ความคิดเห็นที่ 1ผมมีเรื่องค้างคาจากกระทู้ที่ 10 จึงขอแจ้งรายละเอียดและถามท่านอาจารย์ต่อนะครับกะดุมภะ+กัมมะ+วินาสน์+ลาภะ+ศุภะ+ลาภะ+ศุภะดาวพฤหัสฯ5 เจ้าเรือนวินาสน์ ไปอยู่ที่ภพศุภะ ได้ตำแหน่งประมีดาวอังคาร 3 (มหาจักร) และมฤตยู ร่วมราศี5 ตำแหน่งไม่ดี แต่ได้ภพดี แล้วจะให้หมายความว่าอย่างไรภพศุภะราศี พิจิก มีดาว 1 กับ 43กับ4แลกเรือนกัน จะอ่านความหมายว่าอย่างไรผมต้องไปดูทักษาใช่ไหมครับ ถ้าดาว 8 ทักษาดี ก็แปลว่าดี ถ้าทักษาไม่ดีก็แปลตามนั้น ถูกต้องใช่ไหมครับ แล้วถ้า 8 ดี อะไรจะดีครับ การงาน หรือ ทรัพย์สิน(8เป็นดาวกดุมภะ ลอยอยู่ในภพกัมมะ)และขอบคุณท่านครับที่ช่วยไขข้อข้องใจ เพราะโหรสมัครเล่นมักจะตีความไปคนละอย่างสองอย่าง ผมจึงอยากหาข้อสรุปว่าดวงแบบนี้ทรัพย์สินจะวินาศหรือไม่ จะได้คอยระวังจากกุศลกรรมที่ได้ทำไว้ ขอให้ท่านอาจารย์จงประสบความสุขตลอดไป
ความคิดเห็นที่ 2ตอบ คุณกนกก่อนอื่นผมคงต้องขออภัยด้วย ที่อธิบายขาดไป หรือไม่ละเอียดเท่าที่ควร (กล่าวคือ อธิบายไปตามความเข้าใจของผม ไม่ได้คำนึงถึงความเข้าใจของบุคคคลอื่น) เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ คงต้องว่ากันเป็นขั้นเป็นตอนไปดีกว่า- ที่จริงแล้วในการพยากรณ์พื้นดวงชะตาในระบบของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์ จะใช้ความสัมพันธ์ของเรือน ของภพ ตำแหน่งมาตรฐานของดวงดาว กฎเกณฑ์ทางโหราศาสตร์เช่น ความสัมพันธ์ของธาตุราศี ธาตุของดวงดาว รวมทั้งเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ แถมยังมีความหมายทางทักษาเข้ามาเกี่ยวข้องในการขยายความหากจำเป็น แต่ที่ต้องใช้ส่วนใหญ่จะดู ศรี กับกาลี ประกอบด้วย- ตามที่คุณถามมาแต่ละประเด็นก็คงต้องว่ากันเป็นจุด ๆ กัน เรามาดูจุดแรกกันก่อน คือ กดุมภะ - กัมมะ- วินาสน์ แปลความหมายกันตามภพตามเรือน ก็คือ ทรัพย์สินเงินทองที่คุณหาได้ เก็บสะสมได้ ได้มาจากหน้าที่การงาน (ราหูราชาโชค) ในเรือนศุกร์ ถือว่าเป็นโชคที่ดีทีเดียวในด้านหน้าที่การงานที่คุณสามารถหาได้แบบสบาย ๆ (ราหูราชาโชค) แถมดาวศุกร์เป็นมหาจักร อยู่เรือนพฤหัสบดี (ตำแหน่งปะ) แสดงถึงการติดต่อแบบยอกย้อน ซิกแซก (ถ้าจะกล่าวง่าย ๆ ก็คือ ใช้กรรมวิธีใด ๆ ก็ได้เพื่อให้ได้มา เช่น จ่ายเงินใต้โต๊ะ เพราะดาวศุกร์ก็หมายถึงการเงินได้) เมื่อดาวศุกร์เป็นมหาจักร การกระทำอะไรก็ตามต้องรวดเร็ว ว่องไว ดาวเกตุเป็นตัวเสริมเรื่องของการซิกแซก ยอกย้อน (ดาวเกตุเราเขียนเป็นเลข ๙ จะเห็นว่าหางของดาวเกตุคดเคี้ยวใช่ไหมครับ) มาดูธาตุกัน ดาวศุกร์เป็นดาวธาตุลม มาอยู่ราศีธาตุไฟ เมื่อไฟถูกลมพัดก็ลุกโชน ให้ความร้อนอย่างรุนแรงขึ้น เป็นการแสดงถึงว่าการกระทำแบบลับ ๆ (วินาสน์) นี้ ต้องกระทำแบบรวดเร็วเหมือนไฟลุกโชน (ตรงนี้ผมคิดว่าเมื่อคุณอ่านมาถึงข้อความนี้จะเข้าใจได้ดีขึ้น) ส่วนความหมายทางทักษาก็ต้องดูว่ามีความหมายเช่นไร (เจ้าเรือน ดาวศุกร์ ดาวราหู) จำเป็นที่จะต้องนำความหมายทางทักษาเข้ามาผสมด้วยหรือไม่ ที่กล่าวข้ามมาก็มีดาวราหู (ธาตุลม) มาอยู่ในราศีธาตุลม (ราศีตุลย์) เป็นราศีแม่ธาตุด้วย ความหมายเป็นเช่นไรคงไม่ต้องกล่าวคุณคงทราบดี อีกทั้งยังต้องดูด้วยว่า ดาวราหูเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนภพอะไร ในราศีจักร และเป็นภพอะไรของโลก ตรงนี้ก็ต้องนำมาขยายความหรือร่วมตีความหมายเข้าไปด้วย- มาดูดาวพฤหัสบดี ตำแหน่งประ ดาวพฤหัสบดีฯ เป็นเจ้าเรือนภพวินาสน์ และ สหัสชะ มาอยู่เรือนศุภะ มีดาวพุธเป็นเจ้าเรือน แถมมีดาวอังคารมาร่วม (อังคารตำแหน่งมหาจักร) และมีดาวมฤตยูร่วม จะว่าไปดาวพฤหัสบดีในภพนี้เสียไหมก็คงต้องตอบว่าตำแหน่งประก็แสดงให้เห็นว่าเสียอยู่แล้ว แต่เสียในที่นี้ต้องดูกันก่อนว่าเสียด้านไหน ในด้านการติดต่อเกี่ยวกับหน้าที่การงานที่จำเป็นต้องใช้ไหวพริบ ใช้เชิง ใช้กรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ได้มา ดาวพฤหัสบดีในความหมายทั่วไปจะเกี่ยวกับวิชาการ การเศรษฐกิจ มาอยู่เรือนพุธ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้า มีอังคารมหาจักรร่วม แถมภพนี้เป็นภพอริของโลกด้วย (อริในที่นี้ถ้าแปลความหมายในทางที่เสียก็คือ อุปสรรค หนี้สิน การเจ็บไข้ได้ป่วยฯ แต่ถ้าแปลความหมายไปตามพื้นดวงชะตา อรินี้จะต้องแปลความหมายถึงการดิ้นรน การขวนขวายฯ ) เมื่อผสมกับดาวพฤหัสบดี (ตำแหน่งประ) ก็จะหมายถึงการดิ้นรน ขวนขวาย ในกรรมวิธีใด ๆ ก็ได้ (พฤหัสฯ กับอังคาร เป็นคู่สมพล ที่ร่วมกันสร้างอิทธิพลให้สำเร็จ) เพื่อให้ ศุภะ (สำเร็จ) มฤตยูจะเป็นตัวขยายอีกชั้นหนึ่ง จะเห็นว่ามฤตยูเขียนเครื่องหมายว่า 0 ก็หมายถึงการใช้กรรมวิธีในขอบเขตของเจ้าชะตา ความหมายในจุดนี้คงจบเพียงเท่านี้- ส่วนเรื่องของดาวอังคาร สลับเรือนกับ ดาวพุธ จะเรียกว่า อนุเกษตรสลับเรือน ถ้าจะกล่าวถึงภพ อังคารเป็นเจ้าเรือนภพ พันธุและลาภะ ดาวพุธเป็นเจ้าเรือนภพ อริ และ ศุภะ ความหมายโดยรวมเกี่ยวกับดาวอังคารและดาวพุธ ก็คือ จากการกระทำของเจ้าชะตา เจ้าชะตาก็จะประสบความสำเร็จในเรื่องของตำแหน่งหน้าที่การงาน (พันธุ) และ รายได้ (ลาภะ) เราจะเห็นว่ามีดาวอาทิตย์ (เจ้าเรือนภพมรณะ) มาอยู่ร่วมดาวพุธ ในภพ ลาภะ ก็หมายถึงการเจรจด้านเงินทองอันเกิดจากความเสียหาย แสดงถึงคุณอาจจะเป็นคนประเมินความเสียหายอันเกิดจากวินาศภัย อุบัติภัย หรือเป็นคนเจรจาเกี่ยวกับค่าสินไหมตอบแทนก็ได้ที่อธิบายมาเป็นจุด ๆ ให้ดู เพื่อให้คุณได้ทราบว่าการตีความหมาย หรือการจะพยากรณ์ใด ๆ ก็ตาม มิใช่จับภพ จับดาว ในตำแหน่งที่จะดูเท่านั้นมาตีความ การจะดูต้องดูองค์รวมก่อน ดูความสัมพันธ์ของดวงดาว ของภพ ของตำแหน่งดาว ของราศีที่ดาวประจำอยู่ รวมทั้งดูกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ว่าอยู่ในเกณฑ์ใด เพื่อให้เข้าใจในพื้นของชะตาชีวิตของเจ้าของชะตานั้นๆ แล้วค่อยพยากรณ์ตามความหมายที่เข้าใจ จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ฝน ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเข้าใจดีแล้วคุณหรือ ท่านที่เข้ามาอ่านก็สามารถจะเป็นนักพยากรณ์ที่ดีได้ ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 3ขอรบกวนหน่อยนะคะอาจารย์เกิด๒๒ พ.ค.๒๕๒๗ (อังคาร)๙: ๒๐น. กทม. ค่ะขอความรู้เกี่ยวกับดวงชะตาตามหลักโหราศาสตร์ดังนี้ค่ะ- ๑ กดุมพะ สถิตราศีพฤษภ ราศีนี้เป็นภพลาภะ แต่มี ๘ มรณะ ร่วม อย่างนี้การเงินเสียหายไหม- ๕ เกษตรภพอริ ราศีธนู แต่ทักษาเป็นศรี อย่างนี้ ๕ ให้คุณไหม- มีโหรหลายท่านกล่าวว่า กาลีกุมลัคน์ เป็นอะไรที่ให้โทษมากๆในดวงนี้ไม่ได้มีกาลีกุมลัคน์แต่ลัคน์อยู่กรกฎเรือนของ ๒ กาลี อย่างนี้จะเกิดโทษเหมือนกับกาลีกุมลัคน์หรือไม่- ๒ ตกภพมรณะ เข้าเกณฑ์พินทุบาทว์ ไม่ดีเลยใช่ไหม- ๔๖ คู่ธาตุน้ำ สถิตราศีเมษ ธาตุไฟ อย่างนี้ใช่ที่เขาเรียก "น้ำตกไฟ" หรือเปล่า ให้โทษใช่ไหมดิฉันขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำที่อาจารย์มีให้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4ตอบ คุณปุยฝ้ายคำถามที่คุณถามมาคงตอบได้ดังนี้ (แนวทางการตอบผมคงใช้แนวทางของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ตอบนะครับ)1. อาทิตย์ (กดุมภะ) อยู่ราศีพฤษภ (ตำแหน่งอุจจาภิมุข)ภพลาภะ อาทิตย์เป็นมนตรี (ทางทักษา) เปรียบเสมือนทรัพย์สินของเจ้าชะตาที่สะสมไว้มาจากรายได้ที่เจ้าชะตาได้รับ แม้จะเห็นว่าราหูอยู่ในภพลาภะด้วย (ตำแหน่งนิจจ์ ทางทักษาเป็นอายุ) ราหูตัวนี้จึงเปรียบเสมือนทรัพย์สินที่ตัวเจ้าชะตาค่อย ๆ สร้างสมขึ้นมา หรือเป็นราหูที่ใช้เล่ห์ในการหารายได้ (ราหูก็เป็นตัวเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว เมื่อเป็นนิจจ์ก็เจ้าเล่ห์กว่าเก่า และมาอยู่เรือนศุกร์ ซึ่งศุกร์ม่ตำแหน่งเกษตรด้วย ก็เลยใช้เล่ห์ในการหารายได้) ในภพนี้หากมองเพียงผิวเผินก็ดูเหมือนว่าจะเสีย เพียงแต่เราต้องดูเรื่องของภพและความสัมพันธ์ของดวงดาวด้วย มิใช่ว่าเห็นราหูอยู่กับอาทิตย์ก็คือเสียเลย ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องดาว ดาวราหู + ดาวอาทิตย์ ถ้าไม่เสียก็จะหมายถึงการฉวยโอกาส2. ดาวพฤหัสบดี (ตำแหน่งเกษตร ทางทักษาศรี) พฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนสองภพคือ ภพอริ และ ภพศุภะ เมื่อพฤหัสบดีอยู่เรือนตนเองเป็นเกษตรด้วย หากมองผิวเผินอีกเช่นกัน ภพอริบางท่านอาจจะมองเป็นว่าปัญหา หรืออุปสรรค เป็นศรีด้วยก็จะว่ามีปัญหามาก อันพฤหัสบดีหมายถึงการศึกษา เป็นเกษตร แสดงถึงเจ้าชะตามีการศึกษาอย่างต่ำต้องระดับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย ภพอริอย่าได้มองว่าเป็นปัญหาหรืออุปสรรค ตรงนี้ชะตานี้อริตัวนี้ต้องแปลความหมายว่าเป็นการดิ้นรน ขวนขวาย ถึงจะศุภะ (ประสบความสำเร็จ) พฤหัสบดีตัวนี้เป็นดาวให้คุณคุ้มโทษคุ้มภัยให้กับเข้าชะตา ให้คุณแก่เจ้าชะตามากทีเดียว3. ในพื้นดวงนี้ลัคนาอยู่ในภพของกาลี ตัวตนุลัคน์อยู่ในภพมรณะ เข้าเกณฑ์พินทุบาทว์ ที่จริงแล้วโดยส่วนใหญ่ก็จะดูเป็นว่า เมื่อกาลีไปอยู่วินาศน์ความเป็นกาลีก็หมดไป ตรงนี้จะมีได้สองความหมายคือ - จันทร์เป็นแปดกับลัคนา ถ้าจะว่าเป็นพินทุบาทย์ เจ้าชะตาต้องเกิดวันจันทร์ด้วยถึงจะเป็นพินทุบาทย์เต็มตัว ในกรณีนี้เจ้าชะตาเกิดวันอังคาร ก็เลยรอดตัวไป แต่ก็ยังโดนผิวเผินบ้าง จันทร์เป็นแปดคือตัวเจ้าชะตาเชื่อคนง่าย โดนหลอกง่าย ขี้สงสารคน ใครมายืนบีบน้ำตาหน่อยก็จะช่วยเขาเสียแล้ว แถมมาอยู่เรือนราหู (ตำแหน่งนิจจ์) ก็เลยโดนหลอกง่าย ๆ เลย ตรงนี้เจ้าชะตาต้องปรับนิสัย ไม่ไปค้ำประกันใครเกี่ยวกับเรื่องของการเงิน (ราหูไปอยู่ภพลาภะ) และอย่าได้ค้ำประกันใครเป็นอันขาด ไม่ว่าค้ำประกันด้วยปากเปล่า (อาทิตย์ เป็นอุจจาภิมุข เป็นภพปุตตะของโลก) หากประพฤติเช่นนี้ได้เจ้าชะตาก็จะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ -จันทร์ตัวนี้เป็นตนุลัคน์ ตนุลัคน์ไปอยู่ภพมรณะ แสดงถึงว่า หากเจ้าชะตาอยู่ในถิ่นเกิดก็จะเดือดร้อนในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ค้ำประกันเขา วิธีแก้ดาวดวงนี้คือเจ้าชะตาต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างถิ่นต่างแดน (ในประเทศก็ได้ ในต่างประเทศก็ได้ ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าชะตา) แล้วตัวเจ้าชะตาก็จะประสบในสิ่งที่ดี ๆ เกี่ยวกับรายได้ เหมือนไปสร้างฐานะ สร้างครอบครัวใหม่ผมคงจบแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะเข้ามาต่อยอดให้ (มีธุระครับ)
ความคิดเห็นที่ 5ต่อครับ -ว่ากันถึงเรื่องจันทร์ (ตนุลัคน์) อยู่ราศีกุมภ์ ยังมีดาวอีกดวงหนึ่งที่คุณมิได้ถามมาคือ เสาร์(มาจากราศีมังกร ภพปัตตนิ) ซึ่งอยู่ราศีตุลย์ตำแหน่งอุจจ์ เสาร์มีความหมายทางทักษาคือเดช ซึ่งหมายถึงการทำงานของเจ้าชะตา จันทร์เป็นตรีโกณฑ์กับเสาร์ ตามคู่ของดาวพระเคราะห์ จันทร์กับเสาร์เป็นคู่พลัดพราก ตรงนี้ก็เป็นการตอกย้ำอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไม เจ้าชะตาควรจะไปอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน (มิใช่อยู่ในถิ่นกำเนิด) ที่ใดที่เจ้าชะตาเห็นว่าไกล (ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ) ก็ถือว่าใช้ได้ เพราะเจ้าชะตาเป็นผู้กำหนด มิใช่นักพยากรณ์เป็นผู้กำหนดให้ว่าต้องไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ตรงไหนก็ได้ที่เจ้าชะตาเห็นว่าไกลพอแล้ว 4. ดาวอีก 1 คู่ที่คุณถามมาคือ ดาวพุธ (4) กับดาวศุกร์ (6) ดาวคู่นี้ถ้าผูกดวงตามสุริยยาตร์จะอยู่ราศีเมษ ถ้าผูกดวงตามนิรายนะ ดาวศุกร์จะอยู่ในราศีพฤษภ (ตำแหน่งเกษตร) ตรงนี้คุณปุยฝ้ายลองเช็คกับเจ้าชะตาดูถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเจ้าชะตา ตามความเห็นของผม ดาวศุกร์ควรจะอยู่ในราศีพฤษภ ซึ่งหากดาวศุกร์อยู่ในราศีพฤษภ รายได้ของเจ้าชะตาก็จะไม่มีปัญหา แม้ดาวราหูเป็นนิจจ์อยู่ในราศีพฤษภ ก็ได้เพียงแต่สะกิดดาวศุกร์นิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น เพราะดาวศุกร์เป็นเกษตรในราศีตนเอง เมื่อดาวศุกร์อยู่ในราศีนี้รายได้ของเจ้าชะตาก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่เจ้าชะตาจะเป็นคนเจ้าเล่ห์เอาเปรียบคนที่มาทำการค้าด้วยตามความหมายของดาวราหูการพยากรณ์ของผมเบื้องต้น หรือการให้ความหมาย การชี้แจงที่มาที่ไปในการจะแปลความหมายของดาว ยังมิได้ใช้เรื่องเกี่ยวกับราศีธาตุ ธาตุของดาวเข้ามาเกี่ยวข้อง หากคุณปุยฝ้ายอยากจะให้มีความหมายลึกซึ้งขึ้นไปอีกก็ลองเอาเรื่องราศีธาตุ หรือธาตุของดวงดาวเข้ามาลองขยายดู ก็จะได้คำพยากรณ์ที่มีความหมายละเอียดขึ้นผมคงจบคำชี้แนะเพียงเท่านี้ และหวังว่าคุณปุยฝ้ายคงจะได้รับประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 6เรียนอาจารย์การเวก(กรวิก) เรียนสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับการดูดวงครับ เกิด 2 พ.ย. 2513 กรุงเทพ เวลาตี 3.14 สอบถามว่า1.ศุกร์เป็นประ อยู่ในภพกดุมภะ แสดงว่าการเงินผันผวนใช่หรือไม่ และจันทร์เจ้าเรือนลาภะก็เป็นนิจสามารถนำมาทายได้เลยหรือเปล่าว่าการเงินไม่มั่นคง 2. อาทิตย์ กับเสาร์ เป็นนิจ เล็งกันต้องทายอย่างไรครับ สามารถแลกเรือนกันได้รึเปล่า 3. และราหูเป็นเกษตรอยู่ในภพอริ แสดงว่าชีวิตต้องเจอปัญหาตลอดรึเปล่าครับ ยืนยันข้อ1 ได้เลยรึเปล่าครับขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 7ตอบ คุณนักเรียนใหม่ผมไม่ทราบว่าคุณนักเรียนใหม่เรียนมาแล้วนานเท่าใด คือว่า หากเพิ่งเริ่มเรียนก็คงต้องรออาจารย์ท่านกล่าวชี้แนะ แล้วถามในชั้นเรียนเพื่อตนเองจะได้เรียนด้วยความเข้าใจ แต่หากเรียนมานานแล้วก็เป็นการหาประสบการณ์ เอาเป็นว่าการชี้แนะของผมก็คงต้องฟังหูไว้หู เมื่ออาจารย์ของคุณชี้แนะก็ลองถามดูเพื่อเปรียบเทียบถึงความแตกต่าง หรือในส่วนที่เหมือนกัน ว่ากันตามคำถามเลยนะครับ 1. ดาวศุกร์ตามพื้นดวง (ผูกแบบสุริยยาตร์) เป็นประ ในภพสหัสชะ (เรือนของอังคาร อังคาร 3 เป็นเจ้าเรือนภพสหัสชชะและมรณะของเจ้าชะตา (เป็นเจ้าเรือนภพตนุและมรณะของโลก) ทางทักษา ศุกร์เป็นกาลี อังคารเป็นเดช แสดงถึงการเงินของเจ้าชะตาหมดและสิ้นเปลืองไปเพราะตัวเจ้าชะตาเอง ที่ว่าหมดไปด้วยสาเหตุใด จะเห็นว่า อังคารเป็นเรือนมรณะของโลก และก็เป็นเรือนมรณะของเจ้าชะตาด้วย และอังคารเป็นเรือนสหัสชะของเจ้าชะตา เป็นเรือนตนุของโลก ทางทักษาอังคารเป็นเดช แสดงถึงเจ้าชะตาเป็นคนชอบการท่องเที่ยว ในต่างถิ่นแดนไกล (ตรงนี้จะหมายถึงในประเทศก็ได้ ในต่างประเทศก็ได้) ชอบดิ้นรนที่จะไปท่องเที่ยวไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ที่ว่าดิ้นรนจะเห็นว่าอังคารเจ้าเรือนสหัสชะของเจ้าชะตามาอยู่ราศีกัน ตำแหน่งมหาจักร ในราศีกันย์เป็นเรือนอริของโลก คือ อุปสรรค ดิ้นรน การเจ็บป่วย ฯลฯ 2. นิจจ์ กับ นิจจ์ ไม่มีการแลกเรือนกัน เพราะดาวทั้งสองดวงต่างก็มิได้เป็นเจ้าเรือนราศีเมษ กับเจ้าเรือนราศีตุลย์ อาจจะมีบางตำราได้กล่าวว่า นิจจ์ เล็งนิจจ์ เป็นอุจจ์ อุจจ์เล็งอุจจ์เป็นนิจจ์ อาทิตย์เป็นนิจจ์ในราศีตุลย์ ตัวอาทิตย์เองเป็นเจ้าเรือนราศีสิงห์ภพวินาศ หมายถึงความเสียหาย หรือมีบางสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เกี่ยวกับเรื่องของการเงิน อาทิตย์คือบริวาร อาจจะหมายถึงมีการใช้จ่ายเงินทองแบบไม่เปิดเผย เช่น บริวารมาขอหยิบยืมเงิน หรือขอเบิกเงินล่วงหน้าฉุกเฉิน แต่เจ้าชะตาไม่อยากให้ใครทราบ เพราะถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และเพื่อป้องกันมิให้ผู้มายืมถูกครหานินทาได้ เป็นต้น, ส่วนดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนปุตตะในดวงชะตาของเจ้าชะตา เป็นเจ้าเรือนกัมมะของโลก ทางทักษาคือมูละ ถ้าจะแปลความหมายก็คงจะหมายถึงเจ้าชะไม่ค่อยชอบงานที่ท้าทายหรืองานที่ต้องใช้ความพยายามอดทนสูงมากนัก (เสาร์ในความหมายคือ ความละเอียดรอบคอบ ความอดทน เมื่อเป็นนิจจ์ก็หมายถึงความไม่ค่อยละเอียดรอบคอบ หรือความอดทนต่ำ) 3. สำหรับราหูที่เป็นเกษตรในภพอริของเจ้าชะตา ภพนี้เป็นภพลาภะของโลก ทางทักษาเป็นมนตรี แสดงว่ารายได้ของเจ้าชะตามีปัญหาอยู่เสมอ (ราหูอริของเจ้าชะตา ราหูลาภะของโลก) เป็นปัญหาในด้านใด ในด้านมนตรี ชอบให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ (คือช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ดูเหตุดูผล) หนึ่ง หรือ เข้าหุ้นลงทุนกับใครโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดของการเข้าหุ้นลงทุนครั้งนี้เลยว่าจะดีมากน้อยเพียงใดความหมายต่าง ๆ ที่ผมได้กล่าวไว้ หากคุณกำลังศึกษาอยู่ก็ลองเอาความหมายนี้ถามกับอาจารย์ของคุณดู ก็จะได้ความหมายอีกแบบหนึ่งที่แตกต่าง หรืออาจจะได้ความหมายที่คล้าย ๆ กันได้ ผมคงจบคำอธิบายเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 8เรียนอาจารย์การเวก(กรวิก) ขอขอบพระคุณนะครับที่กรุณาให้ความรู้ผมเพิ่มเติม เนื่องจากผมได้ศึกษาแค่เบื้องต้นจากอาจารย์ที่เชียงใหม่แต่อยู่ไกลมาก ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาไปต่อวิชาเพิ่มเติมเท่าไหร่ พอมาเจอเวปนี้เข้า ผมถึงได้มาเรียนเพิ่มจากเพื่อนๆที่เขียนมาสอบถามอาจารย์ แต่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจหลายเรื่องเหมือนกันครับ อาจจะต้องรบกวนสอบถามอาจารย์บ่อยหน่อยนะครับ รบกวนสอบถามอาจารย์อีกดวงนึงครับ เกิด 9 พ.ย. 2514 เวลา 11.38 เกิดเชียงใหม่ เป็นผู้หญิง สอบถามอาจารย์เกี่ยวกับการงาน และช่วงเวลาตั้งตัวครับ เนื่องจากผมดูแล้วสับสนไม่กล้าออกคำทำนายเช่น มรณะ-กัมมะ-ลาภะ ว่าจะเป็นความเสียหายในธุรกิจทำให้เสียทรัพย์ หรือค้าขายกับต่างประเทศให้คุณ ขอรบกวนอาจารย์กรุณาอ่านดวงนี้ให้ด้วยนะครับ เนื่องจากเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับผ้าไหม ส่งออก แต่มีร้านด้วย สภาพตอนนี้ร้านไม่ค่อยดี แต่ส่งออกพอไปได้ ซึ่งกำลังจะเซ้งร้านเหลือแต่ทำส่งออกอย่างเดียว หรือแนะนำให้ทำอย่างอื่นดี ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 9ตอบ คุณนักเรียนใหม่อันที่จริงคุณนักเรียนใหม่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ น่าจะไปกราบขอเป็นลูกศิษย์กับ ท่านอาจารย์สถิตย์ สถิตย์ยืนยง (ท่านอยู่แถวตลาดวโรรส) แล้วขอซื้อตำราจากท่านมาอ่านเพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตนเองด้วยอีกทางหนึ่ง และหากมีเวลาก็ขอคำชี้แนะจากท่านด้วยก็ได้ (แต่ไม่ทราบว่าท่านจะมีเวลาให้หรือไม่ เนื่องจากท่านชราภาพพอสมควร รวมทั้งสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง)สำหรับสิ่งที่ถามมา มรณะ-กัมมะ-ลาภะ ตรงนี้เรามามองดูเจ้าเรือนกันก่อน อาทิตย์เป็นนิจจืในราศีตุลย์ (อาทิตย์มนตรีทางทักษา ศุกร์คืออุตสาหะทางทักษา อังคารคือบริวารทางทักษา) อาทิตย์เป็นเจ้าเรือนมรณะตามดวงชะตา เป็นเจ้าเรือนปุตตะของโลก ศุกร์เป็นเจ้าเรือนกัมมะและปุตตะของเจ้าชะตาเป็นเจ้าเรือนปัตตนิกับกดุมภะของโลก ส่วนอังคารเป็นเจ้าเรือนลาภะและสหัสชะของเจ้าชะตา เป็นเจ้าเรือนตนุและมรณะของโลก อาทิตย์เป็นนิจจ์มาจากมรณะเป็นมนตรีทางทักษาตำแหน่งนิจจ์แสดงถึงคนต่างชาติที่เจ้าชะตาค้าขายด้วยอาจจะเป็นลูกค้าที่ไม่ค่อยจะมีชื่อเสียง (อาทิตย์เด่นชื่อเสียงดี) เรือนที่อาทิตย์อยู่คือเรือนศุกร์ภพปัตตนิ (หมายถึงการร่วมลงทุนกัน ติดต่อทำธุรกิจกันก็ได้) ดูศุกร์ พุธ พฤหัสฯ ศุกร์+พุธ คือคู่อสีติธาตุ พฤหัสบดีตำแหน่งมหาจักร (ตำแหน่งทางทักษาได้บอกไปแล้ว) ภพลาภะเป็นภพรายได้ของเจ้าชะตา ดังนั้นหากเจ้าชะตามิได้เกี่ยงงอนว่าคู่ค้าที่ทำธุรกิจไม่มีชื่อเสียงก็จะไม่ทำธุรกิจด้วย คู่ค้าเหล่านี้จะทำให้เจ้าชะตามีรายได้ที่ดีพอสมควรเลยทีเดียว ราศีนี้เป็นราศีธาตุน้ำชั้นสองของดาวพธ+ดาวศุกร์ และดูพฤหัสบดีที่เป็นมหาจักรเล็งกับดาวเสาร์มหาจักรด้วยกัน คู่นี้คือคู่พระคู่โจร ตำแหน่งดาวก็ไม่เสียให้คุณกับเจ้าชะตาด้วย หากเจ้าชะตาทำธุรกิจกับใครก็ได้ที่ได้กลั่นกรองแล้ว (ในเรื่องการเงินไม่เสีย) แม้ไม่ค่อยมีชื่อเสียงนักก็ยินดีที่จะทำธุรกิจด้วย เจ้าชะตาจะมีรายได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว ถามว่ารวยหรือไม่ คงตอบได้ว่ารวยครับ จะเสียตรงที่คู่ครองกับเจ้าชะตาคงต้องแยกกันทำมาหากินถึงจะดีดูจากเกณฑ์ชันษาจรปีนี้เจ้าชะตาดี หลังเดือนเกิดไปแล้วรอดาวราหูย้ายก่อน และดาวพฤหัสบดีย้ายด้วย จะยิ่งดีครับ ปีหน้าดีครับผมคงจบคำพยากรณ์เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 10เรียนอาจารย์การเวก(กรวิก) ขอบตุณครับ ที่อาจารย์ให้ความกระจ่างและให้คำแนะนำ ผมจะลองติดต่อดูนะครับ และขอสอบถามเพิ่มเติม ในดวง จันทร์เป็นเกษตร ในภพปัตนิ ถึงจะเป็นกาลี ก็น่าจะไม่เสียหายมากมาย แต่ทำไมอาจารย์ถึงแนะนำให้แยกกันทำละครับ
ความคิดเห็นที่ 11ตอบ คุณนักเรียนใหม่จริง ๆ แล้วลัคนาของคนเราถ้าลัคนาอยู่ราศีมังกร แล้วดาวเสาร์สลับเรือนกับดาวจันทร์ ดวงลักษณะนี้ใคร ๆ ดูก็ต้องว่าต้องเลิกกัน แต่ความเป็นจริงอยู่กันนานและก็สร้างฐานะได้แข็งแกร่ง ทีนี้มาดูในดวงนี้จันทร์เป็นกาลี (ตำแหน่งเกษตรด้วย) ดาวจันทร์ที่จริงก็เป็นคนนิ่ม อ่อนหวาน ใครว่าอะไรก็ว่าตามกัน เฮไปทางไหนก็เฮไปด้วยกัน แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างก็ไม่ค่อยจะแสดงออก แต่คราวนี้ดาวจันทร์ดวงนี้เป็นกาลีทางทักษา แถมมีดาวราหูแอบเล็งอยู่อีกต่างหาก ในตำราชาติเวร จันทร์กับราหูก็ไม่ถูกกัน จันทร์กับเสาร์ก็ไม่ถูกกัน แต่เสาร์กับราหูเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นเมื่อเจ้าชะตาจะทำอะไรคู่ครองก็จะคอยบ่น หรือแสดงความเห็นต่าง ๆ นา ๆ ที่ตรงกันข้ามกับเจ้าชะตาอยู่บ่อย ๆ และมักจะสร้างปัญหาไม่ค่อยจะลงรอยกันอยู่สม่ำเสมอ ดังนั้นทั้งสองคนควรจะต่างคนต่างทำอาชีพที่ตนเองถนัด ไม่สมควรจะดำเนินอาชีพเดียวกันสักเท่าใดนัก และขณะนี้เสาร์จรเป็นประมาทับจันทร์ด้วยทั้งสองคนคงจะมีปัญหาสนุกดีพิลึกผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 13ตอบ คุณ mildyปีนี้ต่อจนถึงปีหน้า ดวงเรื่องการงานคงเป็นเช่นนี้ ทน ๆ ไปหน่อยนะครับ ถือว่างานนี้เป็นงานรอง งานหลักคืองานประกันภัยและประกันชีวิต ส่วนเรื่องคู่ครองที่ว่าต้องเข้าใจผิดกันโดยเนื้อแท้ตัวคุณเองคงต้องปรับปรุงเรื่องของความเป็นคนเจ้าอารมณ์ลง ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกเรื่อง เกิดจากตัวของคุณ และอีกประเด็นหนึ่งคนที่ดาวเสาร์เล็งลัคนามักจะทุกข์ร้อนเรื่องของความรักเปรียบเช่นไฟสุมขอน ตามพื้นดวงคุณหากจะมีคู่ครองก็ควรมีอายุต่างกันประมาณสัก 7 ปีขึ้นไปถึงจะดี และเมื่อตกร่องปล่องชิ้นกันก็ไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน ควรจะห่าง ๆ กันไว้คล้าย ๆ กับว่า เมื่อคิดถึงกันค่อยเจอกัน หากอยู่ด้วยกันทุกวันก็ต้องจากกันไปไม่จากเป็นก็จากตาย ดวงจะเป็นเช่นนี้ วิธีแก้ไขผมก็ได้กล่าวไว้แล้วสุดท้ายนี้ผมขอให้คุณใจเย็น ๆ การทำงานต้องค่อยเป็นค่อยไป ความรักต้องรักด้วยสติอย่าได้รักด้วยความลุ่มหลง สวัสดี
ความคิดเห็นที่ 14เรียน คุณการเวกขอบคุณมาก ๆ ค่ะสำหรับคำแนะนำ
ความคิดเห็นที่ 15ขอบคุณอาจารย์การเวก(กรวิก) นะครับที่ให้ความกระจ่าง
ความคิดเห็นที่ 16เรียน อ.การเวก ที่เคารพครับขอเรียนถามอาจารย์นิดนึงครับ เรื่องดาวคู่สมพล ตำราไหนๆ มักจะกล่าวถึงดาวคู่นี้อย่างสั้นๆ เพียงแค่ว่า "ทำให้มีกำลังมากขึ้น" การออกคำพยากรณ์ดาวคู่สมพลก็คล้ายๆ กับคู่ธาตุใช่ไหมครับ หรือว่าเป็นคนละอย่างกันเลยผมเคยเห็นดวงชะตาดวงหนึ่ง เจ้าชะตาเกิดวันพุธที่ 10 ธันวาคม 2529 เวลา 18.33 น. กรุงเทพฯดวงนี้ผมคิดว่าน่าสนใจเพราะมีดาวคู่สมพลกุมกันถึง 3 คู่ ได้แก่พุธ(ตนุ,พันธุ)กุมเสาร์(มรณะ)อังคาร(อริ,ลาภะ)กุมพฤหัส(ปัตนิ,กัมมะ)จันทร์(กดุมภะ)กุมราหู(ศุภะ)ขอรบกวนอาจารย์ช่วยสอนวิธีการอ่านดาวคู่สมพล โดยใช้ดวงชะตาที่ผมยกตัวอย่างมาครับ ขอบพระคุณมากครับ
ความคิดเห็นที่ 17เรียน อาจารย์การเวก ที่เคารพค่ะดิฉัน เกิดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2514 เวลา 3.00 น พอดี เกิดที่โรงพยาบาลค่ะ อยากทราบว่า ปีนี้จะได้แต่งงานหรือเปล่าค่ะ และจะมีลูกหรือเปล่า เพราะว่าอายุมากแล้ว และคู่ครองจะดีไหมค่ะ เมื่อปลายปี 47 ดิฉัน อยากแต่งงานก็ให้เขาไปซื้อบ้านประมูล เขาไม่ยอมซื้อสุดท้ายก็ตามใจดิฉัน จนต้องไปฟ้องขับไล่ขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะตัวดิฉันเองที่ไม่ยอมเชื่อ และชอบตัดสินใจอะไรผิดพลาดเคยอ่านหนังสือบอกว่าลัคนาอยู่ราศีกันย์จะแต่งงานช้า บางคนก็ไม่แต่งจริงหรือเปล่าค่ะ ตอนนี้กลุ่มใจมากค่ะ ช่วยด้วยนะค่ะขอบคุณอาจารย์ล่วงหน้านะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18ตอบ คุณนกกระจิบที่คุณนกกระจิบ ถามมา คู่สมพล คือคู่แห่งการรวมพลัง คู่แห่งความชำนาญการ รวมพลังเพื่อความสำเร็จ เพื่อความยิ่งใหญ่ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่อย่างหนึ่ง คือ หากดาวดวงใดดวงหนึ่งเสีย ดาวดวงที่เป็นคู่สมพลจะไม่ให้ความช่วยเหลือ ไม่เหมือนดาวคู่มิตร คู่ธาตุ เรื่องนี้ต้องจำไว้ให้ดีครับ มิใช่เห็นเป็นดาวคู่สมพลกันแล้วนึกว่าจะช่วงเหลือกัน เปล่าเลย ตัวใครตัวมัน เรื่องของการอ่านดาวตามพื้นดวงที่คุณให้มา ตัวคุณนกกระจิบลองจับดาวกระทบกันเช่น พุธ เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร (ตามทักษาธาตุอะไร ภูมิอะไร) เมื่อมาสมพลกับดาวเสาร์ (เสาร์ดาวธาตุอะไร ทางทักษาคืออะไร) ดาวทั้งสองดวงมาอยู่ในภพอริทั้งคู่ (พุธไม่มีตำแหน่งมาตรฐาน เสาร์เป็นราชาโชค ส่วนท่านที่เล่นจุลจักร์ก็แล้วแต่จะใช้) ตรงนี้ประเด็นที่หนึ่ง อีกหนึ่งคู่คือ ดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี และคู่สุดท้ายคือดาวจันทร์กับดาวราหู ถ้าจะอธิบายความหมายรวมคงแสดงถึงว่า เจ้าชะตาจะมีอุปสรรค (ในเรื่องของการพูดจาที่เอาแต่อารมณ์ของตนเอง คือมักจะแสดงออกทางความคิด โดยที่บางครั้งก็เสี่ยงต่อความเสียหาย เสี่ยงต่อตำแหน่งทางหน้าที่ที่ทำอยู่ แม้จะรู้ว่าจะมีปัญหาดังกล่าวก็ยังมุ่งที่จะทำ) และกว่าจะผ่านอุปสรรคนั้นได้ต้องเหนื่อยพอสมควร (อังคารเป็นกาลี ตรงนี้ผมให้ความหมายถึงเหนื่อย พฤหัสบดีคือการร่วมกลุ่ม การลงทุน การงานที่ทำ ทางทักษาเป็นเดช) ต้องลงมือกระทำด้วยตนเอง และต้องทำตามกฎเกณฑ์ด้วย จึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีแก้ไขด้วยการเป็นหนี้เป็นสิน คือ***้เงินเขามาเพื่อใช้ให้ผ่านวิกฤตินั้น ๆ หรือได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ (จันทร์เป็นเจ้าเรือนภพกดุมภะ ราหูเป็นศรี จันทร์คือมนตรี ราหูเป็นเจ้าเรือนภพศุภะ)ความหมายต่าง ๆ ผมให้ไปแล้ว ทีนี้คุณนกกระจิบลองจับดาว จับภพ กระทบกันดูครับ
ความคิดเห็นที่ 19ตอบ คุณหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณหนึ่ง เป็นสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรี เพราะเห็นโพสต์ไปหลายกระทู้ใช้ครับซะส่วนใหญ่ ตามพื้นดวงคุณลัคนาอยู่ราศีกันย์ แถมมีดาวมฤตยูกุมลัคนาอยู่ด้วย แสดงถึงความเป็นคนจู้จี้จุกจิก เจ้าอารมณ์ เวลาจะมีคู่ควรจะตรวจดูดวงชะตาของคู่ครองให้ดีด้วย คล้าย ๆ กับว่าหากคู่ครองดวงชะตาไม่แข็งจะทานคุณไม่ไหว ส่วนเรื่องของการมีบุตร ในภพปุตตะมีดาวอยู่ก็มีละครับเรื่องบุตรนะ ไม่ต้องวิตกไปหรอกครับ สำหรับปีนี้คุณอายุ 34 ย่าง 35 ส่วนใหญ่ปัญหาจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่อยู่อาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่ควรจะปรับปรุงคือเรื่องของความจุกจิก เจ้าอารมณ์
ความคิดเห็นที่ 20ขอบคุณค่ะ จริงค่ะตอนนี้มีปัญหาเรื่องที่อยู่จริงๆ แล้วเมื่อไรจะสบายค่ะ และไม่ทราบว่าจะได้แต่งงานหรือเปล่าค่ะ ดิฉันเป็นผู้หญิงทำงานเกี่ยวกับตัวเลขค่ะ ชอบเป็นไมเกรนบ่อยๆ และไม่ได้โพสหลายกระทู้ เห็นคุณการเวกยังไม่ตอบ จึงโพสไปอีกท่านหนึ่งรวม 2 กระทู้ค่ะ และก็เขียนเหมือนกันเพราะว่า copy ไปแต่ตอนนี้จะโพสแค่ท่านเดียวเพราะว่ามีคำตอบแล้วและเมื่อไรจะรวยค่ะ จะมีเงินมากหรือเปล่า แล้วบุตรจะดีหรือเปล่าค่ะ อย่าพึงรำคาญนะค่ะอยากทราบจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 21เรียนคุณการเวกครับสิ่งที่ผมถามอาจมีคนถามมาแล้ว แต่ผมขอถามดังนี้นะครับ 1. พุธเก้า ที่ว่าร้อนนิรันดร์นั้น เป็นอย่างไร อ่านหนังสือของอาจารย์ดุสิต ท่านก็ไม่ได้บอกอะไรมาก2. ดาวราหูเล็งลัคนา จะเป็นอย่างไรบ้าง ผมลัคนากรกฏ ราหูเป็นมหาจักรอยู่มังกร ตนุลัคน์ (จันทร์)ไปอยู่มีน ล่าราหู3.ดาวคู่ธาตุในราศีมีคุณและโทษอย่างไรบ้าง และถ้าดาวคู่ธาตุ เช่น ดาวคู่ธาตุลมไปอยู่ในราศีที่เป็นศัตรูคือราศีธาตุดิน จะมีโทษอย่างไรขอถามแค่นี้นะครับ
ความคิดเห็นที่ 22ตอบ คุณหนึ่งดูจากพื้นดวงชะตา ช่วงนี้ตัวคุณเองจะมีความรู้สึกว่าอยากจะมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที เนื่องมาจากดาวราหูจรในปัจจุบันเล็งลัคนาอยู่ ประมาณปลายปีนี้ดาวราหูก็จะย้ายแล้ว ลองดูนะครับ ลองเอาดวงแฟนกับดวงคุณเองไปให้นักพยากรณ์ที่วางฤกษ์เก่ง ๆ วางฤกษ์ให้ดู ส่วนที่ถามว่าจะมีบุตรไหม มีครับ แต่บุตรจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับว่าบุตรจะเกิดวัน และเวลาใด ซึ่งส่วนใหญ่นักพยากรณ์จะไม่พยากรณ์ให้จนกว่าบุตรของผู้ถามจะอายุเต็ม 18 ปี บริบูรณ์ สำหรับคำถามว่าจะรวยหรือสบายเมื่อไร ตามพื้นดวงชะตาตัวคุณเองมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ มีเงินเมื่อไร คนอื่นต้องรู้กันหมด แล้วก็มีเงินเมื่อไรก็จะมีปัญหาตามมาเมื่อนั้น ตรงนี้ต้องปรับปรุงตัว มีเงินแล้วเงียบ ๆ อย่าได้โพนทนาให้ใครเขารู้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตอบ คุณเพิ่งเข้ามาคำถามที่ถามมาตอบได้ดังนี้1. พุธเป็นเก้า ไม่ใช่ว่าร้อนนิรันด์ (ศุกร์ต่างหาก ที่ร้อนนิรันดร์) อันพุธเป็นเก้านี้ ภพที่เก้าเป็นภพศุภะ ซึ่งหมายถึงความสำเร็จ เมื่อพุธเป็นเก้าจะมีความหมายถึง ชื่อเสียง หรือตำแหน่ง ที่เป็นเพียงนามธรรม จับต้องไม่ได้ เพียงแต่มีตำแหน่งแต่ไม่มีเงิน เช่น เป็นนายกสมาคมตระ***ล........ หรือเป็นนายกสโมสร............ เมื่อเป็นนามธรรมก็จะมีแต่ต้องยกมือไหว้คนเพื่อขอเงินมาบริจาค เงินที่ได้เข้ากองทุน กองกลาง มิใช่เงินของตนเอง (ในกรณีนี้ต้องเป็นคนเกิดวันพุธ และดาวพุธเป็นเก้าต่อลัคนา ซึ่งเรียกว่า พินทุบาท)2. ดาวราหูเล็งลัคนา ก็เข้าเกณฑ์ ภินทุบาทย์ (สะกดคนละอย่างกับ พินทุบาท) ดาวราหูเล็งลัคก็จะหมายถึงความมัวเมาลุ่มหลง แต่ว่าจะลุ่มหลงอย่างไรก็ต้องดูว่าดาวราหูเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ทางภูมิทักษาคืออะไร ก็นำความหมายนั้นมาเป็นส่วนขยายในภพปัตนิ สำหรับดวงคุณดาวราหูเป็นเจ้าเรือนภพมรณะ และมาอยู่ในเรือนเสาร์ด้วยเป็นเรือนคู่มิตรใหญ่ของตนเอง ราหูมีตำแหน่งมหาจักร กอร์ปกับจันทร์เป็นสิบเอ็ดกับราหู เข้าเกณฑ์ราหูล่าจันทร์ด้วย แสดงถึงมักจะทุกข์ร้อนอาลัยอาวรณ์เกี่ยวกับเรื่องของความรัก คล้าย ๆ กับว่าอกหักทีไรก็จะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ฝังใจอยู่กับเรื่องของความรักที่ผ่านมา สรุปอีกทีคือ จะเสียหายหรือเสื่อมเสียกับเรื่องของความรักอย่างคาดคิดไม่ถึง (ทันทีทันใด เพราะราหูเป็นมหาจักร)3. ดาวคู่ธาตุในราศีมีคุณและโทษอย่างไร ก็ต้องดูว่าดาวคู่ดังกล่าวเป็นดาวเจ้าเรือนภพอะไร ภูมิอะไร ถ้าเป็นเจ้าเรือนภพ อริ มรณะ วินาศน์ ภูมิกาลี ก็จะมีโทษ นอกนั้นก็จะเป็นคุณ แต่จะดูเพียงผ่าน ๆ ไม่ได้ ต้องดูว่าอยู่ในเกณฑ์อะไร มีดาวอะไรเล็งอยู่บ้าง อยู่ในราศีธาตุอะไร เป็นคู่มิตร คู่ธาตุ หรือคู่ศัตรู หรือคู่สมพล ส่วนที่ถามมาว่าดาวคู่ธาตุลมไปอยู่ในราศีธาตุดิน จะมีโทษอย่างไร ตรงนี้ต้องบอกว่า "คำว่าโทษ" บางครั้งก็เป็นคุณ เพราะคู่ธาตุลมนั้นทำอะไรก็รวดเร็ว หวือหวา ทันทีทันใด พอมาอยู่ในราศีธาตุดิน ก็จะชลอความรวดเร็ว ความหวือหวา ความทันทีทันใดลง จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเจ้าเรือนภพอะไร เป็นภูมิอะไรทางทักษา ดังที่กล่าวไว้เบื้องต้นคำอธิบายที่กล่าวไว้ข้างต้น ผมหวังว่าคงช่วยให้คุณได้กระจ่างในคำถามที่ถามมาไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 23ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 24ขอบคุณมากครับ ให้ความกระจ่างมากเลย คราวหน้าผมขอรบกวนจะนำคำถามที่ไม่เข้าใจมาถามอีกนะครับ
ความคิดเห็นที่ 25เรียน อ.การเวกพี่ชายของผม เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 2501 เวลา 1.50 น. กรุงเทพฯ ดวงนี้ผมวิเคราะห์แล้วได้ปทุมเกณฑ์ มีดาวพฤหัสเป็นสี่กับลัคนาที่ราศีตุลย์ (ลัคนาราศีกรกฎ) มี 1, 4, 6, 8, อยู่รวมกันในราศีกันย์ ผมว่าดวงนี้เจ้าชะตาจะต้องมีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเองแน่นอน แต่ความจริงแล้วพี่เขายังจะต้องเช่าบ้านอยู่และย้ายบ่อยมาก ปัจจุบันทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชนครับ แต่เป็นคนฉลาดเป็นคนตรง พูดจาตรงๆ และรายได้ก็น้อยด้วย ทั้งๆที่ ภพลาภะ มีดาวอังคารเป็นราชาโชค และปุตตะมีดาว 7 เป็นราชาโชคเช่นกัน รบกวนอ.ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยนะครับผมเพิ่งหัดดูโดยอ่านหนังสือเอง บางครั้งก็ไปอ่านที่หอสมุดแห่งชาติด้วยและผมเก็บดวงมีเยอะมากแต่วิเคราะห์ไม่ค่อยจะออกนะครับ ถ้าอาจารย์มีหนังสือแนะนำจะเป็นพระคุณอย่างมากเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 26ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียมจริง ๆ แล้ว ผมอยากจะให้คุณเด็ก ป. เตรียม ได้มีครูที่คอยชี้แนะจะดีกว่า เพื่อจะได้ก้าวได้ต่อ สำหรับหนังสือที่มีอยู่ทั่ว ๆ ไปก็เป็นหนังสือที่เหมือน ๆ กันซะเป็นส่วนใหญ่ จะซื้อสักกี่อาจารย์ก็ซ้ำ ๆ กัน มีต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อย ถ้าจะให้แนะก็คงจะหาไม่ค่อยจะได้แล้วละครับ เท่าที่ผมเดินดูตามแผงหนังสือก็ไม่ค่อยมีแล้ว ว่ากันถึงดวงพี่ชายคุณเถอะตามที่คุณถามมาคงชี้แนะเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้1. ในคำโคลงที่ว่า "จันทร์เป็นสิบเอ็ดแท้แก่ลัคน์ พฤหัสสี่ทรงศักดิ์แช่มช้อย ศุกร์สามดั่งนี้จักรเจริญยิ่งยศแฮ หากว่าชาติต่ำต้อย ยกให้เสมอพงศ์" ตรงนี้ถ้าดูผิวเผินก็น่าจะใช่ แต่ในหนังสือของท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ ท่านได้ชี้แจงไว้ว่า (เท่าที่ผมจำได้) พฤหัสบดีต้องเป็นสี่แก่จันทร์ ถึงจะเข้าเกณฑ์ปทุมเกณฑ์ (หากคุณได้อ่านจากหนังสือในห้องสมุดแล้วคงจะเจอคำอธิบายเช่นนี้) ตรงนี้เรามาว่าถึงดาวพฤหัสบดีกันก่อน (อย่าเพิ่งเอาปทุมเกณฑ์มาเกี่ยวข้อง) ผมคงจบเพียงเท่านี้ก่อนแล้วจะเข้ามาอธิบายเพิ่มเติมให้
ความคิดเห็นที่ 27ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียม (ต่อ)ต้องขออภัยด้วยเผอิญมีธุระ จึงต้องค้างคำตอบไว้ส่วนหนึ่ง มาว่ากันต่อดีกว่าครับ1. (ต่อ) ดาวพฤหัสฯ ที่ว่าได้องค์เกณฑ์ตามที่คุณถามไว้ เรามาดูดาวพฤหัสฯ ก่อนว่าเป็นเจ้าเรือนอะไร ดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนอริและศุภะ ทางทักษาเป็นเดช พฤหัสฯมาอยู่เรือนพันธุ เจ้าเรือนพันธุไปอยู่เรือนสหัสชะ (ศุกร์เจ้าเรือนพันธุและลาภะ ส่วนพุธก็เป็นเจ้าเรือนสหัสชะกับวินาศ มีตำแหน่งเกษตรอีกด้วย ศุกร์ทางทักษาเป็นอุตสาหะ ตำแหน่งนิจจ์ พุธเป็นอายุ คือความเป็นอยู่ เมื่อเจ้าเรือนพันธุ (ศุกร์) มาอยู่เรือนสหัสชะ แสดงถึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จะเปลี่ยนแปลงเมื่อไรก็เมื่อมีปัญหา (คือ พฤหัสบดี 5 เจ้าเรือนภพอริกับศุภะ คือเมื่อมีปัญหากับความสุขหรือความเป็นอยู่ที่หากไม่สบายไม่ว่าจะเป็นด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาด้านการเดินทาง หรือปัญหาด้านกับผู้อยู่ร่วมบ้านเช่าเดียวกัน ผู้อยู่ร่วมชุมชนเดียวกัน แต่ความเป็นองค์เกณฑ์ของพฤหัสดีได้คุ้มตัวเจ้าชะตาว่าถึงแม้จะย้ายบ่อยก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก) เราจะเห็นราหูเจ้าเรือนภพมรณะของเจ้าชะตา แต่เป็นภพลาภะของโลกด้วย ราหูเป็นมูลละทางทักษา มาอยู่เรือนพุธคู่ศัตรู และเป็นเจ้าเรือนอริกับสหัสชะของโลกด้วย อยู่ร่วมกับศุกร์ที่เป็นนิจจ์ ศุกร์จึงโดนดาวราหูเบียนได้ แม้จะว่าศุกร์กับพุธ เป็นคู่อสีติธาตุแต่อยู่ธาตุดิน มิได้ขัดแย้ง ส่วนดาวอังคารที่เป็นราชาโชคนั้นเป็นเจ้าเรือนภพปุตตะ กับ กัมมะ แสดงถึงว่าเจ้าชะตามีงานที่ต้องย้ายอยู่เป็นช่วง ๆ (เพราะดาวอังคารเป็นประ ราชาโชค เรียกได้ว่าพอจะทำงานได้อยู่ตัวก็ต้องย้ายเสียแล้วอะไรทำนองนั้น และเป็นเช่นนี้เสมอ ๆ ) ยังมีดาวอีกคู่หนึ่งที่แสดงถึงการอยู่ไม่เป็นที่คือ ดาวจันทร์ (เจ้าเรือนภพตนุของเจ้าชะตา เจ้าเรือนภพพันธุของโลก) กับดาวเสาร์เจ้าเรือนภพปัตตนิของเจ้าชะตา เป็นเจ้าเรือนกัมมะของโลกตำแหน่งราชาโชค จันทร์มาอยู่เรือนกัมมะของเจ้าชะตา เสาร์มาอยู่เรือนปุตตะของเจ้าชะตาจันทร์เป็นกาลี เสาร์เป็นเดช แสดงถึงการงานของเจ้าชะตาในเรื่องของตำแหน่งหน้าที่การงานมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ และการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งรวดเร็วแบบเจ้าตัวก็ไม่คาดคิด แต่ถ้าจะถามว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นดีไหม ดีต่อตัวเจ้าชะตา คือเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งก็ได้ตำแหน่งและหน้าที่ดีขึ้นการเรียนวิชาโหราศาสตร์แม้จะอ่านเองและเข้าใจ แต่ก็ควรจะมีครูคอยชี้แนะแนวทางให้เดินไปในทางที่ถูก หากไม่มีการชี้แนะการเข้าใจก็จะเดินหลงทางเข้ารกเข้าพง หลงป่าไปเรื่อย ๆ เมื่อเดินหลงป่าแล้วก็จะหาทางออกไม่เจอ และเมื่อนั้นก็จะไม่ค่อยจะยอมรับวิชาของคนอื่น จะเอาแต่ของตนเอง ถ้าจะให้ชี้แนะก็ลองเปิดกระทู้ของท่านอาจารย์วรกุลฯ ซึ่งท่านได้กรุณาเขียนบทความไว้มากพอสมควร เปิดกระทู้อ่านแล้ว print เก็บไว้อ่าน ค่อย ๆ อ่านแล้วคุณจะเข้าใจในหลักวิชาดีขึ้น สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 28ด้วยความเคารพครับเรื่องดวงของพี่ชายของผม ผมก็ทาย คล้ายๆ อาจารย์นะครับ และเห็นว่าในดวงมี ดาว 5 อยู่พันธุ ดูยังไงก็ยังเป็นคุณ และเรื่องเปลี่ยนงาน มีเปลี่ยนแบบไม่คาดคิดจริงๆ แต่ไม่ได้ดีกว่าเดิมครับ แย่กว่าเดิม คือ สามครั้งสุดท้ายนะครับ อยู่โรงแรมเงินเดือนรวม 40,000 บาท ออกมาอยู่บจ.มือถือ เงินเดือน 35,000 บาท และสุดท้ายถูกประเมินผลงานเพราะต้องการลดคน จึงมาเป็นครูเดือนละ 8,000 บาท ไปสอบครูของกทม.ก็ติดสำรองไว้ 1 ปี จึงเป็นปัญหาของผมในการศึกษาด้วยว่าทำไมจึงไม่เหมือนตำราผมอยากจะหาอาจารย์เพื่อศีกษาเหมือนกัน แต่ไม่ทราบจะหาที่ไหน และช่วงที่สมาคมเปิดสอนก็เป็นช่วงหน้างานของผมพอดีด้วย ผมทำงานอิสระครับ ส่วนผมเกิดวันที่ 24 เมษายน 2514 แต่เวลา ที่บ้านบอกว่าไม่แน่ใจ ว่าเป็นตอนประมาณตี 5 กว่าๆ หรือว่าตอน เกือบ 11.00 แน่ เกิดที่บ้าน ไม่ทราบว่าพอจะศึกษาโหราศาสตร์ได้หรือไม่ (เพื่อเป็นความรู้ ไม่ได้เป็นอาชีพ เคยอ่านมีบ้างกระทู้เกิดวันคล้ายๆผมด้วย)
ความคิดเห็นที่ 29ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียมเรื่องดวงพี่ชายคุณ คงต้องขออภัยด้วยที่ผมใช้ความหมายผิดไป เงินที่ได้น้อยลงก็เพราะ ศุกร์เป็นนิจจ์ อังคารเป็นประราชาโชค เงินทองที่ได้ก็น้อยลงตามที่คุณกล่าวมา ส่วนดาวพฤหัสบดีที่ว่าเป็นคุณนั้นหมายถึงว่า แม้ว่าจะมีปัญหากับผู้ใหญ่แต่ตัวพี่ชายคุณก็ไม่ถึงขั้นถูกไล่ออกหรือออกมาแล้วไม่มีงานทำ ตรงนี้จึงว่าเป็นคุณ การเป็นคุณไม่จำเป็นต้องหมายถึงเป็นคุณแบบใหญ่โต ขึ้นอยู่กับพื้นดาวว่าเป็นเช่นไรสำหรับดวงของคุณเอง ถ้าเกิดตอนตีห้ากว่า ๆ ก็เป็นวันศุกร์ ลัคนาจะอยู่ราศีเมษ แต่ถ้าเกิดตอน 11.00 น. ลัคนาก็จะอยู่ในราศีกรกฎ ไม่ว่าลัคนาจะอยู่ในราศีไหน พื้นดวงคุณก็สามารถศึกษาวิชาโหราศาสตร์ได้ครับการศึกษาวิชาโหราศาสตร์อย่าใจร้อน ค่อย ๆ ศึกษาแบบเข้าใจ อย่าศึกษาแบบท่องจำแต่ไม่เข้าใจ ผมคงกล่าวได้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 30ขอบพระคุณมากครับอาจารย์มีคำแนะนำที่ดีผมคงไปหาที่ไหนไม่ได้อีก ตอนนี้ผมหัดดูดวงและเก็บสถิติจากเพื่อนๆ และลูกค้าที่สนิทกันซึ่งมีจำนวนมาก มีหลายดวงที่ไม่ตรงกับตำราแต่ไม่กล้าถามอาจารย์มาก บางดวง ลัคนาได้ตำแหน่งดี มีดาวศุภเคราะห์ทำมุมดีดาวอริมรณะไปอยู่วินาสน์ น่าจะเป็นคนแข็งแรง แต่กลับเป็นโรคภูมิแพ้เกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้งมีคนส่งโรงพยาบาลทันตอนนี้ผมมีดวงพุธเป็นเก้ากับลัคนาอยู่ 7 ดวง ไม่รวมตัวผมแต่เป็นดวงที่เกิดวันพุธแค่คนเดียว 5 คนเป็นเซลล์ อีก 2 คนรับราชการ ทั้งหมดนี้ตอนเดินทางอยู่เป็นประจำ มีเรื่องให้เดินทางตลอด โดยเฉพาะที่รับราชการตอนนี้ไปอยู่นราธิวาสและปัตตานี (ถูกย้ายไปช่วยราชการ ไม่มีกำหนด)อยากถามอาจารย์ว่านอกจากจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมีชื่อเสียงแต่ไม่มีเงินแล้วเนี่ย จะมีเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางหรือเปล่าครับ ผมพยายามเก็บสถิติไว้ศึกษาครับ
ความคิดเห็นที่ 31ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียมจริง ๆ แล้วความเข้าใจในวิชาโหราศาสตร์ไทยหลาย ๆ ท่านอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนพอสมควร ดังเช่นที่คุณกล่าวว่า ดาวอริ, ดาวมรณะไปอยู่วินาศน์ คน ๆ นั้นน่าจะเป็นคนแข็งแรง แต่กลับเป็นโรคภูมิแพ้เกือบเอาชีวิตไม่รอด การเข้าใจเช่นนี้สมัยก่อนใหม่ ๆ ที่ผมเริ่มเรียนก็เข้าใจเช่นคุณว่า ดาวเจ้าเรือนอริ กับ ดาวเจ้าเรือนมรณะ ไปอยู่ในเรือนวินาศน์ ชีวิตคน ๆ นั้นค่อนข้างจะสบายไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ไม่มีอุปสรรคในชีวิต แต่พอได้อาจารย์ชี้แนะที่ดีก็เลยได้ถึงบางอ้อ ในตำราวิชาโหราศาสตร์ไทย หรือในการสอนของอาจารย์บางท่านก็จะกล่าวว่าเมื่ออริและมรณะไปอยู่ในภพวินาศน์ คน ๆ นั้นโชคดี ไม่มีอุปสรรคและปัญหาสุขภาพ ซึ่งอันที่จริงแล้วต้องดูความสัมพันธ์ของดวงดาว ตำแหน่งดาว ภพที่อยู่ว่าอยู่ในภพธาตุอะไร เป็น คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพลหรือคู่ศัตรู มีดาวอะไรร่วมเรือนกันบ้าง ตำแหน่งทางทักษามีความหมายถึงอะไร แล้วค่อยมาประมวลความหมายต่าง ๆ ที่มีอยู่ จึงสามารถสรุปได้ว่า ดาวเจ้าเรือนอริ ดาวเจ้าเรือนมรณะ มาอยู่ภพวินาศน์นั้นจะเป็นผลดีหรือผลร้ายต่อเจ้าชะตาส่วนเรื่องดาวพุธเป็นเก้าต่อลัคนานั้น คุณคงต้องเข้าใจในความหมายเสียใหม่ เรื่องนี้มาจากคำโคลงที่เกี่ยวกับ พินทุบาทย์ มีใจความว่า "รวิ ภุมมะ และโสรา ปัจจะแก่ลัคนา พุธเก้า จันทร์และชีวาเป็นแปด ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้าว่าร้อน นิรันดร์"ความหมายของพินทุบาทย์ในโคลงกลอนนี้มีข้อจำกัดอยู่ว่า จะเกิดเมื่อเจ้าชะตามีวันเกิดตรงตามคำโคลงเช่น เกิดวันอาทิตย์ ดาวอาทิตย์อยู่ในภพที่ห้าคือภพปุตตะ เกิดวันพุธ ดาวพุธเป็นเก้าต่อลัคนาคือภพศุภะ เป็นต้น ส่วนจะเกิดเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ต้องดูว่าดาวที่กล่าวถึงเป็นภพอะไรของเจ้าชะตา เป็นภูมิทางทักษาอะไรของเจ้าชะตา มีตำแหน่งดาวมาตรฐานอย่างไร มีดาวร่วมอะไรบ้าง เป็นต้นผมหวังว่าคำอธิบายคงทำให้คุณกระจ่างบ้างไม่มากก็น้อย สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 32เรียนอาจารย์ครับที่ผมถามเช่นนั้นเพราะเห็นว่าภพที่เก้านั้นนอกจากหมายถึงชื่อเสียงแล้วก็หมายถึงการเดินทางไกลด้วย(ซึ่งต้องดูว่าดาวเดิมเป็นเจ้าเรือนใด) ส่วนที่บอกว่าต้องเกิดวันนั้นหรือวันไหน บ้างตำราก็ไม่ได้อ้าง บางตำราก็อ้าง และอาจารย์วรกุล ก็บอกว่า (ผมคัดลอกมาให้อ่านครับ)4 ) เมื่ออ่านพินทุบาทว์ (หรือ องคเกณฑ์) เช่น เสาร์ เป็นเจ็ดแก่ลัคนา (หรือ เล็งลัคนา ไม่ใช่อ่านเรือนปัตนิ) แสดงว่าพินทุบาทว์ เป็นมุมของลัคนาใช่ไหม ลัคนาเป็นเรื่องของนิสัยใจคอ ความเป็นอยู่ และอารมณ์ แสดงว่าตัวเจ้าชะตามีนิสัยของเสาร์มาร่วมด้วย เขาจึงว่าเป็นพินทุบาทว์ เพราะเจ้าชะตามักเป็นทุกข์อยู่เสมอ พลอยทำให้จู้จี้จุกจิก ประสาทๆ เลือกมาก ทำอะไรช้า พินทูบาทว์แปลว่า จุดเสีย จุดอ่อน นั่นแหละ จะเสียมาก หรือเสียน้อยค่อยดูดาวอื่นที่มาประกอบ ส่วน เรื่องดาวในภพ12 เป็นคนละเรื่องกัน ไม่เกี่ยวกับพินทุบาทว์ รวมทั้งบางตำราที่ว่า เกิดวันนั้น วันนี้ เป็นหรือไม่เป็นพินทุบาทว์ ก็ไม่เกี่ยวกับพินทุบาทว์อีกเหมือนกัน เหมือนกับบอกว่าคนหูหนวก จะต้องเป็นใบ้ด้วยนั้น ไม่เป็นความจริง เอามาโยงให้มั่วเปล่าๆ
ความคิดเห็นที่ 33เรียนอาจารย์รบกวนช่วยกรุณาทำนายอนาคตให้หน่อยค่ะเกิด 16 ธันวาคม 2508 เวลา 23.40 น
ความคิดเห็นที่ 34ตอบ คุณ เด็ก ป.เตรียมตามที่คุณเด็ก ป.เตรียม กล่าวมาเกี่ยวกับข้อความของท่านอาจารย์วรกุล นั้น ต้องแยกเป็นสองข้อความคือ1. เรื่องเสาร์เล็งลัคน์ ท่านอาจารย์วรกุลฯ ท่านได้อธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมเสาร์เล็งลัคน์ จึงเป็นพินทุบาทย์ และเป็นพินทุบาทย์เพราะอะไร รวมทั้งต้องดูอะไรประกอบด้วย2. เรื่องพินทุบาทย์ที่เกี่ยวกับ ดาวอาทิตย์ เสาร์ อังคาร จันทร์ พฤหัสบดีฯ และมีกฎเกณฑ์ที่ว่าต้องเกิดวันเดียวกับดาวที่เป็นพินทุบาทย์ด้วยจึงจะเข้าเกณฑ์นี้ ที่จริงท่านอาจารย์วรกุลท่านก็อธิบายได้ถูกต้องแล้ว ตรงนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ผู้แต่งตำรา (ปัจจุบัน) ได้กล่าวไว้ในหนังสือที่ตนเองแต่งเอาไว้ แต่ไม่ได้อธิบายของที่มาที่ไป ผมเองครั้งแรกก็เข้าใจตามที่แต่ง แต่เมื่อได้ดูสถิติที่เคยพยากรณ์ไป แม้จะไม่เกิดวันนั้นเหตุการณ์ก็จะเกิดแก่เจ้าชะตาบ้าง แต่หากเกิดวันเดียวกับดาวก็จะเกิดมากหน่อย เขาจึงเรียกว่าดวงร้าว คือแม้ดาวจะมีตำแหน่งดี แม้ดาวจะดูเหมือนดี แต่ก็มีเสียตามเกณฑ์3.ส่วนเรื่องดาวในภพที่ 12 คือดาวอะไรที่มาอยู่ในภพที่ 12 -ภพวินาศน์ ดาวนั้นก็ต้องถูกความหมายดังกล่าวทำลาย ตรงนี้ยังคงเป็นความเข้าใจผิดของนักศึกษาใหม่หลาย ๆ ท่าน ที่เห็นภพวินาศน์แล้วก็จะพยากรณ์ว่าดาวใดมาอยู่ในภพนี้ก็วินาสน์ ที่ท่านอาจารย์วรกุลฯ เขียนไว้ท่านได้เตือนสติให้ดูให้ถ่องแท้เสียก่อนว่าดาวมาอยู่ในภพวินาศน์มาจากไหน มีความสัมพันธ์กันอย่างไร แล้วค่อยพยากรณ์ มิใช่ว่าเห็นวินาศน์แล้วก็กระโจนใส่เลยว่าไม่ดี เสียหาย4.ปัจจุบันนี้เราจะเห็นนักพยากรณ์บางท่านพยากรณ์ได้อย่างรวดเร็ว ทันทีทันใด โดยพยากรณ์ในมุมกว้าง ซึ่งก็จะตรงอย่างน้อย 40-50% เหมือนกับที่ท่านอาจารย์วรกุลฯ ได้กล่าวไว้ในกระทู้ของท่าน ผมก็เห็นด้วย เพราะกว่าเราจะทายดวงเราเองยังต้องคิดแล้วคิดอีก ทำไมเขาเหล่านั้นถึงพยากรณ์กันเร็วจัง ตรงนี้ก็เป็นข้อคิดอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้นักพยากรณ์ใหม่ ๆ เข้าใจกันผิดๆ ว่า เมื่อเรียนแล้วสามารถพยากรณ์แบบนั้นได้ จึงหันมาเรียนกันเป็นคุ้งเป็นแคว โดยยึดกระแสร์ตามที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันมันเป็นธุรกิจไปแล้ว ตรงนี้จึงทำให้นักพยากรณ์หลาย ๆ ท่านอึดอัดกันถ้วนทั่ว เพราะผู้ที่มาเรียนต้องการเก่งแบบผู้สอน แต่ผู้สอนมิได้บอกให้ผู้มาเรียนทราบว่าการเรียนวิชานี้เป็นเช่นไร ใช้ระยะเวลามายาวนานเท่าใด ผมจึงอยากจะเตือนผู้ที่เรียนตามกระแสร์โดยยอมเสียเงินเสียทองเรียน ซึ่งคิดว่าค่าเรียนแพงเท่าใดก็เรียนได้เร็วเท่านั้น ขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่า เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ วิชาโหราศาสตร์ไทยเราเรียนยังไงก็ไม่รู้จบคำกล่าวของผมคงเตือนสตินักพยากรณ์รุ่นใหม่ที่เมื่อเรียนเบื้องต้นแล้ว ก็ยอมเสียเงินเสียทองแบบสืบเรียนเพื่อต้องการเคล็ดวิชาที่ครูโหรได้ซ่อนเอาไว้ ตรงนี้ต้องขอบอกไว้ให้เลยครับว่าหนังสือที่ควรซื้อไว้อ่านเวลาท่านได้เข้าใจในโหราศาสตร์ไทยดีแล้วคือ 1. เคล็ดลับการพยากรณ์ เขียนโดย ท่านอาจารย์มหาบรรเทาฯ 2. ขุมทรัพย์โหร เขียนโดย ท่านอาจารย์ ศ.ดุสิต 3. โหรกรุงพาราณสี(เล่มสีชมภู) เรียบเรียงโดย ท่านอาจารย์ชัยเมศฯซื้อเพียง 3 เล่มนี้ไว้ศึกษาเพิ่มเติมเมื่อท่านได้เข้าใจในโหราศาสตร์เบื้องต้นดีพอแล้วตอบ คุณตุ่มคงต้องเรียนคุณตุ่ม ว่า โพสต์ถามท่านอาจารย์ศุภกรฯ จะดีกว่าครับ
ความคิดเห็นที่ 35เรียนอาจารย์ครับที่อาจารย์กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ดี ผมเพิ่งหัดเรียนโหราศาสตร์ได้ไม่เท่าไร และยังศึกษาเองอีกต่างหาก ตำราที่อาจารย์กล่าวมาผมได้ซื้อหามาทั้งหมดแล้ว และตั้งใจว่าจะไปทำสังฆทานให้ท่านอาจารย์เหล่านี้ด้วย (โดยเฉพาะอาจารย์มหาบรรเทา) แต่ที่ผมได้สอบถามอาจารย์ก็เพราะว่าผมก็ได้เก็บสถิติไว้เหมือนกัน และตั้งใจว่าจะเก็บอีกต่อไป ผมไม่ได้เรียนเพื่อไปหากำไรแต่อย่างใด ผมอ่านหนังสือมามากบ้างตำราก็ขัดแย้งกัน บางตำราก็ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งหมดก็ไม่ถูก 100% อย่างเก่งก็ 60 % เท่านั้น เพราะว่ามันพิสูจน์ไม่ได้เหมือนวิทยาศาสตร์ ผมจึงเรียนถามอาจารย์เพื่อเก็บสถิติและประดับความรู้
ความคิดเห็นที่ 37ตอบ คุณ เด็ก ป.เตรียมเรื่องการพิสูจน์เกี่ยวกับเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาเท่าที่ผมมีสถิติไว้อยู่ การพยากรณ์ตามเกณฑ์ดังกล่าวส่วนใหญ่ประมาณ 90% เป็นไปตามเกณฑ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูส่วนอื่นประกอบด้วย เมื่อดูครบแล้วออกคำพยากรณ์ก็จะตรงตามเกณฑ์ที่ว่า
ความคิดเห็นที่ 36เรียนถามอาจารย์ครับการผูกดวงแบบลาหิรี กับ แบบสุริยยาตร์ ต่างกันอย่างไร และวิดูเหมือนกันหรือเปล่าครับ ส่วนใหญ่ลองผูกดวงแล้วดาวพุธมักจะอยู่ไม่ตรงกัน ในแต่ละแบบ
ความคิดเห็นที่ 38เรียนคุณการเวกผมอ่านกระทู้มาทั้งหมดเนี่ย ตกลงไม่ต้องเกิดวันที่กำหนดไว้ในคำโคลงก็ได้ใช่ไหม และทำไมทีแรกต้องให้คุณเด็ก ป. เตรียมทำความเข้าใจใหม่ด้วยละครับ เห็นคุณยอดธงก็บอกว่าไม่เกี่ยวว่าต้องเกิดวันไหน และที่คุณดูถูกต้องถึง 90% เนี่ย จริงๆหรือเปล่า ขนาดอาจารย์บรรเทา ยังบอกไว้ในหนังสือว่าความเม่นยำประมาณ 60-70% เท่านั้นเอง และเฉพาะในปี 38 ยิ่งดูไม่ถูกเลยเพราะว่ามีดาวหางฮัลเลย์ ถ้าเม่นขนาดนี้น่าจะเขียนหนังสือขายนะ รับรองรวยแน่ๆ
ความคิดเห็นที่ 40สวัสดีค่ะอาจารย์สบายดีหรือเปล่าไม่ได้คุยกันเลยรบกวนถ้าว่างกรุณาโทรมาคุยกันบ้างก็ดีนะติดต่ออาจารย์ไม่ค่อยได้เลยสวัสดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 39สวัสดีค่ะอาจารย์สบายดีหรือเปล่าไม่ได้คุยกันเลยรบกวนถ้าว่างกรุณาโทรมาคุยกันบ้างก็ดีนะติดต่ออาจารย์ไม่ค่อยได้เลยสวัสดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 41ตอบ คุณ เพิ่งเข้ามาต้องขออภัยด้วยที่ตอบช้าไปหน่อย ตอบช้าก็ดีกว่าไม่ตอบจริงไหมครับ ว่ากันถึงเรื่องที่คุณถามมาดีกว่า 1. การผูกดวงลากหิรีรู้สึกจะใช้สมผุสดาวอาทิตย์เวลา 07.00 นาฬิกา ส่วนการผูกดวงแบบสุริยยาตร์จะใช้สมผุสดาวอาทิตย์เวลา 06.00 นาฬิกาถามว่าต่างกันหรือไม่ก็ต่างกันพอสมควร ขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนกับอาจารย์ที่ใช้แนวทางใด เพราะปัจจุบันจะมีการสอนเหมือนกัน แต่วิธีการต่างกันเท่านั้น 2. การพยากรณ์เหมือนกันครับ ไม่แตกต่างกันเท่าไร จะต่างกันก็เพียงดวงดาวบางดวงเท่านั้น เช่น ดาวอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวพุธ และดาวศุกร์ตอบ คุณแวะเข้ามาอ่านตามที่คุณแวะเข้ามาอ่านได้ทักท้วงไว้ ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่จริงแล้วหากเกณฑ์พินทุบาทย์ ถ้าเจ้าชะตาเกิดในวันที่ตรงกับเกณฑ์เหตุการณ์ก็จะเกิดขึ้นเป็นไปตามเกณฑ์ 100% แต่ถ้าเกิดไม่ตรงกับวันที่ระบุไว้เป็นเกณฑ์เหตุการณ์ก็จะเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตามสถิติที่ผมเก็บไว้ก็เป็นเช่นนั้น ที่จริงแล้วในขณะที่ผมเรียนใหม่ ๆ ก็ถือกฎเกณฑ์ตามที่ระบูไว้ พอนานเข้าก็สามารถเก็บสถิติและก็ทบทวนดูว่าเป็นเช่นไร ซึ่งก็เป็นไปตามที่แจ้งให้ทราบตอบ คุณเพื่อนเก่าเผอิญไม่ค่อยสบายเท่าไรครับ เลยหายไปสองสามวัน ขณะนี้เป็นปกติดี แต่ก็ยังไม่ถึง 100% ขอบคุณครับที่เป็นห่วง
ความคิดเห็นที่ 42เรียน อ.กรวิกผมขอเรียนถามกรณี เกิดวันพุธ อังคารเป็นกาลีเดิม ไปอยู่สหัชชะราศีพฤกษ(ราชาโชค)ซึ่งเป็นกดุมภะ และมรณะของเกษตรลัคนา และเป็นเจ้าเรือนกดุมภะและศุภะของลักคณา(มีน)และมี5(เดช)ตนุลักคนาและเจ้าเรือนกัมมะ ซึ่งไปอยู่ศุภะ(เป็นมหาจักร)เล็ง 3 ซึ่งเป็นคู่สมพลกัน จะอ่านว่าอย่างไรครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ และมีธาตุสัมพันธ์กันอาย่างไรครับขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 43ตอบ คุณชัย คำถามเป็นคำถามที่ดีครับ สำหรับเรื่องคำตอบที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางธาตุผมเองอยากจะให้คุณชัยฯ โพสต์ถามกับท่านอาจารย์วรกุลฯ จะดีกว่า ท่านจะตอบได้กระจ่างและให้ความรู้ได้ดีกว่าผมครับ ต้องขออภัยจริง ๆ ไม่ค่อยจะชำนาญในการตอบแนวทางเรื่องของธาตุครับ
ความคิดเห็นที่ 44เรียนคุณการเวกช่วงที่ผ่านมาผมไม่ค่อยว่างจึงไม่ได้แวะมาทักทาย และซักถาม ผมมีปัญหาจะเรียนถามคุณการเวกดังนี้ครับ1. ทำไมหมอดูส่วนใหญ่เห็นดาวพุธ เป็นนิจหรือเป็นประ จะชอบดูว่า คนคนนั้นเป็นคนเข้าใจอะไรยาก เรียนไม่ประสบความสำเร็จ บางตำราก็บอกว่าพูดติดอ่าง ถ้าอย่างนั้นคนที่เกิดช่วงเดือนเมษา ส่วนใหญ่ก็เป็นนะซิครับ เพราะว่าดาวพุธอยู่ราศีมีน แต่ที่เห็นๆ บางคนก็จบกันสูงๆ2. ถ้าลัคนาอยู่ราศีกรกฎ และ มีดาว 3 กับดาว 8 อยู่ที่ภพปัตนิ และเป็นเดชกับมนตรี จะมีผลดีในเรื่องใดบ้างครับ เพราะว่า อังคารก็เป็นมหาอุจจ์และ ราหูก็เป็นมหาจักร (ราหูบัณฑิต) เพราะว่าเห็นว่าคู่ธาตุดวงนี้เป็นดาวบาปเคราะห์และก็เบียนชะตาด้วยจึงอยากทราบเรื่องดีๆ บ้างนะครับ3.ทำไมอาจารย์ยอดธง บอกว่าดาวคู่ธาตุไม่ได้ดีทั้งหมด จะมีดีก็แค่ 2 กับ 5 เท่านั้น ส่วนคู่อื่นนะให้ทายทางร้ายได้เลย โดยเฉพาะ ดาว 1 กับ 7 ที่เป็นคู่ไฟ (อาจารย์ยอดธงบอกว่าจากสถิติการดูผิดพลาดเป็นส่วนใหญ่)4.ต่อเนื่องจาก 3 ในการทายดาวจรของดาวคู่ธาตุ ถ้าเราใช้ระบบทักษาคู่ธาตุเข้ามาพยากรณ์ จะเห็นได้ว่าพอตัวนึงเป็นศรีอีกตัวหนึ่งก็จะเป็นกาลกิณี อย่างนี้จะทายอย่างไร สมมติ ว่าถ้ายกตามข้อ 2 ลัคนาอยู่กรกฏ 3,8 อยู่มังกร ทักษาจร 8เป็นศรี และ 3 เป็นกาลกิณี จรมาทับ 3 กับ 8 พร้อมๆ กัน ครับผมมีเรื่องสงสัยมากเลยครับ ว่าจะค่อยๆถามคุณการเวก ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะครับส่วนเรื่องการเมืองผมคาดว่าถ้าแบ่งผลประโยชน์ลงตัวเมื่อไรก็คงสงบกันเอง
ความคิดเห็นที่ 45ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียมคำถามของคุณค่อนข้างจะตอบยากสักหน่อย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนมาทางสายใด อย่างที่ผมเรียนมาทางสายของท่านอาจารย์หมอเถาวัลย์ การแปลความหมายของภพของดาว ถ้าภพดี ดาวดี ทักษาดี ความหมายจะไปในทางที่ดี ถึงแม้จะเป็นดาวบาปพระเคราะห์ก็ตาม เพียงแต่ว่าการให้คุณก็จะให้คุณไปในแนวทางตื่นเต้นแบบดาวบาปพระเคราะห์ หรือเวลาให้โทษก็จะร้ายในแนวทางของดาวบาปพระเคราะห์ ว่ากันถึงคำถามที่คุณถามมากันดีกว่า คงตอบตามความเข้าใจของผมนะครับ (ซึ่งมิได้ตั้งตัวเป็นอาจารย์กำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพียงแต่ตอบตามการวิเคราะห์ในแนวทางที่อาจารย์ได้สอนสั่งกันมา)1. เรื่องของดาวพุธ ที่เป็นประ เป็นนิจจ์ แล้วอาจารย์หลาย ๆ ท่านมักจะกล่าวว่าพูดติดอ่าง ตรงนี้ต้องมีดาวเบียนอยู่ด้วยในช่วงเวลาเกิด อาจจะเป็นดาวเสาร์เบียน หรือ ดาวเกตุเบียน เป็นต้น ส่วนเรื่องของการศึกษาขึ้นอยู่กับความเข้าใจของอาจารย์แต่ละสาย ถ้าจะกล่าวก็ยาวพอสมควร ผมคงยกตัวอย่างให้ฟังก็แล้วกัน เช่น คนเราถ้าดาวพฤหัสเสีย (เป็นนิจจ์ เป็นประ) มักจะกล่าวว่าการศึกษาค่อนข้างน้อย หรือถ้าจะเรียนสูงก็จะจบยากหน่อย หรือใช้เวลานาน แต่ถ้าหากมีดาวอาทิตย์เป็นเกษตร อุจจ์ หรือดาวพุธ เป็นเกษตร อุจจ์ มหาจักร ตรงนี้ตามตำราของโหรกรุงพาราณสี ท่านจะกล่าวไว้ว่าเป็นผู้มีความรู้ เรียนจบอย่างน้อยก็ปริญญาตรีทีเดียว แต่ถ้าหากดาวพุธเสียด้วย การศึกษาก็ค่อนข้างจะกระท่อนกระแท่น เผลอ ๆ เรียนไม่จบเลยสักอย่าง บางทีอาจจะอวดรู้ด้วยซ้ำไป (ถ้าดาวพฤหัสบดีอยู่ราศีเมถุน) ดังนั้นเมื่อดาวพุธเสียเป็นประ เป็นนิจจ์ ควรจะหมายถึงความคิดความอ่านอาจจะไม่ค่อยยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นต้น2. เรื่องของดาวอังคารกับดาวราหู คู่ธาตุลม เมื่อมาอยู่ในราศีธาติดิน เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนลมพัดก็จะมีภูเขามาขวางกั้นบ้าง ให้ความรวดเร็วเป็นไปอย่างช้าบ้างเล็กน้อย ตรงนี้ต้องดูด้วยว่าดาวเสาร์ไปอยู่ที่ใด มีตำแหน่งดีหรือไม่ ถ้าดีก็จะดีตาม ถ้าเสีย ก็ทอนลงบ้าง แต่อย่างว่าละครับตรงนี้ดาวราหูเล็งลัคนาก็จะมีปัญหาเรื่องความรักคือลุ่มหลง มัวเมา เวลาลุ่มหลงก็รวดเร็ว เวลาผิดหวังก็รวดเร็ว ให้ใช้ภพประกอบคำพยากรณ์แล้วใช้ทักษาเข้าเสริม3.จันทร์กับพฤหัสบดีก็ไม่ดีเสมอไป ถ้าอยู่ในราศีกรกฎกับราศีมังกร มักจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่มิใช่สิ่งของ จะเป็นอะไรก็ให้ดูว่าเป็นเจ้าเรือนภพอะไร ในเรื่องของดาวคู่ธาตุนั้นต้องไปอ่านเรื่องของตำนานชาติเวรครับ ในตำนานชาติเวร 12 เรื่อง จะมีอธิบายเอาไว้ ลอง ๆ ไปแกะ ๆ ดู ช๊อตโน๊ตออกมาทีละเรื่องแล้วคุณจะเข้าใจครับ4. ในเรื่องการทายจร เมื่อใช้ทักษาคู่ธาตุประกอบคำพยากรณ์ ในปีจรทักษาเป็นอะไรการพยากรณ์ก็ใช้เป็นหลัก โดยมีทักษาเดิมประกอบด้วย ตรงนี้คุณค่อย ๆ ลองใช้ดู เมื่อใช้ไปนาน ๆ หรือมีความชำนาญเพิ่มขึ้นคุณก็จะทราบว่าสิ่งที่คุณใช้มีประโยชน์มาก และจะใช้ได้ดีเลยทีเดียว ใหม่ ๆ ก็จะติด ๆ ขัด ๆ พอสมควร (ผมเอาใจช่วยครับ ค่อย ๆ ใช้ดู)คำตอบทุกคำตอบ เป็นคำตอบที่เป็นประสบการณ์ของผมเอง ทั้งที่ผ่านมา หรือจากครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนเอาไว้ หากเป็นคุณประโยชน์แก่ผู้เข้ามาศึกษาผมเองยินดีที่จะเฉลยให้ฟัง เว้นแต่ว่าที่รับปากอาจารย์ผู้สอนมาเท่านั้นที่จะไม่เปิดเผยให้ทราบ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 46ขอบคุณครับผมมีคำถามอีกหนึ่งคำถาม คือ1. กล่าวกันว่าถ้าดาวอาทิตย์กุมดาวดวงใดในลักษณะองศาที่ใกล้เคียงกัน ดาวดวงนั้นจะดับ ทำให้ดาวดวงนั้นเสื่อมกำลังลง ถ้าดาว 1 กุมดาว 7 ในราศีตุล ซึ่ง ดาว 1 เป็นนิจ และดาว 7 เป็นอุจจ์ ไม่ทราบว่าดาว 7 จะคงความเป็นอุจจ์อยู่หรือถูกดาว 1 เป็นนิจทำให้เสื่อมกำลังลง2.เนื่องจากข้อ 1. กล่าวกันว่าดาวศุกร์ เป็น 3 จากอาทิตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในภพที่ 3 หรือ 11 จากดาวอาทิตย์ ดาวศุกร์จะมีแสงสว่างที่สุด (เนื่องจากห่างกันได้ไม่เกิน 3 ราศี) ดังนั้น จึงอยากทราบว่า ถ้าดาว 1 อยู่ในราศีพิจิก และดาว 6 อยู่ในราศีกันย์ซึ่งเป็นนิจ จะทำให้ดาว 6 สว่างกว่าเดิม หรือยังคงความเป็นนิจอยู่เหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 47ต่อจากความเห็นที่ 47 ขอคิดต่อยอดด้วยคนนะครับ ถือโอกาสศึกษาไปด้วย1./ ในข้อหนึ่งนี้ มีข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า น่าจะพิจาณาองค์ประกอบว่า ดาวศุกร์ที่เป็นเจ้าเรือนราศีตุลย์ ว่าอยู่ในสถานะใด เป็นเกษตร เป็นประด้วยหรือปล่าว ในความเห็นส่วนตัวผม เพิ่มเติมประเด็นที่ศุกร์ซึ่งเป็นเจ้าเรือนของราศีตุลย์เป็นหลัก2./ในความเข้าใจ ผมคิดว่า ดาว 6 สว่างหรือเพ็ญ ไม่น่าเกี่ยวกับความเป็นประหรือนิจ หรือหมายถึงดูมาดูแยกเรื่องกัน คือ นิจย่อมเป็นนิจ ส่วนจะมีส่วนดีที่เป็น ศุกร์เพ็ญก็ส่วนของความสว่างถือโอกาสตามคำถาม เพื่อการศึกษาด้วยคนนะครับ3./ ข้อสงสัยว่าถ้าเกิดวันศุกร์ ลัคนาราศีเมษ อังคารเป็นเกษตรเจ้าเรือนกุมลัคน์ร่วมกับ ราหูซึ่งตามทักษาเป็นกาลกิณี ให้ผลอย่างไรครับขอบพระคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 48ตอบ คุณเด็ก ป.เตรียมตามคำถามที่ถามมาคงตอบได้ดังนี้ (ตอบตามที่ผมเรียนมาและมีประสบการณ์นะครับ มิได้แต่งเป็นตำราของตนเองเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน)1. ตามตำราที่ผมเรียนมา ดาวที่มีตำแหน่งอุจจ์และเกษตร เมื่ออยู่ร่วมกับดาวที่เป็นนิจจ์ เป็นประ ความเป็นนิจจ์เป็นประไม่สามารถทำลายดาวที่มีตำแหน่งเกษตรและอุจจ์ได้ ตรงนี้เป็นกรณีหนึ่ง ในกฎเกณฑ์ของโหราศาสตร์ ดาวใดก็ตามที่อยู่ร่วมกับดาวอาทิตย์หรืออยู่ตรงข้ามกับดาวอาทิตย์ หากมีองศาใกล้เคียงหรือเท่ากับดาวอาทิตย์ดาวนั้นจะดับ เหมือนเช่นจันทร์เพ็ญ กับจันทร์อมาวสี ในกรณีที่ดาวอาทิตย์อยู่ร่วมกับดาวเสาร์ราศีตุลย์ อาทิตย์เป็นนิจจ์ ดาวเสาร์เป็นอุจจ์ หากดาวทั้งสองอยู่ร่วมกันโดด ๆ โดยไม่มีดาวดวงอื่นมาแจมด้วย ก็เข้าเกณฑ์ที่ว่า คู่มิตรเทียบเท่าราชาโชค คู่ธาตุเทียบเท่ากับอุจจ์ แถมยังมีกฎต่อไปอีกว่าถ้าอยู่ในราศีธาตุของตนเอง ดังเช่นตัวอย่างคืออาทิตย์กับเสาร์ ดาวอาทิตย์ก็ไม่ต้องรับความเป็นนิจจ์ หรือเป็นประไปก่อนดังนี้เป็นต้น และดาวทั้งสองอยู่ในราศีธาตุลมซึ่งเป็นราศีธาตุที่ส่งเสริมก็จะเป็นคุณแก่ดาวทั้งสองได้ แต่ก็ต้องตามไปดูดาวศุกร์ดัวยว่าไปอยู่ในราศีใด มีตำแหน่งมาตรฐานใดหรือไม่ ตามที่คุณจีระนันท์ได้ให้ความเห็นเอาไว้ในข้อ 1 ความเห็นที่ 48 ประเด็นต่อไปก็คือเรื่องของธาตุของราศีที่ขัดเกลาธาตุของดาวตรงนี้ก็ต้องนำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากคุณเด็กป.เตรียม ต้องการเข้าใจเพิ่มขึ้นคงต้องไปเปิดกระทู้ของท่านอาจารย์วรกุลฯ ในกระทู้เก่า ๆ ดู ท่านได้อธิบายอย่างละเอียดพอสมควร นับเป็นคุณูประการแก่นักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยที่ได้เข้ามาอ่าน2. เรื่องของดาวศุกร์อยู่หน้าดวงอาทิตย์ หรืออยู่หลังดวงอาทิตย์ ซึ่งเปรียบเสมือนคนเราที่ยืนอยู่หน้ารถในตอนกลางคืน เมื่อเปิดไฟหน้าส่องมาถึงตัวเราตัวเราก็สว่างมองเห็นหน้าตา สีสันของเสื้อ อาภรณ์เครื่องประดับต่าง ๆ แต่ถ้าเราไปยืนอยู่หลังรถ ก็จะไม่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมา เปรียบเสมือนกับดาวศุกร์ที่อยู่หน้าดวงอาทิตย์ กับดาวศุกร์ที่อยู่หลังดวงอาทิตย์ หรือในตอนเช้ามืดหากคุณออกจากบ้านในช่วงเวลาประมาณ 05.00-05.30 คุณจะเห็นดวงดาวสว่างไสวอยู่ดวงหนึ่งนั่นแหละคือดาวศุกร์ ตามความเข้าใจของคุณจีระนันท์ในความเห็นที่สอง เรื่องศุกร์ดับกับศุกร์เพ็ญก็มีผลต่อความเป็นประเป็นนิจจ์ของดาวศุกร์เหมือนกันและมิใช่มีผลเฉพาะความเป็นประเป็นนิจจ์เท่านั้น ยังมีผลต่อดวงดาว มีผลต่อกำลังของดวงดาวด้วยไม่ว่าดวงดาวจะอยู่ในราศีใดก็ตาม อย่างเช่นที่คุณเด็กป.เตรียมถามเมื่อศุกร์อยู่หลังอาทิตย์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันตอบคุณจีระนันท์คงตอบคำถามของคุณเพียงข้อเดียวคือข้อ 3. คนเกิดวันศุกร์ ดาวอังคารเป็นศรี ดาวราหูเป็นกาลี ราหูเป็นเจ้าเรือนลาภะซึ่งจะหมายถึงรายได้ อังคารเป็นเจ้าเรือนตนุและเป็นศรี จึงมีความหมายถึงว่าเงินทองรายได้ที่เจ้าชะตาจะได้รับมานั้นต้องพึ่งพาหรือหามาได้ด้วยตัวของเจ้าชะตาเอง ต้องเหนื่อยก่อนจึงจะประสบความสำเร็จในด้านลาภผลเงินทอง กาลกิณีตัวนี้จึงสมควรจะแปลความหมายว่าเหนื่อยยาก มุมานะ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภะ และต้องทำด้วยตัวเองอีกต่างหาก มิใช่จะมีใครหยิบยื่นมาให้โดยไม่ต้องเหนื่อย เป็นต้นผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สำหรับรายละเอียดที่เกี่ยวกับเรื่องธาตุของดวงดาว และธาตุของราศี ทุก ๆ ท่านสามารถหากอ่านได้ในกระทู้ของท่านอาจารย์วรกุลฯ ครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 49กระทู้นี้เริ่มจะเสริดนานมากขึ้น ผมคงต้องขอตั้งกระทู้ที่ 12 ขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการค้นหา
ความคิดเห็นที่ 51อ.คับ ผมเกิด 26 ก.พ 2528 เวลา14.03 กทมผูกดวงเเล้ว มีเลข2-8 อยุ่ราศี เมษ อยากทราบว่าดาวจันทร์ เป้นมหาจักรรึป่าวคับ มีเลข8 อยู่ด้วยมีความหมายอย่างไรคับ ขอบคุณคับ