุณ การเวก (กรวิก)
14 mar 2005 08:22#829865ลบ
ตอบ คุณเจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
ตามที่คุณถามมาคงตอบเท่าที่ตอบได้ดังนี้
-เทวีโชค เป็นดวงที่อาจารย์ทางแถวจังหวัดนครราชสีมา (โคราช) เล่นกัน และมีระบุไว้ในหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โต สุริยอารักษ์
-ยาจกโชค คงเป็นคำพูดเปรียบเปรยในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทา (เรื่อง เคล็ดลับการพยากรณ์)
-สำหรับลมหัวกุด ที่ผ่านมาไม่เคยอ่านเจอ คงต้องขอให้คุณเจ้าไกรฯ ชี้แนะให้ด้วย
-ส่วนเรื่อง หินจันทร์ พลจันทร์ เคยอ่านเจอในหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โตฯ มีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
*หินจันทร์ เป็นตำแหน่งที่ระบุไว้ว่า ดวงชะตาใดก็ตาม หากมีดาวจันทร์อยู่ในราศีเรือนมุม คือ มิถุน กันย์
ธนู มีน ดาวจันทร์นั้นมิได้ให้ผลหรือให้คุณ ในด้านโชคลาภวาสนาการเงิน
*พลจันทร์ เป็นตำแหน่งที่ระบุไว้ว่า ดวงชะตาใดก็
ตาม หากมีดาวจันทร์อยู่ในราศี พฤษภ กรกฎ ตุลย์
พิจิก มังกร กุมภ์ ดาวจันทร์นั้นให้ผลหรือให้คุณ ในด้านโชคลาภวาสนาการเงิน
เท่าที่ผมมีสถิติอยู่ตามตำแหน่งดังกล่าวข้างต้น โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับภพซะมากกว่า เช่นอยู่ภพปุตตะ (ราศีกรกฎ) จะมีโชคลาภจากการเสี่ยงเสมอ ๆ
หรืออยู่ในราศีมีนภพตนุ เป็นสุภาพสตรี (ตำแหน่งดาวไม่เสีย เป็นสุภาพสตรีจะมีนมสวย ดั่งลูกจันทร์) จะเสียตามหินจันทร์ก็คือเกี่ยวกับเรื่องของการเสี่ยงโชคหรือจากบริวารจะติดขัดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่เป็นประจำ ฯลฯ
คำอธิบายต่าง ๆ คงจบลงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 21โดย คุณ เจ้าไกร ณ เชียงฟ้า
14 mar 2005 19:29#830341ลบ
ขอบคุณมากนะครับ ขอถามอีกนิดนึงนะครับ ถ้าจันทร์อยู่ในภพที่2ราศีมีน จะเป็นอย่างไรครับ สำหรับทั้งชายและหญิง ขอบคุณมากครับ
ความคิดเห็นที่ 22โดย คุณ การเวก (กรวิก)
15 mar 2005 08:01#830649ลบ
ตอบ คุณเจ้าไกรฯ
ตามที่คุณถามมาเป็นเพียงดาวดวงเดียวโดด ๆ การตอบคงตอบไม่ได้ ถ้าจะชี้แนะวิธีการดูก็คงพอจะได้อยู่
เริ่มกันเลยดีกว่า วิธีดูต้องดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง
ดังนี้.-
*ดูดาวจันทร์ก่อน ดาวจันทร์เจ้าเรือนภพอริ มาอยู่ภพกดุมภะ (มีดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือน ทั้งภพกดุมภะ และภพลาภะ) ตรงนี้ต้องดูทางทักษาด้วยว่าดาวจันทร์เป็นอะไรทางทักษา (เผื่อต้องนำมาขยายการพยากรณ์) ดาวจันทร์เป็นดาวราศีธาตุดินมาอยู่ราศีธาตุน้ำเกื้อหนุนกันอยู่
*ควรดูด้วยว่าในภพอริ และภพกดุมภะ รวมทั้งภพลาภะ มีดาวลอยดวงไหนอยู่บ้าง มีตำแหน่งมาตรฐานอย่างไร เป็นอะไรทางทักษา เป็นดาวราศีธาตุอะไร
เป็นดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล และคู่ศัตรูกับดาวจันทร์และดาวพฤหัสอย่างไร
*ดูดาวพฤหัสบดีเจ้าเรือนภพกดุมภะและลาภะ ที่ดาวจันทร์ไปอาศัยอยู่ ว่ามีตำแหน่งมาตรฐานอย่างไร เป็นอะไรทางทักษา เป็นดาวราศีธาตรอะไร มีความสัมพันธ์กับดาวจันทร์อย่างไร (เป็นทั้งคู่ธาตุและคู่ศัตรูไปในตัว)
*** เมื่อรวบรวมความหมายต่าง ๆ ได้แล้วค่อยนำมาประกอบเป็นสำนวนในการให้ความหมายทางการพยากรณ์ต่อไป
ผมหวังว่าสิ่งที่อธิบายมาคุณเจ้าไกรฯ คงสามารถนำไปประกอบเป็นคำพยากรณ์ให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี
สวัสดีครับ
การเวก (กรวิก) - 1 มิถุนายน พ.ศ.2552 00:00น. (IP: 0.0.0.0)