ความคิดเห็นที่ 1อาจารย์ครับ ก่อนบวชว่าจะขออนุญาตอาจารย์ดูเป็นการส่วนตัวสักครั้งครับผมมีเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ให้ไว้แล้วตั้งแต่เมื่อปลายปีแต่งานผมทำไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน เวลาว่างจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเป็นการโทรไปรบกวนในเวลาที่เหมาะสมหรือเปล่าถ้าอาจารย์อนุญาตผมรบกวนขอเวลาที่อาจารย์สะดวกด้วยครับขอบพระคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 2ตอบ คุณออย์จากกระทู้ที่ 19 คห.ที่ 33 ที่คุณกล่าวไว้ว่าได้ซื้อหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โตฯไว้เพื่อศึกษา ที่จริงแล้วผมอยากจะให้คุณออย์ฯ เก็บหนังสือของท่านอาจารย์สิงห์โตฯ ไว้ก่อน ถ้าอยากจะเรียนลองไปสมัครเรียนที่ วัดไตรมิตร ท่านอาจารย์เสก ดุสิต (ศ.ดุสิต) ท่านเปิดคอร์สใหม่ สอนตั้งแต่เบสิกในระบบภพ เรือนชะตา เพิ่งจะเปิดสอนไปเมื่อ 10 มี.ค.2550 ยังมีที่เหลือไม่มากนัก ท่านสอน เลข 7 ตัว พิศดาร ตั้งแต่ 08.00 -10.00 และ ต่อด้วยวิชาโหราศาสตร์ไทย ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น ลองไปสมัครเรียนดู ที่ผมอยากให้เรียนกับท่านอาจารย์เสกฯ เนื่องจากท่านเริ่มสอนตั้งแต่เบสิก เริ่มต้นสำหรับทุกคนที่เข้ามาเรียน และจะสอนไปเรื่อย ๆ จนกว่าท่านจะไม่สามารถสอนได้ (อายุท่านปีนี้ก็ปาเข้าไป 80 กว่า ๆ แล้ว) หากพลาดโอกาสนี้แล้วคงไม่มีโอกาสเรียนกับครูโหรที่สามารถสื่อให้นักศึกษาเข้าใจได้ง่าย ๆ รีบ ๆ นะครับ เมื่อมีพื้นฐานที่แน่นพอแล้ว ค่อยมาเปิดตำราของท่านอาจารย์สิงห์โตฯ อ่านก็ไม่สาย สวัสดีครับ (อยากให้เรียนทั้งสองวิชาเลยนะครับ)ตอบ คุณมือใหม่ทักษาโทร. มาตอนช่วง 21.30 น. ไม่เกิน 22.00 น. หากเกินกว่านั้นผมคงนอนหลับฝันดีไปแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 3เรียนอาจารย์ การเวกขณะนี้ดิฉันกำลังศึกษาโหราศาสตร์ไทยจากหนังสือของอาจารย์ ศ ดุสิต เช่นกันคะ ส่วนหนังสือของ อาจารย์ชัยเมศฯ ที่อาจารย์กรุณาแนะนำนั้น ไม่มีที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ยังไม่ได้สอบถามที่ร้านอื่นนะคะ เรื่องชั้นเรียนของอาจารย์ ศ ดุสิต นั้นน่าสนใจมากไม่ทราบว่าเรียนวันธรรมดา หรือ เสาร์ อาทิตย์ คะ วัดไตรมิตรนี่ใช่วัดพระทอง ใกล้หัวลำโพง ใช่ไหมคะขอบพระคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 4ตอบ คุณศิรพรรณก่อนอื่นต้องขออภัยด้วยที่บอกแล้วบอกไม่หมด อาจารย์เศกฯ ท่านเปิดสอนในวันเสาร์ (สำหรับนักศึกษาใหม่) ตั้งแต่เวลา 8.00 -10.00 วิชาเลข 7 ตัวพิศดาร และ 10.00 - 12.00 วิชาโหราศาสตร์ไทย (เบื้องต้น) ใช่ครับวัดไตรมิตร วัดพระทองใกล้หัวลำโพง เพิ่งจะเปิดสอนไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2550 ยังมีที่เหลืออีกนิดหน่อย ถ้าไปสมัครเรียนเสาร์นี้คงต้องไปเช้าหน่อยครับ ประมาณไม่เกิน 7.30 น. (ไปจองที่นั่งเรียนไว้ก่อน) คนเยอะครับ
ความคิดเห็นที่ 5อาจารย์ขา หนูขอปรึกษาเรื่องการเรียนนะคะ หนูเกิดวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2525 ที่กรุงเทพฯ อยากทราบว่าจะมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศไหมคะ จะได้ไปเมื่อไหร่และจะมีผู้สนับสนุนหรือว่าได้ทุนหรือไม่คะ รบกวนอาจารย์นะคะ ร้อนใจมาก
ความคิดเห็นที่ 6อ.การเวก ค่ะ หนูเกิดวันอาทิตย์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๑๘ เวลา ๑๗.๑๒ น. เกิดที่ กทม. ค่ะ หนูอยากจะทราบว่า หนูจะมีงานใหม่ที่ดีๆ ภายในครึ่งปีนี้ ไหม ? เนื่องจากตอนนี้หนูทำงานเป็นพนักงานที่ต้องต่อสัญญาปีต่อปี หนูไม่ทราบว่า ตัวหนูเองจะหาใหม่ที่เป็นงานบริษัทเหมือนทุกวันนี้อีกหรือไม่ในอนาคต ตอนนี้หนูจึงได้เป็นลงเรียนนวดแผนไทยที่วัดโพธิ์ค่ะ เนื่องจากพี่ชายของหนูเปิดกิจการนวดไทยที่เยอรมัน หนูอยากทราบว่า ตัวเองจะมีโอกาสไปทำงานที่เยอรมันไหม หรือว่าจะสามารถหางานใหม่ได้ในเร็ววันนี้ ตอนนี้หนูพยายามหางานทุกวัน ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีงานดีๆ เรียกเลยค่ะ จนรู้สึกท้อแท้ใจมากค่ะส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องคู่ค่ะ เนื่องจากหนูก็อายุมากพอสมควรแล้ว แต่ไม่มีคู่กับเขาซะที อยากทราบว่า หนูจะมีคู่ไหมค่ะ แล้วเป็นคนไทยหรือ ตปท.ขอบคุณอาจารย์มากนะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7เรียน อาจารย์กรวิกสวัสดีคะดิฉันได้ไปสมัครเรียนทั้งสองหลักสูตรแล้วคะ สำหรับวิชาเลขเจ็ดตัวพิศดารนั้น บังเอิญอาจารย์ได้ใช้วันเดือนปีเกิดของดิฉันเป็นตัวอย่างการอ่าน ตามความเห็นส่วนตัวของดิฉันนะคะ พบว่าไม่ถูกต้องแม่นยำเลยจากการอ่านเบื้องต้น อัตตะ ตนุ มรณะแต่ดิฉันไม่ได้โต้แย้งคำทำนายเบื้องต้นของท่านอาจารย์เศก เพียงแต่รับฟังและพิจารณาว่าไม่ตรงกับลักษณะส่วนตัว และหน้าที่การงานของดิฉันเลย ไม่ทราบว่าอาจารย์ใช้วิชาเลขเจ็ดตัวนี้บ้างไหมคะ อย่างไรก็ตามสำหรับวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นอาจารย์ได้สอนจากระดับพื้นฐาน ซึ่งทำให้สามารถเข้าใจได้ดีคะ
ความคิดเห็นที่ 8อ.การเวก คะ ลืมบอกไปค่ะ ชูใจเกิด 10.49 น. ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9ตอบ คุณชูใจ, คุณบีคงต้องรบกวนคุณชูใจ และ คุณบี ช่วยกรุณาโพสต์ถามท่านอาจารย์รวิฯ ครับ ท่านสามารถให้คำตอบได้ดีกว่าผมครับ ต้องขออภัยด้วยนะครับตอบ คุณศิรพรรณยินดีด้วยครับ ที่ได้เข้าเรียนกับท่านอาจารย์เศกฯ วิชาที่ท่านสอนนั้นจะค่อย ๆ สอนตามหลักเบื้องต้น ดังนั้นคำพยากรณ์ของท่านในเลข 7 ตัว จึงเป็นการอธิบายเบื้องต้นคือ ดูแบบเบสิก อ่านตามดาว ยังไม่มีฐาน (คือฐานที่ 4) เหมือน ๆ กับเราเรียนวิชาโหราศาสตร์นะครับ ดู ตนุ+กัมมะ+มรณะ ก็ต้องบอกว่า เจ้าชะตาทำงานในแดนไกล หรือเจ้าชะตาทำงานในต่างถิ่นต่างแดน ยังไม่มีลูกเล่นที่จะมาขยายให้ดู ดังนั้นการสอนของท่านในช่วงเดือนแรกผมเข้าใจว่าท่านจะปูพื้นให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเอาลูกเล่นมาเสริมให้ผู้เรียนได้ดูได้บันทึกเอาไว้ใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า วิธีการพยากรณ์ของท่านในวิชาเลข 7 ตัว เท่าที่ผมฟังจากเพื่อนมาส่วนใหญ่บอกว่าดีมาก ๆ (มิใช่ผมสรรเสริญเยินยอท่านอาจารย์เศกฯ นะครับ เพราะผมได้พิสูจน์จากการพยากรณ์ของเพื่อนด้วย) คุณศิรพรรณฯ ลองดูในพื้นดวงที่ผูกด้วยเลข 7 ตัว ในภพพยายะ หากในภพนี้ บวกกับแถวตรงขึ้นไปคือ พยายะ+ปุตะ+มาตา หากรวมกันได้เท่ากับ 9 จะแสดงถึงว่ามีพรสวรรค์ในการเรียนวิชาโหราศาสตร์ได้ดี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเจ้าชะตาด้วย ในการเรียนวิชาเลข 7 ตัว ยังมีฐานที่ 4 ซึ่งเป็นตัวบวกของทั้งสามฐานเบื้องต้น และยังมีวิธีการดูความสัมพันธ์ของดาว ของเรือน ของตำแหน่งดาว รวมทั้งลูกเล่นต่าง ๆ ของท่านอาจารย์ฯ หากคุณศิรพรรณฯ ได้ซื้อตำราเลข 7 ตัวของท่านเอาไว้ ลองอ่านหนังสือของท่านให้จบภายในสัปดาห์นี้ (อ่านให้จบภายในวันศุกร์) แล้ววันเสาร์ที่ 24 ไปเรียนกับท่านใหม่ แล้วคุณจะรู้ว่าวิชานี้น่าเรียนจริง ๆ สำหรับความรู้ที่ผมมีอยู่ในเรื่องวิชาเลข 7 ตัวนั้น พอมีพื้นอยู่บ้าง แต่ไม่ชำนาญเท่าท่านอาจารย์เศกฯ การเรียนวิชาโหราศาสตร์ไทยก็เช่นนี้ละครับ ใหม่ ๆ อาจจะยังไม่สนุก พอคุณเรียนไปสักพักแล้วจะรู้ว่าสนุกน่าเรียน และยิ่งมีโอกาสเรียนกับท่านอาจารย์เสกฯ ด้วยแล้ว จะสนุกทั้งเลข 7 ตัวพิศดาร และ โหราศาตร์ไทยด้วย ผมคงจบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 10ดาวที่ถูกกุมด้วยดาวที่เป็นกาลกิณีทางทักษา จะถือว่าต้องเสื่อมลงใช่ไหมครับอาจารย์
ความคิดเห็นที่ 11ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12ตอบ คุณ ณภัทรพงศ์เข้าใจถูกต้องส่วนหนึ่งแล้วครับ สำหรับส่วนที่ต้องเข้าใจเพิ่มคือ ต้องพิจารณาดูด้วยว่า เรือนที่ดาวกาลกิณีไปอยู่นั้นเป็นเรือนธาตุของใคร เป็นธาตุอะไร ตรงกับธาตุของตนเองหรือไม่ และดาวที่อยู่ร่วมราศีนั้น ๆ มีมาตรฐานอะไร เช่น เป็นเกษตร อุจจ์ มหาจักร ราชาโชค ปร นิจจ์ อุจจาวิลาศ อุจจาภิมุก เป็นดาวธาตุอะไร เป็นดาวคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพล คู่ศัตรู เรือนที่ไปอยู่นั้นเป็นภพดี หรือเป็นทุสถานภพดาวที่ร่วมราศีด้วยนั้นหากร่วมกับดาวกาลีจะมีกฎเกณฑ์ยกเว้นอะไรบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจะพยากรณ์เบื้องต้นก็คงต้องบอกว่าดาวร่วมราศีนั้น ๆ ถ้าไม่เป็นเกษตรหรืออุจจ์ ก็จะมีผลบ้างไม่มากก็น้อย คำอธิบายคงมีเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 13สวัสดีอาจารย์ การเวก ดิฉันขอเรียนถามข้อสงสัยเกี่ยวกับวันเวลาเกิด และกาลกิณี กุมลัค แถมยังไปอยู่เรือนเส้นศัตรูค่ะ รบกวนอาจารย์ช่วยตอบให้หายข้องใจด้วยนะค่ะกำลังสับสนว่า คนที่เกิดวันจันทร์เวลากลางคืน 02.45 น. แต่ถามบัตรประชาชนเป็นวันอังคาร โดยโหรบางท่านบอกว่า เกิดคืนวันจันทร์พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นก็ยังเป็นวันจันทร์อยู่ แต่บางทานบอกว่า เป็นวันอังคาร ทำให้เกิดความสับสนว่าหากจะตั้งลัคนาแล้วจะอยู่ในราศีอะไร ระหว่างเกิดวันอังคาร ราศีมีน เกิดวันจันทร์ราศีกุมภ์อีกอย่างหนึ่ง หากเกิดวันอังคาร ลัคนาอยู่ราศีมีน มี 2 กุมลัค อยู่เรือนพฤหัส ซึ่งนับตามทักษาแล้ว 2 เป็นกาลากิณีต่อเจ้าชะตาและ 2 ยังไปอยู่ในเรือนพฤหัส ถึงแม้ว่า 2 กับ 5 จะเป็นคู่กัดกันแต่ก็ไม่ถึงกับร้ายมากนัก แต่ 2 เป็นกาลากิณี ในเรือนพฤหัสจะมีผลต่อชะตาชีวิตอย่างไรบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14สวัสดีค่ะ อ.การเวกขอเรียนถามความรู้เพิ่มอีกสักครั้งนะคะ สงสัยการ"กุมกัน"ของดาวค่ะอย่างเช่น 1 กุม 5 ดาวมิตรกันกุมกันดีใช่ไหมคะ อันนี้เข้าใจแต่ถ้าเป็นกรณีแบบว่า ดาว 1 อยู่ในเรือน 5 แบบนี้ ก็ดีด้วยไหมคะระหว่างดูดาวลอยกุมกัน หรือดูดาวลอยๆอยู่ในเรือนดาวมิตร แบบไหน จะให้สิ่งดีงามได้มากกว่ากันคะ?อย่างเช่น(อีกที) ดาว 1 อยู่ในเรือน 5 กับระหว่าง ดาว 1 กุมดาว 5 แต่ดันอยู่ในเรือน 3 อะไรแบบนี้ อันไหนจะดีกว่ากันคะ?ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 15อ.การเวกคะ แอบมาอ่านข้อความของ อ.กับคุณศิรพรรณ>> คุณศิรพรรณฯ ลองดูในพื้นดวงที่ผูกด้วยเลข 7 ตัว ในภพพยายะ หากในภพนี้ บวกกับแถวตรงขึ้นไปคือ พยายะ+ปุตะ+มาตา หากรวมกันได้เท่ากับ 9 จะแสดงถึงว่ามีพรสวรรค์ในการเรียนวิชาโหราศาสตร์ได้ดี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเจ้าชะตาด้วย ดิฉันได้ 9 พอดีเป๊ะเลยค่ะ!!จริงๆมีแถวนี้เท่านั้นที่ต่ำกว่า 10 (มีตำรานึงที่ดูพฐ.ชีวิตอะไรประมาณนี้ว่าถ้ามากกว่า 10 มุมหลังคาบ้านจะครบ แต่มีตัวนี้เท่านั้นที่ได้ต่ำกว่าเกณฑ์ ตอนแรกไม่ค่อยชอบ เพราะอยากให้ชีวิตเฟอร์เฟก 100% แต่มาได้ฟัง อ.แบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกดีแล้วค่ะ)ถึงว่าดิฉันชอบศาสตร์นี้มากๆ พยายามเรียนรู้ทุกๆแขนงเลยค่ะ ^_^
ความคิดเห็นที่ 17เรียนอาจารย์การเวกที่เคารพต่อจากความเห็นที่ 13 (869727) ค่ะ ในกรณีที่เกิดวันอังคาร ลัคนาราศีมีน มี 2 กุมลัค และเป็นกาลากิณี แต่หากเกิดวันจันทร์ตามที่อาจารย์บอก แสดงว่า 2 กุมลัค ก็ไม่ใช่กาลากิณี แต่เป็นหินจันทร์ ซึ่งเป็นจันทร์ดับถูกต้องไหมค่ะ รวบกวนอาจารย์ช่วยตอบปัญหาให้หายข้องใจด้วยค่ะเนื่องจากอาจารย์แต่ละท่านผูกดวงมาไม่เหมือนกันอย่างที่ได้เรียนให้อาจารย์การเวกทราบตั้งแต่ต้นตามบัตรประชาขนระบุว่า เกิดวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2515 เวลา 02.45 น. จ.ระนอง ปีชวด แต่ในความเป็นจริงแล้วเกิดหลังเที่ยงคืนวันจันทร์ คือ เวลา 02.45 น. หรือ วันที่ 5 มิถุนายน 2515 คะ เนื่องจากพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น จึงจัดว่าเป็นคนวันจันทร์อยู่ อย่างนี้แสดงว่า จันทร์ไม่ได้เป็นกาลากิณีใช่ไหมค่ะอาจารย์ ขอบคุณอาจารย์การเวกเป็นอย่างสูงค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18ขอบคุณค่ะ อ.การเวก
ความคิดเห็นที่ 19สวัสดีคะอาจารย์กรวิกดิฉันอ่านหนังสือเลขเจ็ดตัวจบแบบคร่าวๆ แล้ว ส่วนการเรียนกับท่านอาจารย์เศกยังยังไม่ขึ้นหลักที่สี่นะคะโดยส่วนตัวก็ยังมีความสงสัย เนื่องจากมีเพื่อนสมัยเด็กที่เกิดวันเดือนปี เดียวกัน ต่างเวลาฉะนั้นถ้าอ่านโดยวิธีนี้ก็จะทำนายเหมือนกัน ซึ่งจะต่างกับโหราศาสตร์ไทย ที่ลงรายละเอียดถึงสมผุสดาว แต่ก็เข้าใจว่ามีลักษณะร่วมบางส่วนที่ อาจคล้ายคลึงกันบ้าง ปัจจุบันนี้เพื่อนท่านนี้ เป็นทหารไปประจำอยู่ชายแดนภาคใต้นะคะ ต้องทำงานไกลบ้านตาม ตนุ+กัมมะ+มรณะ ตามที่อาจารย์กล่าวในกระทู้ ๙ (อันนี้อ่านอย่างไรคะ ยังไม่เข้าใจ ตนุ(๒)+กัมมะ(๗)+มรณะ(๕) ตอนนี้ยังเอ่านได้แค่ฐานเลขที่เหมือนกันนะคะ) ขอบพระคุณที่อาจารย์กรุณาตอบคำถามและให้คำแนะนำนะคะ
ความคิดเห็นที่ 20ขอเรียนถามเพิ่มเติม จากกระทู้๑๙ ความเห็นที่ 24 (855441) ดังจะมีคำโคลงเกี่ยวกับเรื่องพินทุบาทว์ดังนี้ "รวิ ภุมมะ ทั้งโสรา, ปัจจะแก่ลัคนา พุธเก้า, จันทร์และชีวา เป็นแปด, ศุกร์เจ็ด อาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์" คำโคลงบทนี้ เจ้าชะตาต้องมีวันกำเนิดตรงกับคำโคลง คือ ต้องเกิด วันอาทิตย์ วันอังคาร วันพุธ วันจันทร์ และวันพฤหัสบดีอันนี้หมายความว่าจะเข้าเกณฑ์ต่อเมื่อ ต้องเกิดวันอาทิตย์ แล้วดาวอาทิตย์เป็นห้า เกิดวันพุธแล้วดาวพุธเป็นเก้า เกิดวันอังคารแล้วดาวอังคารเป็นแปด .....เป็นต้น เข้าใจถูกไหมคะ ที่ต้องเป็นดาววันเกิดเท่านั้นทีตกตำแหน่งดังกล่าวข้างต้นในกระทู้ที่ 18 ความเห็นที่ 43 ผมได้ให้บทความเกี่ยวกับพระเคราะห์คู่เอาไว้ (ลองไปเปิดอ่านดูนะครับ) ความหมายของคู่นี้ "ศุกร์ราหู หรือจันทร์กับศุกรา มักเคล้าคู่โจราระวังภัย" และเผอิญราหูเป็นศรี อันนี้ตามไปอ่านแล้วคะ แต่ยังอ่านดวงตัวเองไม่ออกอยู่อีก กรณีนี้ราหูเจ้าเรือนปัตนิตกอริ ที่ราศีมังกรเป็นมหาจักร ตามหลายตำราว่ากว่าจะสมหวังก็คางเหลือง มีอุปสรรค แต่คู่จะเป็นคนมีเกียรติ เป็นต้น เมื่อตามอ่านต่อไปเจ้าเรือนคือดาวเสาร์ไปกุมกับจันทร์จากเรือนวินาศน์อยู่ในภพกัมมะของเจ้าเรือนดาวศุกร์ ซึ่งสลับเรือนกลับมาอยู่กุมอยู่กับราหูอีก มีสลับเรือนกันอีกแล้ว กรณีจะอ่านอย่างไรคะ มันดูวนเวียนอยู่ภพอริกับกัมมะ อย่างไรก็ขอบพระคุณสำหรับคำเตือนนะคะ ปกติเป็นคนไว้ตัวไม่พยายามอยู่ในสภาวะเสี่ยง หรือไปที่อโคจรนะคะ กรณีตาวศุกร์ตกอริมักจะผิดหวังกับรักครั้งแรกตามตำรา และมีอุปสรรคขัดขวางจากครอบครัวก็เจอกับตนเองไปแล้วนะคะ แต่จะให้สรุปว่าจริงก็ยังไม่แน่ใจนัก ความจริงความรักครั้งแรกของคนทั่วไปที่ดาวศุกร์อยู่ตำแหน่งอื่นอาจจะผิดหวังไปมากกว่าครึ่งก็ได้ใช่ไหมคะ ขอบพระคุณคะ
ความคิดเห็นที่ 21ลืมเรียนให้อาจารย์ทราบ ดิฉันได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาที่ต่างประเทศเป็นครั้งคราวจริง ตามที่อาจารย์ทำนายคะ ผลการศึกษาวิจัยก็ค่อนข้างได้ผลดี จนบางครั้งดูว่าเหมือนฟลุ้คจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 22ตอบ คุณศิรพรรณการศึกษาเลข 7 ตัว ส่วนใหญ่ต้องเจออาจารย์ที่มีลูกเล่นแพรวพราว จึงจะสามารถพยากรณ์ได้ลึก ตังที่คุณศิรพรรณฯ ว่าไว้คือ คนเกิด วัน เดือน ปีเดียวกัน แต่ต่างเวลากัน ตรงนี้ผมเข้าใจว่าในวิชาเลข 7 ตัว อาจารย์ที่มีความชำนาญจะมีเคล็ดวิชาเกี่ยวกับการกำหนดว่าคนที่มาขอรับคำพยากรณ์เกิดช่วงเวลาใด กว่าจะถึงเคล็ดหรือเกร็ดวิชาที่ตรงนี้ คงต้องรอท่านอาจารย์เศกฯ ท่านปูพื้นฐานให้เรียบร้อยก่อน แล้วท่านคงจะมีเคล็ด มีเกร็ด ออกมาให้เล่นแบบสนุกสนาน ผมเข้าใจว่าท่านสามารถเขียนนวนิยาย บทความ ให้ชวนอ่าน ชวนติดตาม ดังนั้นหลักการสอนของท่านก็คงจะออกมาในแนวเดียวกับนวนิยายนะครับสำหร้บคำถามเกี่ยวกับโหราศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องพินทุบาท ในย่อหน้าแรกของคำถามที่ 20 ที่คุณศิรพรรณฯ กล่าวไว้ถูกต้องครับ แต่หากคนที่มิได้เกิดตรงวันกับคำโคลง อาจจะมีผลเกี่ยวพันได้ ตรงนี้คงต้องเก็บเป็นสถิติไว้ศึกษาด้วย อาจจะหนักนิดหรือเบาหน่อย ขึ้นอยู่กับดาวที่เกี่ยวพันกันด้วยส่วนคำโคงเรื่องพระเคราะห์คู่ ศุกร์กับราหูนั้น ถ้าจะให้ตรงจริง ๆ ต้องขึ้นอยู่กับคำโคลงตอนท้าย ๆ ถึงจะเป็นไปตามคำโคลงพระเคราะห์คู่ ที่กล่าวเอาไว้ตอนท้ายว่า "พระเคราะห์คู่ที่มีอยู่ดังกล่าวนี้ หากตกที่ปัตตนิวุ่นวายใหญ่ ตกสหัสชะ (กดุมภะ) กัมมะยิ่งเร้าใจ ตลอดวัยทั้งสามตามเวลา เป็นนิจจ์ เป็นประ เป็นกาลี เป็นศรีมนตรีไซร้ว่าไม่ดี ฯลฯ" ตรงนี้ต้องนำมาเป็นส่วนประกอบในการวิเคราะห์คำพยากรณ์ ผมเคยเห็นคน ๆ หนึ่ง ที่มีดาวจันทร์และอังคาร อยู่ในราศีสิงห์ และเคยถามเจ้าของดวงชะตานี้แกก็บอกว่ามิเคยได้เสียกันก่อนแต่ง เพียงแต่คอยดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ห่วงหาอาทรณ์ซึ่งกันและกัน เมื่อหันกลับไปดูตามคำโคลงก็มิได้เป็นไปซึ่งคำโคลงให้ไว้ จึงได้เก็บเอาไว้เป็นสถิติดวงหนึ่ง อนึ่งในพื้นดวงชะตาของคุณที่ราหูและศุกร์อยู่ภพอริ (ราศีมังกร) ส่วนเสาร์และจันทร์อยู่ในราศีพฤษภ (เสาร์เป็นมหาจักร จันทร์เป็นอุจจ ส่วนราหูเป็นมหาจักร) ผมเองยังไม่อยากให้คุณศิรพรรณฯ ยึดคำครูมาพยากรณ์ก่อน อยากให้ดูเหตุดูผลของดวงดาวเสียก่อน ส่วนคำครูให้ยกมาประกอบคำพยากรณ์ร่วมก็ได้ หรือไม่ก็เก็บไว้ในใจเพื่อออกคำพยากรณ์ มาว่ากันถึงดาวปัตตนิราหู ซึ่งเป็นมหาจักรอยู่ในภพอริร่วมกับดาวศุกร์เจ้าเรือนภพกัมมะ แสดงถึงว่าคู่ของคุณจะมีปัญหาเกี่ยวกันอันมีต้นสายปลายเหตุมาจากเรื่องของการงานของคุณหรือการงานของคู่ของคุณ แล้วเจ้าตัวการงานมันเกิดอะไรขึ้น ดูในภพกัมมะจะเห็นจันทร์อยู่ร่วมกับเสาร์ ต่างก็มีตำแหน่งมาตรฐานทั้งคู่ จันทร์เป็นเจ้าเรือนภพวินาศ เสาร์เป็นเจ้าเรือนภพอริซึ่งสลับเรือนกับศุกร์เจ้าเรือนภพกัมมะ จะเห็นว่าต้นสายปลายเหตุที่ความรักมีปัญหานั้นเกิดมาจากตรงนี้ จันทร์กับเสาร์เป็นคู่พลัดพราก เมื่อจันทร์กับเสารต่างก็มีตำแหน่งที่ดี มาอยู่ในเรือนกัมมะ (เป็นภพกดุมภะของโลกด้วย) แสดงว่า การพรัดพรากจากกันนั้นเนื่องมาจากการทำงานเพื่อหาเงินเป็นหลัก โดยจะต้องจากกันเป็นครั้งคราว และไม่สามารถกำหนดเวลาได้ด้วยว่าเป็นช่วงเวลาไหนที่จะต้องจากกัน สาเหตุมาจากจันทร์เป็นเจ้าเรือนภพวินาศน์ (ภพพันธุของโลก) ซึ่งหมายถึงกระทันหัน ทันทีทันใดไม่รู้ตัวมาก่อน และเป็นเพราะตำแหน่งหน้าที่ที่มีความรับผิดชอบในงานนั้น ๆ เป็นตัวประกอบ ถ้าจะถามว่ามันจะเกิดตลอดไปหรือไม่ ต้องตอบว่าเกิดอยู่บ่อยครั้ง เพราะสาเหตุใด เพราะดาวเสาร์กับดาวศุกร์นั้นสลับเรือนกันอยู่ ศุกร์ยังเป็นภพสหัสชะด้วย ดังนั้นอาจจะหมายถึงว่าคืนนี้เดินทาง พรุ่งนี้เย็นกลับ เป็นต้น มาถึงตรงจุดนี้คุณศิรพรรณฯ คงเข้าใจบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 23ขอบพระคุณคะที่กรุณาอธิบายอย่างละเอียด
ความคิดเห็นที่ 24ตอบ คุณเปิ้ลฯก่อนอื่นต้องขออภัยด้วยที่มองข้ามกระทู้ที่ 17 ไป ตามที่คุณเปิ้ลถามมานั้น เมื่อเกิดวันจันทร์แล้ว ตัวกาลกิณีก็คือ ดาวอาทิตย์ ( 1 ) ครับ สำหรับดาวจันทร์ที่อยู่ในราศีมีนเป็นหินจันทร์ มิใช่จันทร์ดับหินจันทร์นี้จะหมายถึงว่าจันทร์ไม่มีกำลัง ไม่ให้คุณ ส่วนจันทร์ดับนั้นดาวจันทร์ต้องอยู่ร่วมราศีเดียวกับดาวอาทิตย์ในองศาที่เท่ากัน หรือห่างกันไม่เกิน 3 องศา 20 ลิบดา หรือว่า ดาวจันทร์เล็งกับดาวอาทิตย์ ในองศาที่เท่ากัน ตรงนี้เรียกว่าจันทร์ดับ หรือจันทร์อมาวสีผมคงจบเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 25เรียน อ.การเวกดิฉันมีข้อสงสัยที่อยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกแล้วค่ะ รบกวนชี้แนะด้วยเกี่ยวกับการดูเกณฑ์ว่าจะได้พบเนื้อคู่หลักๆนี่มีดาวอะไรจรเจออะไรบ้างอีกหรอคะ ที่ดิฉันทราบก็จะมี5 เจอ 55 เจอ 66 เจอ 66 เจอ 5แล้ว 6 เจอ 2 นี่ใช่รึเปล่าคะ (ไม่แน่ใจ)อีกอย่าง เท่าที่ศึกษามาในตำรา เหมือนเค้าบอกว่า 5 เจอ 5 นี่ดีที่สุดใช่ไหม ถ้าเป็นดาว 6 จรมา จะเป็นคู่ที่ไม่ใช่คู่แท้สักเท่าไหร่ เหมือนการหลงใหลชั่วพักชั่วคู่ แบบนี้ใช่ไหมคะขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 27ขอบคุณค่ะ อ.การเวกเรื่องการศึกษาก็จริงอย่างที่อ.ว่าจริงๆค่ะเราทั้งอ่านตำราต่างๆแล้วก็ดูจากตัวเองแล้วมาวิเคราะห์ดูด้วยเรื่องโหราศาสตร์จักรราศีนี่ไม่เชื่อก็อย่าหลบลู่จริงๆค่ะคนไม่เชื่อก็ปล่อยเค้าไป สำหรับเราเชื่ออย่างแรงเลยตอนที่ดาว 5 เราทับลัคน์ ทับปัตนิ มันขายดีจริงๆค่ะไม่ใช่แค่ความรัก เรื่องงานเรื่องเงิน ดีทุกอย่างแต่พอดาวเคลื่อน มันก็ซาๆไปชีวิตคนเราก็มีขึ้นมีลง ตามดวงชะตาท่านว่าไว้นะคะ ^^
ความคิดเห็นที่ 28เรียน อ.การเวกได้ไปศึกษาตำรามาเพิ่ม มีข้อสงสัยบางอย่าง รบกวนเรียนถามเพิ่มเติมอีกนิดนะคะการที่ดาวในดวงชะตาเป็น องค์เกณฑ์(รวมถึงอุดมเกณฑ์ด้วย) หากว่าเป็นประ เป็นนิจ เป็นกาลี ฯลฯ ไม่ดีก็จริง มันก็จะบรรเทาลงใช่ไหมคะ?แล้วดังนั้น หากสมมติว่า ดาวดวงนั้น ได้เป็นองค์เกณฑ์ด้วย แต่ก็เป็นพินทุบาว์ด้วยแบบนี้?ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ตกลงจะเรียกว่าดีหรือเสีย อย่างไรดีคะ?ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 30ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็นที่ 31ขอถามเรื่องการทำนายจรเกี่ยวกับการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งค่ะ ต้องดูดาวอะไร อย่างไรค่ะ
ความคิดเห็นที่ 32ตอบ คุณเจเจเรื่องการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ตรงนี้ต้องดูดาวเจ้าเรือนกัมมะจรในปีที่ต้องการทราบว่าภูมิดาวเป็นศรีหรือไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมอยากจะให้ใช้เกณฑ์ชันษาจร (ของระบบอาจารย์หมอเถาวัลย์) เป็นหลักในการดู จะให้ความแม่นยำสูง สิ่งที่ควรดูประกอบว่าในปีดังกล่าวอาจจะเป็นไปได้ประมาณ 50-80% ให้ดูภูมิเดชจรในปีนั้นด้วย ว่าดาวอะไรที่ตกภูมิจรในปีนั้น ๆ มีความสัมพันธ์กับดาวกัมมะจรในปีนั้น ๆ ด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นการยืนยันในปีจรดังกล่าวก็คือ ตำแหน่งมาตรฐานของดาวจรด้วยซึ่งจะเป็นตัวย้ำถึงความเป็นไปได้ด้วย คำตอบคงมีเพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 33ขอบคุณค่ะ แล้วถ้าจะดูว่าได้โยกย้ายไปทำงานต่างประเทศนานหลายๆปีล่ะคะ ใช้เกณฑ์อะไรคะ
ความคิดเห็นที่ 34สวัสดีค่ะอาจารย์ไม่เข้าใจการทำงานของดาวเสาร์ค่ะ ปกติถ้าดวงกำเนิดเราดีกับดาวเสาร์ เวลาเสาร์ทับลัคน์นั้นจะให้ผลเสียหรือไม่เสียคะ ตามที่เข้าใจถ้าดวงเดิมดีกับเสาร์ เวลาจรทับลัคน์น่าจะไม่มีผลเสียใช่ไหมคะ แต่เวลาไปอ่านตามกระทู้อื่น เขากลับทายเสีย เลยงง ๆ ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 35ตอบ คุณเจเจฯตามที่คุณเจเจฯ ถามมานั้น ผมคิดว่าคุณเจเจฯ คงจะโพสต์เข้าไปถามตามเวปต่าง ๆเพื่อได้คำตอบมาแล้วจดเอาไว้ใช้ในการพยากรณ์หรือดูดวงชะตาให้กับผู้อื่น เรื่องการใช้เกณฑ์อะไรนั้นผมว่าเป็นสิ่งที่บางท่านได้รับการสั่งสอนมาจากอาจารย์ผู้สอน ผมอยากจะให้คุณเจเจฯ ได้ใช้สถิติที่ตนเองได้พบ ได้จดบันทึกไว้ มาเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้จดบันทึกมาว่าตรงหรือไม่ตรงประการใด อันไหนที่ไม่ตรงก็ลบทิ้งไปจากความทรงจำ อันไหนตรงก็จำไว้เป็นแบบอย่างเรื่องเกณฑ์การได้โยกย้ายไปทำงานยังต่างประเทศต้องมีพื้นฐานมาจากดวงเดิมก่อน ว่าดวงเดิมของเจ้าชะตานั้นภพกัมมะเป็นเช่นไร ตัวอย่างเช่น ดวงเดิมเจ้าเรือนภพกัมมะอาจจะสลับเรือนกับภพศุภะ เป็นต้น ตรงนี้จะเป็นส่วนประกอบของดวงจรของเจ้าชะตา ในปีไหนดวงจรเข้ามาต้องเกณฑ์ที่จะได้ไปทำงานยังต่างประเทศคน ๆ นั้นก็จะได้ไป จากตัวอย่างข้างต้นเราจะเห็นว่าหากเจ้าชะตาจะได้ไปทำงานในต่างประเทศ หรือเรียนที่ต่างประเทศ ภพกัมมะกับภพศุภะจะสอดคล้องต้องกัน และสิ่งที่เป็ฯการยืนยันอีกส่วนหนึ่งคือภูมิทางทักษา เพราะในปีที่จะได้ไปนั้นเจ้าเรือนภพศุภะจะเป็นศรีในภูมิทักษา พร้อม ๆ กับเจ้าเรือนกัมมะก็จะเป็นภูมิที่ดีที่เกื้อหนุนกันด้วย ผมเองอยากจะให้คุณเจเจฯ ใช้ระบบการดูเช่นนี้จะดีกว่า เพราะจะเป็นการยืนยันได้แน่นอนกว่าจะมาเลือกว่าดาวดวงไหนอยู่เรือนไหนจะได้ไปต่างประเทศ ต้องอย่าลืมว่าดวงชะตามนุษย์นั้นต้องเป็นไปตามพื้นดวงชะตาในจักกราศีรวมทั้งยังต้องมีภูมิทางทักษาส่งเสริมอีกส่วนหนึ่งด้วย ลองใช้วิธีนี้ดูดีกว่านะครับ สวัสดีครับตอบ คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้เรื่องของดาวเสาร์ หรือดาวบาปพระเคราะห์อื่น ๆ ในตำราต่าง ๆ จะใช้ดาวเป็นตัวหลักในการพยากรณ์เบื้องต้น เช่น พอเห็นเสาร์ทับลัคน์ ก็ต้องทายถึงโทษ ทุกข์ ความเหนื่อยยาก ความผิดหวัง เอาไว้ก่อน หรือเมื่อเห็นราหูทับลัคน์ก็จะทายว่าต้องเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับตัวเจ้าชะตาในด้านอารมณ์ ความลุ่มหลง ความมัวเอา เพราะถือว่าดาวราหูเป็นดาวคลุมเครือ ดาวแห่งความมืดมัวสลัว ๆ ฯลฯ หากคุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ได้อ่านเรื่องเล่าของหมอเถาวัลย์ และแกะเอาความหมายของดาว ของภพ ที่ท่านอาจารย์ได้อธิบายไว้ จะเห็นการชี้แนะของท่านอาจารย์ที่อธิบายถึงดาว ถึงภพ เอาไว้เป็นอย่างดี ว่าจะต้องพิเคราะห์ถึงภพว่าภพดังกล่าวดีร้ายประการใด ดาวเจ้าเรือนภพก็จะแสดงอาการตามภพนั้น ๆ ดัวย เช่นเมื่อดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนภพอริ เป็นเกษตร เจ้าชะตาก็จะเจอะเจอปัญหาหรืออุปสรรคอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าอุปสรรคหรือปัญหานั้นจะไปจ่อมลงในภพใด หากดาวเสาร์ไปอยู่ในภพกดุมภะก็จะแสดงถึงปัญหาจะกำเนิดเกิดขึ้นกับทรัพย์สินเงินทองที่เจ้าชะตาได้เก็บหอมออมริบไว้เป็นต้นในกรณีที่คุณถามมานั้นผมอยากจะให้ถือเป็นหลักสำหรับการพิจารณาดังนี้* ดาวเดิมดี ปีจรดี ดีเยี่ยม*ดาวเดิมดี ปีจรเสีย เสียเพียงกึ่งหนึ่ง*ดารเดิมเสีย ปีจรเสีย เสียหายมาก*ดาวเดิมเสีย ปีจรดี ดีเพียงกึ่งหนึ่งในการดูดวงชะตาของมนุษย์ ดาวในจักราศี (ดวงเดิม) นั้นเมื่อผูกขึ้นมาแล้วจะอยู่คงที่ มิได้หนึหายไปไหน ยังคงประจำอยู่ในราศีที่ตนเองอาศัยอยู่ อาจจะเป็นเรือนของตนเอง (เป็นเกษตร) หรืออาจจะไปอยู่ในเรือนของดาวอื่น เมื่อไปอาศัยอยู่แล้วจะมีตำแหน่งเป็นอะไรขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ แต่อายุของมนุษย์เราจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จาก 1 ปี เป็น 2 3 4 เรื่อยไปจนถึงอายุในปัจจุบัน ดังนั้นลัคนาจรก็จะเคลื่อนย้ายไปปีละหนึ่งราศี(เรื่องการนับอายุจรขึ้นอยู่กับว่าคุณเรียนมาทางสายไหน มีวิธีนับอย่างไร) ในขณะเดียวกันภูมิทางทักษา (ทักษาจร) ก็มีการนับเคลื่อนไปปีละหนึ่งภูมิเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ดาวที่เป็นเจ้าเรือนภพต่าง ๆ ในแต่ละปีก็จะเปลี่ยนไปตามการโคจรของลัคนา เช่น พอลัคนาอยู่ราศีเมษ ราศีเมษก็เป็นภพตนุ พอลัคนาอยู่ราศีพฤษภ ราศีพฤษภก็เป็นภพตนุ ฯ ส่วนภพอื่น ๆ ก็หมุนเวียนไปเช่นเดียวกัน ภูมิทางทักษาก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเช่นเดียวกันกับภพในราศีจักร เมื่ออธิบายมาถึงตรงนี้คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ฯ คงเข้าใจในระดับหนึ่งแล้วใช่ไหมครับ พอมาถึงตรงนี้เราก็มาดูดาวเสาร์ได้แล้วว่า ดาวเสาร์ในแต่ละปีก็จะเป็นภพดีหรือภพเสียก็ได้ หรือจะเป็นภูมิดีหรือภูมิเสียก็ได้ เสาร์จะร้ายก็เมื่อตกภพเสียคือ ทุสถานะภพ (อริ มรณะ วินาศ) หรือเมื่อตกภูมิเสีย ภูมิเหนื่อย (ภูมิกาลี ภูมิอุตสาหะ) คือเสาร์เป็นเจ้าเรือนภพเสีย เป็นตัวแทนภูมิเสีย เมื่อเสาร์ตกภพเสียภูมิเสีย ปีนั้นเจ้าชะตาเหนื่อยหรือต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ทำอะไรต้องไม่ประมาท รวมทั้งสิ่งที่ต้องพิจารณาก็ให้พิจารณาตามที่ผมได้ให้หลักไว้ในเบื้องต้น หากคุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ฯ ได้ดูดวงชะตาผู้ใดไว้ และมีดาวเสารอยู่ในตำแหน่งดี เสีย ก็ให้เก็บเป็นสถิติเอาไว้คอยติดตามว่าจะเป็นเช่นไร จะได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ ดีกว่าจะยึดติดกับเกณฑ์ที่ว่า การเรียนโหราศาสตร์ไทยควรจะเรียนด้วยวิธีนี้ ส่วนที่ว่าจะยึดติดกับกฎเกณฑ์อะไรก็ให้บันทึกไว้เป็นส่วนประกอบ กฎเกณฑ์ไหนตรงก็เอาไว้ใช้ กฎเกณฑ์ไหนไม่ตรงก็ต้องลบทิ้ง อย่าได้ยึดติด การเรียนโหราศาสตร์ไทยอาจารย์ผู้สอนจะภูมิใจมากที่ได้เห็นศิษย์มีความก้าวหน้า เก่งกว่าอาจารย์ ที่ว่าเก่งกว่าอาจารย์นั้นหมายถึงมีความคิด ความอ่าน มีเหตุมีผลในการพิจารณากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงนี้นะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 36สวัสดีค่ะอาจารย์อ่านแล้วเข้าใจบางส่วน ไม่เข้าใจก็อีกบางส่วนค่ะ คือถ้าอาจารย์บอกว่าปีจรลัคนาจร ก็ให้ดูเสาร์จรในปีนั้นว่าเป็นอะไรกับลัคนาเราใช่ไหมคะ แล้วเราต้องดูพื้นดวงกำเนิดเดิมด้วยหรือไม่คะ ว่าเสาร์กำเนิดของเราเดิมเป็นอะไรกับลัคนากำเนิด
ความคิดเห็นที่ 37ตอบ คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้เรื่องการอ่านดวงชะตาจร จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สอนว่าสอนมาเช่นไร และศิษย์ผู้เรียนรู้เข้าใจมากน้อยแค่ไหน วิธีดูจรนั้นมีหลายรูปแบบ บางท่านก็ใช้แบบเลื่อนลัคนาไปปีละหนึ่งราศี แล้วดูว่าดาวเดิมเป็นภพอะไรของลัคนาในแต่ละปี โดยมีส่วนประกอบของดาวจรแต่ละปีที่จรไปตามราศีต่าง ๆ ว่าจรเข้าภพอะไร กระทบกับดาวเดิมอะไรบ้าง, บางท่านก็จะใช้เกณฑ์กาลจักร-ลัคน์จรในการพยากรณ์, บางท่านก็จะใช้ตรีวัยในการพยากรณ์, บางท่านก็จะใช้เกณฑ์ชันษาจรในการพยากรณ์ แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแบบใดสำหรับตัวผมเองจะใช้ระบบเกณฑ์ชันษาจรในการพยากรณ์ดวงชะตาจรแก่ผู้เข้ามารับคำพยากรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถกำหนดเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้แม่นยำดี โดยระบบนี้เมื่อดูจรนั้นในเบื้องต้นเราจะดูภพใด กำหนดภพแล้วการอ่านจังหวะสองและสามก็จะเข้าดวงเดิม เช่น สมมติลัคนาอยู่ราศีมีน มีดาวพฤหัสอยู่ราศีพฤษภ มฤตยูอยู่ราศีเมถุน จันทร์อยู่ราศีกรกฎ อังคาร+เสาร์อยู่ราศีตุลย์ เกตุอยู่ราศีธนู อาทิตย์+พุธ+ศุกร์+ราหู อยู่ราศีมังกร ตามเกณฑ์ชันษาจรนั้นลัคนาจรอยู่ราศีมังกร (เจ้าชะตาอายุ 53 ย่าง 54 ปี ทักษาจรปี อังคารเป็นภูมิบริวาร จันทร์เป็นภูมิกาลี) ปีปัจจุบัน เสาร์อยู่ในราศีกรกฎ ตำแหน่งปร เราจะดูว่าภพปัตตนิจรว่าเป็นเช่นไร ก็ดูสามจังหวะดังนี้ = ปัตนิ (จร) + ปุตตะ (ดวงเดิม) อธิบายได้ว่าเมื่อเราดูภพปัตนิจรเป็นจุดเริ่มต้นแล้ว เราก็ย้อนไปดูดวงเดิมว่าเจ้าดาวจันทร์ที่เป็นเจ้าเรือนภพปัตนิจรนั้น ในดวงเดิมดาวจันทร์นั้นอยู่ที่ใด และเป็นเจ้าเรือนภพอะไร เผอิญดาวจันทร์ในดวงเดิมเป็นเกษตรอยู่ราศีกรกฎภพปุตตะ ดาวจันทร์ในปีที่ดูเป็นภูมิกาลี ส่วนดาวเสาร์ในปีที่ดูเป็นภูมิเดช (เสาร์เดิมเป็นเจ้าเรือนภพลาภะ ไปอยู่ในภพมรณะร่วมอังคาร เสาร์ดวงเดิมเป็นภูมิอายุตำแหน่งอุจจ์ จันทร์ดวงเดิมเป็นภูมิกาลี อังคารดวงเดิมเป็นเจ้าเรือนภพกดุมภะและมรณะและเป็นภูมิกาลี ตำแหน่งประ ส่วนอังคารจรในปีที่ดูเป็นเจ้าเรือนภพพันธุและลาภะ เป็นภูมิบริวาร) มาถึงตรงนี้เราจะพยากรณ์ได้ดังนี้คือ ในปีนี้ เรื่องการลงทุน/การเสี่ยง (ปัตตนิเมื่อเป็นการลงทุน ยังสามารถแปลความหมายได้ว่าการเสี่ยงโชคได้/เพศตรงข้ามหรือคู่ครอง ฯลฯ) /คู่ครองหรือแฟนหรือเพศตรงข้าม ต้องระวังให้มาก เพราะดาวเสาร์จร จรมากระทบกับดาวจันทร์(เดิม) (ดาวคู่นี้เป็นดาวคู่พลัดพราก คู่แห่งการแตกแยก) ซึ่งจันทร์เป็นเจ้าเรือนภพปุตตะเดิม อันหมายถึงบริวาร คนรอบข้าง การเสี่ยงโชค คนที่มีอายุน้อยกว่า การพูดการจา กอร์ปกับดาวจันทร์ปีนี้ตามภูมิทักษาจรก็เป็นกาลีด้วย (จันทร์เดิมเป็นเกษตร) ส่วนเสาร์จรเป็นประเป็นเจ้าเรือนภพตนุจร ภูมิจรเป็นเดช (เสาร์เดิมเป็นอุจจ์เป็นเจ้าเรือนภพลาภะ) เสารเดิมเป็นอุจจ์ (แข็งแกร่ง ยิ่งใหญ่ฯลฯ) แต่จรเป็นประ แสดงถึงว่าเสาร์ในปีนี้ความแข็งแกร่ง ความยิ่งใหญ่ก็จะด้อยลงไปกึ่งหนึ่ง เพราะปีจรเป็นประ ปัญหาที่จะให้ออกคำพยากรณ์ในปีนี้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากพอสมควรสำหรับนักศึกษาใหม่ ๆ เราจะเห็นว่าที่ได้อธิบายเอาไว้เบื้องต้นค่อนข้างจะสลับซับซ้อน คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ฯ หรือท่านที่ยังเริ่มต้นศึกษาลองนำความหมายแต่ละส่วนเรียงลงมาเป็นข้อ ๆ แล้วจะเห็นว่าแต่ละข้อที่เรียงนั้นมีความสัมพันธ์กันอยู่ แล้วเรานำความสัมพันธ์เหล่านั้นมาขัดเกลาเป็นคำพยากรณ์เสียใหม่ ให้ผู้เข้ามาขอคำพยากรณ์ฟังแล้วเข้าใจ ฟังแล้วไม่ติดขัด คำพยากรณ์ที่ขัดเกลาใหม่ก็จะมีความหมายดังนี้ว่า ในปีนี้ให้เจ้าชะตาระมัดระวังเรื่องของการลงทุน/เรื่องของคู่ครองหรือเพศตรงข้ามที่คบหากันอยู่/รวมทั้งเรื่องของการเดินทางขับรถยนต์ ต้องมีความละเอียดรอบคอบ การพูดการจาอย่าได้ใช้อารมณ์หรือความคิดเห็นของตนเองเป็นใหญ่ เพราะหากขาดความละเอียดรอบคอบ ขาดความยั้งคิด จะทำให้ต้องเสียเงินเสียทองหากใช้อารมณ์ที่ถือเอาความคิดเห็นตนเองถูกต้องก็จะต้องทะเลาะเบาะแว้งกับคู่ครองหรือเพศตรงข้ามที่ดูใจกันอยู่ได้ คำพยากรณ์ดังกล่าวเป็นการขัดเกลาใช้คำพูดให้ออกมาแล้วคนฟังไม่สะดุด ฟังแล้วเข้าใจ หากเขาต้องการให้อธิบายเราก็สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่า ปีนี้ดาวจันทร์ตกภูมิกาลี ไม่ดีสำหรับเจ้าชะตา และเผอิญเสาร์เดิมที่เป็นอุจจ์ ปีนี้มาเป็นประเสียนี่ ภูมิจรก็เป็นเดช เมื่อเดชเป็นประ ก็จะอ่อนด้อยลงไป ดาวเสาร์เป็นดาวที่มีความละเอียดรอบคอบ จริงจัง เมื่อเป็นประเสียแล้ว ความละเอียดรอบคอบ ความจริงจัง ก็จะอ่อนด้อยลงไปสักกึ่งหนึ่ง ความมีเหตุมีผลก็ลดลง ใช้อารมณ์มากขึ้น จึงเกิดเป็นผลเสียแก่เจ้าชะตาที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน การขับขี่ยานพาหนะ เรื่องเพศตรงข้ามหรือคู่ครอง อาจจะทำให้เหนื่อย เสียเงินเสียทองที่หามาได้ (ที่ว่าทำให้เหนื่อยเพราะจันทร์เป็นกาลี หากตีความหมายเป็นสุภาพสตรีก็จะเอาแต่ใจ ไม่มีเหตุมีผล ความไม่มีเหตุมีผลคือ เสาร์จรกระทบกับจันทร์เดิม มีแต่ความแตกแยก แถมยังมีอังคารที่ขี่คอเสาร์มาด้วย ที่กล่าวว่าอังคารขี่คอเสาร์มาเพราะดวงเดิมอังคารร่วมกับเสาร์ เมื่อเสาร์จรเดินทางไปไหนก็จะมีอังคารขี่คอเสาร์ไปด้วย ความหมายของอังคารก็จะติดตามเสาร์ไปทุกหนทุกแห่งที่เสาร์เดินทางไป ดังนั้นเมื่ออังคารมาถึงราศีกรกฎ อังคารเดิมที่เป็นประก็นำความเป็นประมา มาดูราศีกรกฎหากดาวอังคารอยู่ราศีนี้ก็เป็นนิจจ์ หากจะนำความหมายของอังคารนิจจ์มาผสมบ้างก็จะเกี่ยวพันธ์ถึงดาวจันทร์และเสาร์ด้วย มาถึงจุดนี้ คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ ลองยกประเด็นต่าง ๆ ออกมาเรียงเป็นข้อ ๆ แล้วลองทำความเข้าใจดู ก็จะสามารถเข้าใจในระดับหนึ่ง ตรงนี้ยังไม่ได้เอาธาตุของดาว ธาตุของราศีเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ ลองค่อย ๆ อ่านดูนะครับ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ 38สวัสดีค่ะอาจารย์ขอบคุณมากในความเมตตาของอาจารย์ค่ะ อาจารย์อธิบายได้ละเอียดละออ มองเห็นเป็นฉาก ๆ จริง ๆ พอยกตัวอย่างดวงมา เลยทำให้เห็นเป็นจริงเป็นจังขึ้น ต้องขอบคุณอาจารย์นะคะ เหนื่อยหน่อยค่ะกับพวกเราที่ยังมือใหม่ถอดด้ามกันอยู่ทีนี้ถ้าเสาร์ย้ายในปีนี้ไปตกเรือนอริจรของเจ้าชะตา น่าจะมีผลดีต่อเจ้าชะตาไหมคะ คือสิ่งที่ไม่ดีไปตกภพทุสถานะ
ความคิดเห็นที่ 39ตอบ คุณศิษย์ตามอ่านกระทู้ตามที่คุณศิษย์ฯ กล่าวถึงดาวเสาร์ที่จะย้ายเข้าสู่ราศีสิงห์ประมาณวันที่ 16 ก.ค. 2550 นี้ เมื่อเสาร์จรมาอยู่ในราศีสิงห์ซึ่งเป็นภพมรณะจรของเจ้าชะตา พอได้ภพจรแล้วก็จะเข้าหาภพเดิมได้ดังนี้คือ มรณะ (จร) + ลาภะ (เดิม) + มรณะ (เดิม) ตรงนี้เราต้องมาดูก่อนว่า อันมรณะจรเป็นภพอริเดิม (และเป็นภพปุตตะของโลก ส่วนภพลาภะเดิมก็เป็นภพกัมมะของโลก กับเป็นภพตนุจร และภพมรณะเดิมก็เป็นภพปัตนิของโลกกับเป็นภพศุภะจรด้วย ความหมายที่จะได้จากตรงนี้จะมีหลายประเด็นคือ ความเสียหาย/ความสูญเสีย จากการเสี่ยงการลงทุนเพื่อหารายได้ที่ผ่านมา (ในภพลาภะเดิมจะมีดาวเดิมเช่น อาทิตย์ พุธ ราหู ศุกร์ ซึ่งจะมีความหมายของภพที่ดาวนำมาด้วย คือ การลงทุนเพื่อหารายได้ด้วยการเสี่ยงซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หุ้น หรือเล่นการพนันต่าง ๆ หรือการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง) ในปีนี้จะต้องใช้ความอดทนรอต่อไป ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการรอคอยนานพอสมควร รวมทั้งในปีนี้ให้ระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการดิ้นรนหารายได้จากการลงทุนที่เสี่ยง ไม่แน่นอนอีกต่างหาก หากไม่ระวังอาจจะเป็นคดีความได้ (อังคาร + เสาร์) หรือ จะพ่วงความหมายถึงว่า ตัวเจ้าชะตาอาจจะป่วยไข้หรือเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงาน โดยเฉพาะการเดินทางไกลต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การขับรถต้องไม่ประมาท เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ (ที่ว่าเกิดอุบัติเหตุคือ อังคาร+เสาร์)คำพยากรณ์ข้างบนดังกล่าว เป็นคำพยากรณ์ที่จะต้องเตือนสติให้แก่เจ้าชะตาได้ทราบ แต่จะเน้นในเรื่องของการลงทุนเป็นพิเศษ คุณศิษย์ฯ ลองถอดออกมาทีละหัวข้อ แล้วลองมาสรุปเป็นคำพยากรณ์ของตัวคุณเอง ไม่จำเพาะจะต้องเป็นดวงตัวอย่างนี้ แม้เป็นดวงของบุคคลอื่นก็ให้ลองกระทำเช่นนี้คือ ออกคำพยากรณ์ไปทีละภพว่าจากภพนี้ไปภพนั้นจะเกิดอะไร จากภพนั้นไปภพโน้นจะเกิดอะไร โดยนำความหมายจากภพจร และภพเดิมมาผสมผสานกันก่อน แล้วค่อยมากรองออกเป็นคำพยากรณ์รวมที่ กระชับ ฟังแล้วเข้าใจ ลองฝึกดูนะครับ ผมคงจบคำอธิบายไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีครับเนื่องจากกระทู้นี้ต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูล ผมจึงขอเปิดกระทู้ที่ 21 ขึ้นมาใหม่นะครับ
ความคิดเห็นที่ 40สวัสดีครับ อาจารย์